คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง

พรรคไทยสร้างไทย

พรรคการเมืองไทย จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

พรรคไทยสร้างไทย
Remove ads

พรรคไทยสร้างไทย (ย่อ: ทสท.) พรรคการเมืองไทยที่จดทะเบียนก่อตั้งเป็นลำดับที่ 3/2564 เมื่อวันอังคารที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2564 โดยมีสอิสร์ โบราณ และวัลลภ ไชยไธสง เป็นหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคคนแรก

ข้อมูลเบื้องต้น พรรคไทยสร้างไทย, หัวหน้า ...

มีที่ทำการพรรคอยู่ที่ 132/2 หมู่ 16 ถนนเจนจบทิศ ตำบลหนองสองห้อง อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น[4] ต่อมาได้ย้ายที่ทำการพรรคมาอยู่ที่ 54/1 ซอยลาดปลาเค้า 60 ถนนลาดปลาเค้า แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร[5] กระทั่งวันพุธที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2565 เวลา 9 นาฬิกา 19 นาที จึงได้ทำการยกเสาเอกเพื่อก่อสร้างที่ทำการสำนักงานใหญ่ของพรรคไทยสร้างไทย ย่านถนนเทิดราชัน แขวงสีกัน เขตดอนเมือง[6][7][8][9]

Remove ads

ประวัติ

สรุป
มุมมอง

พรรคไทยสร้างไทยเป็นพรรคการเมืองที่พัฒนามาจาก กลุ่มไทยสร้างไทย กลุ่มการเมืองที่มี คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์เป็นแกนนำ ได้ส่งผู้สมัครลงรับสมัครเลือกตั้งครั้งแรกใน การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2565[10] อย่างไรก็ตาม สมาชิกพรรคบางส่วนได้ย้ายกลับไปสังกัดพรรคเพื่อไทย[11][12]

Thumb
ตราสัญลักษณ์เดิมของพรรคไทยสร้างไทย

ในวันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2565 พรรคไทยสร้างไทยได้เตรียมจัดประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ 1/2565 ที่ โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ ชั้น 7 สยามสแควร์วัน โดยมีวาระการประชุมที่สำคัญคือการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จำนวน 50 คนแทนชุดเก่าจำนวน 8 คนที่พ้นจากตำแหน่งทั้งคณะเนื่องจากนายสอิสร์ โบราณ ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคกลางที่ประชุม พร้อมกับแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรค โดยยกเลิกฉบับปี 2564 ทั้งฉบับและใช้ฉบับปี 2565 แทนโดยทำการเปลี่ยนแปลงตราสัญลักษณ์พรรค ย้ายที่ทำการพรรคมาอยู่ที่ทำการพรรคในปัจจุบันคือ 54/1 ซอยลาดปลาเค้า 60 ถนนลาดปลาเค้า แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร รวมถึงอุดมการณ์และนโยบายพรรค โดยมีกระแสข่าวว่า คุณหญิงสุดารัตน์ ซึ่งเป็นประธานพรรคจะเป็นหัวหน้าพรรค นาวาอากาศตรีศิธา ทิวารี จะเป็นเลขาธิการพรรค[13] ซึ่งที่ประชุมมติเลือก คุณหญิงสุดารัตน์ เป็นหัวหน้าพรรค และ นาวาอากาศตรีศิธา เป็นเลขาธิการพรรคตามกระแสข่าว[14][15]

วันที่ 24 มกราคม 2566 พ.ต.ท กุลธน ประจวบเหมาะ รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย เปิดตัว ส.ส.เขตภาคตะวันตก ราชบุรี-กาญจนบุรี-ประจวบคีรีขันธ์-สุพรรณบุรี ซึ่งบางส่วนย้ายมาจากพรรคเพื่อไทย[16][17] ต่อมาในวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2566 พรรคไทยสร้างไทยได้จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี เพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคแทนตำแหน่งที่ว่างพร้อมกับยกเลิกข้อบังคับพรรคฉบับปี 2565 ทั้งฉบับและประกาศใช้ข้อบังคับพรรคฉบับปี 2566 แทน ซึ่งที่ประชุมมีมติเลือกฐากร ตัณฑสิทธิ์ อดีตเลขาธิการกสทช. เป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่แทนนาวาอากาศตรีศิธาที่ลาออกจากตำแหน่งเพื่อไปลงสมัครเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในนามของพรรค นอกจากนี้ยังมีมติเลือกนายดล เหตระกูล อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้าที่ย้ายมาสังกัดพรรคไทยสร้างไทยเป็นรองหัวหน้าพรรค[18][19]

ในวันที่ 20 เมษายน 2567 พรรคไทยสร้างไทยได้จัดประชุมใหญ่เพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ซึ่งที่ประชุมมีมติเลือก คุณหญิงสุดารัตน์ ให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคต่อไป ส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรคเป็นของ ชัชวาล แพทยาไทย ส.ส. ร้อยเอ็ด[20]

Remove ads

บุคลากรภายในพรรค

หัวหน้าพรรค

ลำดับรูปรายนามเริ่มวาระสิ้นสุดวาระ
1Thumbสอิสร์ โบราณ23 มีนาคม พ.ศ. 25649 กันยายน พ.ศ. 2565
2Thumbคุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์9 กันยายน พ.ศ. 2565ปัจจุบัน

เลขาธิการพรรค

ลำดับรูปรายนามเริ่มวาระสิ้นสุดวาระ
1Thumbวัลลภ ไชยไธสง23 มีนาคม พ.ศ. 25649 กันยายน พ.ศ. 2565
2Thumbนาวาอากาศตรี ศิธา ทิวารี9 กันยายน พ.ศ. 256531 มีนาคม พ.ศ. 2566
3Thumbฐากร ตัณฑสิทธิ์31 มีนาคม พ.ศ. 25666 มกราคม พ.ศ. 2567
4Thumbชัชวาล แพทยาไทย20 เมษายน พ.ศ. 2567ปัจจุบัน

คณะกรรมการบริหารพรรค

ข้อมูลเพิ่มเติม ลำดับ, ชื่อ ...
Remove ads

บทบาททางการเมือง

สรุป
มุมมอง

พรรคไทยสร้างไทย เริ่มดำเนินกิจกรรมทางการเมืองอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2564 โดยจัดกิจกรรมปล่อยขบวนคาราวาน “สร้างไทย 77 จังหวัด” เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2564[22] รวมถึงการเปิดตัวนโยบายต่างๆ อาทิ นโยบายบำนาญประชาชน[23] กระทั่งวันอังคารที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2565 ได้มีรายงานข่าวว่าทางพรรคไทยสร้างไทยตัดสินใจส่งนาวาอากาศตรี ศิธา ทิวารี ลงชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมกับเปิดตัวผู้สมัคร ส.ก. ทั้ง 50 เขตในวันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2565[24]

ในวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2565 พรรคไทยสร้างไทยได้เปิดตัว นาวาอากาศตรี ศิธา ทิวารี เป็นว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ทั้ง 50 คน[10] จากการเลือกตั้งครั้งดังกล่าว พรรคไทยสร้างไทยได้ที่นั่ง ส.ก. 2 ที่นั่ง[25]

ในเดือนกรกฎาคม 2565 หลังมีข่าวสมาชิกพรรคหลายคนย้ายกลับไปสังกัดพรรคเพื่อไทย[11][12] คุณหญิงสุดารัตน์แถลงว่า ไม่เป็นปัญหา และจะเดินหน้าผลักดันร่างพระราชบัญญัติบำนาญประชาชนต่อไป[26]

28 ธันวาคม พ.ศ. 2565 ได้มีกระแสข่าวว่าพรรคสร้างอนาคตไทยและพรรคไทยสร้างไทย นัดแถลงข่าวเพื่อประกาศการรวมพรรคในวันถัดมา[27] การแถลงข่าวในวันนั้นมีผลสรุปคือ ทั้งสองพรรคตกลงร่วมเป็นพันธมิตรทางการเมืองระหว่างกัน แต่ยังไม่มีการควบรวมพรรคแต่ประการใด[28]โดยเหตุผลหลักคือเงื่อนไขทางกฎหมาย จึงไม่สามารถควบรวมพรรคได้ในขณะนั้น รวมไปถึงการตกลงเรื่องตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคที่ยังไม่ลงตัว[29]

ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2566 มีการประกาศชื่อสมาชิกเพื่อไทยบางส่วนย้ายมาพรรคไทยสร้างไทย ได้แก่ พันธ์ศักดิ์ เพชรพิทักษ์ชน อดีตผู้สมัคร สส.พรรคเสรีรวมไทย[30] ประจวบคีรีขันธ์ [31] อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีต สส. เพื่อไทย เขตสายไหม [32] [33][34] การุณ โหสกุล อดีต สส. เพื่อไทย เขตดอนเมือง [35]

21 กรกฎาคม พรรคก้าวไกลประกาศให้สิทธิ์การเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแก่พรรคเพื่อไทย หลังจากไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่ก็ได้มีการยุติบันทึกความเข้าใจของ 8 พรรคร่วม พรรคไทยสร้างไทยจึงประกาศจุดยืนว่า จะไม่มีการสลับขั้ว ไม่ย้ายฝั่ง และไม่เป็นที่เหยียบยืนให้กับเผด็จการอย่างเด็ดขาด เพื่อที่จะยุติการสืบทอดอำนาจของระบบเผด็จการ และจะเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญคืนอำนาจให้ประชาชน จากการเลือกตั้ง ส.ส.ร. ซึ่งพรรคได้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่สภาแล้ว โดยจะไม่แก้ไขหมวด 1 และหมวด 2[36]

5 ตุลาคม 2566 คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวขอบคุณพรรคก้าวไกล กรณีที่มอบประธานกรรมาธิการการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิจัยและนวัตกรรม ซึ่งเดิมเป็นโควตาของพรรคก้าวไกลให้กับพรรคไทยสร้างไทยเป็นเวลา 2 ปี โดยให้ฐากร ตัณฑสิทธิ์ ทำหน้าที่เป็นประธาน เพื่อมุ่งหวังให้พรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งมีพรรคก้าวไกลเป็นแกนหลัก ร่วมกันทำงาน ด้วยบรรยากาศที่เป็นไปได้ด้วยดีนั้น ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการทำงาน ในคณะกรรมาธิการที่ดี และเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนในมิติต่าง ๆ[37]

ต่อมาในปี พ.ศ. 2568 ได้มีข่าวทางสื่อมวลชนว่าพรรคไทยสร้างจะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย และผลักดันให้ฐากร ตัณฑสิทธิ์ เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี[38] แต่ในที่สุดพรรคไทยสร้างไทยก็ปฏิเสธการเข้าร่วมรัฐบาล โดยฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ บุตรชายของฐากรได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีในสัดส่วนพิเศษ ซึ่งโฆษกพรรคไทยสร้างไทยได้เรียกร้องให้ฐากรลาออกเพื่อให้สามารถเดินเส้นทางการเมืองกับพรรคใหม่ในฝั่งรัฐบาลได้อย่างเปิดเผยและเป็นอิสระ[39]

Remove ads

การเลือกตั้ง

ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 พรรคไทยสร้างไทยได้ส่งผู้สมัครทั้งแบบแบ่งเขต และบัญชีรายชื่อ ได้จำนวน สส.แบบแบ่งเขต 5 คน และบัญชีรายชื่อ 1 คน นั่นคือคุณหญิงสุดารัตน์ ต่อมาพรรคไทยสร้างไทยประกาศร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล[40]

11 กรกฎาคม 2566 คุณหญิงสุดารัตน์ประกาศลาออกจาก สส.บัญชีรายชื่อ ทำให้ฐากรขยับมาเป็น สส.บัญชีรายชื่อแทน [41]

ผลการเลือกตั้งทั่วไป

ข้อมูลเพิ่มเติม การเลือกตั้ง, จำนวนที่นั่ง ...

ผลการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

ข้อมูลเพิ่มเติม การเลือกตั้ง, ผู้สมัคร ...

ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร

ข้อมูลเพิ่มเติม การเลือกตั้ง, จำนวนที่นั่ง ...
Remove ads

ข้อวิจารณ์

สรุป
มุมมอง

คำร้องคัดค้านการเป็น สส.

15 มิถุนายน พ.ศ. 2566 มีเอกสารที่นำเสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง ประกาศผลการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต ครั้งที่ 1 ปรากฎว่ามี ว่าที่ ส.ส. ที่ประกาศผลรับรอง 329 คน ขณะที่มี 71 เขต ที่มีเรื่องร้องคัดค้าน มีรายงานว่า เอกสารดังกล่าวอาจเป็นเอกสารสรุปของฝ่ายปฏิบัติการ แจ้งเรื่องร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ที่ยังไม่ได้นำเสนอต่อที่ประชุม กกต.[42] โดยพรรคไทยสร้างไทยถูกร้องคัดค้านทั้งสิ้น 2 คน ดังนี้

ข้อมูลเพิ่มเติม ลำดับ, รายชื่อ สส. ...

แต่ถึงกระนั้น กกต. ก็ประกาศรับรอง สส. ทั้ง 500 คนก่อน โดยได้ชี้แจงว่าจะดำเนินการพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันเลือกตั้ง

กลุ่มงูเห่า

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2567 เพื่อลงมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 มี สส. ของพรรคไทยสร้างไทยจำนวน 3 คน ลงมติ "รับหลักการ" ร่างพระราชบัญญัตินี้ ซึ่งสวนกับมติของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ให้ลงมติ "ไม่รับหลักการ" ดังนี้[43]

  1. สุภาพร สลับศรี สส.ยโสธร
  2. หรั่ง ธุระพล สส.อุดรธานี
  3. อดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี

ส่งผลให้ในวันถัดมา (6 มกราคม) นายฐากรได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคเพื่อรับผิดชอบ โดยมีผลทันที[44]

อย่างไรก็ตาม ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี แทนเศรษฐา ทวีสิน ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยถอดถอน ผลปรากฏว่า สส. พรรคไทยสร้างไทยทั้งหมดซึ่งมี 6 คน ลงมติ "เห็นชอบ" ให้แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งสวนกับมติของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ให้ลงมติ "งดออกเสียง" หรือ "ไม่เห็นชอบ" ในเวลาต่อมา ฐากร ตัณฑสิทธิ์ ส.ส. บัญชีรายชื่อได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าตัวเองและ ส.ส. อีก 5 คนที่โหวตให้แพทองธารนั้นไม่ใช่งูเห่าแต่ที่โหวตให้ก็เพราะประเทศต้องมีนายกรัฐมนตรีบริหารประเทศ พร้อมกับประกาศว่าพรรคไทยสร้างไทยยังเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านเหมือนเดิม[45] แต่ในเวลาต่อมา คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยได้ทำการเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อพิจารณาการกระทำของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรดังกล่าว[46] และเมื่อเวลา 16:30 น. คุณหญิงสุดารัตน์ได้แถลงข่าวขอโทษประชาชนและพรรคร่วมฝ่ายค้าน รวมถึงแถลงมติของกรรมการบริหารพรรค โดยให้คณะกรรมการจริยธรรมของพรรคสอบสวนการกระทำของทั้ง 6 คน และมีข้อสรุปในเบื้องต้นว่าจะไม่ให้ดำรงตำแหน่งในสัดส่วนของพรรคในสภาผู้แทนราษฎร จนกว่าผลสอบสวนจะแล้วเสร็จ

ต่อมาเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2567 คณะกรรมการวินัยและจริยธรรมของพรรคไทยสร้างไทยมีมติให้ขับ สุภาพร สลับศรี สส.ยโสธร ออกจากการเป็นสมาชิกพรรค เนื่องจากโหวตสวนมติพรรคและฝ่าฝืนอุดมการณ์พรรคหลายครั้ง[47] อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพื่อลงมติขับออกจากพรรคอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด

ต่อมาในวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2568 ภายหลังการลงมติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็ได้มีข่าวปรากฎออกมาว่า สส.ของพรรคไทยสร้างไทยจำนวน 5 คนได้ลงมติไว้วางใจรัฐบาล มีเพียงชัชวาล แพทยาไทยเท่านั้นที่ลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาล ซึ่งได้รับเสียงวิจารณ์จากประชาชนหลายคนแต่ต่อมาคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ก็ได้ออกมาแถลงการขอโทษประชาชนทุกคนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

Remove ads

อ้างอิง

แหล่งข้อมูล

Loading related searches...

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.

Remove ads