คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง

อัญชะลี ไพรีรัก

ผู้ประกาศข่าวชาวไทย จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

อัญชะลี ไพรีรัก
Remove ads

อัญชะลี ไพรีรัก ชื่อเล่น ปอง เป็นอดีตผู้ประกาศข่าวทางช่องท็อปนิวส์ เป็นสื่อมวลชนอิสระ สมาชิกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปัจจุบันเป็นนักข่าวช่องแนวหน้า[1][2]

ข้อมูลเบื้องต้น อัญชะลี ไพรีรัก, เกิด ...
Remove ads

ประวัติ

อัญชะลี เกิดเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2505 ที่อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ จบการศึกษาจากโรงเรียนสตรีสมุทรปราการ และโรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง และจบปริญญาตรีจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

อัญชะลีเริ่มต้นทำงานด้านสื่อสารมวลชนด้วยการเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์ และมีประสบการณ์หลายด้านทั้งเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์ ทำข่าวประกวด ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวการเมือง ข่าวตลาดหุ้น ข่าวการตลาด จนกระทั่งเป็นผู้ประกาศข่าวในสถานีโทรทัศน์ครั้งแรกทางช่อง 7 สี และในปี พ.ศ. 2539 ได้เป็นพิธีกรรายการ "กู๊ด มอร์นิ่ง บางกอก" ชั่วคราว

อัญชะลีเริ่มเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในช่วงรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งในตอนนั้นอัญชะลีจัดรายการวิทยุอยู่ที่คลื่น F.M. 96.5 MHz รายการ "จับชีพจรข่าว" แต่ต่อมาถูกยุติการทำรายการ จึงหันไปจัดรายการเกี่ยวกับผู้หญิงทางช่อง 3 ได้ 2 สัปดาห์[3][ต้องการแหล่งอ้างอิงดีกว่านี้] ก่อนจะได้รับการเชื้อเชิญจากประชัย เลี่ยวไพรัตน์ เจ้าของธุรกิจทีพีไอ ให้มาทำวิทยุคลื่นประชาธิปไตย F.M. 92.25 MHz โดยเป็นผู้ริเริ่ม ทั้งวางผังและจัดรายการเองทั้งหมด แต่ต่อมาก็ถูกแทรกแซงอีกครั้งจนต้องลาออก ปัจจุบันอัญชะลีเป็นนักข่าวช่องแนวหน้า ตั้งแต่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2566[4]

Remove ads

บทบาทการเมือง

สรุป
มุมมอง

จนกระทั่งในต้นปี พ.ศ. 2549 ที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้เริ่มต้นการขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างจริงจังแล้ว อัญชะลีจึงได้เข้าร่วมและได้ร่วมจัดรายการบนเวทีและในรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร คอนเสิร์ตการเมือง คู่กับยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที ในรายการชื่อ "ติดดาบปลายปืน"

หลังการรัฐประหารเมื่อปี พ.ศ. 2549 ได้เดินทางไปเรียนต่อที่ประเทศออสเตรเลียได้ระยะหนึ่ง จึงเดินทางกลับมา จากนั้นในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 อัญชลีได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในจังหวัดสมุทรปราการ สังกัดพรรคเพื่อแผ่นดิน อันเนื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวที่มีกับแกนนำพรรค แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง

อัญชะลีได้กลับมาร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรอีกครั้งในการชุมนุมในปี พ.ศ. 2551 โดยจัดรายการเล่าข่าวตอนเช้าบนเวทีคู่กับกมลพร วรกุล ภายหลังการชุมนุมยุติลงก็ได้ทำหน้าที่เป็นพิธีกรรายการเคาะข่าวริมโขงและแขกรับเชิญรายการสภาท่าพระอาทิตย์ทุกวันจันทร์และศุกร์ และมีรายการประจำ ชื่อ "จับตาประเทศไทย" ทางเอเอสทีวี เป็นรายการเล่าข่าวทั่วไป

ต่อมา อัญชะลีได้ยุติรายการทั้งหมดทางเอเอสทีวี และสื่อต่าง ๆ ในเครือผู้จัดการทั้งหมด โดยมีเสียงร่ำลือกระแสหนึ่งกล่าวว่า ได้ออกไปทำงานส่วนตัว และเป็นเลขานุการของจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร[5] ส่วนอีกกระแสหนึ่งกล่าวว่าเป็นบรรณาธิการให้กับนิตยสารท่องเที่ยว[6]

อัญชะลีเคยเป็นผู้จัดรายการ "ร้อยข่าวบลูสกาย" และ "ร้อยข่าวสุดสัปดาห์" ทางช่องบลูสกายแชนแนล

ในวิกฤตการณ์การเมืองไทย พ.ศ. 2556–2557 อัญชะลีได้เข้าร่วมกับกลุ่ม กปปส. (คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข) โดยมีบทบาทเป็นโฆษกบนเวทีการชุมนุม และผู้บรรยายในการเดินรณรงค์การชุมนุมตามถนนสายต่าง ๆ ในกรุงเทพมหานคร รวมถึงยังเป็นแกนนำเองด้วยในหลายครั้งที่มีการเคลื่อนขบวนไปชุมนุมยังที่ต่าง ๆ[7] นอกจากนี้แล้ว ยังได้ถ่ายแบบลงปกนิตยสารแพราว และให้สัมภาษณ์ถึงความในใจด้วย สำหรับการชุมนุมในครั้งนี้[8]

ต่อมาในวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 จากการชุมนุมในครั้งนี้ศาลอาญาจึงอนุมัติหมายจับแกนนำ กปปส. รวม 43 คน ผู้ต้องหาคดีกบฏ และความผิดอื่น รวม 8 ข้อหา เพื่อติดตามตัวมาดำเนินกระบวนการตามกฎหมาย โดยอัญชะลีมีชื่อเป็นผู้ต้องหาหมายเลขที่ 10[9][10]

หลังการรัฐประหารเมื่อปี พ.ศ. 2557 อัญชะลีได้ร่วมงานกับสถานีโทรทัศน์นิวทีวี ในเครือหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ โดยเป็นผู้ดำเนินรายการ "หมายข่าวนิวทีวี" (ภายหลังเปลี่ยนชื่อรายการเป็น "นิวหมายข่าว") ออกอากาศในช่วงเย็น โดยเริ่มออกอากาศตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2557[11] ซึ่งจัดมาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งอัญชะลีได้ลาออกจากนิวทีวี เมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2561 เพื่อเข้ามาร่วมงานกับเนชั่นทีวี[12] ตามคำชวนของสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ประธานกรรมการของเนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น[13]

โดยร่วมดำเนินรายการ "เนชั่นทันข่าว" ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2561[13] ขณะเดียวกัน อัญชะลีก็ได้กลับมาจัดรายการที่ช่องฟ้าวันใหม่อีกครั้ง ในรายการ "ข่าวคาใจ" ซึ่งมีรายการเทปหนึ่งที่วิพากษ์วิจารณ์กรณีการเข้าจับกุมสุวิทย์ ทองประเสริฐ (อดีตพระพุทธะอิสระ) และโจมตีบุคคลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือบุคคลที่เห็นด้วยกับการจับกุม เช่น ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์, เสกสรรค์ ศุขพิมาย (เสก โลโซ) ด้วยถ้อยคำหยาบคายและรุนแรง[14] ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์และเรียกร้องไปยัง กสทช. และผู้เกี่ยวข้องให้ดำเนินการทางปกครองกับช่องฟ้าวันใหม่[15] แต่ กสทช. ตรวจสอบแล้วพบว่ายังไม่พบการกระทำที่ผิดกฎ กสทช. ของรายการและช่องดังกล่าว[16]

ต่อมาในปี พ.ศ. 2563 ได้ยื่นใบลาออกจากเนชั่นทีวี [17] แล้วไปเริ่มงานที่ท็อปทีวี (ชื่อปัจจุบันคือท็อปนิวส์) และต่อมาในปี พ.ศ. 2566 อัญชะลีตัดสินใจลาออกจากท็อปนิวส์[18] ปัจจุบันอัญชะลีเป็นผู้อำนวยการข่าว แนวหน้าออนไลน์[19]

Remove ads

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

Loading related searches...

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.

Remove ads