คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
มหาวิทยาลัยเปิดของรัฐในประเทศไทย จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (อังกฤษ: Sukhothai Thammathirat Open University; อักษรย่อ: มสธ. – STOU) เป็นสถาบันอุดมศึกษาของรัฐแบบรับไม่จำนวนจำกัด โดยใช้ระบบการศึกษาทางไกล ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2521 ตาม พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช พุทธศักราช 2521[5]
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชจัดการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรี แบบมหาวิทยาลัยเปิดโดยรับนักศึกษาไม่จำกัดจำนวน ปัจจุบันมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชเปิดการศึกษาถึงระดับดุษฎีบัณฑิตในบางสาขาวิชา[6] โดยมีการสอบคัดเลือกเพื่อเข้าศึกษา[7]
ผู้ที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชในอดีต ได้รับพระมหากรุณาธิคุณให้เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร แต่ในปัจจุบันพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินปฏิบัติพระราชกรณียกิจในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชจนถึงปัจจุบัน
Remove ads
ประวัติ
สรุป
มุมมอง
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชมีการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรีแบบ "มหาวิทยาลัยเปิด" กล่าวคือรับนักศึกษาไม่จำกัดจำนวน โดยมหาวิทยาลัยไม่มีชั้นเรียนตามปกติเหมือนมหาวิทยาลัยปิดและมหาวิทยาลัยตลาดวิชาซึ่งดำเนินการสอนโดยใช้ระบบการสอนทางไกล จัดการเรียนการเรียนการสอนแบบตลาดวิชาโดยเน้นให้นักศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเองจากเอกสารชุดวิชาจากสื่อสารสนเทศต่าง ๆ ที่ทางมหาวิทยาลัยจัดไว้ให้นักศึกษา เช่น สื่อสิ่งพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์และสื่อต่าง ๆ เป็นต้น
แนวคิดของการก่อตั้งมหาวิทยาลัยเปิดในประเทศไทย
การก่อตั้งมหาวิทยาลัยเปิด เป็นความพยายามของรัฐบาลในการที่จะขยายโอกาสการศึกษาระดับอุดมศึกษาแก่ประชาชนให้มากที่สุด แนวคิดนี้ได้เคยนำมาใช้แล้วในประเทศไทย โดยมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง ซึ่งตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2476 ได้จัดการศึกษาระบบ "ตลาดวิชา" โดยไม่จำกัดรับนักศึกษา เป็นครั้งแรก แต่ต่อมาก็ได้เปลี่ยนมาเป็นระบบมหาวิทยาลัยปิด (จำกัดการรับนักศึกษา) เช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ต่อมาปี พ.ศ. 2514 ได้มีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยแบบตลาดวิชาขึ้นอีกแห่งหนึ่ง คือ มหาวิทยาลัยรามคำแหง แต่มหาวิทยาลัยรามคำแหงยังคงจัดการศึกษาโดยอาศัยชั้นเรียนเป็นหลัก ทำให้มหาวิทยาลัยรามคำแหงประสบปัญหาในด้านอาคารสถานที่เรียนเป็นอันมาก ทำให้ไม่สามารถขยายให้เพียงพอกับจำนวนนักศึกษาที่เพิ่มขึ้นทุกปีได้ ทางรัฐบาลเล็งเห็นว่าหากรัฐบาลให้การสนับสนุนให้มหาวิทยาลัยรามคำแหง จัดการศึกษาให้เพียงพอกับความต้องการของผู้เรียนแล้ว จะทำให้ภาครัฐต้องรับผิดชอบภาระด้านงบประมาณมากขึ้นอย่างไม่มีวันสิ้นสุด
ดังนั้นเพื่อเป็นการขยายโอกาสทางการศึกษาระดับอุดมศึกษาให้แก่ประชาชน ให้กว้างที่สุด โดยใช้ทรัพยากรที่มีจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด จึงมีการก่อตั้งมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชขึ้น โดยดำเนินการในระบบมหาวิทยาลัยเปิด จัดการเรียนการสอนโดยใช้ระบบการศึกษาทางไกล มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช จึงเป็นมหาวิทยาลัยเปิด โดยใช้ระบบการศึกษาทางไกล แห่งเดียวในประเทศไทย[8]
การสถาปนามหาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อ "มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช" ตามพระนามเดิมของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) เมื่อครั้งทรงดำรงพระอิสริยยศ เป็น "กรมหลวงสุโขทัยธรรมราชา" และพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้พระราชลัญจกรในรัชกาลที่ 7 ซึ่งเป็นรูปพระแสงศรสามองค์ นำมาประกอบกับเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกรุงสุโขทัย เป็นตราประจำมหาวิทยาลัย
เมื่อวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2521 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้ทรงลงพระปรมาภิไธย ใน พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช พ.ศ. 2521[9] มหาวิทยาลัยจึงกำหนดให้ วันที่ 5 กันยายน ของทุกปีเป็น วันสถาปนามหาวิทยาลัย
อธิการบดีคนแรก
ในวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2521 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งกรรมการสภามหาวิทยาลัยชุดแรก[10] รวมทั้งได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ศาสตราจารย์ วิจิตร ศรีสอ้าน ให้ดำรงตำแหน่ง อธิการบดีคนแรก
การเปิดดำเนินการการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัย

หลังจากได้ใช้เวลาเตรียมการด้านต่าง ๆ เพื่อให้พร้อมที่จะเปิดสอนเป็นเวลาประมาณ 2 ปี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชจึงได้เปิดรับนักศึกษารุ่นแรก เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2523[11] สาขาวิชาที่เปิดสอน 3 สาขาวิชา คือ สาขาวิชาศิลปศาสตร์ สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ และสาขาวิชาวิทยาการจัดการ[12] โดยมีผู้สนใจลงทะเบียนเรียน จำนวน 11,152 คน
ต่อมาในปี พ.ศ. 2525 มหาวิทยาลัยได้ขยายการรับนักศึกษาเพิ่มขึ้นในสาขาวิชานิติศาสตร์ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ สาขาวิชาคหกรรมศาสตร์(มนุษยนิเวศศาสตร์) และสาขาวิชาส่งเสริมการเกษตรและสหกรณ์ ปีการศึกษา 2526(ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นสาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์) มหาวิทยาลัยได้เปิดสอนสาขาวิชารัฐศาสตร์ ปีการศึกษา 2527 เปิดสอนสาขาวิชานิเทศศาสตร์ ในปีการศึกษา 2538 มหาวิทยาลัยได้เปิดสอนสาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และในปี พ.ศ. 2544 ได้เปิดสอนสาขาวิชาพยาบาลศาสตร์ เพิ่มขึ้นอีกสาขาวิชาหนึ่ง รวมเป็น 12 สาขาวิชา
ปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
ในฐานะที่เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชจึงมีอำนาจให้ปริญญาบัตร และประกาศนียบัตรที่มีศักดิ์และสิทธิเช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยของรัฐอื่น ๆ ทุกประการ
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช จัดพิธีพระราชทานปริญญาบัตรเป็นครั้งแรก ณ อาคารใหม่สวนอัมพร เมื่อวันที่ 26 – 31 มีนาคม พ.ศ. 2527 โดยเป็นการพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยรุ่นแรก (ประจำปีการศึกษา 2525) ซึ่งในปีนั้นมีผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จำนวน 9,594 คน จาก 2 สาขาวิชา คือ สาขาวิชาศึกษาศาสตร์และสาขาวิชาวิทยาการจัดการ [13]
ในอดีต ผู้ที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ให้เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และในปัจจุบันพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินปฏิบัติพระราชกรณียกิจในการพระราชทานปริญญาบัตร แก่บัณฑิตมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชจนถึงปัจจุบัน ส่วนระดับมหาบัณฑิต และดุษฎีบัณฑิต เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรจากพานเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
การควบคุมมหาวิทยาลัยโดย คสช.
ภายหลัง รัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557 คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ออกประกาศที่ 1/2560 เข้าควบคุมมหาวิทยาลัยเนื่องจากกรณีกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ ขอลาออกจากตำแหน่งจนทำให้เหลือกรรมการไม่ครบองค์ประกอบตามมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช พ.ศ. 2521[14] ก่อนจะยกเลิกประกาศควบคุมเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561[15] เนื่องจากมีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งนายกสภามหาวิทยาลัยและกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชเป็นที่เรียบร้อยแล้ว[16]
Remove ads
สัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัย
ตราประจำมหาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยได้รับพระบรมราชานุญาตให้ใช้พระราชลัญจกรในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นรูปพระแสงศรสามองค์เรียงกันบนบันไดแก้ว ได้แก่ "พระแสงศรพรหมศาสตร์" "พระแสงอัคนิวาต" "และพระแสงศรพลายวาต" ประดิษฐานอยู่ภายใต้ พระมหามงกุฏ นำมาประกอบกับส่วนยอดของ "เจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกรุงสุโขทัย และมีข้อความ "มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมธิราช" อยู่ในแถบริ้วเบื้องล่าง เป็นตราประจำมหาวิทยาลัย[17]
เสื้อครุยของมหาวิทยาลัย
เสื้อครุยวิทยฐานะของมหาวิทยาลัยเป็นเสื้อคลุม ผ้าโปร่งสีขาว ผ่าอกตลอดรอบขอบและที่ต้นแขนกับปลายแขน มีแถบสีทองทาบทับด้วยแถบทองบริเวณอกเสื้อทั้งสองข้างมีวงกลมสีทอง กลางวงมีตรามหาวิทยาลัย ปริญญาตรี มี 1 วง ปริญญาโทมี 2 วง ปริญญาเอก มี 3 วง[18]
ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยกำหนดให้ ต้นปาริชาตหรือต้นทองหลางลายเป็นต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย เนื่องจากมีใบเป็นสีเขียวและเส้นใบเป็นสีทอง ตรงกับสีเขียว-ทองซึ่งเป็นสีประจำมหาวิทยาลัย
สีประจำมหาวิทยาลัย
"สีเขียว - ทอง" เป็นสีประจำมหาวิทยาลัย
- ██ สีเขียว เป็นสีประจำวันพุธ ซึ่งเป็นวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
- ██ สีทอง เป็นสีแห่งความเป็นสิริมงคล
Remove ads
อาคารที่สำคัญในมหาวิทยาลัย

- อาคารพุ่มข้าวบิณฑ์ เป็นอาคารสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ซึ่งได้ประยุกต์สถาปัตยกรรมไทยสมัยสุโขทัยมาใช้ในการออกแบบก่อสร้าง โดยมี รองศาสตราจารย์ ภิญโญ สุวรรณคีรี ศิลปินแห่งชาติ เป็นผู้ออกแบบ การจัดวางอาคารนั้นตั้งอยู่กึ่งกลางของอุทยานการศึกษารัชมังคลาภิเษก จัดเป็นสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นที่สุดในมหาวิทยาลัย[19]
- อาคารอเนกนิทัศน์ เป็นหอประชุมขนาดใหญ่ของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช สร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2549 ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่พระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัย
- หอพระ ประดิษฐานพระพุทธรูปประจำมหาวิทยาลัยปางมารวิชัย ขนาดหน้าตัก 60 นิ้ว ตัวอาคารหอพระออกแบบโดย รองศาสตราจารย์ ภิญโญ สุวรรณคีรี ศิลปินแห่งชาติ โดยตัวอาคารมีเอกลักษณ์สะท้อนรูปลักษณะศิลปสุโขทัย อันเป็นชื่อของมหาวิทยาลัย ตัวอาคารสร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2551 การจัดวางอาคารนั้นตั้งอยู่บริเวณมุมด้านเหนือของอุทยานการศึกษารัชมังคลาภิเษก ใกล้กับถนนหลักภายในมหาวิทยาลัย ตัวอาคารยกพื้นสูงจากระดับปกติ จึงทำให้มีความโดดเด่นสะดุดตา[20]
- ห้องพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ตั้งอยู่ ณ อาคารบรรณสาร ชั้นสอง ออกแบบตกแต่งด้วยรูปลักษณะสถาปัตยกรรมสมัยรัชกาลที่ 7 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและให้บริการข้อมูลทางประวัติศาสตร์ระหว่าง พ.ศ. 2468–2477[21]
หน่วยงาน
หน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มีดังนี้
|
|
Remove ads
สาขาวิชาที่เปิดสอน
ปัจจุบันมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เปิดทำการเรียนการสอนทั้งในระดับประกาศนียบัตร, ปริญญาบัณฑิต, ประกาศนียบัตรบัณฑิต, และปริญญามหาบัณฑิต กระจายไปตามสาขาวิชาต่าง ๆ โดยมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มีสาขาวิชาทั้งหมด 12 สาขาวิชา (เป็นหน่วยงานตามประกาศกระทรวงฯ 10 สาขาวิชา[22] เป็นหน่วยงานภายใน 2 สาขาวิชา) ดังนี้
หมายเหตุ: สาขาวิชาเทียบเท่ากับคณะวิชาของมหาวิทยาลัยทั่วไป
Remove ads
โครงการเรียนล่วงหน้า
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ยังเปิดการเรียนทางไกลให้สำหรับนักเรียนหรือบุคคลที่ต้องการเรียนล่วงหน้าได้โดยไม่ต้องมีวุฒิการศึกษา ไม่ต้องสมัครเป็นนักศึกษาในหลักสูตรใดหลักสูตรหนึ่งก็ได้ เมื่อสอบผ่านแล้วผู้เรียนยังสามารถ โอนชุดวิชาที่เรียนผ่านเข้าเป็นชุดวิชาในหลักสูตรที่ต้องการศึกษาในภายภาคหน้าได้ ซึงแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
- โครงการสัมฤทธิบัตร[23] (สำหรับชุดวิชาในหลักสูตรปริญญาตรี)
- โครงการสัมฤทธิบัตรบัณฑิต[24] (สำหรับชุดวิชาในหลักสูตรปริญญาโท)

Remove ads
ศูนย์วิทยบริการและชุมชนสัมพันธ์
สรุป
มุมมอง
ศูนย์วิทยบริการและชุมชนสัมพันธ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (ศวช.) เป็นหน่วยงานหนึ่งของมหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ในส่วนภูมิภาค เพื่อทำหน้าที่สนับสนุนการจัดการศึกษาในระบบการศึกษาทางไกลของมหาวิทยาลัย โดยเริ่มเปิดศูนย์วิทยพัฒนามหาวิทยาลัยฯ จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นแห่งแรกในปี พ.ศ. 2534
ปัจจุบันมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มีศูนย์วิทยบริการและชุมชนสัมพันธ์ทั้งสิ้น 13ศูนย์ กระจายไปตามจังหวัดต่าง ๆ ครบทุกภาคของประเทศไทย ดังนี้[25]
|
|
- ศูนย์วิทยบริการและชุมชนสัมพันธ์ มสธ. จังหวัดสุราษฎร์ธานี
สถานที่ตั้ง (วัดธรรมบูชา ถนนตลาดใหม่ ตำบลตลาด อำเภอเมืองฯ จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84000)
Remove ads
ศูนย์บริการการศึกษาในต่างประเทศ
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช จัดการศึกษาสำหรับคนไทยในต่างประเทศโดยได้รับความร่วมมือจากกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กรมส่งเสริมการเรียนรู้ กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงแรงงาน เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาตลอดชีวิตให้กับคนไทยในต่างประเทศ ได้เพิ่มพูนความรู้และเพิ่มคุณวุฒิการศึกษาระดับอุดมศึกษาให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยมีการจัดการศึกษาสำหรับคนไทยในประเทศต่างประเทศ ดังนี้
|
|
ทั้งนี้นักศึกษาจะต้องเดินทางมาเข้ารับการฝึกอบรมชุดวิชาประสบการณ์วิชาชีพ หรือชุดวิชาที่มีการฝึกปฏิบัติ ณ สถานที่ที่มหาวิทยาลัยฯ จัดให้โดยใช้เวลาในการฝึกอบรมประมาณ 4–5 วัน นอกจากประเทศ/เมืองที่มหาวิทยาลัยยังมีการให้บริการจัดสอบในต่างประเทศ
Remove ads
รายนามอธิการบดี
สรุป
มุมมอง
นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชมีอธิการบดีมาแล้ว 6 คน และ รักษาการแทนอธิการบดี 6 คน ดังรายนามต่อไปนี้
รายนามนายกสภามหาวิทยาลัย
สรุป
มุมมอง
นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มีนายกสภามหาวิทยาลัยมาแล้ว 5 คน และทำหน้าที่แทนนายกสภามหาวิทยาลัย 2 คน ดังรายนามต่อไปนี้
Remove ads
การจัดอันดับมหาวิทยาลัย
การจัดอันดับโดย เว็บโอเมตริกซ์ (Webometrics) ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อแสดงความตั้งใจของสถาบันต่าง ๆ ในการเผยแพร่ความรู้สู่เว็บไซต์ และเป็นความริเริ่มเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงความรู้อย่างเปิดกว้าง (Open Access) ทั่วโลก โดยบ่งบอกถึงปริมาณและคุณภาพของสิ่งตีพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ของสถาบัน เพื่อใช้ร่วมกับตัวชี้วัดอื่น ๆ ในการประเมินผลงานวิจัยของสถาบัน ซึ่งทางเว็บโอเมตริกซ์ได้จัดอันดับปีละ 2 ครั้งในเดือนมกราคม และกรกฎาคม ล่าสุดเดือนมกราคม พ.ศ. 2566 มสธ. อยู่ในอันดับที่ 5,571 ของโลก อันดับที่ 265 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้[44] อันดับที่ 47 ของมหาวิทยาลัยในประเทศไทย[45]
Remove ads
บุคคลที่มีชื่อเสียงจากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
อ้างอิง
ดูเพิ่ม
แหล่งข้อมูลอื่นเดินเรื่องภายในของฝ่ายโฆษณาหนังสือพิมพ์ไทยรัฐในโครงการกำลังใจของมหาวิทยาลัยศิลปากรเขตเมืองทองธานี.จ.นนทบุรีเดินเรื่องออกสื่อืื
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads