คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์
สมาชิกราชวงศ์ไทย จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
มหาเสวกโท พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ (20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2404 – 1 ตุลาคม พ.ศ. 2474) มีพระนามเดิมว่า พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าวรวรรณากร เป็นพระบิดาแห่งการละครร้อง เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวกับเจ้าจอมมารดาเขียน เป็นกวีและนักประพันธ์ ทรงดำรงตำแหน่งรองเสนาบดีกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ และองคมนตรีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นต้นราชสกุลวรวรรณ[1]
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง |
Remove ads
พระประวัติ
สรุป
มุมมอง
ประสูติ
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ มีพระนามเดิมว่า พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าวรวรรณากร เป็นพระราชโอรสลำดับที่ 56 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาเขียน ประสูติเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2404
รับราชการ
พระองค์ทรงเริ่มรับราชการที่หอรัษฎากรพิพัฒน์ เป็นพนักงานการเงินที่ฝากแบงค์ต่างประเทศ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นองคมนตรี[2][3] และสถาปนาขึ้นเป็นพระองค์เจ้าต่างกรมมีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นนราธิปประพันธ์พงศ์ เมื่อปี พ.ศ. 2432[4] ดำรงตำแหน่งรองเสนาบดีกรมพระคลังมหาสมบัติ ต่อมาในปี พ.ศ. 2464 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเลื่อนกรมขึ้นเป็น พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ มีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า[5]
"พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ มกุฏวงศ์นฤบดี มหากวีนิพันธนวิจิตร ราชโกษาธิกิจจิรุปการ บรมนฤบาลมหาสวามิภักดิ์ ขัตติยศักดิ์อดุลพหุลกัลยาณวัตร ศรีรัตนไตรย์คุณาลงกรณ์ นรินทรบพิตร"
สิ้นพระชนม์
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ประชวรพระโรคพระอันตะ (ลำไส้ใหญ่) และสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2474 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระชันษาได้ 69 ปี 10 เดือน 11 วัน[6] มีพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพเมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2476 ณ พระเมรุ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร[7]
Remove ads
พระโอรสและพระธิดา
สรุป
มุมมอง
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ มีหม่อม 13 คน ได้แก่
- หม่อมต่วนใหญ่
- หม่อมผัน วรวรรณ ณ อยุธยา (สกุลเดิม สวัสดิ์-ชูโต)
- หม่อมเจียม
- หม่อมหลวงต่วนศรี วรวรรณ (ราชสกุลเดิม มนตรีกุล)
- หม่อมอินทร์
- หม่อมบุญ
- หม่อมหลวงตาด (ราชสกุลเดิม มนตรีกุล)
- หม่อมแช่ม (สกุลเดิม วงศาโรจน์)
- หม่อมแถม
- หม่อมสุ่น (สกุลเดิม เพ็ญกุล)
- หม่อมเชื้อเล็ก
- หม่อมพร้อม
- หม่อมแสร์
มีพระโอรส 1 พระองค์ กับ 20 องค์ และมีพระธิดา 2 พระองค์ กับ 12 องค์ รวม 35 พระองค์/องค์ ได้แก่
Remove ads
พระนัดดา
สรุป
มุมมอง
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ มีพระนัดดารวม 74 พระองค์/องค์/คน ดังนี้
- หม่อมเจ้าสกลวรรณากร วรวรรณ มีโอรสธิดา 2 คน ได้แก่
- หม่อมราชวงศ์หญิงจิรี วรวรรณ เกิดแต่หม่อมโจฮันนา
- หม่อมราชวงศ์สกุล วรวรรณ เกิดแต่หม่อมสมรวย
- หม่อมเจ้าหญิงพรพิมลพรรณ รัชนี มีโอรสธิดา 2 พระองค์/องค์ ได้แก่
- พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ มีโอรสธิดา 2 คน ได้แก่
- หม่อมราชวงศ์วิบุลย์เกียรติ วรวรรณ เกิดแต่หม่อมเจ้าพิบูลเบญจางค์
- หม่อมราชวงศ์วิวรรณ เศรษฐบุตร เกิดแต่หม่อมพร้อยสุพิณ
- หม่อมเจ้าวัลภากร วรวรรณ มีโอรสธิดา 9 คน ได้แก่
- หม่อมราชวงศ์เริงวรรณ วรวรรณ เกิดแต่หม่อมชั้น
- หม่อมราชวงศ์หญิงพรรณจิตร กรรณสูต เกิดแต่หม่อมชั้น
- หม่อมราชวงศ์ชวนิศนดากร วรวรรณ เกิดแต่หม่อมชั้น
- หม่อมราชวงศ์ฉันทนากร วรวรรณ เกิดแต่หม่อมชั้น
- หม่อมราชวงศ์ถวัลภากร วรวรรณ เกิดแต่หม่อมชั้น
- หม่อมราชวงศ์วรวัลลภ วรวรรณ เกิดแต่หม่อมฟื้น
- หม่อมราชวงศ์สุรวรรณ วรวรรณ เกิดแต่หม่อมฟื้น
- หม่อมราชวงศ์หญิงวรวัณณา วรวรรณ เกิดแต่หม่อมฟื้น
- หม่อมราชวงศ์หญิงสุรีย์วรรณ รัตนกรี เกิดแต่หม่อมฟื้น
- หม่อมเจ้านิตยากร วรวรรณ มีโอรสธิดา 8 คน ได้แก่
- หม่อมราชวงศ์อาชวากร วรวรรณ เกิดแต่หม่อมแก้ว
- หม่อมราชวงศ์กัลยากร วรวรรณ เกิดแต่หม่อมแก้ว
- หม่อมราชวงศ์หญิงอัศวินี สนิทวงศ์ เกิดแต่หม่อมแก้ว
- ท่านผู้หญิงดัชรีรัชนา รัชนี เกิดแต่หม่อมแก้ว
- หม่อมราชวงศ์ศุภนิตย์ วรวรรณ เกิดแต่หม่อมแก้ว
- หม่อมราชวงศ์หญิงนิติมา พนมยงค์ เกิดแต่หม่อมแก้ว
- หม่อมราชวงศ์หญิงมลุลี สายาลักษณ์ เกิดแต่หม่อมเล็ก
- หม่อมราชวงศ์หญิงมัลลิกา วรวรรณ เกิดแต่หม่อมเล็ก
- หม่อมเจ้าหญิงอรทิพยประพันธ์ เทวกุล มีโอรสธิดา 3 คน ได้แก่
- หม่อมราชวงศ์หญิงวรรณทิพย์ เทวกุล
- หม่อมราชวงศ์ทรงดำรัส เทวกุล
- หม่อมราชวงศ์หญิงทิพยวรรณา นิติพน
- หม่อมเจ้าสุวิชากร วรวรรณ มีโอรสธิดา 4 คน ได้แก่
- หม่อมราชวงศ์อุตตมากร วรวรรณ (แฝด) เกิดแต่หม่อมพริ้ม
- หม่อมราชวงศ์อุตตรากร วรวรรณ (แฝด) เกิดแต่หม่อมพริ้ม
- หม่อมราชวงศ์ชีโวสวิชากร วรวรรณ เกิดแต่หม่อมพริ้ม
- หม่อมราชวงศ์หญิงสิรยากร ศิลปี เกิดแต่หม่อมพริ้ม
- หม่อมเจ้าสิทธยากร วรวรรณ มีโอรสธิดา 2 คน ได้แก่
- หม่อมราชวงศ์ฐวิศวากร วรวรรณ เกิดแต่หม่อมดำริห์
- หม่อมราชวงศ์หญิงวัลลีวรินทร์ สิริสิงห์ เกิดแต่หม่อมดำริห์
- หม่อมเจ้าไปรมากร วรวรรณ มีโอรสธิดา 7 คน ได้แก่
- หม่อมราชวงศ์ไกรศวากร วรวรรณ เกิดแต่หม่อมน้อย
- หม่อมราชวงศ์ปรัชญากร วรวรรณ เกิดแต่หม่อมน้อย
- หม่อมราชวงศ์หญิงมาลินี นันทาภิวัฒน์ เกิดแต่หม่อมน้อย
- หม่อมราชวงศ์กรุณากร วรวรรณ เกิดแต่หม่อมน้อย
- หม่อมราชวงศ์รัตนากร วรวรรณ เกิดแต่หม่อมน้อย
- หม่อมราชวงศ์หญิงศิริมา ชมสุรินทร์ เกิดแต่หม่อมสมศรี
- หม่อมราชวงศ์เปรมการ วรวรรณ เกิดแต่หม่อมอรุณ
- หม่อมเจ้าวรวีรากร วรวรรณ มีโอรสธิดา 4 คน ได้แก่
- หม่อมราชวงศ์วีรเดช วรวรรณ เกิดแต่หม่อมแพร
- หม่อมราชวงศ์สราวุธ วรวรรณ เกิดแต่หม่อมแพร
- ท่านผู้หญิงรวิจิตร์ สุวรรณบุปผา เกิดแต่หม่อมเริ่มจิตต์
- หม่อมราชวงศ์หญิงอภิรจิต อาภาศิลป์ เกิดแต่หม่อมเริ่มจิตต์
- หม่อมเจ้าโวฒยากร วรวรรณ มีโอรส 2 คน ได้แก่
- หม่อมราชวงศ์วิวัฒน์ วรวรรณ เกิดแต่หม่อมสรรพางค์
- หม่อมราชวงศ์ชาญวุฒิ วรวรรณ เกิดแต่หม่อมจิตรา
- หม่อมเจ้าดุลภากร วรวรรณ มีโอรสธิดา 11 คน ได้แก่
- หม่อมราชวงศ์หญิงวรรณาภรณ์ ศุขเนตร เกิดแต่หม่อมสิรี
- หม่อมราชวงศ์หญิงลภาพรรณ วรวรรณ เกิดแต่หม่อมสิรี
- หม่อมราชวงศ์หญิงมารศรี สุจริตกุล เกิดแต่หม่อมสิรี
- หม่อมราชวงศ์กรณี วรวรรณ เกิดแต่หม่อมสิรี
- หม่อมราชวงศ์หญิงเบญจวรรณ จักรพันธุ์ เกิดแต่หม่อมสิรี
- หม่อมราชวงศ์หญิงจารุวรรณ ทิวารี เกิดแต่หม่อมสิรี
- หม่อมราชวงศ์พลากร วรวรรณ เกิดแต่หม่อมสิรี
- หม่อมราชวงศ์หญิงสาวิกา วรวรรณ เกิดแต่หม่อมสิรี
- หม่อมราชวงศ์วรากร วรวรรณ เกิดแต่พิศมัย สุดรุ่งเรือง
- หม่อมราชวงศ์พงศ์กวี วรวรรณ เกิดแต่พิศมัย สุดรุ่งเรือง
- หม่อมราชวงศ์สรัล วรวรรณ เกิดแต่รุ่งนภา นทีสุวรรณ
- หม่อมเจ้าหญิงบรรเจิดวรรณวรางค์ วรวรรณ มีโอรส 2 คน ได้แก่
- กำจรเดช พรหมโยธี (แฝด)
- เจตกำจร พรหมโยธี (แฝด)
- หม่อมเจ้าหัชชากร วรวรรณ มีโอรสธิดา 7 คน ได้แก่
- หม่อมราชวงศ์หญิงสดุดีภา วรวรรณ เกิดแต่หม่อมสมหทัย
- หม่อมราชวงศ์ณัฏฐธรรม วรวรรณ เกิดแต่หม่อมสมหทัย
- หม่อมราชวงศ์หญิงทัชวรรณ สายเชื้อ เกิดแต่หม่อมสมหทัย
- หม่อมราชวงศ์หญิงจุฑาภา วรวรรณ เกิดแต่หม่อมสมหทัย
- หม่อมราชวงศ์ภูมินทร์ วรวรรณ เกิดแต่หม่อมสมหทัย
- หม่อมราชวงศ์หญิงสิริมาดา วรวรรณ เกิดแต่หม่อมสมหทัย
- หม่อมราชวงศ์จักรินทร์ วรวรรณ เกิดแต่หม่อมสมหทัย
- หม่อมเจ้าหญิงศรีสอางค์นฤมล เกษมสันต์ มีโอรสธิดา 3 คน ได้แก่
- หม่อมราชวงศ์หญิงลักษณสอาง เกษมสันต์
- หม่อมราชวงศ์ศรีลักษณ์ เกษมสันต์
- หม่อมราชวงศ์หญิงนฤมล พิชัยสนิท
- อุบล วรวรรณ มีธิดา 1 คน ได้แก่
- นรา วนิดา แคร้บบ์
- ฤดีวรวรรณ วรวรรณ มีโอรสธิดา 3 คน ได้แก่
- หม่อมราชวงศ์สมชนก กฤดากร โอรสในหม่อมเจ้าชิดชนก กฤดากร
- วรรณจิตต์ กฤษณามระ ธิดาของปุ๊ ประไพลักษณ์
- คนทิพย์ โลทแมน ธิดาของปุ๊ ประไพลักษณ์
- หม่อมเจ้าฉันทนากร วรวรรณ มีโอรส 1 คน ได้แก่
- หม่อมราชวงศ์มนัตถ์ วรวรรณ เกิดแต่หม่อมมนวิภา
- หม่อมเจ้าเจตนากร วรวรรณ มีธิดา 1 คน ได้แก่
- หม่อมราชวงศ์หญิงทิพยลาวัณ วรวรรณ เกิดแต่หม่อมมนิต
Remove ads
พระนิพนธ์
สรุป
มุมมอง
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์มีชื่อเสียงจากงานพระนิพนธ์หลายชิ้นที่รู้จักกันดี ได้แก่ บทละครพูดเรื่อง "สร้อยคอที่หาย" ซึ่งเคยบรรจุในหนังสือเรียนวิชาภาษาไทยของกระทรวงศึกษาธิการ บทละครร้อง "สาวเครือฟ้า" ซึ่งได้สร้างตัวละครให้กลายเป็นคนที่เหมือนกับมีตัวจริงขึ้นมา 2 คน คือ ร้อยตรีพร้อม และสาวเครือฟ้า ทรงก่อตั้งโรงละครร้องขึ้นในบริเวณตำหนักที่ประทับ ชื่อว่า "โรงละครปรีดาลัย" เป็นโรงละครร้องแห่งแรกในสยาม
นอกจากนี้ยังทรงมีงานที่สำคัญ คือ พระนิพนธ์แปล จดหมายเหตุลาลูแบร์ โดยทรงแปลมาจากฉบับภาษาอังกฤษ "ตำนานพระแท่นมนังคศิลาอาสน์" รุไบยาตของโอมาร์ คัยยาม และ "นวางกุโรวาท" เป็นต้น พระองค์ทรงใช้นามปากกาว่า "ประเสริฐอักษร" เพื่อทรงพระนิพนธ์เรื่องสั้นไว้จำนวนหนึ่งอีกด้วย รวมไปถึง ละครร้องเรื่อง “อีนากพระโขนง” ที่มีการนำโอ่งเจาะรูพอให้คนเข้าไปแอบ นำมาไว้กลางโรงละครตอนแสดงให้ผู้เล่นเป็นอีนากพระโขนงโผล่ออกมา ทำให้ผู้ชมตกตะลึง แลเป็นที่นิยมมาก ดั่งกลอนที่ ส.พลายน้อยเขียนไว้ว้า “เรื่องอีนากพระโขนงออกโรงสู้ จนคนดูดูไม่ได้มาหลายหน ต้องเล่นใหม่เพื่อให้ทันใจคน ทั้งห้าหนสิบหนยังล้นโรง” และยังเป็นต้นตอที่ให้ผ้วอีนากชื่อมากอีกด้วย
ผลงานในด้านพระนิพนธ์บางเรื่อง คือ ละครปักษีปะกรนัมเรื่อง "พญาระกา" ทำให้เกิดคดีพญาระกาในเวลาต่อมา เนื่องจากเนื้อเรื่องนั้นกระทบกระเทือนถึงพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ที่ทรงคุ้มครองและช่วยเหลือนางละครของคณะพระองค์เอง ทั้งยังเป็นหม่อมของพระองค์อีกด้วย ทำให้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ขังพระองค์ไว้ในพระบรมมหาราชวัง มีกำหนด 1 ปี โดยหม่อมและพระโอรสธิดาเข้าเยี่ยมได้เป็นเวลาตามควร[9]
บทละครเรื่องสาวเครือฟ้า
พระองค์ได้เค้าเรื่องนี้จากละครอุปรากร (โอเปรา) เรื่องมาดามบัตเตอร์ฟลาย ของจาโกโม ปุชชีนี อุปรากรเรื่องนี้ได้ต้นเค้ามาจากนวนิยายของจอห์น ลูเธอร์ ลอง อีกต่อหนึ่งในคราวที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ. 2450 ได้ทอดพระเนตรการแสดงละครอุปรากรที่ฝรั่งเศส เรื่องมาดามบัตเตอร์ฟลายซึ่งเป็นเรื่องความรักและความผิดหวังระหว่างสาวญี่ปุ่นชื่อโจโจ้ซังกับทหารหนุ่มฝรั่ง เมื่อเสด็จนิวัติพระนครได้ทรงเล่าให้กรมนราธิปประพันธ์พงศ์ฟัง กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ทรงดัดแปลงเรื่องนี้มาเป็นละครร้องแสดงถวายหน้าพระที่นั่ง เป็นที่พอพระหฤทัยมาก นับเป็นการเริ่มต้นกำเนิดละครร้องที่ทรงดัดแปลงมาจากละครอุปรากรของยุโรป
ทรงพระนิพนธ์เป็นบทละครร้องสลับพูด คำประพันธ์ที่ใช้เป็นประเภทกลอนเพลงไทย เพื่อใช้เป็นบทสำหรับเล่นละครร้อง
เรื่องย่อ
ร้อยตรีพร้อม ย้ายไปรับราชการที่เชียงใหม่ เกิดรักใคร่กับสาวเครือฟ้า หญิงชาวเชียงใหม่ ภายหลังได้เป็นสามีภรรยากันจนสาวเครือฟ้าให้กำเนิดบุตร ร้อยตรีพร้อมได้คำสั่งย้ายกลับกรุงเทพฯ ถูกผู้ใหญ่บังคับให้แต่งงานกับหญิงสาวชาวกรุงเทพฯ สาวเครือฟ้าเฝ้ารอสามี เมื่อได้ข่าวว่าสามีกลับเชียงใหม่ก็ดีใจไปคอยต้อนรับ ครั้นปรากฏว่าร้อยตรีพร้อมพาภรรยาชาวกรุงเทพฯมาด้วย สาวเครือฟ้าเสียใจใช้มีดแทงตัวตาย ร้อยตรีพร้อมรับบุตรไปอุปการะ
Remove ads
แพร่งนรา
วังวรวรรณ เป็นวังที่ประทับของกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ตั้งอยู่ระหว่างวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหารกับวัดมหรรณพารามวรวิหาร ต่อมาวังนี้ถูกเวนคืนเพื่อนำพื้นที่มาสร้างเป็นถนน ตามโครงการขยายความเจริญของพระนครในสมัยนั้น คงเหลือเพียงพระตำหนักไม้เก่าหลังเล็ก ที่เดิมเป็นที่ตั้งของโรงละครปรีดาลัย ถูกปรับให้เป็นโรงเรียนตะละภัฏศึกษา และมีการแบ่งพื้นที่ริมถนนสร้างเป็นอาคารพาณิชย์ขายให้แก่เอกชน ชาวบ้านแถบนั้นจึงเรียกย่านนั้นว่า แพร่งนรา ตามพระนามของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์
Remove ads
พระยศ
พระยศพลเรือน
- 17 กันยายน 2462 – มหาเสวกโท สังกัดกรมพระคลังข้างที่[10]
พระยศเสือป่า
- พลเสือป่า
- 8 ธันวาคม พ.ศ. 2460 นายกองตรี[11]
พระเกียรติยศ
พระอิสริยยศ
- 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2404 – 1 ตุลาคม พ.ศ. 2411 : พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าวรวรรณากร
- 1 ตุลาคม พ.ศ. 2411 – 8 ธันวาคม พ.ศ. 2432 : พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าวรวรรณากร
- 8 ธันวาคม พ.ศ. 2432 – 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 : พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นนราธิปประพันธ์พงศ์
- 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 – 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2464 : พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปประพันธ์พงศ์
- 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2464 – 1 ตุลาคม พ.ศ. 2474 : พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์
Remove ads
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2432 –
เครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ (ม.จ.ก.) (ฝ่ายหน้า)[12]
- พ.ศ. 2463 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคลนพรัตนราชวราภรณ์ (น.ร.) (ฝ่ายหน้า)[13]
- พ.ศ. 2464 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 1 ปฐมจุลจอมเกล้า (ป.จ.) (ฝ่ายหน้า)[14]
- พ.ศ. 2432 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์มงกุฎไทย (ป.ม.)[12]
- พ.ศ. 2433 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 2 ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก (ท.ช.)[15]
- พ.ศ. 2452 –
เหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา (ร.ด.ม.(ศ))[16]
- พ.ศ. 2463 –
เหรียญจักรพรรดิมาลา (ร.จ.พ.)[17]
- พ.ศ. 2468 –
เหรียญศารทูลมาลา (ร.ศ.ท.)[18]
- พ.ศ. 2447 –
เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 4 ชั้นที่ 3 (ม.ป.ร.3)[19]
- พ.ศ. 2452 –
เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 5 ชั้นที่ 2 (จ.ป.ร.2)[20]
- พ.ศ. 2459 –
เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 6 ชั้นที่ 2 (ว.ป.ร.2)[21]
- พ.ศ. 2469 –
เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 7 ชั้นที่ 2 (ป.ป.ร.2)[22]
- พ.ศ. 2425 –
เหรียญสตพรรษมาลา (ส.ม.)
- พ.ศ. 2436 –
เหรียญรัชฎาภิเศกมาลา (ร.ศ.)
- พ.ศ. 2440 –
เหรียญประพาสมาลา (ร.ป.ม.)
- พ.ศ. 2440 –
เหรียญราชินี (ส.ผ.)
- พ.ศ. 2446 –
เหรียญทวีธาภิเศก (ท.ศ.)
- พ.ศ. 2450 –
เหรียญรัชมงคล (ร.ร.ม.)
- พ.ศ. 2451 –
เหรียญรัชมังคลาภิเศก รัชกาลที่ 5 (ร.ม.ศ.5)
- พ.ศ. 2454 –
เหรียญบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 6 (ร.ร.ศ.6)
- พ.ศ. 2468 –
เหรียญบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 7 (ร.ร.ศ.7)
Remove ads
พงศาวลี
Remove ads
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads