คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
เฟต/สเตย์ไนต์ เฮฟเวนส์ฟีล II. ลอสต์บัตเตอร์ฟลาย
ภาพยนตร์ จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
เฟต/สเตย์ไนต์ เฮฟเวนส์ฟีล II. ลอสต์บัตเตอร์ฟลาย (อังกฤษ: Fate/stay night: Heaven's Feel II. lost butterfly) เป็นภาพยนตร์อนิเมะเรื่องที่สองของภาพยนตร์ไตรภาคเฟต/สเตย์ไนต์ เฮฟเวนส์ฟีลที่ผลิตโดยยูโฟเทเบิล และกำกับเรื่องโดยโทโมโนริ ซุโด ออกฉายครั้งแรกในโรงภาพยนตร์ที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2562[3] ส่วนที่ประเทศไทยออกฉายอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562[4]
เนื้อเรื่องจะดำเนินต่อจากภาพยนตร์เรื่อง เฟต/สเตย์ไนต์ เฮฟเวนส์ฟีล I. เพรสเซจฟลาวเวอร์ โดยหลังจากที่เอมิยะ ชิโร่ได้สูญเสียเซเบอร์ไปและส่วนมากจะมุ่งเน้นไปยังความสัมพันธ์ระหว่างเอมิยะ ชิโร่และมาโต้ ซากุระ
ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์เนื่องจากทำรายได้ถึง 1.5 พ้นล้านเยนเร็วกว่าภาพยนตร์เรื่องแรก และทำรายได้รวมทั่วโลกมากกว่า 19.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ภาพยนตร์ในรูปแบบดีวีดีและบลูเรย์รวมกันแล้วมียอดขาย 69,832 แผ่นในสัปดาห์แรก ซึ่งมากกว่าภาพยนตร์เรื่องแรก 25 เปอร์เซ็นต์[5][6]
Remove ads
เนื้อเรื่อง
![]() | ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
นักพากย์
Remove ads
การผลิต
บทภาพยนตร์
![]() | ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
แอนิเมชัน
![]() | ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
การตลาด
ในการโปรโมตภาพยนตร์ได้มีการจับมือกับพิซซ่าฮัทเพื่อเริ่มต้นแคมเปญตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2562 ถึงวันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2562 ในระหว่างแคมเปญถ้าลูกค้าสั่งสินค้าบางอย่างผ่านพิซซ่าฮัทออนไลน์จะมีสิทธิ์ได้รับถาดพิซซ่าที่มาพร้อมกับลายเส้นนักพากย์[7] ในวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2562 ได้จับมือกับเกมมือถือที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกพัซเซิลแอนด์ดราก้อนส์เพื่อนำตัวละครจากภาพยนตร์ลงไปยังเกมดังกล่าว[8]
ผู้ชมภาพยนตร์ตั้งแต่วันที่ 9 ถึง 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 จะได้รับแผ่นฟิลม์จากฉายต่าง ๆ ของเรื่อง[9] ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 ได้มีการประกาศทางทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการว่าผู้ชมภาพยนตร์ตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 ถึงวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2562 จะได้รับบอร์ดภาพขนาดเอโฟร์ที่วาดโดยโทโมโนริ ซุโด
Remove ads
เพลง
สรุป
มุมมอง
ในเดือน เมษายน พ.ศ. 2559 เว็บไซต์อย่างเป็นทางการได้เปิดเผยว่ายูกิ คาจิอูระจะกลับมาเป็นผู้แต่งเพลงให้กับภาพยนตร์ไตรภาคเฟต/สเตย์ไนต์ เฮฟเวนส์ฟีล หลังจากที่เคยแต่งเพลงประกอบให้กับเวทศาสตรา มหาสงครามและปฐมบทสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์[10] ในวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 ได้มีการประกาศว่าเอเมะจะมาร้องเพลงธีมหลัก "I beg you" ที่ประพันธ์โดยยูกิ คาจิอูระ[11][12] ตัวเพลงจะอยู่ในซิงเกิลที่ 16 ของเอเมะ โดยวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2562[13][14] ในขณะที่ดรามาซีดีพร้อมกับบทสัมภาษณ์วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2562 [15] อนิเพล็กซ์ได้วางจำหน่ายอัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2562 ในอัลบั้มนั้นมีต้นฉบับเพลงประกอบภาพยนตร์อยู่ทั้งหมด 37 เพลงที่แต่งโดยยูกิ คาจิฮูระ[16]
Remove ads
การออกฉาย
สรุป
มุมมอง
โรงหนัง

ลอสต์บัตเตอร์ฟลาย จัดฉายรอบปฐมทัศน์ครั้งแรกในโลกที่โรงภาพยนตร์ชินจุกุวอลด์ 9 ในกรุงโตเกียว และยูโฟเทเบิลซีนีมา ในจังหวัดโทกูชิมะเมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2562[17] ซึ่งต่อมาได้เริ่มออกฉายอย่างเป็นทางการในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศญี่ปุ่นมากกว่า 131 แห่งเมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2562[3]
ดรีมเอกซ์เพรสร่วมกับโครงการแจมไทยแลนด์ได้ประกาศเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ของภาพยนตร์ในประเทศไทยเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2561[18][19][1] แรกเริ่มจัดฉายรอบปฐมทัศน์ในระบบ 4DX ณ โรงภาพยนตร์ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ เมื่อวันที่ 23 ถึง 24 มิถุนายน พ.ศ. 2562 [20] และได้เริ่มออกฉายอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562[4]
อนิเพล็กซ์ออฟอเมริกาได้ประกาศที่งานอนิเมะเอกซ์โป ปี พ.ศ. 2561 ว่าพวกเขาจะเป็นผู้เผยแพร่ภาพยนตร์เรื่องนี้ในสหรัฐอเมริกา[21] ได้เริ่มจัดฉายรอบปฐมทัศน์ที่โรงภาพยนตร์ Regal LA Live ในลอสแอนเจลิสเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 และได้ออกฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศเมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2562 ด้วยความร่วมมือของฟาทอมอีเวนส์[22] ไมตีมีเดียได้ออกฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ในประเทศใต้หวันเมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2562[23] อนิพลัสได้ออกฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ในประเทศเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2562[24]
เมดแมนเอนเตอร์เทนเมนต์ผู้เผยแพร่ภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ได้ประกาศว่าพวกเขาจะจัดฉายภาพยนตร์ในรอบปฐมทัศน์ที่งานแมดแมนอนิเมะเฟสติวัลซิดนีย์ ปี พ.ศ. 2562 โดยได้กำหนดไว้ว่าจะออกฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศภายหลังในปีนี้[25] โอเดกซ์ได้ออกฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ในประเทศมาเลเซียเมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2562[26][27] ไซนาฟิลม์กรุปคอร์ปอเรชันได้ออกฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ในประเทศจีนเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2562[28] ไดนิตร่วมมือกับเน็กซ์โซดิจิทัลจัดฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ในประเทศอิตาลีเมื่อวันที่ 18 ถึง 19 มิถุนายน พ.ศ. 2562[29]
โฮมมีเดีย
ลอสต์บัตเตอร์ฟลาย ออกวางจำหน่ายในรูปแบบดีวีดีและบลูเรย์เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2562 โดยจะแบ่งจำหน่ายเป็นแบบธรรมดาและแบบลิมิเต็ด ในแบบธรรมดาจะมีให้เลือกแผ่นบลูเรย์หรือดีวีดี ราคาของบลูเรย์อยู่ที่ 5,800 เยน ในขณะที่ดีวีดีมีราคาอยู่ที่ 4,800 เยน ในแบบลิติเตดจะเป็นแผ่นบลูเรย์เท่านั้นมีราคาอยู่ที่ 9,500 เยน ภาพของกล่องจะวาดโดยทากาชิ ทาเกอูจิ และจะมีของแถมติดมาเช่น แผ่นเพลงประกอบ, หนังสือเล่มเล็ก, สมุดรวมภาพ, และแผ่นที่รวมทีมงานกับนักพากย์ทักทายผู้ชมในงานที่จัดขึ้นที่โตเกียวและโกเบด้วยความยาวกว่า 100 นาที[30][31]
Remove ads
การตอบรับ
สรุป
มุมมอง
บ็อกซ์ออฟฟิศ

ลอสต์บัตเตอร์ฟลาย เปิดตัวแรงติดอันดับ 1 ของบ็อกซ์ออฟฟิศประเทศญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์แรก ทำรายได้ไป 602,841,741 เยน (ประมาณ 174 ล้านบาท) จากยอดขายตั๋ว 363,080 ใบ ซึ่งมียอดขายตั๋วสูงกว่าภาพยนตร์เรื่องแรกประมาณ 12 เปอร์เซ็นต์ และทำรายได้สูงกว่าภาพยนตร์เรื่องแรกในสัปดาห์เปิดตัวประมาณ 18 เปอร์เซ็นต์[32] ต่อมาทำรายได้ทะลุ 1 พ้นล้านเยนภายใน 12 วันแรกนับตั้งแต่ภาพยนตร์ออกฉายและทำให้ทำลายสถิติของภาพยนตร์เรื่องแรก[33] ภาพยนตร์ตกมาอยู่อันดับสี่ในสัปดาห์ที่สาม[34] และตกมาอยู่อันดับที่สิบในสัปดาห์ที่สี่ โดยทำรายได้รวมประมาณ 1,320,295,396 เยน (ประมาณ 380 ล้านบาท)[35] ต่อมาสัปดาห์ที่ห้าร่วงออกจากอันดับที่สิบ แต่ยังคงทำรายได้ถึง 57,369,900 เยน (ประมาณ 16 ล้านบาท) รวมทั้งสิ้น 1,429,918,296 เยน (ประมาณ 409 ล้านบาท)[36] ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 ภาพยนตร์กวาดรายได้ไปถึง 1.5 พ้นล้านเยน (ประมาณ 430 ล้านบาท) จากยอดขายตั๋วมากกว่า 1 ล้านใบในประเทศญี่ปุ่น[37]
ในต่างประเทศที่ประเทศฮ่องกงภาพยนตร์เรื่องนี้ทำรายได้ไป 1.15 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 4 ล้านบาท)[28] ที่ทวีปอเมริกาเหนือทำรายได้เปิดตัวอยู่ที่ $420,595 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 12 ล้านบาท)[38] ที่ประเทศจีนกวาดรายได้เปิดตัวช่วงสุดสัปดาห์แรกถึง 3.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 107 ล้านบาท)[39] ในวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำรายได้รวมทั่วโลกมากกว่า 19.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 609 ล้านบาท)[2]
โฮมมีเดีย
ภาพยนตร์ในรูปแบบบลูเรย์แบบลิมิเต็ดทำยอดขายสูงสุดในการจัดอันดับยอดขายบลูเรย์รายสัปดาห์ของออริคอน โดยมียอดขายในสัปดาห์แรกอยู่ที่ 59,756 แผ่น ในขณะที่ดีวีดีมียอดขายอยู่ที่ 2,932 แผ่น และบลูเรย์แบบธรรมดามียอดขายอยู่ที่ 7,144 แผ่น ซึ่งรวมกันแล้วมียอดขายจำนวน 69,832 แผ่น[5][6]
เพลง
เพลงธีมหลักของภาพยนตร์ "I beg you" (รวมเพลง I beg you / Hanabira-tachi no March / Sailing) ที่ร้องโดยเอเมะติดอันดับหนึ่งในออริคอนชาร์ตประจำสัปดาห์ โดยทำยอดขายมากกว่า 30,737 แผ่น[40] ในสัปดาห์ที่สองตกมาอยู่อันดับสอง มียอดขายอยู่ที่ 14,593 แผ่น รวมเป็น 45,330 แผ่น[41]
Remove ads
ภาคต่อ
ได้มีการเปิดเผยตัวอย่างของภาพยนตร์เรื่องที่สามและเรื่องสุดท้ายของไตรภาคหลังจากจบเอนด์เครดิตของภาพยนตร์ที่มาพร้อมกับชื่อเรื่อง "เฟต/สเตย์ไนต์ เฮฟเวนส์ฟีล III. สปริงซอง" มีกำหนดออกฉายในปี พ.ศ. 2563[42][43]
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads