คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
วัดราชบูรณะ (จังหวัดพระนครศรีอยุธยา)
วัดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
วัดราชบูรณะ ตั้งอยู่ตำบลท่าวาสุกรี อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บริเวณเชิงสะพานป่าถ่าน ติดกับวัดมหาธาตุทางบริเวณทิศตะวันออก ห่างจากพระราชวังโบราณ เพียงเล็กน้อย[1] จัดเป็นหนึ่งในวัดที่ใหญ่และมีความเก่าแก่มากที่สุดในพระนครศรีอยุธยา สร้างโดยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 หรือเจ้าสามพระยา ในปี พ.ศ. 1967[2] วัดราชบูรณะมีชื่อเสียงและความโด่งดังมากในเรื่องการถูกกลุ่มคนร้ายจำนวนหนึ่ง ลักลอบขุดกรุภายในพระปรางค์ประธาน ในปี พ.ศ. 2499 และลักขโมยทรัพย์สมบัติจำนวนมากมายมหาศาล ต่อมากรมศิลปากรเข้าทำการบูรณะขุดแต่งต่อภายหลัง พบทรัพย์สมบัติที่หลงเหลือและเครื่องทองจำนวนมากมาย ปัจจุบันทรัพย์สมบัติภายในกรุถูกเก็บรักษาไว้ที่ห้องราชบูรณะ ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา
Remove ads
ประวัติ
สรุป
มุมมอง
วัดราชบูรณะสร้างขึ้นในรัชสมัยของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 บริเวณพื้นที่และตำแหน่งเดิมที่พระองค์ได้ทรงถวายพระเพลิงศพให้กับสมเด็จพระอินทราชาผู้เป็นพระราชบิดา
โดยเมื่อครั้งที่สมเด็จพระอินทราชาหรือเจ้านครอินทร์ได้เสวยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์ลำดับที่ 6 แห่งกรุงศรีอยุธยาแล้วนั้น ทรงมีนโยบายในการเปิดการค้าขายกับจีน ภายใต้การอุดหนุนของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หมิง กรุงศรีอยุธยาที่เป็นเมืองธรรมดาก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในฐานะเมืองท่าในการค้าขายและเป็นตลาดกลางในการค้าขายกับจีน
เมื่อสมเด็จพระอินทราชาเสด็จสวรรคตลง เกิดการแย่งราชสมบัติการขึ้นระหว่างเจ้าอ้ายพระยากับเจ้ายี่พระยา พระราชโอรสทั้งสองของสมเด็จพระอินทราชาผลลัพธ์คือพระราชบุตรทั้งสองสิ้นชีพลงสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2จึงได้รับสืบทอดราชสมบัติเมื่อสิ้นพระราชพิธีถวายเพลิงพระบรมศพของพระราชบิดาไปแล้วสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2จึงตัดสินใจที่จะสร้างวัดเป็นการถวายพระราชกุศลให้แก่พระราชบิดในพื้นที่ดังกล่าว โดยให้ชื่อว่าวัดราชบูรณะพร้อมกันนั้นก็ได้นำทรัพย์สมบัติจำพวกทองคำและข้าวของมีค่าเก็บเอาไว้ใต้พระปรางค์ใหญ่ภายในวัด ซึ่งสมบัติเหล่านี้ทางกรมศิลปากรขุดค้นเจอในช่วงปี พ.ศ. 2499 เป็นหลักฐานแสดงถึงความรุ่งเรืองของกรุงศรีอยุธยาในฐานะตลาดกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้ากับจีน
ในขณะเดียวกันสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2ก็ได้สร้างเจดีย์ถวายให้แก่พี่ชายทั้งสองคนของพระองค์ที่แย่งราชสมบัติกัน โดยสร้างเจดีย์คู่อยู่เยื้องวัดราชบูรณะไปเล็กน้อย ในปัจจุบันคือบริเวณวงเวียนสามแยกตรงกึ่งกลางระหว่างวัดราชบูรณะและวัดมหาธาตุ
Remove ads
โบราณสถาน
พระปรางค์วัดราชบูรณะมีกรุใหญ่และลึก กรมศิลปากรทำการขุดเรียบร้อยแล้วเมื่อปี พ.ศ. 2500 ปัจจุบันปิดไม่ให้เข้าชมกรุแล้ว กรุพระปรางค์วัดราชบูรณะมีทั้งหมด 3 ห้องใหญ่เรียงกันลงไปแนวดิ่ง โดยชั้นล่างสุดอยู่ในแนวระดับพื้นดิน ดังนี้
- กรุชั้นที่ 1
เป็นชั้นที่อยู่บนสุด เดิมมีผนังก่อปิดภาพทั้งหมด (ภาพคนจีน เทพชุมนุม ฯลฯ) หลังผนังทำเป็นช่องเล็ก ๆ ใส่พระพิมพ์และพระพุทธรูปไว้จนเต็ม และในนั้นคนร้ายพบพระพุทธรูปทองคำขนาดหน้าตัก 1 ศอก อยู่ 3-4 องค์
- กรุชั้นที่ 2
เป็นชั้นกลาง มีถาดทองคำ 3 ใบเต็มไปด้วยเครื่องทอง กรมศิลปากรได้รื้อพื้นออก จึงทำให้กรุห้องที่ 2 และ 3 เชื่อมกัน มีจิตรกรรมเป็นภาพอดีตชาติพระพุทธเจ้าวาดอยู่ในช่องสี่เหลี่ยม และรอบ ๆ มีโต๊ะสำริดเล็ก ๆ ตั้งอยู่ทุกซุ้มเว้นด้านใต้ ใช้วางเครื่องทองและผ้าทองที่คนร้ายให้การว่าแค่แตะก็ป่นเป็นผงแล้ว
- กรุชั้นที่ 3
เป็นกรุที่อยู่ล่างสุด เป็นกรุที่สำคัญที่สุด บรรจุพระบรมธาตุ ซึ่งเก็บรักษาอย่างดีในเจดีย์ทองคำและรอบ ๆ ยังเต็มไปด้วยพระพุทธรูปต่าง ๆ
Remove ads
การลักลอบขุดกรุ
การค้นพบกรุเมื่อปี พ.ศ. 2499 เป็นข่าวโด่งดังไปทั่วประเทศ ปีถัดมาทำให้มีขโมยกลุ่มใหญ่ลักลอบมาขุดกรุวัดราชบูรณะ พบเครื่องทองและอัญมณีจำนวนมาก แต่ทว่าฝนตกหนักและรีบเร่งกลุ่มขโมยจึงขนของไปไม่หมด เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาไม่กี่วันก็จับและยึดของกลางได้บางส่วน หลังจากนั้นกรมศิลปากรได้เข้ามาขุด ปรากฏว่าพบสิ่งของกว่า 2,000 รายการ พระพิมพ์กว่าแสนองค์ ทองคำหนักกว่า 100 กิโลกรัม ปัจจุบันเก็บรักษาอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา
เมื่อ พ.ศ. 2548 มีข่าวว่าพบพระมาลาทองคำอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งยังเป็นที่ถกเถียงว่าเป็นของโบราณจริงหรือไม่ และหากจริงจะเป็นของกรุวัดราชบูรณะหรือไม่ ซึ่งยังคงเป็นข้อถกเถียงกันอยู่ในปัจจุบัน
ระเบียงภาพ
- พระวิหารและพระปรางค์ประธาน
- พระวิหารและพระปรางค์ประธาน
- บริเวณทางเข้าพระอุโบสถ
- พระปรางค์ประธาน เมื่อปี พ.ศ. 2566
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads