คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง

เจ้าแก้วนวรัฐ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

เจ้าแก้วนวรัฐ
Remove ads

นายพลตรี เจ้าแก้วนวรัฐ (ไทยถิ่นเหนือ: ) (29 กันยายน พ.ศ. 2405 - 3 มิถุนายน พ.ศ. 2482) เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 9 แห่งราชวงศ์ทิพย์จักร[1] องค์สุดท้ายแห่งนครเชียงใหม่ และเป็นต้นราชตระกูล ณ เชียงใหม่ ที่สืบสายตรงจากเจ้าผู้ครองนคร

ข้อมูลเบื้องต้น เจ้าแก้วนวรัฐ, เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ...
Remove ads

พระประวัติ

สรุป
มุมมอง

เจ้าแก้วนวรัฐ มีนามเดิมว่าเจ้าแก้ว ประสูติที่คุ้มหลวงนครเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2405 เป็นโอรสในพระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ 7 ประสูติแต่หม่อมเขียว เจ้าแก้วนวรัฐมีเจ้าพี่น้อง 10 องค์ ตามลำดับดังนี้

  1. เจ้าน้อยโตน
  2. เจ้าราชวงศ์ (น้อยขัตติยะ)
  3. เจ้านางคำต่าย
  4. เจ้าแก้วปราบเมือง
  5. เจ้าอินทวโรรสสุริยวงษ์
  6. เจ้าแก้วนวรัฐ
  7. เจ้าจอมจันทร์
  8. เจ้านางคำห้าง
  9. เจ้านางจันทรโสภา
  10. เจ้าดารารัศมี พระราชชายา

โดยเจ้าจอมจันทร์เป็นเจ้าน้องร่วมหม่อมมารดาเพียงองค์เดียว[2]

เจ้าแก้วได้เลื่อนอิสริยยศและตำแหน่งตามลำดับดังนี้

  • 17 เมษายน พ.ศ. 2434 เจ้าราชภาคิไนย[3]
  • 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2436 ส่งสัญญาบัตรไปพระราชทานเป็นเจ้าสุริยวงษ์[4]
  • 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2440 โปรดให้ส่งสัญญาบัตรไปพระราชทานให้เป็นเจ้าราชวงษ์เมืองนครเชียงใหม่[5]
  • พ.ศ. 2443 มหาดไทยเมืองเชียงใหม่[6]
  • 6 มีนาคม พ.ศ. 2447 ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็นเจ้าอุปราชเมืองนครเชียงใหม่[7]

เมื่อเจ้าอินทวโรรสสุริยวงษ์ ถึงแก่พิราลัย เมื่อวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2452 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงทราบความที่ เจ้าดารารัศมี พระราชชายา ถวายบังคมลาไปประทับที่นครเชียงใหม่ก่อนแล้ว จึงมีพระราชดำรัสกับเจ้าดารารัศมีให้เลือกผู้แทนเจ้าอินทวโรรส ที่ว่า

ในการเลือกเจ้านครเชียงใหม่แทนเจ้าอินทวโรรสสุริยวงษ์ตามกฎต้องให้ทายาทผู้สืบตระกูลรับตำแหน่งนี้ ซึ่งควรจะต้องได้แก่เจ้าราชบุตร (เลาแก้ว) ทายาทแต่ผู้เดียว แต่ในตำแหน่งนี้จะต้องเป็นพระอภิบาลเจ้าดารารัศมี พระราชยายาในรัชกาลที่ 5 ด้วย ในขณะนี้เจ้าราชบุตรยังอายุน้อยอยู่ ฉะนั้นพระราชชายาเจ้าดารารัศมีจึงขอเลือกเจ้าอุปราชแก้ว รับหน้าที่นี้ก่อน...

วชิราวุธ ป.ร.

ต่อมาเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2454 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานสัญญาบัตรเลื่อนอิสริยยศ เจ้าอุปราช (เจ้าแก้ว) เจ้าอุปราชเมืองนครเชียงใหม่ [8] ขึ้นเป็น "เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่" และได้รับการเฉลิมพระนามตามตำแหน่งว่า ... " เจ้าแก้วนวรัฐ ประพัทธ์อินทนันทพงษ์ ดำรงนพิสีนครเขตร ทศลักษณเกษตรอุดม บรมราชสวามิภักดิ์ บริรักษ์ปัจฉิมานุทิศ สุจริตธรรมธาดา มหาโยนางคราชวงษาธิบดี เจ้านครเชียงใหม่ " ... [9]

ถึง พ.ศ. 2462 เป็นนายพลตรี ราชองครักษ์พิเศษ[10] และนายทหารพิเศษประจำกองทัพบกไทย

บั้นปลายชีวิต

เจ้าแก้วนวรัฐ เริ่มประชวรตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2481 แต่ก็ยังเสด็จไปยังกรุงเทพมหานครเพื่อรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร เมื่อครั้งเสด็จนิวัติพระนคร ต่อมาปรากฏว่าพระอาการพระวักกะ (ไต) และพระยกนะ (ตับ) อักเสบที่ประชวรอยู่ยังไม่ทันจะหายดี ก็พบพระอาการพระปับผาสะ (ปอด) บวมขึ้นอีก จนพิราลัย เมื่อเวลา 21.40 น. ของวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2482 รวมระยะเวลาที่ทรงครองนคร 28 ปี สิริชันษา 76 ปี

ข่าวการพิราลัยแพร่ออกไป บรรดาบุคคลสำคัญก็ได้มีโทรเลขและจดหมายถวายความอาลัยมาเป็นจำนวนมาก เช่น คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี ส่งมาถวายเจ้าราชบุตร ดังความว่า

เจ้าราชบุตร

เชียงใหม่

คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในพระปรมาภิไธย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทราบข่าวด้วยความเศร้าสลดใจว่า เจ้าแก้วนวรัฐฯ ได้ถึงแก่พิราลัยเสียแล้ว จึงขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งมายังบรรดาบุตรและธิดาโดยทั่วกัน..

อาทิตย์ทิพอาภา
พล.อ.พิชเยนทร์โยธิน

เรียน พ.ท.เจ้าราชบุตร

เชียงใหม่

ผมได้รับโทรเลขของเจ้า แจ้งว่า พล.ต.เจ้าแก้วนวรัฐฯ ได้ถึงแก่พิราลัยแล้ว ในนามของรัฐบาลของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และในนามของผมเอง ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งมายังเจ้าและญาติทั้งหลายด้วย..

พิบูลสงคราม
นายกรัฐมนตรี

ในการพระราชทานน้ำหลวงสรงพระศพ มีนาวาอากาศเอกถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้แทนของรัฐบาลและได้มาเป็นประธานในงานพระราชทานน้ำหลวงสรงพระศพ โดยรถไฟกระบวนพิเศษ พร้อมด้วยเจ้าพนักงานกรมพระราชพิธี มีพระยาราชโกษา เป็นหัวหน้านำโกศ ฉัตร แตร และกลองชนะ พระราชทานเป็นพระเกียรติยศ แต่พระราชทานลองมณฑปมีเฟืองประกอบโกศเป็นเกียรติยศพิเศษ และโปรดเกล้าฯ ให้มีการประโคม

สำหรับการพระราชกุศล ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานสดับปกรณ์และพระสวดพระอภิธรรมกำหนด 7 วัน และได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชการแต่งเครื่องแบบครึ่งยศไว้ทุกข์ถวาย และทางราชการได้สั่งให้ข้าราชการฝ่ายเหนือ ไว้ทุกข์ถวาย มีกำหนด 7 วัน

พระราชทานเพลิงพระศพเมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2483 ณ พระเมรุ วัดสวนดอก

รายนามชายา โอรส และธิดา

ภรรยา

เจ้าแก้วนวรัฐ มีชายา 4 องค์ คือ

ข้อมูลเพิ่มเติม ภาพ, นาม ...

โอรสธิดา

เจ้าแก้วนวรัฐมีโอรสและธิดารวม 6 องค์ อยู่ในสกุล ณ เชียงใหม่ มีนามตามลำดับ ดังนี้

ข้อมูลเพิ่มเติม ภาพ, ชื่อ ...
Remove ads

พระกรณียกิจสำคัญ

สรุป
มุมมอง
ข้อมูลเบื้องต้น เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ราชวงศ์ทิพย์จักร ...

เจ้าแก้วนวรัฐ เริ่มเข้ารับราชการเมื่อ พ.ศ. 2420 ขณะมีพระชันษาได้ 15 ปี ในสมัยที่พระบิดาของท่าน คือ พระเจ้าอินทวิชยานนท์ได้เป็นเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ 7 ซึ่งมีสิทธิ์ในการปกครองอย่างเจ้าประเทศราชที่ต้องถวายต้นไม้เงินต้นไม้ทองเป็นเครื่องราชบรรณาการทุก 3 ปี

ผลงานที่สำคัญ ได้แก่

การปกครอง

การพลังงาน

  • พ.ศ. 2464 ดำริให้มีการขุดบ่อกักเก็บน้ำมันที่อำเภอฝาง และเป็นจุดเริ่มต้นของการถือกำเนิดบ่อน้ำมันฝาง[12]

การสาธารณสุข

  • พ.ศ. 2472 บริจาคทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างอาคารผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลแมคคอร์มิค ให้เป็นโรงพยาบาลที่ทันสมัยที่สุดในยุคนั้น[13]

การคมนาคม

  • พ.ศ. 2476 เป็นนายกองสร้างถนนหลายสาย เพื่อเชื่อมการคมนาคมอำเภอรอบนอกกับในเมือง ถนนสายสำคัญที่ท่านมีส่วนร่วม ได้แก่ ถนนสายสันทราย-ดอยสะเก็ด ปัจจุบันเรียก ถนนแก้วนวรัฐ ถนนสายขึ้นดอยสุเทพร่วมกับครูบาศรีวิชัย ซึ่งท่านเป็นประธานฝ่ายคฤหัสถ์ และเป็นผู้ขุดเป็นปฐมฤกษ์[11] เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2477
  • พ.ศ. 2464 ทรงสร้างสะพานนวรัฐ ขึ้นเป็นสะพานไม้เพื่อเชื่อมสองฝั่งแม่น้ำปิง

การศาสนา

เจ้าแก้วนวรัฐ มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง พระองค์ท่านได้สนับสนุนให้เจ้าน้อยศุขเกษมไปบวชในพระพุทธศาสนา และได้ทะนุบำรุงศาสนาอีกจำนวนมาก เช่น

  • สร้างธรรมหาเวสสันดรและชาดกต่างๆ ถวายไว้ที่วัดหัวข่วง และนิมนต์ไปแสดงพระธรรมเทศนาที่คุ้มหลวงทุกวันพระ
  • พ.ศ. 2440 โปรดให้สร้างพระพุทธรูปถวายวัดเชียงยืน
  • โปรดให้บูรณะวัดโลกเหนือเวียง (วัดโลกโมฬี ในปัจจุบัน)
  • โปรดให้สร้างพระวิหารวัดเชตุพน

การได้รับพระราชทานนามสกุล

เจ้าแก้วนวรัฐ ได้รับพระราชทานนามสกุล ณ เชียงใหม่ (อักษรโรมัน: na Chiengmai) ซึ่งเป็นนามสกุลพระราชทาน ลำดับที่ 1,161 จากพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2457[14] โดยพระราชทานให้แก่ผู้สืบเชื้อสายจากบรรพบุรุษที่มีนิวาสถานตั้งอยู่ในที่แห่งนั้นเป็นเวลานานมาก มีผู้คนรู้จัก และนับถือโดยมาก โดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการห้ามไม่ให้ผู้ที่ไม่ได้รับพระบรมราชานุญาตใช้คำว่า "ณ" นำหน้าสกุลเป็นอันขาด[15] ต่อมาภายหลังตระกูล ณ เชียงใหม่ ยังคงเป็นตระกูลที่มีบทบาทและได้รับการยกย่องจากระบบราชการส่วนกลางและส่วนภูมิภาค มีบทบาทสำคัญในฐานะส่วนหนึ่งของพิธีการต่าง ๆ เพื่อรับรองนโบายการปกครองที่ดำเนินมานับแต่ พ.ศ. 2442[16] อาทิ เป็นหนึ่งในสิบตระกูลที่ได้เข้าเฝ้าในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2493[17] การเตรียมการรับเสด็จราชอาคันตุกะทุก ๆ คราว[18] และการถวายความจงรักภักดีต่อราชวงศ์จักรี

ภายหลังการการพิราลัยของเจ้าหลวงแก้วนวรัฐ เหล่าทายาท ณ เชียงใหม่ สายตรงในเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ผู้เป็นบุตรหลาน ยังคงมีบทบาททางสังคมอย่างต่อเนื่องในการสืบสานภารกิจของราชตระกูลในด้านสาธารณกุศลต่าง ๆ และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยมีผู้สืบเครื่องราชย์ฯ สืบตระกูล ได้แก่ เจ้าราชบุตร (วงศ์ตวัน ณ เชียงใหม่), เจ้าพงษ์อินทร์ ณ เชียงใหม่ และปัจจุบันคือ เจ้าวงศ์สักก์ ณ เชียงใหม่ (หลานชาย) ตามลำดับ ซึ่งต่อมามีการดำเนินกิจกรรมในนามมูลนิธินวราชดำริอนุรักษ์ฝ่ายเหนือและมูลนิธิกู่เจ้าหลวงเชียงใหม่ (วัดสวนดอก) อันเป็น 2 มูลนิธิหลักของเจ้านายฝ่ายเหนือที่ดำเนินกิจกรรมสาธารณกุศลมากว่า 30 ปี

Remove ads

อนุสาวรีย์

ในปี พ.ศ. 2561 วัดศรีนวรัฐ ได้จัดสร้างรูปหล่อเหมือนเจ้าแก้วนวรัฐ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงพระคุณของเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่

สถานที่อันเนื่องมาจากพระนาม

  • สะพานนวรัฐ เดิมเป็นสะพานไม้สัก กระทั่งได้ก่อสร้างสะพานเหล็กทดแทนในปี พ.ศ. 2508 และให้ชื่อว่า "นวรัฐ" เพื่อเป็นการถวายพระเกียรติแด่เจ้าแก้วนวรัฐ
  • ถนนแก้วนวรัฐ
  • วัดศรีนวรัฐ บ้านทุ่งเสี้ยว ตำบลบ้านกลาง อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นวัดที่เจ้าแก้วนวรัฐ ได้มีดำริให้บูรณะขึ้นใหม่ และอัญเชิญ พระพุทธรูปไม้สัก "พระเจ้าอกล้ง" กลับมาประดิษฐานที่วัดแห่งนี้[19]
  • โรงเรียนทุ่งเสี้ยว (นวรัฐ) เป็นโรงเรียนที่เจ้าแก้วนวรัฐ บริจาคที่ดินเพื่อสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2466
Remove ads

พระยศ

ข้อมูลเบื้องต้น ธรรมเนียมพระยศของ เจ้าแก้วนวรัฐ, การทูล ...

พระยศพลเรือน

  • มหาอำมาตย์โท[20]

พระยศทหาร

  • 19 มิถุนายน 2454 – นายพันเอก ในกรมทหารบก[21]
  • 25 ตุลาคม 2462 – นายพลตรี[10][22]
  • 11 พฤศจิกายน 2462 – เข้ารับพระราชทานสัญญาบัตรยศพลตรี[23]

พระยศเสือป่า

  • – นายหมู่เอก
  • 13 ตุลาคม 2456 – นายกองตรี[24]
  • นายกองเอก

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

Remove ads

พงศาวลี

ข้อมูลเพิ่มเติม พงศาวลีของเจ้าแก้วนวรัฐ ...
Remove ads

อ้างอิง

Loading related searches...

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.

Remove ads