คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
ลำดับการสืบราชสันตติวงศ์ไทย
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
ลำดับการสืบราชสันตติวงศ์ไทย เป็นการจัดเรียงรายพระนามและนามของบุคคลในสายลำดับการสืบราชสมบัติแห่งราชอาณาจักรไทย การสืบราชสมบัติบัญญัติโดยกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พระพุทธศักราช 2467 และภายหลังการปฏิวัติ พ.ศ. 2475 มีรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยรับรองทุกฉบับ
ก่อนหน้านั้น ในสมัยอาณาจักรรัตนโกสินทร์ตอนต้น ในกรณีที่พระมหากษัตริย์มิได้ทรงสถาปนากรมพระราชวังบวรสถานมงคล จะใช้ระบบการสืบราชสันตติวงศ์ที่เรียกว่า "อเนกชนนิกรสโมสรสมมติ" คือการใช้มติของที่ประชุมร่วมระหว่างขุนนางระดับเสนาบดี และเจ้านายที่เป็นเชื้อพระวงศ์ชั้นผู้ใหญ่ ในการเลือกพระบรมวงศานุวงศ์ที่มีความเหมาะสมทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิให้ขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่
อย่างไรก็ตาม ระบบอเนกชนนิกรสโมสรสมมติถูกยกเลิกไปในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อปี พ.ศ. 2429 หลังจากพระองค์ทรงปรับให้พระมหากษัตริย์ทรงสมมติพระรัชทายาทผู้มีสิทธิโดยตรงขึ้น เป็นตำแหน่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร[1] และตั้งแต่ปี พ.ศ. 2467 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงตรากฎมณเฑียรบาลเพื่อรับรองตำแหน่งพระรัชทายาทข้างต้นและทรงวางลำดับการสืบราชสันตติวงศ์ไทยทั้งหมดอย่างชัดเจน
Remove ads
การมีสิทธิ
สรุป
มุมมอง
สิทธิสืบราชสันตติวงศ์นั้นเป็นไปตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พระพุทธศักราช 2467 ซึ่งจัดลำดับราชสันตติวงศ์ไว้ตามสิทธิของพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ สถานะของพระราชชนนี และเน้นความเป็นบุรุษเพศเท่านั้น
บุคคลจะอยู่ในลำดับราชสันตติวงศ์นี้ก็ต่อเมื่อเป็นไปตามเงื่อนไขดังนี้ทุกประการ
- ได้รับการยอมรับจากประชาชนชาวไทย และพระบรมวงศานุวงศ์ (มาตรา 10)
- ไม่มีลักษณะต้องห้ามต่อไปนี้แม้แต่ข้อเดียว (มาตรา 11)
- พระสัญญาวิปลาศ
- ต้องราชทัณฑ์ในคดีมหันตโทษ
- ไม่สามารถทรงเป็นอัครพุทธศาสนูปถัมภก
- มีพระชายาเป็นชาวต่างประเทศ (ดังเช่นพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ พระโอรสในสมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ ที่มีพระมารดาเป็นชาวต่างประเทศ คือ หม่อมคัทริน ณ พิษณุโลก ชาวรัสเซีย)[2]
- ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งรัชทายาท (คือถูกพระมหากษัตริย์ทรงถอดถอนออกจากตำแหน่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ตามมาตรา 7 วรรคหนึ่ง) ไม่ว่าจะเป็นไปในรัชกาลใด ๆ ก็ตาม
- ถูกประกาศให้ยกเว้นออกจากลำดับการสืบราชสันตติวงศ์ (ตามมาตรา 7 วรรคสอง; ดังเช่นพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรานนท์ธวัช พระโอรสในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราไชย ที่มีพระมารดาคือ ระวี จาตุรจินดา ซึ่งเป็นสามัญชนมิใช่สะใภ้หลวง)[2]
- มิใช่พระราชโอรสสายตรงของพระบรมวงศานุวงศ์ที่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 11 แม้แต่ข้อเดียว (มาตรา 12)
- มิใช่ราชนารี คือพระบรมวงศานุวงศ์ซึ่งเป็นสตรี หรือฝ่ายใน (มาตรา 13; อย่างไรก็ตาม บทบัญญัตินี้ขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยตั้งแต่ฉบับ พ.ศ. 2517 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งระบุไว้ว่า ในกรณีไม่มีพระราชโอรส คณะองคมนตรีสามารถเสนอชื่อและรัฐสภาสามารถให้ความเห็นชอบให้พระราชธิดาสืบราชสันตติวงศ์ได้)[3]
Remove ads
ลำดับการสืบราชสันตติวงศ์
สรุป
มุมมอง
ในกฎมนเทียรบาล ระบุถึงผู้ที่มีสิทธิในพระราชบัลลังก์ ดังนี้
- มาตรา 5 ระบุว่า พระมหากษัตริย์ทรงมีสิทธิขาดในการที่จะทรงสถาปนาพระรัชทายาทผู้มีสิทธิโดยตรง (ในประเทศไทยหมายถึงตำแหน่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร)
- มาตรา 6 ระบุว่า หากพระมหากษัตริย์เสด็จสวรรคตหลังจากทรงสถาปนาพระรัชทายาทผู้มีสิทธิโดยตรงแล้ว ให้พระรัชทายาทพระองค์ดังกล่าวขึ้นทรงราชย์ได้ในทันที
- มาตรา 8 ระบุว่า หากพระมหากษัตริย์เสด็จสวรรคตก่อนการทรงสถาปนาพระรัชทายาทผู้มีสิทธิโดยตรง ให้เสนาบดีอัญเชิญพระบรมวงศานุวงศ์ที่เป็นพระรัชทายาทโดยสันนิษฐานลำดับที่ 1 ตามลำดับการสืบราชสันตติวงศ์ไทยที่กำหนดไว้ในมาตรา 9 (ยกเว้นผู้ที่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 11 และ 12) ขึ้นทรงราชย์ต่อไป
ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ในกรณีนี้หมายถึงฉบับปัจจุบัน คือฉบับพุทธศักราช 2560) มีระบุการสืบราชสมบัติหลังจากพระราชบัลลังก์ว่างลงแล้วไว้ในมาตรา 21 ทั้ง 2 กรณี ใน 2 วรรค ดังนี้
- วรรคหนึ่ง หากพระมหากษัตริย์ทรงสถาปนาพระรัชทายาทผู้มีสิทธิโดยตรงไว้แล้ว ให้คณะรัฐมนตรีแจ้งประธานรัฐสภาทราบ เพื่อเรียกประชุมรัฐสภาให้รับทราบการสถาปนาพระรัชทายาทข้างต้น ก่อนกราบบังคับทูลเชิญพระรัชทายาทขึ้นทรงราชย์ เมื่อพระรัชทายาททรงตอบรับแล้ว ให้ประธานรัฐสภาประกาศให้ประชาชนทราบ
- วรรคสอง หากพระมหากษัตริย์มิได้ทรงสถาปนาพระรัชทายาทผู้มีสิทธิโดยตรงไว้ ให้คณะองคมนตรีเสนอพระนามพระรัชทายาทโดยสันนิษฐานตามมาตรา 8 ของกฎมณเฑียรบาล (ผ่านมาตรา 20 ของรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดให้ใช้ลำดับจากกฎมณเฑียรบาลในทางอ้อม) ซึ่งเรียกว่า "ผู้สืบราชสันตติวงศ์" ผ่านคณะรัฐมนตรี เพื่อให้รัฐสภาให้ความเห็นชอบ โดยอาจเสนอพระนามพระราชธิดาก็ได้ หากได้รับความเห็นชอบแล้ว ให้ประธานรัฐสภากราบบังคมทูลเชิญผู้สืบราชสันตติวงศ์ขึ้นทรงราชย์ เมื่อผู้สืบราชสันตติวงศ์ทรงตอบรับแล้ว ให้ประธานรัฐสภาประกาศให้ประชาชนทราบ[4]
โดยในมาตรา 9 ของกฎมณเฑียรบาล มีการระบุเกณฑ์ในการจัดลำดับการสืบราชสันตติวงศ์เป็น 13 ข้อ โดยสรุปคือ ให้เลือกจากสายตรงก่อน ตาม 12 ข้อแรก หากไม่มี จึงจะเลือกตามลำดับความสนิทจากมากไปน้อยเป็นลำดับสุดท้าย ดังนี้[5]
- สมเด็จหน่อพุทธเจ้า คือ พระราชโอรสพระองค์ใหญ่ในสมเด็จพระอัครมเหสี
- พระราชโอรสของสมเด็จหน่อพุทธเจ้า เริ่มจากพระองค์ใหญ่ เรียงตามลำดับพระชนมายุจากมากไปน้อย
- สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์ที่ 2 ในสมเด็จพระอัครมเหสี
- พระโอรสของสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอในข้อ 3 ตามเกณฑ์ในข้อ 2
- สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอในสมเด็จพระอัครมเหสีพระองค์ถัดไปตามลำดับพระชนมายุจากมากไปน้อย หรือพระโอรสของสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์นั้น ๆ ตามเกณฑ์ในข้อ 2, 3 และ 4
- สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอในพระมเหสีรองถัดลงไปตามลำดับชั้นพระอิสริยยศของพระมารดาจากมากไปน้อย หรือพระโอรสของสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์นั้น ๆ ตามเกณฑ์ในข้อ 2, 3 และ 4
- พระเจ้าลูกยาเธอตามลำดับพระชนมายุ หรือพระโอรสของพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์นั้น ๆ ตามเกณฑ์ในข้อ 2, 3 และ 4
- สมเด็จพระอนุชาร่วมพระราชชนนีพระองค์ที่มีพระชนมายุถัดลงมาจากพระมหากษัตริย์
- พระโอรสของสมเด็จพระอนุชาในข้อ 8 ตามเกณฑ์ในข้อ 2
- สมเด็จพระอนุชาร่วมพระชนนีพระองค์ถัดมา หรือพระโอรสของสมเด็จพระอนุชาพระองค์นั้น ๆ ตามเกณฑ์ในข้อ 2, 3 และ 4
- สมเด็จพระเชษฐาและสมเด็จพระอนุชาต่างพระชนนี หรือพระโอรสของสมเด็จพระเชษฐาและสมเด็จพระอนุชาพระองค์นั้น ๆ ตามเกณฑ์ในข้อ 2, 3, 4 และ 6
- พระเจ้าพี่ยาเธอและพระเจ้าน้องยาเธอ หรือพระโอรสของพระเจ้าพี่ยาเธอและพระเจ้าน้องยาเธอ ตามเกณฑ์ในข้อ 7
- สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอและพระเจ้าบรมวงศ์เธอ หรือพระโอรสและเชื้อสายของพระองค์ ตามลำดับความสนิทจากมากไปน้อย ตามเกณฑ์ตั้งแต่ข้อ 1 ถึง 12
เชื้อสายที่ยังมีชีวิตอยู่และไม่ได้อยู่ในสายลำดับการสืบราชสมบัติหรือสิ้นพระชนม์ไปแล้วจะเขียนไว้เป็นตัวเอียงเพราะถือได้ว่าถูกข้ามลำดับไปแล้ว
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (2347–2411)
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (2396–2453)
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (2424–2468)
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (2436–2484)
- สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก (2435–2472)
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร (2468–2489)
-
พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (2470–2559)
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (2495–ปัจจุบัน)
- (1) สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ (2548–ปัจจุบัน)ม ก
- (1.1) สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา (2521–ปัจจุบัน)ก
- (1.2) สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา (2530–ปัจจุบัน)ก
- (1.3) สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (2498–ปัจจุบัน)ก
- (1.4) สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี (2500–ปัจจุบัน)ก
- (1.5) พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ (2525–ปัจจุบัน)ก
- (1.6) พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ (2527–ปัจจุบัน)ก
- สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ (2425–2475)
- พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล (2453–2538)
- (2) หม่อมเจ้านวพรรษ์ ยุคล (2521–ปัจจุบัน) ม ก
- พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร (2456–2534)
- (3) พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล (2493–ปัจจุบัน) ม ก
- (4) หม่อมเจ้าฑิฆัมพร ยุคล (2494–ปัจจุบัน) ม ก
- พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ (2458–2541)
- (5) หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล (2485–ปัจจุบัน) ม ก
- (6) หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล (2490–ปัจจุบัน) ม ก
- พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล (2453–2538)
- พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นพงษาดิศรมหิป (2404-2479)
- (7) หม่อมเจ้าจรูญฤทธิเดช ชยางกูร (2476–ปัจจุบัน) ม ก
Remove ads
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads