คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
ฮิโรชิมะ
นครและเมืองหลวงของจังหวัดฮิโรชิมะ ประเทศญี่ปุ่น จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
นครฮิโรชิมะ (ญี่ปุ่น: 広島市; โรมาจิ: Hiroshima-shi; [çiɾoɕima] ) เป็นเมืองหลวงของจังหวัดฮิโรชิมะ ประเทศญี่ปุ่น มีจำนวนประชากร ณ วันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 2024 ประมาณ 1,181,049 คน เป็นเมืองใหญ่ที่สุดในชูโงกุ ซึ่งเป็นภูมิภาคทางตะวันตกของเกาะฮนชู ชื่อของเมือง "ฮิโรชิมะ" มีความหมายว่า "เกาะที่กว้างใหญ่ไพศาล"
ฮิโรชิมะก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1589 ในฐานะเมืองปราสาทบนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโอตะ หลังจากการปฏิรูปเมจิใน ค.ศ. 1868 ฮิโรชิมะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นศูนย์กลางเมืองและศูนย์กลางอุตสาหกรรมที่สำคัญ ฮิโรชิมะได้รับการจัดตั้งเป็นเทศบาลนครอย่างเป็นทางการเมื่อ ค.ศ. 1889 เมืองนี้เป็นศูนย์กลางทางการทหารของญี่ปุ่นในยุคจักรวรรดิ โดยมีบทบาทสำคัญในสงครามจีน–ญี่ปุ่นครั้งที่หนึ่ง สงครามรัสเซีย–ญี่ปุ่น และสงครามโลกทั้งสองครั้ง
ฮิโรชิมะเป็นเมืองแรกของโลกที่ถูกโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 1945 ในพื้นที่แปซิฟิกของสงครามโลกครั้งที่สอง เวลา 8:15 น. เมื่อกองทัพอากาศทหารบกสหรัฐ (USAAF) ทิ้งระเบิดปรมาณู "ลิตเติลบอย" ใส่เมืองฮิโรชิมะ[2] ส่วนใหญ่ของเมืองถูกทำลาย และเมื่อสิ้นปีมีผู้เสียชีวิตจากการระเบิดและผลกระทบหลังจากการระเบิดดังกล่าวราว 90,000 ถึง 166,000 คน จึงมีการตั้งอนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิมะ (แหล่งมรดกโลกยูเนสโก) เพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงการทิ้งระเบิดดังกล่าว และอนุสาวรีย์ของเด็กหญิงซาดาโกะผู้ทำให้เกิดประเพณีการพับนกกระเรียนกระดาษพันตัว เพื่อภาวนาให้หายป่วยจากโรคภัยไข้เจ็บ
Remove ads
ประวัติศาสตร์
สรุป
มุมมอง
ยุคเซ็งโงกุ (ค.ศ. 1589–1871)
ค.ศ. 1589 ก่อนการจัดตั้งรัฐบาลเอโดะเพียงไม่นาน ฮิโรชิมะจัดตั้งขึ้นบนชายฝั่งสามเหลี่ยมปากแม่น้ำของ ทะเลในเซโตะ ด้วยบัญชาของขุนพล โมริ เทรูโมโตะ เขาสร้างนครฮิโรชิมะ เพื่อเป็นเมืองหลวงของดินแดนในอิทธิพลของเขา ภายหลังจากที่เขาย้ายออกมาจากปราสาทโคริยามะในเขตอากิ ในการขึ้นเมืองใหม่นี้ ปราสาทฮิโรชิมะถูกบัญชาให้สร้างขึ้นจนแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1592 และในอีก 8 ปีต่อมาในยุทธการที่เซกิงาฮาระ ขุนพลเทรูโมโตะได้พ่ายแพ้ต่อกองทัพของโทกูงาวะ อิเอยาซุ ทำให้เขา ต้องสูญเสียหัวเมืองต่าง ๆ จำนวนมาก[3]ตลอดจนนครฮิโรชิมะ
ยุคจักรวรรดิ (ค.ศ. 1871–1939)
ภายหลัง ระบอบเจ้าขุนมูลนายที่เรียกว่า ฮัง (藩) ได้ถูกล้มเลิกลงในยุคเมจิในปี ค.ศ. 1871 นครฮิโรชิมะได้กลายเป็นเมืองเอกของจังหวัดฮิโรชิมะ ตลอดจนกลายเป็นเมืองศูนย์กลางที่สำคัญในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นเปลี่ยนจากวิถีชนบทเป็นวิถีอุตสาหกรรมในตัวเมือง ระหว่างทศวรรษที่ 1870 หนึ่งในเจ็ดของโรงเรียนรัฐบาลภาคภาษาอังกฤษได้ถูกจัดตั้งขึ้นในนครฮิโรชิมะ[4] ในทศวรรษที่ 1880 มีการก่อสร้างท่าเรืออูจินะขึ้นจากความพยายามของผู้ว่าราชการ ซากาอากิ เซ็นดะ ซึ่งได้ทำให้ฮิโรชิมะกลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญ
ทางรถไฟได้ขยายมาถึงฮิโรชิมะ ในปี ค.ศ. 1894 นอกจากนี้ทางรถไฟจากสถานีฮิโรชิมะไปยังท่าเรืออูจินะ ก็ถูกสร้างขึ้นเพื่อการทหารในช่วงสงครามจีน–ญี่ปุ่นครั้งที่หนึ่ง ในช่วงสงคราม รัฐบาลญี่ปุ่น ต้องย้ายที่ทำการเป็นการชั่วคราวมายังฮิโรชิมะ และจักรพรรดิเมจิ ก็ทรงย้ายมาประทับที่ปราสาทฮิโรชิมะ ตั้งแต่กันยายน ค.ศ. 1894 ถึง เมษายน ค.ศ. 1895[5] ความสำคัญของนครฮิโรชิมะที่มีต่อรัฐบาลญี่ปุ่นนั้น เราสามารถเห็นได้จากข้อเท็จจริงที่ว่า การเจรจาสงบศึกระหว่างผู้แทนของจีนและญี่ปุ่นครั้งแรก ก็ถูกจัดขึ้นที่ฮิโรชิมะ ในต้นเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1895
โรงงานอุตสาหกรรมยุคใหม่ อาทิโรงงานฝ้ายถูกจัดตั้งขึ้นในฮิโรชิมะในปลายศตวรรษที่ 19[6] และยังมีการกำเนิดขึ้นของอุตสาหกรรมมากมายอีกในฮิโรชิมะ ในระหว่างสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น ในปี ค.ศ. 1904 ซึ่งญี่ปุ่นจำเป็นต้องพัฒนาและเพิ่มการผลิตยุทธภัณฑ์ นอกจากนี้ ศูนย์แสดงสินค้าการพาณิชย์ประจำจังหวัดฮิโรชิมะ ก็ถูกก้อสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1915 เพื่อเป็นศูนย์กลางการค้าขายตลอดจนการจัดแสดงสินค้าใหม่ ๆ ซึ่งปัจจุบันได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมประจำจังหวัดฮิโรชิมะ (Hiroshima Prefectural Industrial Promotion Hall) [7]
สงครามโลกครั้งที่สองและการทิ้งระเบิดปรมาณู (ค.ศ. 1939–1945)
ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง กองพลทหารราบที่ 2 และ กองทัพภาคชูโงกุ ได้ตั้งฐานทัพในฮิโรชิมะ ในขณะที่กองทัพเรือก็ตั้งฐานทัพที่ท่าเรืออูจินะเช่นเดียวกัน ในตัวเมืองยังมีแหล่งยุทธปัจจัยมากมาย ถือได้ว่า เป็นศูนย์กลางทางการลำเลียงที่สำคัญ
การทิ้งระเบิดโตเกียวและเมืองอื่น ๆ ของญี่ปุ่นระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ได้ทำลายล้างพื้นที่ไปอย่างกว้างขวางและมีผู้เสียชีวิตหลายหมื่นคน เช่นที่ เมืองโทยามะ บ้านเรือนกว่า 128,000 หลังคาเรือนได้ถูกทำลายจนสิ้น และการทิ้งระเบิดที่โตเกียวได้คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่าหนึ่งแสนคน อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีการทิ้งระเบิดเพลิงในฮิโรชิมะ ถึงกระนั้น ฮิโรชิมะก็มีการป้องกันภัยจากระเบิดเพลิงเป็นอย่างดี มีการระดมนักเรียนอายุระหว่าง 11–14 ปีมาช่วยรื้อถอนบ้านและสร้างแนวกันไฟขึ้น
ในเช้าวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 1945 ระเบิดนิวเคลียร์ "ลิตเติลบอย" ได้ถูกทิ้งสู่ฮิโรชิมะ โดยเครื่องบินทิ้งระเบิด บี-29 ซึ่งขับโดย พันเอกพอล ทิบเบ็ตส์ การระเบิดได้คร่าชีวิตชาวเมืองไปในทันทีกว่า 80,000 คน และสถิติในสิ้นปีเดียวกันได้บันทึกไว้ว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้ได้รับผลข้างเคียงจากกัมมันตรังสีกว่า 90,000–140,000 คน จากประชากรของเมืองก่อนการระเบิด อยู่ที่ราว 340,000 คน อาคารบ้านเรือนราว 69% ของเมือง ถูกทำลายลงอย่างราบคาบ ในขณะที่ 7% ได้รับความเสียหายอย่างหนัก
- นครฮิโรชิมะ ภายหลังการทิ้งระเบิด
- สภาพของเมืองหลังโดนระเบิด
Remove ads
ภูมิศาสตร์
สรุป
มุมมอง


ฮิโรชิมะตั้งอยู่ระหว่างสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโอตะ โดยมีอ่าวฮิโรชิมะ หันหน้าออกสู่ทะเลในเซโตะทางด้านทิศใต้
เขตการปกครอง
นครฮิโรชิมะ แบ่งออกเป็น 8 เขต (ญี่ปุ่น: 区; โรมาจิ: ku; ทับศัพท์: กุ) ด้วยกัน คือ
ภูมิอากาศ
Remove ads
การคมนาคม
- รถไฟระหว่างเมือง โดย
ตะวันตก
- ซันโยชิงกันเซ็ง ที่สถานีรถไฟฮิโรชิมะ
- สายหลักซันโย - 12 สถานีตั้งอยู่ในเขตเมืองฮิโรชิมะ
- รถไฟภายในจังหวัด โดย
ตะวันตก
- ■ สายคาเบะ (Kabe Line) - เป็นเส้นทางรถไฟในเขตนครฮิโรชิมะ สถานีทั้งหมดจำนวน 12 สถานีอยู่ในเขตนครฮิโรชิมะ
- ■ สายคูเระ (Kure Line) - เป็นรถไฟชานเมืองของจังหวัดฮิโรชิมะ ตั้งอยู่ในเขตนครฮิโรชิมะ จำนวน 4 จาก 28 สถานี
- ■ สายเกบิ (Geibi Line) - เป็นรถไฟภายในจังหวัดและเชื่อมกับจังหวัดโอกายามะ ตั้งอยู่ในเขตนครฮิโรชิมะ จำนวน 14 จาก 44 สถานี
- อากาศยาน
- ท่าอากาศยานฮิโรชิมะ
เมืองพี่น้อง
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads