คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
ผ่องศรี วรนุช
ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงไทยลูกทุ่ง - ขับร้อง) จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
ผ่องศรี วรนุช (5 มิถุนายน พ.ศ. 2482 - 6 เมษายน พ.ศ. 2568) ชื่อเล่น ผ่อง เป็นนักร้องหญิงไทยประเภทเพลงลูกทุ่ง ได้รับสมญานามว่าราชินีลูกทุ่งคนแรกของไทย เมื่ออายุ 15 ปี ได้เริ่มทำงานกับละครเร่คณะคุณหนู โดยเป็นเด็กรับใช้ ก่อนจะได้ร้องเพลงสลับฉากจนได้เป็นนางเอกของคณะ และเริ่มอาชีพนักร้องได้บันทึกแผ่นเสียงเพลงแรกในชีวิต "หัวใจไม่มีใครครอง" เมื่อ พ.ศ. 2498 โด่งดังในฐานะนักร้องหลังจากการที่ได้มาร่วมงานกับวงดนตรีสุรพล สมบัติเจริญ ประสบความสำเร็จสูงสุดในอาชีพการทำงานในช่วงปี พ.ศ. 2502 ถึงราวปี พ.ศ. 2525
มีผลงานเพลงเป็นที่ปรากฏการณ์ต่อวัฒนธรรมเพลงลูกทุ่งเป็นจำนวนมาก ด้วยน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ เสียงโทนสูง เช่น "ด่วนพิศวาส", "กอดหมอนนอนหนาว", "วิมานในฝัน", "ไหนว่าไม่ลืม", "น้ำตาเมียหลวง", "ฝนหนาวสาวครวญ", "คืนนี้พี่นอนกับใคร", "สาวเหนือเบื่อรัก", "ข้าวคอยเคียว", "คนสุดท้าย", "น้องเป็นคนรักที่เท่าไหร่", "น้อยใจรัก", "รักลาอย่าเศร้า", "ฝากดิน", "ภูเก็ต", "บาร์หัวใจ" เป็นต้น และยังถือเป็นศิลปินต้นแบบของนักร้องหญิงเพลงลูกทุ่งจำนวนมาก เช่น บุปผา สายชล, พุ่มพวง ดวงจันทร์, สุนารี ราชสีมา, ศิรินทรา นิยากร ฯลฯ
ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติจากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ให้เป็น ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงไทยลูกทุ่ง - ขับร้อง) ประจำปี พ.ศ. 2535
Remove ads
ประวัติ
สรุป
มุมมอง
ผ่องศรี เกิดเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2482 ที่อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท เป็นบุตรนายฉาก นางเล็ก วรนุช
เริ่มต้นการร้องเพลงจากที่ได้ไปอยู่ละครเร่คณะหนู สุวรรณประกาศ ละครเรชื่อดังจากจังหวัดเพชรบุรี ตอนแรกเป็นคนรับใช้ในคณะและฝึกไปก่อน ด้วยฐานะที่บ้านยากจนเลยขอแม่ว่าจะมาหากินถ้าไม่มีที่ดินไม่มีบ้านจะไม่ขอย้อนกลับไปขอไปตายเอาดาบหน้า เพราะตอนนั้นนอนแพไม่มีบ้านไม่มีที่ดิน จนอยู่ในคณะละครเร่มาปีกว่า จนได้ขึ้นร้องเพลงจากนั้นก็มีคนนำของกินของใช้มาให้ โดยที่ไม่ต้องซื้อเอง แต่เส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เมื่อโดนตบปางตายเพราะเกิดความอิจฉาริษยากันในคณะ แต่เรื่องราวก็จบด้วยดี เพราะผ่องศรี ไม่ได้เอาเรื่อง
ต่อมาใน 2502 ผ่องศรี ได้ร้องเพลง "ไหนว่าไม่ลืม" แก้กับสุรพล สมบัติเจริญ เลยทำให้เธอเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จนมีผลงานต่อเนื่องยาวนาน และมีเพลงฮิตมากมายจนได้สมญานามเป็น "ราชินีลูกทุ่งคนแรกของเมืองไทย"
ชีวิตครอบครัว ผ่องศรี เคยใช้ชีวิตอยู่กับ วัลลภ วิชชุกร ก่อนที่จะแยกทางกัน จากนั้นได้ใช้ชีวิตอยู่กินกับ ราเชนทร์ เรืองเนตร นักดนตรีชื่อดัง จน ราเชนทร์ เสียชีวิตเมื่อ พ.ศ. 2541 โดยไม่มีทายาท และบั้นปลายของชีวิตนั้น ผ่องศรี ตั้งใจไว้ว่าจะรับงานเป็นครั้งคราว และช่วยกิจกรรมงานการกุศลและสาธารณประโยชน์ ซึ่งเจ้าตัวได้ สร้าง พิพิธภัณฑ์ผ่องศรี เพื่อจัดแสดงประวัติความเป็นมา และรางวัลทรงเกียรติยศที่ได้จากการเป็นนักร้อง โดยเปิดให้ผู้ที่สนใจศึกษาเรื่องราวในอดีตได้เข้าชมฟรีย่านพุทธมณฑล สาย 5[1]
บั้นปลายชีวิต ผ่องศรี มีอาการป่วยด้วยโรคมะเร็งปอดและเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยขณะนั้นร่างกายซูบผอมจนเหลือน้ำหนักไม่ถึง 20 กิโลกรัม[2] หลังจากอาการดีขึ้นแล้ว เมื่อวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2568 จึงกลับมาพักฟื้นที่บ้านอีกประมาณ 1 เดือนเศษ[3] จนกระทั่งถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 6 เมษายน ปีเดียวกัน สิริอายุ 85 ปี[4] มีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพเมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2568 ณ วัดไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม
Remove ads
ผลงานแสดงภาพยนตร์
- ศึกเสือไทย (2508)
- จำปาทอง (2514)
- น้องนางบ้านนา (2514)
- ลมรักทะเลใต้ (2514)
- หาดทรายแก้ว (2515)
- ไอ้แดง (2516)
- มนต์เพลงลูกทุ่ง เอฟ.เอ็ม. (2545)
รางวัลที่ได้รับ
- รางวัลพระราชทานแผ่นเสียงทองคำ 2 ครั้ง เมื่อ พ.ศ. 2509 จากเพลง "กลับบ้านเถิดพี่" และ พ.ศ. 2522 จากเพลง "โธ่ผู้ชาย" รับจากพระหัตถ์ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
- รางวัลเสาอากาศทองคำ 3 ปีซ้อน เมื่อ พ.ศ. 2518 จากเพลง "กินข้าวกับน้ำพริก" พ.ศ. 2519 จากเพลง "เขามาทุกวัน" และ พ.ศ. 2520 จากเพลง "จันทร์อ้อน"
- รางวัลพระราชทานพิเศษจากพระหัตถ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะนักร้องลูกทุ่งหญิงเกียรตินิยมยอดเยี่ยม ชนะเลิศเสาอากาศทองคำ 3 ปีซ้อน เมื่อ พ.ศ. 2521 ได้รับรางวัลในปีนี้แต่ละสิทธิ์ จากเพลง "สาริกาคืนถิ่น"
- กึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งไทย ครั้งที่ 1 เมื่อ พ.ศ. 2532 ได้รับพระราชทานรางวัลจากเพลง "ไหนว่าไม่ลืม", "ฝากดิน" และครั้งที่ 2 เมื่อ พ.ศ. 2534 จากเพลง "ด่วนพิศวาส" รับจากพระหัตถ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
- ประกาศเกียรติคุณพระราชทานจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะนักร้องผู้ขับร้องเพลงใช้ภาษาไทยได้ถูกต้อง และ ชัดเจน เมื่อ พ.ศ. 2534
- รางวัลพระราชทาน ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยลูกทุ่ง) ประจำปี พ.ศ. 2535 จากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม รับจากพระหัตถ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
- รางวัลบุคคลทรงคุณค่าวงการบันเทิง สาขาดนตรี จากงานสยามดารา สตาร์ส อวอร์ดส์ 2015
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2536 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 4 จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย (จ.ม.)[5]
- พ.ศ. 2556 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นที่ 4 จตุตถดิเรกคุณาภรณ์ (จ.ภ.)[6]
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads