กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล
From Wikipedia, the free encyclopedia
กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล (อังกฤษ: Hubble Space Telescope) คือ กล้องโทรทรรศน์ในวงโคจรของโลกที่กระสวยอวกาศดิสคัฟเวอรี นำส่งขึ้นสู่วงโคจรเมื่อเดือนเมษายน ค.ศ. 1990 ตั้งชื่อตามนักดาราศาสตร์ชาวอเมริกันชื่อ เอ็ดวิน ฮับเบิล กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลไม่ได้เป็นกล้องโทรทรรศน์อวกาศตัวแรกของโลก แต่มันเป็นหนึ่งในเครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์การศึกษาดาราศาสตร์ที่ทำให้นักดาราศาสตร์ค้นพบปรากฏการณ์สำคัญต่าง ๆ อย่างมากมาย กล้องโทรทรรศน์ฮับเบิลเกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างองค์การนาซาและองค์การอวกาศยุโรป โดยเป็นหนึ่งในโครงการหอดูดาวเอกขององค์การนาซาที่ประกอบด้วย กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล กล้องรังสีแกมมาคอมป์ตัน กล้องรังสีเอกซ์จันทรา และกล้องโทรทรรศน์อวกาศสปิตเซอร์[8]
กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
Seen in orbit from the departing กระสวยอวกาศ แอตแลนติส in 2009, flying Servicing Mission 4 (STS-125), the fifth and final Hubble mission. | |||||||||||||||
รายชื่อเก่า | HST Hubble | ||||||||||||||
ประเภทภารกิจ | Astronomy | ||||||||||||||
ผู้ดำเนินการ | STScI | ||||||||||||||
COSPAR ID | 1990-037B | ||||||||||||||
SATCAT no. | 20580 | ||||||||||||||
เว็บไซต์ | nasa hubblesite spacetelescope | ||||||||||||||
ระยะภารกิจ | 33 ปี 11 เดือน 30 วัน (ต่อเนื่อง)[1] | ||||||||||||||
ข้อมูลยานอวกาศ | |||||||||||||||
ผู้ผลิต | ล็อกฮีด มาร์ติน (ยานอวกาศ) เพอร์กินเอลเมอร์ (ทัศนศาสตร์) | ||||||||||||||
มวลขณะส่งยาน | 11,110 kg (24,490 lb)[2] | ||||||||||||||
ขนาด | 13.2 × 4.2 m (43 × 14 ft)[2] | ||||||||||||||
กำลังไฟฟ้า | 2,800 วัตต์ | ||||||||||||||
เริ่มต้นภารกิจ | |||||||||||||||
วันที่ส่งขึ้น | 24 เมษายน 1990, 12:33:51 UTC[3] | ||||||||||||||
จรวดนำส่ง | กระสวยอวกาศ ดิสคัฟเวรี (STS-31) | ||||||||||||||
ฐานส่ง | เคนเนดี, LC-39B | ||||||||||||||
ผู้ดำเนินงาน | ร็อคเวลล์ อินเตอร์เนชั่นแนล | ||||||||||||||
วันที่ปล่อยตัว | 25 เมษายน 1990[2] | ||||||||||||||
เริ่มปฎิบัติงาน | 20 พฤษภาคม 1990[2] | ||||||||||||||
สิ้นสุดภารกิจ | |||||||||||||||
เข้าสู่ชั้นบรรยากาศ | 2030–2040 (โดยประมาณ)[4] | ||||||||||||||
ลักษณะวงโคจร | |||||||||||||||
ระบบอ้างอิง | วงโคจรโลกเป็นศูนย์กลาง[5] | ||||||||||||||
ระบบวงโคจร | วงโคจรต่ำของโลก | ||||||||||||||
ระยะใกล้สุด | 537.0 km (333.7 mi) | ||||||||||||||
ระยะไกลสุด | 540.9 km (336.1 mi) | ||||||||||||||
ความเอียง | 28.47° | ||||||||||||||
คาบการโคจร | 95.42 นาที | ||||||||||||||
กล้องโทรทรรศน์หลัก | |||||||||||||||
ชนิด | สะท้อนแสงแบบริตชี–เครเตียง | ||||||||||||||
เส้นผ่านศูนย์กลาง | 2.4 m (7 ft 10 in)[6] | ||||||||||||||
ระยะโฟกัส | 57.6 m (189 ft)[6] | ||||||||||||||
อัตราส่วนโฟกัส | f/24 | ||||||||||||||
พื่นที่รับแสง | 4.0 m2 (43 sq ft)[7] | ||||||||||||||
ความยาวคลื่น | ใกล้อินฟราเรด, แสงที่ตามองเห็น, รังสีอัลตราไวโอเลต | ||||||||||||||
| |||||||||||||||
การที่กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลลอยอยู่นอกชั้นบรรยากาศของโลกทำให้มันมีข้อได้เปรียบเหนือกว่ากล้องโทรทรรศน์ที่อยู่บนพื้นโลก นั่นคือภาพไม่ถูกรบกวนจากชั้นบรรยากาศ ไม่มีแสงพื้นหลังท้องฟ้า และสามารถสังเกตการณ์คลื่นอัลตราไวโอเลตได้โดยไม่ถูกรบกวนจากชั้นโอโซนบนโลก ตัวอย่างเช่น ภาพอวกาศห้วงลึกมากของฮับเบิลที่ถ่ายจากกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล คือภาพถ่ายวัตถุในช่วงคลื่นที่ตามองเห็นที่อยู่ไกลที่สุดเท่าที่เคยมีมา
โครงการก่อสร้างกล้องโทรทรรศน์อวกาศเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1923 กล้องฮับเบิลได้รับอนุมัติทุนสร้างในช่วงปี ค.ศ. 1970 แต่เริ่มสร้างได้ในปี ค.ศ. 1983 การสร้างกล้องฮับเบิลเป็นไปอย่างล่าช้าเนื่องด้วยปัญหาด้านงบประมาณ ปัญหาด้านเทคนิค และจากอุบัติเหตุกระสวยอวกาศแชลเลนเจอร์ กล้องได้ขึ้นสู่อวกาศในปี ค.ศ. 1990 แต่หลังจากที่มีการส่งกล้องฮับเบิลขึ้นสู่อวกาศไม่นานก็พบว่ากระจกเงาปฐมภูมิมีความคลาดทรงกลมอันเกิดจากปัญหาการควบคุมคุณภาพในการผลิต ทำให้ภาพถ่ายที่ได้สูญเสียคุณภาพไปอย่างมาก ภายหลังจากการซ่อมแซมในปี ค.ศ. 1993 กล้องก็กลับมามีคุณภาพเหมือนดังที่ตั้งใจไว้ และกลายเป็นเครื่องมือในการวิจัยที่สำคัญและเป็นเสมือนฝ่ายประชาสัมพันธ์ของวงการดาราศาสตร์
กล้องฮับเบิลเป็นกล้องโทรทรรศน์อวกาศตัวเดียวที่ถูกออกแบบมาให้นักบินอวกาศสามารถเข้าไปซ่อมแซมในอวกาศได้ จนถึงวันนี้ได้จัดการภารกิจซ่อมบำรุงครบแล้วทั้งหมดห้าภารกิจ ภารกิจที่ 1 คือการซ่อมแซมปัญหาด้านภาพในปี ค.ศ. 1993 ภารกิจที่ 2 คือการติดตั้งเครื่องมือสองชิ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1997 ภารกิจที่ 3 แบ่งเป็นสองภารกิจย่อยได้แก่ ภารกิจ 3A เป็นการซ่อมแซมเร่งด่วนในปี ค.ศ. 1999 และภารกิจ 3B เป็นการติดตั้งกล้องสำรวจขั้นสูงในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2002 อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดโศกนาฏกรรมกระสวยอวกาศโคลัมเบียในปี ค.ศ. 2003 ภารกิจซ่อมบำรุงที่ห้าซึ่งมีกำหนดการในปี ค.ศ. 2004 ก็ถูกยกเลิกไปเพราะเรื่องความปลอดภัย นาซาเห็นว่าภารกิจที่ต้องใช้คนนั้นอันตรายเกินไป แต่ก็ได้ทบทวนเรื่องนี้อีกครั้ง และในวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ. 2006 ไมค์ กริฟฟิน ผู้บริหารของนาซาจึงเปิดไฟเขียวให้กับภารกิจซ่อมบำรุงฮับเบิลครั้งสุดท้ายโดยจะใช้กระสวยอวกาศแอตแลนติสขนส่งลูกเรือ ภารกิจนี้มีกำหนดการในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2008 [9][10] ทว่าในเดือนกันยายน ค.ศ. 2008 มีการตรวจพบข้อผิดพลาดบางประการกับตัวกล้อง[11] ทำให้ต้องเลื่อนกำหนดการซ่อมบำรุงออกไปเป็นเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2009[12] เพื่อเตรียมการซ่อมแซมเพิ่มเติม กระสวยอวกาศแอตแลนติสนำยานซ่อมบำรุงขึ้นปฏิบัติการครั้งสุดท้ายเมื่อ 11 พฤษภาคม ค.ศ. 2009 เพื่อทำการซ่อมแซมและติตตั้งอุปกรณ์ใหม่เพิ่มเติม กล้องฮับเบิลกลับมาใช้งานได้ตามปกติอีกครั้งในเดือนกันยายน ค.ศ. 2009
การซ่อมครั้งนี้คาดว่าจะทำให้กล้องฮับเบิลสามารถใช้งานได้ถึงปี ค.ศ. 2030
เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ค.ศ. 2021 ได้มีการส่งกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์เพื่อใช้งานแทนกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ มีความสามารถสูงกว่ากล้องฮับเบิลมาก แต่มันจะใช้สำรวจคลื่นช่วงอินฟราเรดเท่านั้น และไม่สามารถทดแทนความสามารถในการสังเกตสเปกตรัมในช่วงที่ตามองเห็นและช่วงอัลตราไวโอเลตของฮับเบิลได้