คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
ประเทศคิวบา
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
คิวบา[12] หรือ กูบา[12] (อังกฤษและสเปน: Cuba, เสียงอ่านภาษาสเปน: [ˈkuβa]) มีชื่อทางการคือ สาธารณรัฐคิวบา หรือ สาธารณรัฐกูบา (อังกฤษ: Republic of Cuba; สเปน: República de Cuba, เสียงอ่านภาษาสเปน: [reˈpuβlika ðe ˈkuβa]) ประกอบด้วยเกาะคิวบา (เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะเกรตเตอร์แอนทิลลีส), อิสลาเดลาฮูเบนตุด รวมถึงเกาะน้อยใหญ่กว่า 4,195 เกาะ ตั้งอยู่ในภูมิภาคแคริบเบียนเหนือบริเวณจุดบรรจบของทะเลแคริบเบียน อ่าวเม็กซิโก และมหาสมุทรแอตแลนติก, ทางทิศตะวันออกของคาบสมุทรยูกาตัน, ทางตอนใต้ของรัฐฟลอริดาและบาฮามาส, ทางตะวันตกของเกาะฮิสปันโยลา และทางเหนือของประเทศจาเมกาและหมู่เกาะเคย์แมน มีพื้นที่แผ่นดินใหญ่ประมาณ 109,884 ตารางกิโลเมตร (42,426 ตารางไมล์) และ 135,420 ตารางไมล์หากนับรวมเขตเศรษฐกิจจำเพาะ คิวบามีประชากรมากเป็นอันดับสามในภูมิภาคแคริบเบียน คือประมาณ 10 ล้านคน เมืองหลวงและเมืองขนาดใหญ่ที่สุดคืออาบานา ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นหนึ่งในเมืองท่าที่สำคัญที่สุดในภูมิภาค เมืองสำคัญอื่น ๆ ได้แก่ ซานเตียโก เด กูบา และ กามาเกวย์ ภาษาราชการคือภาษาสเปน คิวบาเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคที่ยังปกครองแบบคอมมิวนิสต์อยู่
ดินแดนของคิวบามีมนุษย์เข้ามาตั้งถิ่นฐานตั้งแต่ประมาณ 4,000 ปีก่อนคริสตกาล ชนเผ่าพื้นเมืองอย่างกัวนาฮาตาเบย์ และ ไทโนเป็นเจ้าของดินแดนแห่งนี้ในช่วงล่าอาณานิคมในศตวรรษที่ 15 ดินแดนทั้งหมดตกเป็นอาณานิคมของสเปนก่อนจะมีการเลิกทาสใน พ.ศ. 2429 สงครามสเปน-อเมริกา ส่งผลให้คิวบาถูกยึดครองโดยสหรัฐก่อนจะได้รับเอกราชใน พ.ศ. 2445 ใน พ.ศ. 2483 คิวบาประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ความไม่สงบทางการเมืองกลับทวีความรุนแรงขึ้น และจบลงด้วยรัฐประหารในปี 2495 และเป็นจุดเริ่มต้นการปกครองแบบเผด็จการโดย ฟุลเฮนซิโอ บาติสตา[13] ขบวนการ 26 กรกฎาคม นำไปสู่การโค่นล้มรัฐบาลในช่วงการปฏิวัติคิวบาซึ่งนำไปสู่การสถาปนาการปกครองแบบคอมมิวนิสต์ภายใต้ฟิเดล กัสโตร เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์[14][15] คิวบามีส่วนร่วมในความขัดแย้งในช่วงสงครามเย็นระหว่างสหภาพโซเวียตและสหรัฐ ความตึงเครียดทวีความรุนแรงจนเกือบจะกลายเป็นสงครามปรมาณูในเหตุการณ์วิกฤตการณ์ขีปนาวุธปี 2505 ภายหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต คิวบาเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรงในทศวรรษ 1990 ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อช่วงเวลาพิเศษ ต่อมา ในปี 2551 กัสโตรประกาศวางมือทางการเมืองหลังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดียาวนาน 49 ปี ราอุล กัสโตร เข้ามารับตำแหน่งต่อและลงจากตำแหน่งในปี 2561 มิเกล ดิอัซ-กาเนล เข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 19 และคนปัจจุบัน
คิวบายังเป็นหนึ่งในประเทศที่นิยมลัทธิมากซ์–เลนิน มีระบอบการปกครองแบบรัฐพรรคการเมืองเดียว และเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ยังปกครองแบบคอมมิวนิสต์อย่างเปิดเผย พรรคคอมมิวนิสต์มีบทบาทหลักในการบริหารประเทศรวมทั้งเป็นผู้กำหนดกิจกรรมต่าง ๆ อย่างเบ็ดเสร็จ โดยบทบาทหน้าที่และความสำคัญของพรรคมีบัญญัติอยู่ในรัฐธรรมนูญ ลัทธิอำนาจนิยมมีบทบาทสูงต่อวิถีชีวิตของประชาชน ความเห็นต่างทางการเมืองหรือการต่อต้านรัฐบาลเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้[16] นักข่าวไร้พรมแดนจัดอันดับให้คิวบาเป็นประเทศที่ให้เสรีภาพสื่อต่ำที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก[17][18]
คิวบาถือเป็นส่วนหนึ่งของลาตินอเมริกาในทางพฤตินัย เนื่องจากวัฒนธรรมและวิถีชีวิตทางสังคมที่ได้รับอิทธิพลมาจากสเปน คิวบาเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์และวัฒนธรรมมากที่สุด ประเพณีท้องถิ่นจำนวนมากได้รับอิทธิพลมาจากชนเผ่าพื้นเมืองตั้งแต่ยุคล่าอาณานิคม รวมถึงการได้รับอิทธิพลจากการอยู่อาศัยของทาสชาวแอฟริกันและความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับสหภาพโซเวียตในช่วงสงครามเย็น
คิวบาเป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งสหประชาชาติ, กลุ่ม 77, ขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด, องค์การรัฐแอฟริกา แคริบเบียน และแปซิฟิก และ องค์การนานารัฐอเมริกา คิวบามีระบบเศรษฐกิจสังคมนิยมหรือระบบเศรษฐกิจแบบวางแผน รายได้หลักมาจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และการส่งออกแรงงานมีฝีมือ สินค้าส่งออกได้แก่ กาแฟ, น้ำตาล และ ยาเส้น ในอดีตก่อนการปกครองโดยคอมมิวนิสต์ คิวบาเคยมีดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจและสังคมที่ดีกว่าประเทศอื่นในภูมิภาคทั้งในด้านการศึกษา อัตราการเสียชีวิตของทารก และความคาดหมายคงชีพ[19] คิวบามีระบบการดูแลสุขภาพที่เป็นสากล โดยพลเมืองสามารถเข้ารับการบริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย[20] อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลักในปัจจุบันคือความยากจนที่เพิ่มสูงอย่างต่อเนื่องโดยคิดเป็นอัตราส่วนสูงถึง 88% ของประชากรทั้งหมด ความอดอยากเป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญซึ่งประชากรส่วนใหญ่ยังต้องเผิชญภาวะโภชนาการไม่เพียงพอตามนโยบายของโครงการอาหารโลก ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของปัญหาสุขภาพในประเทศ[21]
Remove ads
ศัพทมูลวิทยา
ที่มาของชื่อประเทศ "Cuba" นั้นปราศจากหลักฐานยืนยันที่แน่ชัด นักประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่าชื่อนี้มาจากภาษาไทโน อย่างไรก็ตาม "ที่มาที่ไปที่แน่นอนนั้นไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด"[22] ความหมายที่แท้จริงของชื่อนี้จึงยังไม่ชัดเจน แต่อาจแปลได้ว่า "ที่ซึ่งมีดินอุดมสมบูรณ์" (cubao) หรือ "สถานที่อันยิ่งใหญ่" (coabana)[23]
ประวัติศาสตร์
สรุป
มุมมอง
ชาวสเปนเดินทางมาถึงเกาะคิวบาครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2035 แต่ไม่ได้สนใจเกาะนี้มากนักในระยะแรกเพราะไม่มีทรัพยากรธรรมชาติและมีชาวอินเดียนอยู่น้อย จนกระทั่งเกิดการปฏิวัติในเฮติเมื่อปี พ.ศ. 2333 คิวบาจึงกลายเป็นแหล่งอุตสาหกรรมน้ำตาลของสเปนแทนที่เฮติ
คิวบาเป็นดินแดนสุดท้ายในทวีปอเมริกาที่เป็นอาณานิคมของสเปน โคเซ มาร์ตี จัดตั้งพรรคปฏิวัติคิวบาเมื่อ พ.ศ. 2435 เพื่อเรียกร้องเอกราชจนถูกฆ่าเมื่อ พ.ศ. 2438 การเรียกร้องเอกราชของคิวบาได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา จนกระทั่งเรือรบของกองทัพเรือเกิดระเบิดในอ่าวของกรุงอาบานาเมื่อ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2440 ซึ่งกลายเป็นชนวนให้เกิดสงครามสเปน-อเมริกา ผลของสงครามทำให้คิวบาได้รับเอกราชและอาณานิคมอื่นของสเปนกลายเป็นของสหรัฐอเมริกา
หลังจากได้รับเอกราช คิวบาตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของสหรัฐอเมริกาอย่างมาก ในบางช่วงเช่น พ.ศ. 2460-2466 คิวบาถูกสหรัฐยึดครองและเข้ามาบริหารโดยตรง ทั้งนี้เพราะสหรัฐมีผลประโยชน์ในอุตสาหกรรมน้ำตาลของคิวบา อิทธิพลของสหรัฐสิ้นสุดลงเมื่อฟีเดล กัสโตร เข้ายึดอำนาจจากประธานาธิบดีฟุลเคนเซียว บาติสตา และบริหารประเทศด้วยระบอบสังคมนิยมเมื่อ พ.ศ. 2502 เมื่อถูกสหรัฐตัดความสัมพันธ์และปิดกั้นทางการค้า และสนับสนุนชาวคิวบาโพ้นทะเลให้ก่อกบฏล้มรัฐบาลของกัสโตรจนเกิดวิกฤตการณ์เบย์ออฟฟิกส์เมื่อ 15 เมษายน พ.ศ. 2514 แต่ไม่สำเร็จ รัฐบาลของกัสโตรจึงหันไปสร้างความสัมพันธ์กับสหภาพโซเวียตและจีนแทน ปัจจุบันคิวบาเป็น 1 ใน 5 ประเทศคอมมิวนิสต์ในโลก (อีก 4 ประเทศคือ จีน เวียดนาม ลาว และเกาหลีเหนือ) และเป็นประเทศเดียวในทวีปอเมริกาที่ปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์[24]
Remove ads
การเมืองการปกครอง
รูปแบบการปกครอง สังคมนิยม ปกครองด้วยระบอบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์
บริหาร
ประธานาธิบดีเป็นประมุขของประเทศและเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร โดยคนปัจจุบันคือนายมิเกล ดิอาช-กาเนล สภาพลังประชาชนแห่งชาติซึ่งเป็นสภานิติบัญญัติของคิวบาทั้ง 605 เสียง มีมติเป็นเอกฉันท์ ในการลงคะแนนเมื่อวันพฤหัสบดี ให้รองประธานาธิบดีมิเกล ดิแอซ-คาเนล รับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของประเทศ ถือเป็นคนที่ 19 ต่อจากนายราอูล คาสโตร ซึ่งขอลาออกจากตำแหน่งด้วยเหตุผลด้านสุขภาพที่ทรุดโทรมตามอายุขัย
นิติบัญญัติ
ระบบสภาเดียว ที่มีชื่อว่า National Assembly of People's Power ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกจำนวน 614 คน มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน และมีวาระ 5 ปี พรรคการเมือง ระบบพรรคเดียว คือ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งคิวบา (Partido Comunista de Cuba : PCC)
ตุลาการ
ฝ่าย ศาลฎีกา (ได้รับการแต่งตั้งจากสภา National Assembly of People's Power) มีอำนาจดูแลศาลอื่น ๆ ในระดับภูมิภาค
การแบ่งเขตการปกครอง
15 จังหวัด (provinces) และ 1 เทศบาลพิเศษ* (special municipality) ได้ประกอบขึ้นเป็นประเทศคิวบา เขตปกครองนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงใหม่จากเดิมมีเพียง 6 จังหวัด คือ ปีนาร์เดลรีโอ (Pinar del Río) อาบานา (Habana) มาตันซัส (Matanzas) ลัสบียัส (Las Villas) กามากูเอย์ (Camagüey) และโอเรียนเต (Oriente)
|
|
Remove ads
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ความสัมพันธ์กับราชอาณาจักรไทย
สาธารณรัฐคิวบากับราชอาณาจักรไทยสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2501 โดยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคแคริบเบียนที่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศไทย ไทยมีสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเม็กซิโกซิตี ประเทศเม็กซิโก มีเขตอาณาครอบคลุมคิวบา โดยมีสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ กรุงอาบานา และในปี พ.ศ. 2547 คิวบาได้เปิดสถานเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย ณ กรุงเทพมหานคร ปัจจุบัน นายเอกตอร์ กอนเด อัลเมย์ดา (Héctor Conde Almeida) ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐคิวบาประจำประเทศไทย[25]
ในปี 2560 มีนักท่องเที่ยวชาวคิวบาเดินทางมาประเทศไทยจำนวน 468 คน[26]
Remove ads
เศรษฐกิจ
สรุป
มุมมอง
โครงสร้างเศรษฐกิจ
- อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (2552) ร้อยละ 1.4
- ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (2551) 68.39 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
- รายได้ประชาชาติต่อหัว (2551) 6,086.40 ดอลลาร์สหรัฐ
- อัตราเงินเฟ้อ ร้อยละ 0.8
- อัตราการว่างงาน (2551) ร้อยละ 1.7
- หนี้สินต่างประเทศ 17.50 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
- ทรัพยากรธรรมชาติ เหล็ก ทองแดง นิเกิล แมงกานีส เกลือ ไม้ ก๊าซธรรมชาติ
- อุตสาหกรรม อุตสาหกรรมผลิตและแปรรูปน้ำตาล การกลั่นน้ำมัน อาหารแปรรูป เหล็ก ปูนซีเมนต์ เคมีภัณฑ์ การผลิตยาและผลิตภัณฑ์ชีวภาพ
- เกษตรกรรม อ้อย ยาสูบ ผลไม้ประเภทส้ม (Citrus) กาแฟ ผัก ถั่ว เนื้อ ข้าว ผลไม้เมืองร้อน
- มูลค่าการนำเข้า (2551) 14.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้านำเข้า อาหาร น้ำมันเชื้อเพลิง เคมีภัณฑ์ เครื่องจักร
- มูลค่าการส่งออก (2551) 3.68 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าออก น้ำตาล นิเกิล ยาสูบ อาหารทะเล เหล้ารัม ยาและผลิตภัณฑ์ชีวภาพ
- ประเทศคู่ค้าที่สำคัญ เนเธอร์แลนด์ เวเนซุเอลา แคนาดา จีน สเปน สหรัฐอเมริกา และประเทศในภูมิภาคลาตินอเมริกา
สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ
- เศรษฐกิจตามระบอบสังคมนิยม
คิวบามีนโยบายเศรษฐกิจตามระบอบสังคมนิยม โดยรัฐมีบทบาทในการกำหนดนโยบาย บริหารจัดการ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม เป็นผู้ควบคุมกลไกในการผลิตส่วนใหญ่ เป็นผู้จ้างแรงงานที่สำคัญ เป็นผู้กำหนดราคาสินค้าส่วนใหญ่และแจกจ่ายสิ่งของแก่ประชาชน พร้อมทั้งควบคุมการลงทุนของภาคธุรกิจ อย่างไรก็ดี ในช่วงทศวรรษ 1990 รัฐบาลคิวบาเริ่มมีการปฏิรูประบบเศรษฐกิจ โดยผ่อนคลายความเข้มงวดในธุรกิจบางประเภท อาทิ การท่องเที่ยวและโรงแรม เพื่อดึงดูดเงินตราจากต่างประเทศ ดำเนินมาตรการเปิดเสรี และส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ
หลังจากนาย Raúl Castro เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี แม้จะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในภาพรวมของนโยบายเศรษฐกิจของคิวบาโดยทันที แต่ก็ได้ค่อย ๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยนาย Raúl Castro ประกาศดำเนินนโยบายการขยายการถือครองที่ดินทำกินของเกษตรกร ลดหรือยกเลิกเงินอุดหนุนบางประเภท เพิ่มเงินบำนาญ ยกเลิกข้อจำกัดในการเข้าถึงสินค้าอุปโภคบริโภคบางประเภท อาทิ โทรศัพท์มือถือ และรถจักรยานยนต์ เป็นต้น
อย่างไรก็ดี มาตรการดังกล่าว ไม่สามารถช่วยเหลือคิวบาให้รอดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจได้ เพราะนอกจากคิวบาจะถูกคว่ำบาตรทางการค้าจากสหรัฐอเมริกาแล้ว ยังมีปัญหาจากความด้อยประสิทธิภาพในการผลิต ราคาสินค้าส่งออกโดยเฉพาะน้ำตาลและนิเกิลในตลาดโลกตกต่ำ รวมทั้งผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยเฉพาะพายุเฮอริเคนในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ คิวบาได้พัฒนาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดกับเวเนซุเอลา ซึ่งช่วยบรรเทาความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจของคิวบาได้อย่างมาก ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ภาคอุตสาหกรรมไบโอเทคโนโลยีและเภสัชกรรมมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นต่อเศรษฐกิจคิวบาในภาพรวม โดยคิวบาสามารถส่งออกผลิตภัณฑ์ประเภทวัคซีนป้องกันไวรัสและแบคทีเรียต่าง ๆ ไปยังหลายประเทศ เช่น รัสเซีย จีน อินเดีย ปากีสถาน และหลายประเทศในภูมิภาคลาตินอเมริกา
Remove ads
วัฒนธรรม
สรุป
มุมมอง
คิวบาเป็นสังคมที่ประกอบด้วยคนหลายเชื้อชาติอยู่ปะปนกันโดยไม่มีการแบ่งแยกสีผิว ก่อนการปฏิวัติของฟิเดล คาสโตร ชาวคิวบาสวนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก (ร้อยละ 72 ของประชาการทั้งหมด) นอกนั้นนับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ ศาสนายิว และศาสนาที่ผสมผสานระหว่างศาสนาคริสต์กับลัทธิความเชื่อดั้งเดิมของของชนชาวผิวดำ ที่มาจากแอฟริกา ส่วนผู้ไม่นับถือศาสนาใด ๆ มีสูงถึงร้อยละ 19 ของประชากรทั้งหมด ภายหลังการปฏิวัติ รัฐบาลของฟิเดล คาสโตร เห็นว่าศาสนาเป็นสิ่งขัดขวางความเจริญก้าวหน้าและการปฏิวัติไปสู่ระบบคอมมิวนิสต์ ดังนั้นจึงมุ่งกำจัดอิทธิพลของศาสนาให้หมดไป หนังสือเกี่ยวกับคำสอนทางศาสนาถูกทำลาย โรงเรียนของศาสนจักรถูกยึดเป็นของรัฐ องค์กรทางศาสนาถูกจำกัดสิทธิและเสรีภาพ อิทธิพลของจักรวรรดินิยมอเมริกา ถูกถอนรากถอนโคนจากสังคมคิวบา รัฐส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเชื้อชาติและระหว่างเพศ ชาวคิวบา นิยมบริโภคอาหารประจำชาติที่ชื่อว่า เยโย่ โดยทำจากพืชพื้นเมือง
อาหาร
ในช่วงที่สหภาพโซเวียตล่มสลาย การนำเข้าอาหารและเครื่องมือทางการเกษตรถูกตัดขาด เกิดภาวะขาดแคลนอาหารขั้นรุนแรงทั่วคิวบา เพราะไม่อาจทำเกษตรได้ แม้สถานการณ์จะเลวร้าย แต่ชาวคิวบากลับถือเป็นโอกาสพัฒนาเทคนิคการทำเกษตรอินทรีย์ที่ปลอดสารเคมี และในที่สุดพวกเขาก็พลิกฟื้นที่ดินรกร้างให้เป็นแหล่งปลูกผัก และธัญพืชได้อีกครั้ง
นับแต่อดีตถึงปัจจุบันอาหารคิวบาได้ชื่อว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ เพราะเน้นผักสด รสชาติดั้งเดิมของวัตถุดิบ เช่น ถ้าเป็นอาหารจากเนื้อ ก็ปรุงรสด้วยส้มและกระเทียม หรือถ้าหุงข้าวก็จะใส่ถั่วลงไปด้วย และขาดไม่ได้คือเหล้ารัมจากอ้อย ซึ่งเป็นเหล้าประจำชาติของคิวบา ใช้เป็นส่วนผสมในค็อกเทลกว่า 100 ชนิด
ประชากร
Remove ads
หมายเหตุ
- คิวบาเป็นรัฐคอมมิวนิสต์ ลัทธิมากซ์–เลนิน พรรคเดียว สังคมนิยม ตำแหน่งที่มีอำนาจมากที่สุดคือเลขาธิการพรรคคนแรกแห่งพรรคคอมมิวนิสต์คิวบา ไม่ใช่ประธานาธิบดี
อ้างอิง
บรรณานุกรม
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads