คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
เทศบาลนครนครสวรรค์
เทศบาลนครในจังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
นครสวรรค์ เป็นเทศบาลนครในอำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ เป็นเมืองศูนย์กลางของจังหวัดนครสวรรค์ เดิมเป็นสุขาภิบาลเมืองนครสวรรค์ และเทศบาลเมืองนครสวรรค์ ต่อมาได้ยกฐานะเป็นเทศบาลนครนครสวรรค์เมื่อ พ.ศ. 2538 มีพื้นที่ครอบคลุมตำบลปากน้ำโพทั้งตำบล และบางส่วนของตำบลนครสวรรค์ตก ตำบลนครสวรรค์ออก ตำบลวัดไทรย์ และตำบลแควใหญ่ มีพื้นที่รวมทั้งสิ้น 27.78 ตารางกิโลเมตร มีจำนวนประชากรประมาณ 85,931 คน
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง |
Remove ads
ประวัติศาสตร์
สรุป
มุมมอง
นักประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่าเมืองนครสวรรค์มีชื่อปรากฏมาตั้งแต่ก่อนสุโขทัยเป็นราชธานี มีชื่อในศิลาจารึกของสุโขทัย โดยเรียกว่า "เมืองพระบาง" เป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญในการทำศึกสงครามตั้งแต่สมัยสุโขทัย กรุงศรีอยุธยา ธนบุรี จนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ ภายหลังเปลี่ยนเป็น "นครสวรรค์" ในที่สุด แต่ชาวบ้านโดยทั่วไปเรียกกันติดปากว่า "เมืองปากน้ำโพ" ในประวัติศาสตร์มีหลักฐานทางโบราณคดีบ่งชี้ว่านครสวรรค์เคยเป็นเมืองเกษตรกรรมมาตั้งแต่ยุคต้นประวัติศาสตร์ เป็นศูนย์กลางของการคมนาคม เป็นที่ตั้งของกลุ่มชนชาวจีนที่มาทำมาค้าขายระหว่างประเทศ
เมืองพระบางเป็นเมืองโบราณในสมัยสุโขทัยคู่กับเมืองคนที โดยตัวเมืองพระบางอยู่ที่เมืองนครสวรรค์เก่า ส่วนเมืองคนทีสันนิษฐานว่าอยู่ที่บ้านโคน ริมฝั่งแม่น้ำปิง จังหวัดกำแพงเพชร จากข้อมูลในศิลาจารึกสมัยสุโขทัย เมืองพระบางถูกผนวกรวมกันเข้ากับอาณาจักรสุโขทัยในสมัยพ่อขุนศรีอินทราทิตย์และตั้งตัวเป็นอิสระเมื่อสิ้นสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช และถูกผนวกรวมอีกครั้งในสมัยพระยาลิไท พระองค์ได้ประดิษฐานพระพุทธบาทพร้อมทั้งศิลาจารึกวัดเขากบไว้ที่เขากบ ปัจจุบันอยู่ใจกลางเมืองนครสวรรค์ ในสมัยพระมหาธรรมราชาที่ 3 (ไสลือไท) ที่ประกาศให้สุโขทัยเป็นเอกราชได้รวมเมืองพระบางไว้ในอาณาเขตด้วย
เมื่ออำนาจของกรุงศรีอยุธยากล้าแข็งขึ้น เมืองพระบางจึงไปขึ้นกับกรุงศรีอยุธยาในที่สุด มีหลักฐานในตำนานมูลศาสนาว่า พระญาณคัมภีร์ขอที่สร้างวัดในอยุธยาเมื่อ พ.ศ. 1972 สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 ไม่อนุญาตจึงมาขอที่ที่เมืองพระบาง เจ้าเมืองพระบางไม่ยกที่ให้ อ้างว่าเป็นข้าขอบขัณฑสีมาของอยุธยา เมื่ออยุธยาไม่ให้ ทางเมืองพระบางก็ให้ไม่ได้[2]
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ได้มีการปฏิรูปการปกครองหัวเมืองส่วนภูมิภาค นครสวรรค์ได้เป็นที่ตั้งศูนย์กลางของมณฑลนครสวรรค์ ซึ่งเป็น 1 ใน 4 มณฑลที่ตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2438 ในการจัดตั้งมณฑลนครสวรรค์ ได้รวมเอาหัวเมืองทางแม่น้ำเจ้าพระยาตอนเหนือขึ้นไปจนถึงแม่น้ำปิงเข้าด้วยกัน 8 เมืองได้แก่ นครสวรรค์ ชัยนาท อุทัยธานี พยุหะคีรี มโนรมย์ สรรคบุรี กำแพงเพชร และตาก โดยมีพระยาดัสกรปลาศ (ทองอยู่ โลหิตเสถียร) เป็นข้าหลวงเทศาภิบาลคนแรก ตั้งที่ว่าการมณฑลอยู่ที่เมืองนครสวรรค์ การจัดรูปปกครองในลักษณะมณฑลได้ดำเนินการ มาจนถึง พ.ศ. 2475 จึงได้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ยุบมณฑลและระเบียบเทศาภิบาลของเก่าไปให้คงไว้แต่จังหวัดและอำเภอ ปฏิบัติราชการขึ้นตรงต่อเจ้ากระทรวง และรับคำสั่งจากเจ้ากระทรวงโดยตรง
เดิมทีเมืองพระบางหรือนครสวรรรค์ตั้งอยู่หลังตลาดปากน้ำโพ บริเวณวัดสี่เข่า หรือ วัดวรนาถบรรพต[3] [4] ต่อมาได้ย้ายไปตั้งอยู่ที่ตำบลทางฟากตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ห่างจากปากน้ำโพมาข้างใต้ประมาณ 200 เส้น [5][6] หลักฐานแผนที่ของ ปิแอร์ ฟาน เดอ อา นักแผนที่ชาวฮอลันดา ระบุว่าในช่วงอยุธยาตอนปลาย รัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์ เมืองนครสวรรค์ได้ตั้งอยู่บนบริเวณพื้นที่ทางใต้[3] บริเวณบ้านไผ่ล้อม ใต้มณฑลทหารบกที่ 4[7] ต่อมาในช่วงรัชกาลที่ 5 ได้มีการย้ายเมืองมาบริเวณฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลากลางจังหวัดนครสวรรค์ในปัจจุบัน โดยคนพื้นที่สมัยนั้นเรียกว่า "เมืองชอนตะวัน" เพราะตื่นขึ้นมาตะวันมันจะแยงตา[8] ต่อมาเมื่อพื้นที่ของเมืองปากน้ำโพและเมืองนครสวรรค์ขยายตัวขึ้น จึงถูกควบรวมเข้าเป็นพื้นที่การปกครองเดียวกัน ที่ว่าการอำเภอเมืองนครสวรรค์ตั้งที่ปากน้ำโพ ส่วนศาลากลางจังหวัดนครสวรรค์ตั้งที่เมืองนครสวรรค์เดิม[3]
เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2458 ได้มีการจัดตั้งสุขาภิบาลเมืองนครสวรรค์ ในท้องที่ตำบลปากน้ำโพตะวันตก และตำบลแควใหญ่ ของอำเภอเมืองนครสวรรค์[9] ต่อมาได้รับการยกฐานะเป็นเทศบาลเมืองนครสวรรค์ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2478 มีพื้นที่ปกครองประมาณ 1.47 ตารางกิโลเมตร[10] และได้มีพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงเขตเทศบาล 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2493 ขยายพื้นที่เป็น 8.85 ตารางกิโลเมตร[11] ครั้งที่สองเมื่อวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2522 มีพื้นที่ปกครองประมาณ 27.87 ตารางกิโลเมตร[12] ต่อมาเมื่อวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2538 ก็ได้มีพระราชกฤษฎีกายกฐานะขึ้นเป็น เทศบาลนครนครสวรรค์ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2538 เป็นต้นมา[13]
Remove ads
ภูมิศาสตร์
นครสวรรค์อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครไปทางทิศเหนือประมาณ 250 กิโลเมตร ที่ตั้งของเมืองนครสวรรค์เป็นจุดบรรจบกันของแม่น้ำสายหลักของประเทศไทยสองสาย ได้แก่ แม่น้ำปิง และแม่น้ำน่าน กลายเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งไหลลงใต้สู่กรุงเทพมหานครและออกสู่อ่าวไทย สภาพแวดล้อมของเมืองส่วนใหญ่เป็นที่ราบ และมีเนินเขาสูงประมาณ 110 เมตร
เขตเทศบาลนครนครสวรรค์ในปัจจุบัน ครอบคลุมตำบลต่าง ๆ ในอำเภอเมืองนครสวรรค์ ได้แก่ ตำบลปากน้ำโพทั้งตำบล ตำบลนครสวรรค์ตกเฉพาะหมู่ที่ 1, 4, 5, 9 และ 10 ตำบลนครสวรรค์ออก เฉพาะหมู่ที่ 1, 4, 5, 6 และ 7 ตำบลวัดไทรย์เฉพาะหมู่ที่ 10, 11, 12 และ 13 และตำบลแควใหญ่ เฉพาะหมู่ที่ 4, 7 และ 10 มีพื้นที่รวมทั้งสิ้น 27.78 ตารางกิโลเมตร
Remove ads
เศรษฐกิจ
ในเขตเทศบาลบริเวณใจกลางเมืองส่วนใหญ่จะเป็นศูนย์กลางพาณิชยกรรมและธุรกิจต่าง ๆ และพื้นที่ที่อยู่ต่อเนื่องจะเป็นบริเวณที่เป็นย่านที่อยู่อาศัยเดิม
การเมืองการปกครอง
เทศบาลนครนครสวรรค์เป็นการบริหารราชการส่วนท้องถิ่นในรูปแบบเทศบาล มีนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลมาจากการเลือกตั้ง โดยแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลออกเป็น 4 เขต มีสมาชิกทั้งหมด 24 คน[14] แบ่งเขตการปกครองออกเป็นชุมชน รวมทั้งหมด 71 ชุมชน[15]

สำนักงานเทศบาลนครนครสวรรค์ ปัจจุบันตั้งอยู่ที่ถนนอรรถกวี บริเวณเชิงเขาทางทิศใต้ของเขากบ ซึ่งเริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2536 โดยรื้ออาคารหลังเดิมออก อาคารหลังปัจจุบันนี้ได้รับพระราชทานนามอาคารว่า "อาคารเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา" เพื่อเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542 และได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จทรงเปิดอาคาร เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2542
Remove ads
การศึกษา
- โรงเรียนรัฐบาล
- โรงเรียนอนุบาลนครสวรรค์
- โรงเรียนอนุบาลเมืองนครสวรรค์
- โรงเรียนเทศบาล
- โรงเรียนเทศบาลวัดไทรใต้
- โรงเรียนเทศบาลวัดปากน้ำโพใต้
- โรงเรียนเทศบาลวัดพรหมจริยาวาส
- โรงเรียนเทศบาลวัดวรนาถบรรพต
- โรงเรียนเทศบาลวัดช่องคีรีศรีสิทธิวราราม
- โรงเรียนเทศบาลวัดจอมคีรีนาคพรต
- โรงเรียนเทศบาลวัดสุคตวราราม
- โรงเรียนเทศบาลวัดไทรเหนือ
- โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครสวรรค์

- โรงเรียนมัธยม สพฐ.
- โรงเรียนเอกชน
- โรงเรียนลาซาลโชติรวีนครสวรรค์
- โรงเรียนโพฒิสารศึกษา
- โรงเรียนอนุชนวัฒนา
- โรงเรียนเซนต์โยเซฟนครสวรรค์
- ระดับอาชีวศึกษา
- วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนครสวรรค์
- วิทยาลัยเทคนิคนครสวรรค์
- วิทยาลัยอาชีวศึกษานครสวรรค์
- วิทยาลัยเทคโนโลยีภาคเหนือ
- โรงเรียนสหพานิชยการ อำเภอเมืองนครสวรรค์
- ระดับอุดมศึกษา
Remove ads
การขนส่ง
รถไฟ
การรถไฟแห่งประเทศไทย – สายเหนือ
- สายหลัก: สถานีรถไฟนครสวรรค์ – สถานีรถไฟปากน้ำโพ – สถานีรถไฟบึงบอระเพ็ด
- สายแยกจากสถานีรถไฟปากน้ำโพไปท่าข้าวกำนันทรง (ยกเลิกการใช้งาน)
ทางหลวง
สถานที่สำคัญ

- บึงบอระเพ็ด
- วัดจอมคีรีนาคพรต
- อุทยานสวรรค์
- ศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์-เจ้าแม่ทับทิม
- วัดวรนาถบรรพต
- วัดนครสวรรค์
- หอวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์
- วัดคีรีวงศ์
- หอชมเมืองนครสวรรค์
- ต้นแม่น้ำเจ้าพระยา (ปากน้ำโพ)
- พาสาน (อาคารสัญลักษณ์ ต้นแม่น้ำเจ้าพระยา)
ปากน้ำโพ
บ้างเล่าว่าที่เรียกว่า ปากน้ำโพ ก็คือว่าเป็นบริเวณที่แม่น้ำปิง และน่านมาบรรจบกัน จึงเรียกว่า "ปากน้ำโผล่" และเพี้ยนมาเป็น "ปากน้ำโพ" แต่ในปัจจุบันนักโบราณคดีระบุว่า พื้นที่บริเวณนี้เป็นปากน้ำของคลองโพ (คือส่วนหนึ่งของแม่น้ำน่านในปัจจุบัน โดยบรรจบกับแม่น้ำน่านก่อนแล้ว จึงไหลมาบรรจบกับแม่น้ำปิงที่ต้นแม่น้ำเจ้าพระยา) และชาวจีนพูดคำว่า "ปากน้ำโผล่" ได้ไม่ชัดเจน จึงเรียกว่า ปากน้ำโพ ดังเช่น ปากยม ปากชม ปากลัด และปากน้ำอื่น ๆ
Remove ads
อ้างอิง
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads