คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
ลานา เดล เรย์
นักร้องและนักแต่งเพลงชาวอเมริกัน (เกิดปี ค.ศ. 1985) จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
อีลิซาเบธ วูลริดจ์ แกรนต์ (อังกฤษ: Elizabeth Woolridge Grant) หรือที่รู้จักในชื่อ ลานา เดล เรย์ (อังกฤษ: Lana Del Rey) (เกิดเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ค.ศ. 1985) เป็นนักร้องและนักแต่งเพลงชาวอเมริกัน โดยผลงานดนตรีของเธอมีความโดดเด่นในด้านคุณภาพระดับเพลงประกอบภาพยนตร์ที่แสดงออกมาในแง่ของความรักที่โศกสลด เสน่หาเย้ายวน และความเศร้าหมอง พร้อมกับการอ้างอิงถึงวัฒนธรรมประชานิยมร่วมสมัยของอเมริกาอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1950 - คริสต์ทศวรรษ 1960[1] เดล เรย์เคยได้รับรางวัลต่าง ๆ มากมาย อาทิ บริตอะวอดส์ 2 รางวัล, รางวัลบิลบอร์ดวีเมนอินมิวสิก 2 รางวัล, เอ็มทีวียุโรปมิวสิกอะวอดส์ 2 รางวัล และแซทัลไลต์อะวอดส์ 1 รางวัล รวมถึงการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี 6 ครั้ง และรางวัลลูกโลกทองคำ 1 ครั้ง นอกจากนี้เธอยังได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติจากนิตยสารวาไรอิตี ในการประกาศรางวัลฮิตเมกเกอร์อะวอดส์เพื่อเชิดชูเธอว่าเป็น "หนึ่งในนักร้องและนักแต่งเพลงที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในคริสต์ศตวรรษ 21" ใน ค.ศ. 2023 นิตยสารโรลลิงสโตนจัดให้เธออยู่ในรายชื่อนักร้องที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล และนิตยสารโรลลิงสโตนยูเค ขนานนามเธอว่าเป็นนักแต่งเพลงชาวอเมริกันที่ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งคริสต์ศตวรรษ 21[2][3] และเธอก็ยังถูกจัดให้เป็นหนึ่งใน 100 บุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ของนิตยสารไทม์ ประจำปี ค.ศ. 2012 อีกเช่นเดียวกัน[4]
เดล เรย์เติบโตในตอนเหนือของรัฐนิวยอร์ก และย้ายมายังเมืองนิวยอร์กซิตี้ใน ค.ศ. 2005 เพื่อเริ่มต้นเส้นทางอาชีพทางด้านดนตรี หลังจากที่เธอได้ปล่อยผลงานเพลงออกมามากมาย รวมทั้งอัลบั้มแรกในชื่อเดียวกับตนเอง จุดเปลี่ยนของเธอได้เกิดขึ้นใน ค.ศ. 2011 เมื่อซิงเกิล "วิดิโอเกมส์" ประสบความสำเร็จได้ในระดับไวรอล และในปลายปีเดียวกันนั้นเธอก็ได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลงโพลีดอร์และอินเตอร์สโคป [5] อัลบั้มบอร์นทูดาย (2012) อัลบั้มเปิดตัวของเธอที่ทำภายใต้สังกัดเพลงนั้นประสบความสำเร็จทั้งในแง่ของคำวิจารณ์และยอดขาย ซึ่งมีเพลงที่กลายเป็นกระแสหลังจากการเปิดตัวไปสักพักแล้วอย่าง "ซัมเมอร์ไทม์แซดเนส" อัลบั้มบอร์นทูดาย กลายเป็นอัลบัมแรกจากหกอัลบั้มของเธอที่ขึ้นอันดับหนึ่งในสหราชอาณาจักร และติดอันดับสูงสุดในตารางจัดอันดับอัลบั้มเพลงหลายประเทศทั่วโลก อัลบั้มที่สามของเดล เรย์ คืออัลตราไวโอเลนซ์ (2014) เป็นอัลบั้มที่มีการนำเสียงกีตาร์มาใช้ในดนตรีประกอบมากขึ้น และเปิดตัวอันดับหนึ่งบนตารางจัดอันดับบิลบอร์ด200ของสหรัฐอเมริกา อัลบั้มที่สี่และห้าอย่างฮันนีมูน (2015) และลัสต์ฟอร์ไลฟ์ (2017) นั้นเป็นการหวนคืนสู่แนวเพลงดั้งเดิมที่เคยเป็นที่นิยมจากอัลบั้มเก่า ๆ ของเธอ อัลบั้มที่หกนอร์แมนฟักกิงร็อกเวลล์! (2019) นั้นมีกลิ่นอายของแนวเพลงซอฟท์ร็อก เป็นอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จทางด้านคำวิจารณ์เป็นอย่างสูงและได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงในสาขาอัลบั้มแห่งปีในงานประกาศรางวัลแกรมมีครั้งที่ 62 และนิตยสารโรลลิงสโตนได้ยกให้อัลบั้มนี้เป็นหนึ่งใน 500 อัลบั้มที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล[6][7] เดล เรย์ได้ปล่อยสองอัลบั้มใน ค.ศ. 2021 คือ เคมเทรลส์โอเวอร์เดอะคันทรีคลับ และบลูแบนิสเตอส์ เดล เรย์มีผลงานร่วมกับเทย์เลอร์ สวิฟต์ในเพลง "สโนว์ออนเดอะบีช" จากอัลบั้มที่สิบของสวิฟต์ มิดไนส์ (2022) เพลงนี้เปิดตัวอับดับสี่บนตารางจัดอันดับบิลบอร์ดฮอต100 ซึ่งเป็นอันดับสูงที่สุดที่เธอเคยทำได้บนตารางจัดอันดับดังกล่าว และใน ค.ศ. 2023 เธอได้ปล่อยอัลบั้มที่เก้าในชื่อดิดยูโนว์แดตแธรซ์อะทันเนิลอันเดอร์โอเชียนบูลวาร์ด เปิดตัวอัลบั้มด้วยซิงเกิลโปรโมตอย่าง "เอแอนด์ดับเบิลยู" และซิงเกิลชื่อเดียวกับอัลบั้ม[8] และภายหลังในปีเดียวกัน เธอได้ปล่อยเพลง "เซย์เยสทูเฮฟเวน" ที่สามารถทำผลงาน 20 อันดับแรกบนตารางจัดอันดับเพลงบิลบอร์ดโกลบอล200
นอกจากนี้ เดล เรย์ก็มีผลงานร้องเพลงประกอบสำหรับสื่อวิดีทัศน์ทั้งภาพยนตร์และภาพยนตร์เพลงขนาดสั้น ใน ค.ศ. 2013 เธอได้ประพันธ์ และแสดงในภาพยนตร์เพลงขนาดสั้นที่ได้รับคำวิจารณ์ชื่นชมเรื่อง ทรอปิโก และผลงานเพลง "ยังแอนด์บิวติฟูล" สำหรับประกอบภาพยนตร์เรื่องเดอะ เกรท แกตสบี้ รักเธอสุดที่รัก ซึ่งได้รับเสียงชื่นชมอย่างสูงจากนักวิจารณ์และถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี และรางวัลคริติกส์ชอยส์อะวอดส์ ต่อมาในปี ค.ศ. 2014 เธอได้บันทึกเสียงร้องให้กับเพลง "วันซ์อะพอนอะดรีม" สำหรับภาพยนตร์ผจญภัยแฟนตาซีเรื่องมาเลฟิเซนต์ กำเนิดนางฟ้าปีศาจ และ "บิ๊กอายส์" เพลงธีมประกอบภาพยนตร์อัตชีวประวัติเรื่องติสท์ลวงตา และได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ[9][10] เดล เรย์ยังมีผลงานการบันทึกเสียงร่วมในเพลง "โดนต์คอลมีแองเจิล" ประกอบภาพยนตร์ต่อสู้ตลกเรื่องนางฟ้าชาร์ลี (2019) เดล เรย์มีผลงานรวมบทกวีและภาพถ่ายในชื่อไวโอเลตเบนต์แบ็กวาดส์โอเวอร์เดอะกราส (2020)
Remove ads
ชีวิตช่วงแรกและการศึกษา
สรุป
มุมมอง
อีลิซาเบธ วูลริดจ์ แกรนต์ เกิดเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ค.ศ. 1985[11] ที่เขตแมนแฮตตันในนครนิวยอร์ก[12] เป็นบุตรของนายโรเบิร์ต อิงแลนด์ แกรนต์ จูเนียร์ นักเขียนโฆษณาของบริษัทเกรย์กรุป และนางแพตริเซีย แอน "แพต" (สกุลเดิม ฮิลล์) นักบริหารบัญชีของบริษัทเดียวกันกับพ่อของเธอ[13][14][15] เธอมีน้องสาวชื่อแคโรไลน์ "ชัก" แกรนต์[16] และน้องชายชื่อชาร์ลี แกรนต์[17][18] เธอเติบโตมาในครอบครัวที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก และมีเชื้อสายสกอตแลนด์[19][20] เมื่อเธออายุได้ 1 ปี ครอบครัวของเธอย้ายไปยังหมู่บ้านเลกแพลซิดในรัฐนิวยอร์ก[21] ที่เลกแพลซิดพ่อของเธอได้ทำงานที่บริษัทเฟอร์นิเจอร์ก่อนที่จะผันตัวมาเป็นนักธุรกิจบนโดเมนเพื่อการลงทุน[22] ส่วนแม่ของเธอทำงานเป็นครูสอนหนังสือ[23] เธอเข้าศึกษาที่โรงเรียนเซนต์แอกเนสในระดับชั้นประถมศึกษา[24] และเคยเข้าร่วมคณะนักร้องประสานเสียงในโบสถ์ โดยเธอได้ร้องในตำแหน่งต้นเสียง[25][26]
เธอได้ศึกษาต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนที่แม่ของเธอสอนอยู่เป็นเวลาหนึ่งปี[27] เมื่อเธออายุได้ 14[28] หรือ 15 ปี[29] พ่อแม่ได้ส่งเธอไปเรียนต่อที่โรงเรียนเคนต์[30] เพื่อเข้ารับการบำบัดอาการติดแอลกอฮอล์ ดังที่เธอเคยเปิดเผยในการสัมภาษณ์ว่า "นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงถูกส่งไปยังโรงเรียนประจำตั้งแต่อายุ 14 ปี - เพื่อเข้ารับการบำบัด"[31] ลุงของเธอซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รับสมัครของโรงเรียน เป็นผู้ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่เธอในการเข้าเรียนที่นี่[32] ตามคำบอกเล่าของเธอ เธอมีปัญหาในการสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนฝูงแทบจะตลอดช่วงเวลาวัยรุ่นของเธอ[33][34] เธอกล่าวว่าเธอครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องความตายตั้งแต่ยังอยู่ในวัยเด็ก และมันก็มีบทบาทสำคัญต่อความรู้สึกวิตกกังวลและความแปลกแยกในตัวของเธอ
ในตอนที่ฉันยังเด็กอยู่มาก ๆ ฉันรู้สึกจุกกับความเป็นจริงที่ว่าแม่ของฉัน พ่อของฉัน และทุกคนที่ฉันรู้จักจะต้องตายลงสักวัน รวมทั้งตัวฉันเองด้วย ฉันพบกับวิกฤตการณ์ทางปรัชญา ฉันแทบไม่อยากจะเชื่อว่าพวกเราทุกคนต้องตาย และด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง การรับรู้นี้ได้บดบังประสบการณ์ชีวิตของฉัน ฉันรู้สึกไม่มีความสุขอยู่พักหนึ่ง ฉันได้เข้าไปพัวพันกับปัญหาหลาย ๆ อย่าง ฉันเคยดื่มหนักมาก ๆ และนั่นก็เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากในชีวิตของฉัน[35]
หลังจากจบการศึกษาที่โรงเรียนเคนต์ เธออาศัยอยู่ที่ลองไอส์แลนด์กับลุงและป้าเป็นเวลาหนึ่งปี และทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟไปด้วย[36] ในช่วงเวลานี้ลุงของเธอได้สอนวิธีเล่นกีตาร์ให้แก่เธอ และเธอ "ตระหนัก (ว่าเธอ) อาจจะสามารถเขียนเพลงได้เป็นล้านเพลงจากคอร์ดหกคอร์ดนี้"[37] หลังจากนั้นไม่นานเธอก็เริ่มแต่งเพลงและแสดงตามไนต์คลับทั่วเมืองโดยใช้ชื่อต่าง ๆ เช่น "สปาร์เคิลจัมพ์โรปควีน" และ "ลิซซี่แกรนต์แอนด์เดอะฟีนอเมนา"[38] "ฉันร้องเพลงอยู่เสมอ แต่ก็ไม่ได้วางแผนที่จะทำมันอย่างจริงจังสักเท่าไร" เธอกล่าว "ตอนที่ฉันไปนิวยอร์กซิตีตอนอายุสิบแปด ฉันเริ่มเล่นในคลับที่บรุกลิน—ฉันมีเพื่อนที่ดีและแฟนคลับที่ศรัทธาในตัวฉันตอนที่ยังเป็นนักร้องใต้ดิน พวกเราต่างก็เล่นดนตรีเพื่อกันและกัน—และมันก็แค่นั้น"[39]
ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปี 2004 ตอนที่เธออายุ 19 ปี เดล เรย์ได้เข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยฟอร์ดแฮมในเดอะบร็องซ์ นครนิวยอร์ก วิชาเอกที่เธอเลือกเรียนคือปรัชญา โดยมุ่งเน้นในเรื่องเกี่ยวกับอภิปรัชญา[12] เธอกล่าวว่าที่เธอเลือกศึกษาเรื่องนี้เพราะ "มันเป็นสะพานเชื่อมช่องว่างระหว่างพระเจ้ากับวิทยาศาสตร์... ฉันสนใจในพระเจ้าและวิธีที่เทคโนโลยีสามารถช่วยให้เรามีโอกาสใกล้ชิดกับการค้นหาคำตอบเกี่ยวกับว่าเรามาจากที่ไหนและทำไม"
Remove ads
ผลงานเพลง
สตูดิโออัลบั้ม
- ลานาเดลเรย์ (2010)
- บอร์นทูดาย (2012)
- อัลตราไวโอเลนซ์ (2014)
- ฮันนีมูน (2015)
- ลัสต์ฟอร์ไลฟ์ (2017)
- นอร์แมนฟักกิงร็อกเวลล์! (2019)
- เคมเทรลส์โอเวอร์เดอะคันทรีคลับ (2021)
- บลูแบนิสเตอส์ (2021)
- ดิดยูโนว์แดตแธรซ์อะทันเนิลอันเดอร์โอเชียนบูลวาร์ด (2023)
- เดอะไรต์เพอร์ซันวิลสเตย์ (2025)
ผลงานภาพยนตร์
- พูลไซด์ (2010)
- เนชัลนัลแอนเธม (2012)
- ไรด์ (2012)
- ทรอปิโก (2013)
- ไฮฮาวอาร์ยูแดเนียลจอนส์ตัน? (2015)
- ฟรีก (2016)
- ทาวเวอร์ออฟซอง: อะเมโมเรียลทริบิวต์ทูลีโอนาร์ดโคเฮน (2017)
- เดอะเคซีมัสเกรฟส์คริสต์มาสโชว์ (2019)
- นอร์แมนฟักกิงร็อกเวลล์ (2019)
คอนเสิร์ตทัวร์
- บอร์นทูดายทัวร์ (2011–2012)[40]
- พาราไดซ์ทัวร์ (2013–2014)[40]
- ดิเอนเลสซัมเมอร์ทัวร์ (2015)
- แอลเอทูเดอะมูนทัวร์ (2018)
- เดอะนอร์แมนฟักกิงร็อกเวลล์!ทัวร์ (2019)
- ดิดยูโนว์แดตแธรซ์อะทันเนิลอันเดอร์โอเชียนบูลวาร์ดโปรโมชันนัลทัวร์ (2023)
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads