คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
อำเภอพรหมพิราม
อำเภอในจังหวัดพิษณุโลก ประเทศไทย จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
พรหมพิราม เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดพิษณุโลก อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 28 กิโลเมตร และมีประชากรมากเป็นอันดับ 4 ของจังหวัด
คำว่า "พรหมพิราม" หมายถึง เมืองที่งดงามเป็นที่อยู่แห่งพรหมหรือพระเจ้าผู้สร้างโลก เดิมเรียกว่า เมืองพรหมพิราม ในอดีตดั้งเดิมนั้น พื้นที่อำเภอพรหมพิรามปรากฏร่องรอยของเมืองโบราณเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยสุโขทัย แต่ในสมัยอยุธยานั้นเรียกเมืองในพื้นที่ดังกล่าวว่า “เมืองพรหมพิราม” และ "เมืองศรีภิรมย์" ซึ่งปรากฏชื่ออยู่ในพระไอยการนาหัวเมืองฉบับอยุธยา แต่การเผชิญสภาวะของสงครามในตลอดหน้าประวัติศาสตร์ อยุธยา ธนบุรีและต้นรัตนโกสินทร์นั้น ทำให้สถานะของความเป็นเมืองไม่อาจดำรงอยู่อย่างถาวรต่อเนื่อง การดำรงอยู่ของพรหมพิรามในสภาวะเช่นนี้จึงอยู่ในลักษณะของการเป็นชุมชนท่าการค้า ที่ค่อยๆ ฟื้นฟูขึ้นเป็นเมืองอีกครั้งตามนโยบายจัดบ้านแปงเมืองเพื่อฟื้นฟูหัวเมืองเหนือในสมัยรัชกาลที่ 3 ทำให้ศรีภิรมย์และพรหมพิรามกลับมามีสถานะเป็นเมืองขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
โดยศูนย์กลางของเมืองเฉพาะที่พรหมพิรามในระยะฟื้นฟูนั้น คงตั้งอยู่ริมแม่น้ำน่าน บ้านหางไหล มาจนกระทั่งถึง พ.ศ.2430 เป็นอย่างน้อย
ต่อมา เมื่อเกิดการควบรวมเมืองศรีภิรมย์ เมืองพรหมพิรามและเปลี่ยนฐานะเป็นอำเภอพรหมพิรามใน ปี พ.ศ. 2440 ก็ปรากฏการย้ายที่ตั้งที่ว่าการอำเภอ จากพื้นที่ตัวเมืองเดิมคือริมฝั่งแม่น้ำน่านบ้านหางไหล มาตั้งอยู่ที่ฝั่งขวาของแม่น้ำน่าน ณ บ้านย่านขาด ภายหลังจากเกิดการควบรวมเมืองและตั้งขึ้นเป็นอำเภอที่มีนายอำเภอมาประจำการ[1]
จนเมื่อมีการสร้างทางรถไฟผ่าน จึงได้มีการย้ายที่ว่าการอำเภออีกครั้ง โดยย้ายมาตั้งอยู่ใกล้ทางรถไฟ ณ บ้านกรับพวงกลาง ตำบลพรหมพิราม ซึ่งน่าจะเป็นช่วงหลัง พ.ศ.2451 เรื่อยมา โดยในสมัยของพระยาอินทภูติภักดีและขุนจงใจหาญนั้น ก็ยังคงทำงานอยู่ในที่ว่าการอำเภอ ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านกรับพวงกลางนี้สำหรับอาคารนั้นแต่เดิมเป็นไม้ชั้นเดียว ในปี พ.ศ. 2503 จึงได้ปรับปรุงขึ้นเป็น 2 ชั้น โดยเทพื้นคอนกรีตใต้ถุนอาคารเดิมและตีฝาโดยรอบ ซึ่งใช้เป็นที่ทำการของส่วนราชการต่าง ๆ ปัจจุบันได้สร้างที่ว่าการอำเภอใหม่ ณ สถานที่เดิมเป็นอาคารคอนกรีต 2 ชั้น และเปิดทำการเมื่อ ปี พ.ศ. 2519[2]
- วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2475 ตั้งตำบลทับยายเชียง แยกออกจากตำบลมะต้อง และตำบลวงฆ้อง[3]
- วันที่ 1 เมษายน 2480 เปลี่ยนแปลงเขตจังหวัดพิษณุโลก กับจังหวัดอุตรดิตถ์ โดยโอนพื้นที่หมู่ 5, 7 (ในขณะนั้น) ของตำบลตลุกเทียม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ไปขึ้นกับหมู่ 9 ของตำบลพญาแมน อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้ถือคลองต่อเขตฝั่งเหนือนับตั้งแต่ริมบ้านข่อม ไปจนตลอดปลายคลองซึ่งต่อกับคลองตรั่งเป็นเส้นแบ่งเขต[4]
- วันที่ 31 ธันวาคม 2481 โอนพื้นที่หมู่ 10 ตำบลมะตูม อำเภอพรหมพิราม ไปขึ้นตำบลบ้านกร่าง อำเภอเมืองพิษณุโลก[5]
- วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2490 เปลี่ยนแปลงเขตอำเภอเมืองพิษณุโลก กับอำเภอพรหมพิราม โดยโอนพื้นที่หมู่ 13 (ในขณะนั้น) ของตำบลบ้านกร่าง อำเภอเมืองพิษณุโลก มาขึ้นกับตำบลท่าช้าง อำเภอพรหมพิราม[6]
- วันที่ 10 มิถุนายน 2490 ตั้งตำบลคันโช้ง แยกออกจากตำบลหินลาด ตั้งตำบลท้อแท้ แยกออกจากตำบลวัดโบสถ์ ตั้งตำบลทับยายเชียง แยกออกจากตำบลวงฆ้อง และตำบลมะต้อง ตั้งตำบลบ้านยาง แยกออกจากตำบลหินลาด และตำบลท่างาม[7]
- วันที่ 9 ธันวาคม 2490 แยกพื้นที่ตำบลวัดโบสถ์ ตำบลท้อแท้ ตำบลท่างาม ตำบลหินลาด และตำบลคันโช้ง ของอำเภอพรหมพิราม ไปตั้งเป็น กิ่งอำเภอวัดโบสถ์[8] และขึ้นการปกครองกับอำเภอพรหมพิราม
- วันที่ 23 ธันวาคม 2490 โอนพื้นที่ตำบลบ้านยาง อำเภอพรหมพิราม ไปขึ้นกับ กิ่งอำเภอวัดโบสถ์[9]
- วันที่ 17 กันยายน 2498 จัดตั้งสุขาภิบาลวงฆ้อง ในท้องที่บางส่วนของตำบลวงฆ้อง และบางส่วนของตำบลมะต้อง[10]
- วันที่ 5 มิถุนายน 2499 ยกฐานะกิ่งอำเภอวัดโบสถ์ อำเภอพรหมพิราม เป็น อำเภอวัดโบสถ์[11]
- วันที่ 28 พฤศจิกายน 2499 จัดตั้งสุขาภิบาลพรหมพิราม ในท้องที่บางส่วนของตำบลพรหมพิราม[12]
- วันที่ 26 กันยายน 2510 เปลี่ยนแปลงเขตอำเภอพรหมพิราม กับอำเภอเมืองพิษณุโลก โดยโอนพื้นที่หมู่ 1 (ในขณะนั้น) ของตำบลมะตูม อำเภอพรหมพิราม ไปขึ้นกับตำบลจอมทอง อำเภอเมืองพิษณุโลก[13]
- วันที่ 5 กันยายน 2521 ตั้งตำบลดงประคำ แยกออกจากตำบลทับยายเชียง[14]
- วันที่ 25 พฤษภาคม 2542 ยกฐานะสุขาภิบาลวงฆ้อง และสุขาภิบาลพรหมพิราม อำเภอพรหมพิราม เป็นเทศบาลตำบลวงฆ้อง และเทศบาลตำบลพรหมพิราม ตามลำดับ[15]
- วันที่ 5 กันยายน 2546 มีการจัดตั้งและกำหนดเขตหมู่บ้าน ดังนี้
- (1) แยกบ้านโปร่งนก หมู่ที่ 5 ตำบลหอกลอง และจัดตั้งเป็น หมู่ที่ 7 บ้านใหม่โปร่งนก
- (2) แยกบ้านหางไหล หมู่ที่ 4 ตำบลมะต้อง และจัดตั้งเป็นหมู่ที่ 11 บ้านคลองคล้า
- วันที่ 20 กันยายน 2547 จัดตั้งและกำหนดเขตหมู่บ้านเป็นครั้งที่ 2 ดังนี้
- (1) แยกบ้านพระยาปันแดน หมู่ที่ 6 ตำบลตลุกเทียม และจัดตั้งเป็นหมู่ที่ 9 บ้านขอม
- (2) แยกบ้านทุ่งตาเปรี้ยว หมู่ที่ 6 ตำบลดงประคำ แะจัดตั้งเป็นหมู่ที่ 11 บ้านทุ่งน้ำใส
- (3) แยกบ้านป่าสัก หมู่ที่ 8 ตำบลมะต้อง และจัดตั้งเป็นหมู่ที่ 12 บ้านทศพล
- วันที่ 21 ตุลาคม 2547 กำหนดเขตตำบลในท้องที่อำเภอพรหมพิรามให้มีอาณาเขตตำบลที่ถูกต้อง โดยกำหนดให้ตำบลพรหมพิรามให้มีเขตการปกครองรวม 15 หมู่บ้าน ตำบลท่าช้าง ให้มีเขตการปกครองรวม 13 หมู่บ้าน ตำบลวงฆ้อง ให้มีเขตการปกครองรวม 11 หมู่บ้าน ตำบลมะตูม ให้มีเขตการปกครองรวม 6 หมู่บ้าน ตำบลหอกลอง ให้มีเขตการปกครองรวม 7 หมู่บ้าน ตำบลศรีภิรมย์ ให้มีเขตการปกครองรวม 12 หมู่บ้าน ตำบลตลุกเทียม ให้มีเขตการปกครองรวม 8 หมู่บ้าน ตำบลวังวน ให้มีเขตการปกครองรวม 10 หมู่บ้าน ตำบลหนองแขม ให้มีเขตการปกครองรวม 10 หมู่บ้าน ตำบลมะต้อง ให้มีเขตการปกครองรวม 12 หมู่บ้าน ตำบลทับยายเชียง ให้มีเขตการปกครองรวม 6 หมู่บ้าน และตำบลดงประคำ ให้มีเขตการปกครองรวม 10 หมู่บ้าน[16]
- วันที่ 13 ธันวาคม 2549 แยกบ้านบึงธรรมโรง หมู่ที่ 10 ตำบลศรีภิรมย์ และจัดตั้งเป็นหมู่ที่ 13 บ้านบึงคล้าย
Remove ads
ที่ตั้งและอาณาเขต
อำเภอพรหมพิรามห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 30 กิโลเมตร ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของจังหวัด มีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียง ดังต่อไปนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอสวรรคโลก (จังหวัดสุโขทัย) และอำเภอพิชัย (จังหวัดอุตรดิตถ์)
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอวัดโบสถ์
- ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอเมืองพิษณุโลกและอำเภอบางระกำ
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอกงไกรลาศและอำเภอศรีสำโรง (จังหวัดสุโขทัย)
การแบ่งเขตการปกครอง
สรุป
มุมมอง
การปกครองส่วนภูมิภาค
อำเภอพรหมพิรามแบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 12 ตำบล 123 หมู่บ้าน ได้แก่
1. | พรหมพิราม | (Phrom Phiram) | 15 หมู่บ้าน | 7. | ตลุกเทียม | (Taluk Thiam) | 8 หมู่บ้าน | ||||||
2. | ท่าช้าง | (Tha Chang) | 13 หมู่บ้าน | 8. | วังวน | (Wang Won) | 10 หมู่บ้าน | ||||||
3. | วงฆ้อง | (Wong Khong) | 11 หมู่บ้าน | 9. | หนองแขม | (Nong Khaem) | 10 หมู่บ้าน | ||||||
4. | มะตูม | (Matum) | 6 หมู่บ้าน | 10. | มะต้อง | (Matong) | 12 หมู่บ้าน | ||||||
5. | หอกลอง | (Ho Klong) | 7 หมู่บ้าน | 11. | ทับยายเชียง | (Thap Yai Chiang) | 6 หมู่บ้าน | ||||||
6. | ศรีภิรมย์ | (Si Phirom) | 13 หมู่บ้าน | 12. | ดงประคำ | (Dong Prakham) | 11 หมู่บ้าน |
การปกครองส่วนท้องถิ่น
ท้องที่อำเภอพรหมพิรามประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 14 แห่ง ได้แก่
- เทศบาลตำบลพรหมพิราม ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลพรหมพิราม
- เทศบาลตำบลวงฆ้อง ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลวงฆ้องและตำบลมะต้อง
- องค์การบริหารส่วนตำบลพรหมพิราม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลพรหมพิราม (นอกเขตเทศบาลตำบลพรหมพิราม)
- องค์การบริหารส่วนตำบลท่าช้าง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลท่าช้างทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลวงฆ้อง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลวงฆ้อง (นอกเขตเทศบาลตำบลวงฆ้อง)
- องค์การบริหารส่วนตำบลมะตูม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลมะตูมทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลหอกลอง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหอกลองทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลศรีภิรมย์ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลศรีภิรมย์ทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลตลุกเทียม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลตลุกเทียมทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลวังวน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลวังวนทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลหนองแขม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหนองแขมทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลมะต้อง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลมะต้อง (นอกเขตเทศบาลตำบลวงฆ้อง)
- องค์การบริหารส่วนตำบลทับยายเชียง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลทับยายเชียงทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลดงประคำ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลดงประคำทั้งตำบล
Remove ads
อาชญากรรม
อำเภอนี้เป็นที่รู้จักจากคดีข่มขืนแล้วฆ่าเมื่อ พ.ศ. 2520[17]
อ้างอิง
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads