คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
พระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงษ์
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
พระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงษ์ (ไทยถิ่นเหนือ: ) เป็นเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 6 แห่งราชวงศ์ทิพย์จักร[1] ด้วยพระนิสัยที่เด็ดขาดเป็นที่เคารพยำเกรงในหมู่ข้าราชบริพารและพสกนิกร เมื่อทรงพิจารณาตัดสินว่าคดีความใดแล้ว หากทรงเอ่ยว่า "อ้าว" เมื่อใด หมายถึงการต้องโทษตัดศีรษะประหารชีวิต จนประชาชนทั่วไปต่างถวายพระสมัญญาว่า "เจ้าชีวิตอ้าว"[2] ในแง่พฤติการณ์แล้ว พระองค์ถือเป็นเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ที่ทรงอำนาจมากที่สุดในบรรดาทุกองค์ และทรงเป็นเจ้าผู้ครองนครที่ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาเลื่อนพระเกียรติยศขึ้นเป็น "พระเจ้าประเทศราช" องค์ที่ 5 (3 กรกฎาคม พ.ศ. 2404 - 29 มิถุนายน พ.ศ. 2413) ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4
Remove ads
พระประวัติ
สรุป
มุมมอง
พระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงษ์ มีพระนามเดิมว่า เจ้าหนานสุริยวงษ์ เป็นพระโอรสในพระเจ้ากาวิละกับแม่เจ้าโนจา ในปี พ.ศ. 2358 ได้รับอิสริยยศเป็น "พระยาเมืองแก้ว"[3] เมื่อพระเจ้ามโหตรประเทศถึงแก่พิราลัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนพระอิสริยยศเป็น "เจ้ากาวิโลรสสุริยวงศ์ ดำรงนพีสีนคร สุนทรทศลักษณเกษตร วรฤทธิ์เดชมหาโยนางคราชวงศาธิบดี เจ้านครเชียงใหม่"[4] เมื่อลงมาเข้าเฝ้าในปี พ.ศ. 2404 ก็ได้รับเพิ่มยศเป็นพระเจ้านครเชียงใหม่ในพระราชทินนามดังนี้ว่า "พระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงษ์ ดำรงนพีสีนคร สุนทรทศลักษณเกษตร วรฤทธิเดชศรี โยนางคดไนย ราชวงศาธิบดี เจ้านครเชียงใหม่"[5]
พระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงษ์มีพระเชษฐา พระอนุชา และพระขนิษฐา รวม 5 องค์ มีพระนามตามลำดับ ดังนี้
- เจ้าราชบุตร (สุริยฆาต ณ เชียงใหม่) - เจ้าไปยกา (ตาทวด) ของหม่อมทิพวัน กฤดากร ณ อยุธยา และหม่อมศรีนวล กฤดากร ณ อยุธยา ในพลเอก พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบวรเดช
- พระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงษ์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 6
- เจ้าหนานมหาวงศ์ - พระอัยกา (เจ้าปู่) ในเจ้าจอมมารดาทิพเกษร ในรัชกาลที่ 5 และ พระไปยกา (เจ้าตาทวด) ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นสรรควิไสยนรบดี
- เจ้าคำใส
- เจ้าหนานไชยเสนา
พระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงษ์ เสด็จขึ้นครองนครเชียงใหม่ใน พ.ศ. 2397 จนกระทั่งถึงแก่พิราลัยในวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2413 รวมระยะเวลาที่ทรงครองนคร 16 ปี
Remove ads
พระธิดา
พระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงษ์มีพระธิดากับเจ้าอุษา รวม 2 องค์ ดังนี้
- เจ้าทิพเกสร - พระชายาในพระเจ้าอินทวิชยานนท์ และเป็นพระมารดาในเจ้าดารารัศมี พระราชชายาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
- เจ้าอุบลวรรณา - เจ้าแม่ของเจ้ากรรณิการ์ พระอัยยิกา (เจ้าย่า) ในเจ้าศิริมา ณ เชียงใหม่ พระชายาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นสรรควิไสยนรบดี
ราชกรณียกิจ
สรุป
มุมมอง
พระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงษ์ ทรงปกครองนครเชียงใหม่ และทำนุบำรุงศาสนาอย่างสม่ำเสมอ ทั้งยังทรงจัดสร้างระฆังชุดใหญ่น้ำหนักทอง 2,095,600 ตำลึง ถวายแด่วัดพระธาตุดอยสุเทพ ในปี พ.ศ. 2403 และเป็นผู้จัดตั้งข้อบัญญัติสำหรับการพิจารณาพิพากษาคดีความ ณ เค้าสนามหลวง[2]
ในปี พ.ศ. 2406 กลุ่มเจ้านายฝ่ายเหนือรวมหัวกันกล่าวโทษพระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงษ์ ว่าพระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงษ์เอาใจออกห่างกรุงเทพ โดยทรงถวายสิ่งของต่อกษัตริย์พม่าและกษัตริย์พม่าก็ถวายสิ่งของตอบ ทางกรุงเทพได้เรียกตัวพระองค์มาทำการชี้แจง พระเจ้ากาวิโลรสได้เสด็จลงกรุงเทพพร้อมพระญาติ แต่ด้วยไหวพริบของพระองค์ พระเจ้ากาวิโลรสถือโอกาสพาตัวเจ้าเมืองหมอกใหม่เข้าถวายต้นไม้เงินต้นไม้ทองเป็นข้าขอบขันฑสีมากรุงเทพ นับเป็นการพลิกวิกฤตเป็นโอกาส
ในนิพนธ์เรื่อง เครื่องม้าอะแซหวุ่นกี้ ของกรมพระยาดำรงราชานุภาพระบุว่า พระเจ้ากาวิโลรสทรงถวายสมบัติเครื่องยศจากกษัตริย์พม่าแก่รัชกาลที่ 4 แต่ถูกปฏิเสธ ในเวลานั้นมีมหรสพสมโภชพระราชธิดาพอดี พระเจ้ากาวิโลรสจึงถวายสร้อยนั้นสมโภชพระราชธิดา เป็นเหตุให้รัชกาลที่ 4 ทรงตั้งพระนามพระราชธิดาองค์นั้นว่า "พระองค์เจ้าพวงสร้อยสอางค์"
ใน พงศาวดารโยนก ระบุว่า บรรดาสิ่งของเครื่องยศจากกษัตริย์พม่ามีแหวนและผ้าด้วย โดยรัชกาลที่ 4 ทรงรับแหวนทับทิมไว้วงเดียวเพื่อรักษาน้ำใจ และจากการสอบสวนพบว่า "พระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงษ์ยังหามีความผิดเปนข้อใหญ่ไม่ ขอพระราชทานให้กลับขึ้นไปรักษาอาณาเขตปกครองญาติพี่น้องบุตรหลาน ทำราชการฉลองพระเดชพระคุณสืบไป..."[6] เห็นได้ว่าแม้สยามจะมีโอกาสเข้าแทรกแทรงล้านนาเพื่อลดอำนาจของเจ้านาย แต่ก็ไม่อาจทำการอย่างผลีผลามเพราะพระเจ้ากาวิโลรสเป็นพระเจ้าประเทศราชที่ทรงอำนาจ
ในด้านการปกครองทรงเข้มแข็งเป็นที่เกรงขาม แม้แต่รัฐบาลสยามก็ยังมิอาจล่วงเกินกิจการภายในของนครเชียงใหม่ได้ แต่พระเจ้ากาวิโรรสฯ ก็มิได้โปรดให้มีการเผยแพร่ศาสนาอื่นในนครเชียงใหม่ และได้ทรงสั่งประหารชีวิตคริสต์ศาสนิกชน 2 คน ในปี พ.ศ. 2411
พระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงษ์เป็นผู้น้อมเกล้าฯ ถวายพระเศวตวรวรรณ เป็นช้างในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อปี พ.ศ. 2412[7]
Remove ads
สถานที่อันเนื่องมาจากพระนาม
- ถนนสุริยวงศ์
พงศาวลี
Remove ads
อ้างอิง
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads