คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
อักษรเขมร
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
อักษรเขมร (เขมร: អក្សរខ្មែរ) คือรูปอักษรที่ดัดแปลงมาจากอักษรหลังปัลลวะ (ราว พ.ศ. 1200-1400) ซึ่งเป็นอักษรที่พัฒนามาจากอักษรปัลลวะ (ราว พ.ศ. 1100-1200) อีกต่อหนึ่ง อักษรปัลลวะนี้ เป็นอักษรที่มาจากอินเดียตอนใต้ ซึ่งเป็นชุดอักษรที่มีกำเนิดมาจากอักษรพราหมี ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช (ราว พุทธศตวรรษที่ 3) จารึกอักษรเขมรเก่าสุด พบที่ปราสาทโบเร็ย จังหวัดตาแก้ว ทางใต้ของพนมเปญ อายุราว พ.ศ. 1154 รูปแบบโบราณของอักษรเขมร ที่เรียกอักษรขอม เป็นแม่แบบของ อักษรไทย อักษรลาว อักษรเขมรใช้เขียนภาษาเขมร และมนต์คาถา
Remove ads
ต้นกำเนิด
สรุป
มุมมอง

อักษรเขมรมีวิวัฒนาการมาจากอักษรเขมรโบราณที่ดัดแปลงมาจากอักษรปัลลวะที่ใช้งานในอินเดียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 5 ถึง 6[3] ซึ่งสืบทอดจากอักษรทมิฬ-พราหมี[4] จารึกภาษาเขมรที่เก่าแก่ที่สุดพบในอำเภออ็องกอร์โบะเร็ย จังหวัดตาแก้ว ทางใต้ของพนมเปญ โดยมีอายุถึง ค.ศ. 611[5] ศิลาจารึกสมัยก่อนพระนครถึงสมัยพระนครที่มีอักษรเขมรพบได้ทั่วบริเวณอดีตจักรวรรดิเขมร ตั้งแต่ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงจนถึงบริเวณที่ปัจจุบันคือลาวใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางของไทย[6] จารึกอักษรเขมรที่เขียนภาษาสันสกฤตและภาษาเขมรมีคสวามแตกต่างเพียงเล็กน้อย
อักษรเขมรได้มีวิวัฒนาการเรื่อยมาจนได้มีการแยกเป็นสองระบบอักษรในการเขียนภาษาเขมร คือ อักษรมูล และ อักษรเชฺรียงสมัยใหม่ ซึ่งระบบการเขียนที่ต่างกันสองแบบได้พัฒนาให้ภาษาเขมรมีระบบตัวอักษรสองแบบ อักษรมูลใช้ในเชิงศาสนา ส่วนอักษรเชฺรียงแบบหลังใช้ในงานเขียนทั่วไป[7] อักษรเชฺรียงเป็นแบบเขียนของอักษรมูลที่ดัดแปลงให้เข้ากับภาษาเขมร[8]
- ระบบอักษรเขมร 2 แบบ
แบบบน: อักษรมูล
แบบล่าง: อักษรเชฺรียง
อักษรเขมรสมัยใหม่มีรูปเขียนที่ค่อนข้างแตกต่างจากอักษรเขมรที่พบบนจารึกในซากเมืองพระนคร อักษรไทยและอักษรลาวเป็นอักษรที่สืบทอดจากอักษรเขมรแบบตัวเขียนที่เก่ากว่า ผ่านอักษรสุโขทัย
เมื่อ พ.ศ. 2430 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนโรดม (นักองค์ราชาวดี) ได้มีการปฎิรูปอักษรเขมรแบบโบราณเป็นอักษรเขมรแบบใหม่ อักษรเขมรแบบใหม่ถูกประดิษฐ์ขึ้นใหม่ เรียกว่า อักษรขอมเชรียง (เจรียง)[9][10] เป็นอักษรเขมรแบบหนึ่งมีลักษณะเอนทางขวาเล็กน้อย[11] สันนิษฐานว่าได้มีการปฎิรูประบบอักษรเขมรเป็นสมัยใหม่โดยกลุ่มคณะกรรมการปฎิรูปอักษรเขมรที่ตั้งขึ้นโดยพระนโรดม หนึ่งในคณะนำโดยสมเด็จพระสุคนธาธิบดี (ปาน ปญฺญาสีโล) สมเด็จพระสังฆราชฝ่ายธรรมยุติกนิกาย วัดปทุมวดีราชวราราม กรุงพนมเปญ (เคยเข้ามาบวชเรียนในวัดสระเกศ กรุงเทพ ประเทศไทย ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 4) ได้นำอักษรขอมแบบไทยหวัด (อักษรขอมที่ใช้เขียนในประเทศไทย) หรือ (ตัวเกษียน) สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นไปปรับใช้เป็นอักษรเขมรแบบใหม่ซึ่งเป็นอักษรเขมรสำหรับใช้พิมพ์ และเขียนภาษาเขมรในปัจจุบัน ลักษณะเส้นบนหยักลูกเหมือนอักษรขอมบรรจงส่วนตัวเขียนใช้เส้นผมเหยียดยาวเหมือนอักษรขอมหวัดทั้งหมด[12][13] จึงปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าอักษรเขมรสมัยใหม่น่าจะรับอิทธิพลจากอักษรขอมไทย คือ กลุ่มอักษรขอมบรรจงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นเนื่องจากมีความแตกต่างกับอักษรมูลที่วิวัฒนาการจากอักษรเขมรสมัยหลังเมืองพระนคร[10]

Remove ads
อักษร
สรุป
มุมมอง
ยูนิโคดไม่ถือว่าอักษรแต่ละแบบเป็นอักษรคนละชนิด แต่เป็นเพียงอักษรต่างรูป ดังนั้นอักษรมูลจะแสดงผลด้วยไทป์เฟซ MoolBoran[14] และอักษรเชฺรียง-ฌรจะแสดงผลด้วยไทป์เฟซ DaunPenh[15] ซึ่งมีในวินโดวส์วิสตาเป็นต้นไป เพิ่มขนาดเพื่อให้เห็นรายละเอียดรูปร่างชัดเจน
พยัญชนะ
อักษรเขมรมีพยัญชนะ 35 ตัว เลิกใช้ไป 2 ตัว พยัญชนะแบ่งเป็น 2 ชุดคือ พยัญชนะเสียงไม่ก้อง (อโฆษะ) พื้นเสียงเป็น ออ-อา /ɑ/ พยัญชนะเสียงก้อง (โฆษะ) พื้นเสียงเป็น ออ-โอ /ɔ/ เมื่อประสมสระ พยัญชนะต่างชุดกันออกเสียงต่างกัน อักษรเขมรมีทั้งพยัญชนะธรรมดา และพยัญชนะซ้อนที่ใส่ไว้ใต้พยัญชนะตัวอื่น พยัญชนะซ้อนจะใช้เมื่อต้องการตัดพื้นเสียงของพยัญชนะตัวก่อนหน้า อักษรไทยที่กำกับไว้คือการปริวรรตอักษรเขมรมาเป็นอักษรไทย [16] ส่วนเสียงอ่านจะแสดงด้วยสัทอักษรสากล
- ឝ (ศ) และ ឞ (ษ) เป็นอักษรที่เลิกใช้แล้ว
- พยัญชนะซ้อนของ ឡ (ฬ) ไม่มีในอักษรเขมรปัจจุบัน แต่มีให้แสดงผลได้ในยูนิโคด
นอกจากนี้ยังมีพยัญชนะพิเศษซึ่งประดิษฐ์ขึ้นเพื่อแทนเสียงคำยืมหรือคำทับศัพท์จากภาษาอื่น เช่นภาษาไทยหรือภาษาฝรั่งเศส ส่วนใหญ่สร้างโดยการซ้อนพยัญชนะไว้ใต้ ហ (ห)
สระ
สระในอักษรเขมรมีสองแบบคือ สระลอยและสระจม สระลอยใช้เขียนเมื่อมิได้ผสมกับพยัญชนะ (เปรียบเหมือนขึ้นต้นด้วย อ) ส่วนสระจมใช้ประกอบกับพยัญชนะอื่น พยัญชนะที่ไม่มีสระกำกับจะออกเสียงตามเสียงเดิมของพยัญชนะดังที่กล่าวไว้ด้านบน (เทียบได้กับ ออ) เสียงสระจะแตกต่างจากอักษรไทย และขึ้นอยู่กับว่าพยัญชนะเป็นอโฆษะหรือโฆษะด้วย ต่อไปนี้เป็นสระลอย
- ឣ (อ) (U+17A3), ឤ (อา) (U+17A4), ឨ (U+17A8) เป็นอักขระที่ยูนิโคดไม่แนะนำให้ใช้ เนื่องจากสามารถประสมขึ้นได้จากพยัญชนะ สระ หรือเครื่องหมายอื่นโดยแยกกัน แต่ยังคงมีไว้เพื่อรองรับระบบการเขียนในคอมพิวเตอร์แบบเก่า
ต่อไปนี้คือสระจม บรรทัดแรกคือการปริวรรต บรรทัดที่สองหมายถึงเสียงสระเมื่อผสมกับพยัญชนะอโฆษะ และบรรทัดที่สามหมายถึงเสียงสระเมื่อผสมกับพยัญชนะโฆษะ
*คำอ่านสระที่เป็นภาษาไทยในตารางข้างต้น เป็นเพียงการเลียนเสียงเป็นภาษาไทยให้ใกล้เคียงที่สุดเท่านั้น หากต้องการออกเสียงให้ตรงกับเสียงภาษาเขมรจริงๆ ควรดูวิธีอ่านจากสัทอักษรสากล(IPA)
- ះ (อะ) สามารถผสมกับสระอื่นได้โดยนำไปต่อท้าย ซึ่งจะให้เสียง [ʰ] และปริวรรตด้วยวิสรรชนีย์ (ะ)
- ុំ (อุ) และ ាំ (อำ) เมื่อผสมกับพยัญชนะ นิคหิต ំ (อํ) จะอยู่เหนือพยัญชนะหรือสระตัวสุดท้ายของคำ
เครื่องหมายเสริมอักษร
เครื่องหมายอื่น ๆ
ตัวเลข
ตัวเลขในอักษรเขมรมีลักษณะคล้ายเลขไทยมากเพราะไทยได้รับอิทธิพลมาจากเขมรมาตั้งแต่สมัยโบราณ ไม่ว่าจะเป็นอักษรแบบใด ได้แก่
- ០ ១ ២ ៣ ៤ ៥ ៦ ៧ ៨ ៩
วิธีใช้เหมือนกับเลขฮินดูอารบิกทั่วไป มีเครื่องหมายคั่นหลักพันเป็นจุลภาค และมีจุดทศนิยมเป็นมหัพภาค
นอกจากนี้ยังมีสัญลักษณ์อีกแบบหนึ่งสำหรับแทนตัวเลข
- ៰ ៱ ៲ ៳ ៴ ៵ ៶ ៷ ៸ ៹
Remove ads
ลักษณะ
อักษรเขมรมีลักษณะที่แตกต่างกันหลายชนิด ซึ่งใช้ในจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน
- อักษรเชฺรียง (อ่านว่า เจฺรียง) (เขมร: អក្សរជ្រៀង) หรือ อักษรเฉียง เป็นอักษรในลักษณะตัวเอน ไม่ได้ใช้เพื่อการเน้นคำในภาษา แต่จะนำไปใช้เขียนเนื้อหาทั้งหมด เช่นนิยายและการตีพิมพ์อื่น ๆ ที่สามารถใช้อักษรเชฺรียงได้
- อักษรฌร (อ่านว่า โช) (เขมร: អក្សរឈរ) หรือ อักษรตรง (เขมร: អក្សរត្រង់) เป็นอักษรในลักษณะตัวตรง การใช้อักษรตัวตรงไม่เป็นที่นิยมเท่าอักษรเชฺรียง แต่ปัจจุบัน แบบอักษรในคอมพิวเตอร์ได้เลือกใช้อักษรตัวตรงเพื่อให้อ่านข้อความได้ง่าย ซึ่งสามารถปรับให้เป็นตัวเอนได้
- อักษรมูล (อ่านว่า โมล) (เขมร: អក្សរមូល) เป็นอักษรในลักษณะตัวโค้งมน ใช้สำหรับขึ้นต้นหัวเรื่องในเอกสาร หนังสือ ป้ายประกาศ ป้ายร้านค้า โทรทัศน์ และการเขียนบทสวดมนต์ทางศาสนา บางครั้งใช้เขียนพระนามของพระบรมวงศานุวงศ์ในขณะที่ข้อความรอบข้างใช้ตัวหนังสือธรรมดา (อักษรเชฺรียง-ฌร) พยัญชนะโดดและพยัญชนะซ้อนหลายตัวของอักษรแบบนี้ จะมีรูปแบบที่ต่างออกไปจากอักขรวิธีมาตรฐาน
- อักษรขอม (เขมร: អក្សរខម หรือ អក្សរខំ) เป็นลักษณะที่ต่างจากอักษรมูลเล็กน้อย ดูเพิ่มที่ อักษรขอม
- อักษรเชฺรียง
- อักษรฌร
- อักษรขอม
- อักษรมูล
ยูนิโคด
ในยูนิโคด อักษรเขมรมีช่วงหลักที่ U+1780–U+17FF และมีสัญลักษณ์เกี่ยวกับวันที่ทางจันทรคติในช่วง U+19E0–U+19FF
เขมร Unicode.org chart (PDF) | ||||||||||||||||
0 | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | A | B | C | D | E | F | |
U+178x | ក | ខ | គ | ឃ | ង | ច | ឆ | ជ | ឈ | ញ | ដ | ឋ | ឌ | ឍ | ណ | ត |
U+179x | ថ | ទ | ធ | ន | ប | ផ | ព | ភ | ម | យ | រ | ល | វ | ឝ | ឞ | ស |
U+17Ax | ហ | ឡ | អ | ឣ | ឤ | ឥ | ឦ | ឧ | ឨ | ឩ | ឪ | ឫ | ឬ | ឭ | ឮ | ឯ |
U+17Bx | ឰ | ឱ | ឲ | ឳ | ឴ | ឵ | ា | ិ | ី | ឹ | ឺ | ុ | ូ | ួ | ើ | ឿ |
U+17Cx | ៀ | េ | ែ | ៃ | ោ | ៅ | ំ | ះ | ៈ | ៉ | ៊ | ់ | ៌ | ៍ | ៎ | ៏ |
U+17Dx | ័ | ៑ | ្ | ៓ | ។ | ៕ | ៖ | ៗ | ៘ | ៙ | ៚ | ៛ | ៜ | ៝ | ||
U+17Ex | ០ | ១ | ២ | ៣ | ៤ | ៥ | ៦ | ៧ | ៨ | ៩ | ||||||
U+17Fx | ៰ | ៱ | ៲ | ៳ | ៴ | ៵ | ៶ | ៷ | ៸ | ៹ |
เขมร สัญลักษณ์ Unicode.org chart (PDF) | ||||||||||||||||
0 | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | A | B | C | D | E | F | |
U+19Ex | ᧠ | ᧡ | ᧢ | ᧣ | ᧤ | ᧥ | ᧦ | ᧧ | ᧨ | ᧩ | ᧪ | ᧫ | ᧬ | ᧭ | ᧮ | ᧯ |
U+19Fx | ᧰ | ᧱ | ᧲ | ᧳ | ᧴ | ᧵ | ᧶ | ᧷ | ᧸ | ᧹ | ᧺ | ᧻ | ᧼ | ᧽ | ᧾ | ᧿ |
Remove ads
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads