คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
เครือเจริญโภคภัณฑ์
กลุ่มธุรกิจในประเทศไทย จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (อังกฤษ: Charoen Pokphand Group Co., Ltd.) หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปในชื่อย่อว่า ซีพี (อังกฤษ: CP) เป็นกลุ่มธุรกิจเอกชนขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และนับเป็นหนึ่งในกลุ่มทุนที่มีอิทธิพลมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ก่อตั้งขึ้นในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 โดยเริ่มต้นจากการประกอบธุรกิจค้าขายเมล็ดพันธุ์พืช ก่อนจะขยายกิจการเข้าสู่ภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารอย่างเต็มรูปแบบ ธุรกิจหลักของเครืออยู่ภายใต้การดำเนินงานของบริษัทลูกคือ เจริญโภคภัณฑ์อาหาร ซึ่งเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการผลิตอาหารและปศุสัตว์ระดับโลก โดยมีรายได้รวม 116.5 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 6.747 พันล้านบาท จากข้อมูลเมื่อ พ.ศ. 2548[1]
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง |
นอกจากธุรกิจด้านการเกษตรและอาหารแล้ว เครือเจริญโภคภัณฑ์ยังได้ขยายตัวอย่างกว้างขวางไปสู่ภาคธุรกิจอื่น ๆ ที่มีบทบาทสำคัญในระบบเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีกผ่านบริษัทลูกในเครือ เช่น เซเว่น อีเลฟเว่น ซึ่งมีจำนวนสาขามากที่สุดในประเทศ และโลตัส ซึ่งเป็นเครือข่ายซูเปอร์มาร์เก็ตและไฮเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ รวมถึงการเข้าซื้อกิจการของแม็คโคร ซึ่งทำให้เครือเจริญโภคภัณฑ์ครอบคลุมทั้งภาคค้าส่งและค้าปลีกทั่วประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ การเข้าถึงผู้บริโภคทุกระดับรายได้ ทำให้กลุ่มซีพีมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดรูปแบบการบริโภคของสังคมไทย
ในขณะเดียวกัน เครือเจริญโภคภัณฑ์ยังมีบทบาทในภาคธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคม ผ่านบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการด้านโทรศัพท์เคลื่อนที่และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงรายใหญ่ของไทย ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่ครอบคลุมทั่วประเทศ เครือเจริญโภคภัณฑ์สามารถบูรณาการธุรกิจของตนในหลากหลายสาขาเข้าด้วยกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังมีการลงทุนในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ทั้งในประเทศจีน เวียดนาม อินเดีย และประเทศอื่น ๆ การขยายตัวในลักษณะนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงศักยภาพทางธุรกิจของกลุ่มทุนไทยในระดับโลกเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อความสัมพันธ์เชิงโครงสร้างระหว่างรัฐและทุนภายในประเทศ ซึ่งเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจในทางรัฐศาสตร์และเศรษฐศาสตร์การเมืองอย่างมากในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา
Remove ads
ประวัติ
สรุป
มุมมอง
เจริญโภคภัณฑ์เริ่มต้นการทำธุรกิจขึ้นในปี พ.ศ. 2464 เมื่อเจี่ย เอ็กชอ และเจี่ย เซี่ยวฮุย เปิดร้านจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ผักชื่อ "เจียไต้จึง" จากนั้นอีกประมาณ 30 ปีถัดมา จึงขยายกิจการจากไปสู่ธุรกิจอาหารสัตว์ ในปี พ.ศ. 2507 ธนินท์ เจียรวนนท์ ออกจากบริษัทสหสามัคคีค้าสัตว์ แล้วกลับมาทำงานที่เจริญโภคภัณฑ์เมื่ออายุ 25 ปี ในตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป จากนั้นจึงนำมาสู่การเลี้ยงไก่เนื้อในโรงเรือนเป็นครั้งแรก ขยายสู่เครือข่ายเลี้ยงไก่แบบค้ำประกันรายได้ และโรงงานผลิตอาหารสัตว์ที่ใหญ่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต่อมาในปี พ.ศ. 2519 ได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด เพื่อเป็นศูนย์กลางของการขยายกิจการในเครือ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
ปัจจุบันเครือเจริญโภคภัณฑ์ มีธุรกิจครอบคลุมหลายอุตสาหกรรม และมีตราสินค้าที่คุ้นเคยกับคนไทยเป็นอย่างดี เช่น[2]
- ธุรกิจการเกษตร มีบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) กำกับดูแลการจัดจำหน่ายอาหารพร้อมทาน ผลิตภัณฑ์เจียไต๋ หรือ ข้าวตราฉัตร
- ธุรกิจค้าปลีกและค้าส่ง ทั้ง เซเว่น อีเลฟเว่น, ซีพี แอ็กซ์ตร้า และล่าสุดเข้าซื้อโลตัสในประเทศไทย ภายใต้การกำกับดูแลของซีพี ออลล์
- ธุรกิจสื่อสาร มีตราสินค้า True ประกอบธุรกิจให้บริการทั้งเครือข่ายมือถือ โทรทัศน์ และออนไลน์ ภายใต้การกำกับดูแลของทรู คอร์ปอเรชั่น
- ธุรกิจยานยนต์ จับมือกับค่ายจีนทำตลาดแบรนด์ MG ในไทย
- ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ มีระบบจ่ายเงิน True Money และเว็บไซต์ We Love Shopping
- ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ผ่านบริษัท ซี.พี.แลนด์
- ธุรกิจการเงิน มีบริษัทประกันผิงอัน ในประเทศจีน
นอกจากนี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ยังส่งบริษัทในเครือจำนวน 4 บริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยประกอบไปด้วย
- บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) (CPALL) มูลค่ากิจการ 600,000 ล้านบาท
- บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (CPF) มูลค่ากิจการ 270,000 ล้านบาท
- บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) (CPAXT) มูลค่ากิจการ 196,000 ล้านบาท
- บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TRUE) มูลค่ากิจการ 115,000 ล้านบาท
Remove ads
บริษัทลูก
สรุป
มุมมอง
กลุ่มการเกษตรและอาหาร
เครือเจริญโภคภัณฑ์ประกอบธุรกิจทางด้านเกษตรและอาหารหลายชนิดมีตั้งแต่ ซื้อขายพืชไร่, ฟาร์มไก่พันธุ์, เป็ดพันธุ์, หมู, กุ้ง, ปลาทับทิม, โรงงานแปรรูปอาหาร, โรงงานอาหารสัตว์ ผ่านทางบริษัทลูก ๆ ซึ่งมีอยู่กระจายทั่วประเทศไทย และในต่างประเทศบางแห่ง โดยเฉพาะในประเทศจีน มีบริษัท ดังนี้
- บริษัท เจียไต๋ จำกัด
รายได้ 17,456 ล้านบาท กำไร 1,249 ล้านบาท ธุรกิจ เมล็ดพันธุ์พืช และปุ๋ย
- บริษัท วัตถุดิบอาหารสัตว์ จำกัด
รายได้ ไม่มีข้อมูล กำไร ไม่มีข้อมูล ธุรกิจ ผลิตและค้าขายวัตถุดิบอาหารสัตว์
รายได้ 464,465 ล้านบาท กำไร 14,703 ล้านบาท ธุรกิจ เกษตรอุตสาหกรรมแบบครบวงจร,ผลิตภัณฑ์อาหารตรา CP, ไส้กรอกตรา BKP, นมตรา MEIJI, ร้านอาหาร CHESTER'S GRILL และอืน ๆ
- บริษัท ซีพี อินเตอร์เทรด จำกัด
รายได้ 12,717 ล้านบาท กำไร 16.65 ล้านบาท ธุรกิจ การค้าระหว่างประเทศ,นำเข้า และ ส่งออก
- บริษัท ไทยไรส์ จำกัด
รายได้ 15,123 ล้านบาท กำไร 28.52 ล้านบาท ธุรกิจ ผลิตข้าว และผลิตภัณฑ์ข้าวตราฉัตร
กลุ่มการสื่อสารและโทรคมนาคม
มีบริษัทในเครือดังนี้
- ทรูออนไลน์ รายได้ 28,300 ล้านบาท กำไร 3,704 ล้านบาท ธุรกิจ บริการด้านอินเทอร์เน็ต
- ทรูมูฟเอช รายได้ 93,876 ล้านบาท ขาดทุน 4,878 ล้านบาท ธุรกิจ บริการด้านโทรศัพท์มือถือ
- ทรูวิชั่นส์ รายได้ 12,406 ล้านบาท ขาดทุน 1,375 ล้านบาท ธุรกิจ บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก
- ธุรกิจอื่น ร้านกาแฟ : ทรูคอฟฟี่ และอื่น ๆ
กลุ่มการค้าปลีกและค้าส่ง
รายได้ 434,712 ล้านบาท กำไร 16,677 ล้านบาท ธุรกิจ มีดังนี้
- ร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่น
- ร้านขนมปัง Bellinee's Bake&Brew
- บริษัท ซีพีโลตัส จำกัด
รายได้ 50,328 ล้านบาท ขาดทุน 2,638 ล้านบาท ธุรกิจ ประกอบธุรกิจห้างสรรพสินค้าและซุปเปอรฺมาเก็ต ในประเทศจีน ในชื่อ LOTUS และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง
- บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน)
รายได้ 172,790 ล้านบาท กำไร 5,412 ล้านบาท ธุรกิจ ค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ในชื่อ CPAXT
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์
- บริษัท ซีพีแลนด์ จำกัด (มหาชน)
รายได้ 2,803 ล้านบาท กำไร 534 ล้านบาท ธุรกิจ พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ เจ้าของอาคาร ซีพีทาวเวอร์ ศูนย์การค้าฟอร์จูน ทาวน์ ผู้ร่วมทุน ไอคอนสยาม
กลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติกและบรรจุภัณฑ์
- บริษัท ซีพีพีซี จำกัด (มหาชน)
รายได้ - ล้านบาท กำไร - ล้านบาท ธุรกิจ อุตสาหกรรมพลาสติกและบรรจุภัณฑ์ (อาทิเช่น ผลิตภัณฑ์ท่อพลาสติก แผ่นพลาสติก บรรจุภัณฑ์พลาสติก แกนกระดาษ ผ้าใยสังเคราะห์ ฯลฯ เป็นธุรกิจอีกกลุ่มหนึ่งที่มีบริษัทลูกอีกมากมายทั้งในและต่างประเทศ ในชื่อ CPPC
เครือเจริญโภคภัณฑ์ยังมีบริษัทอื่น ๆ อีกมากมาย
รวมแล้วเครือเจริญโภคภัณฑ์จะมีรายได้ทั้งหมด
รายได้ 5,527,711 ล้านบาท
กำไร 420,000 ล้านบาท
Remove ads
กิจการร่วมค้า
เครือเจริญโภคภัณฑ์มีกิจการร่วมค้า (joint-venture) กับบริษัทจากต่างประเทศดังนี้
- ซีพี-เมจิ: (CP-Meiji) ธุรกิจผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับนม ร่วมกับเครือเมจิ แดรี่ ประเทศญี่ปุ่น
- โลตัส: ธุรกิจห้างขายปลีกขนาดใหญ่ร่วมกับเครือเทสโก้สหราชอาณาจักร(ซีพีขายหุ้นเกือบทั้งหมดในโลตัสให้กับเทสโก้ในปี(2002) [3]
- ซีพี ออลล์ ธุรกิจขายปลีก ร่วมกับบริษัทเซเว่น อีเลฟเว่น ประเทศญี่ปุ่น
- ซีพีสตาร์เลน: ธุรกิจส่งออกมังคุด และมะม่วง ร่วมกับเครือ สตาร์เลน ประเทศญี่ปุ่น
การลงทุนหรือร่วมทุนในต่างประเทศ
พม่า
เครือเจริญโภคภัณฑ์ ลงทุนด้านเกษตรกรรมในพม่ามาตั้งแต่ปี 2540 ดำเนินธุรกิจในพม่า คือ การส่งเสริมการเพาะปลูก พืชไร่ ได้แก่ ข้าวโพด การเพาะเลี้ยงสัตว์บก ได้แก่ การเลี้ยงไก่ การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ได้แก่การทำฟาร์มกุ้ง และการทำอาหารสัตว์ [4]
จีน
ในปี 1997 เครือซีพีมีการลงทุนใน บริษัท โลตัส เซี่ยงไฮ้ ซุปเปอร์เซ็นเตอร์เชนสโตร์ จำกัด เปิดห้างซูเปอร์มาร์เก็ต CP Lotus แห่งแรกในเขตผู่ตง ซึ่งมีจำนวน 77 สาขาทั่วประเทศจีน[5] และในปี 2002 เปิด Super Brand Mall ซึ่งกลายเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของเมือง นอกนี้ยังมี บริษัท ซีพีจี โอเวอร์ซี จำกัด หรือ เจิ้งต้ากรุ๊ป ซึ่งเป็นชื่อชาวจีนรู้จัก CP ในนามเจิ้งต้ากรุ๊ป เพื่อเข้าไปร่วมถือหุ้น เช่น บริษัท ผิงอัน อินชัวรันส์ จำกัด (ประเทศจีน) ซึ่งเป็นบริษัทประกันที่ใหญ่ที่สุดของจีน โดย CP เข้าไปถือหุ้นสัดส่วน 15.6% เมื่อปี 2556 ใช้วงเงินสูงถึง 280,000 ล้านบาท "ท่สุภกิต-ศุภชัย ทายาทรุ่น 3 ขับเคลื่อนธุรกิจ CP ศตวรรษที่ 2". Business Leader - ผู้นำธุรกิจ. สืบค้นเมื่อ 2024-03-21. เครือซีพียังร่วมทุนกับ SAIC Motor ผลิตยานยนต์ภายใต้แบรนด์ SAIC Motor-CP มีกำลังผลิตปีละ 100,000 คัน และวางแผนขยายการส่งออกแบรนด์ MG ไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
Remove ads
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads