Loading AI tools
หน่วยรบพิเศษกองทัพบกสหรัฐ จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
กองรบพิเศษที่ 1 (ส่งทางอากาศ) (อังกฤษ: 1st Special Forces Group (Airborne); อักษรย่อ: 1st SFG (A)) เป็นหน่วยหนึ่งของกรมหน่วยรบพิเศษแห่งกองทัพบกสหรัฐ ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อกรีธาพลและปฏิบัติภารกิจทั้งเก้าทั่วพื้นที่ปฏิบัติการของหน่วยบัญชาการอินโด-แปซิฟิก ได้แก่ การสงครามนอกแบบ, การป้องกันภายในให้กับมิตรประเทศ, การปฏิบัติภารกิจโดยตรง, การปราบปรามการก่อกบฏ, การลาดตระเวนพิเศษ, การต่อต้านการก่อการร้าย, ยุทธการทางข้อมูลข่าวสาร, การต่อต้านการแพร่ขยายอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูง และการสนับสนุนกองกำลังรักษาความมั่นคง[3][4][5]
กองรบพิเศษที่ 1 (ส่งทางอากาศ) | |
---|---|
1st Special Forces Group (Airborne) | |
เครื่องหมายหน้าหมวกเบอเรต์ของกองรบพิเศษที่ 1 | |
ประจำการ | 24 มิถุนายน ค.ศ. 1957 – 28 มิถุนายน ค.ศ. 1974 4 กันยายน ค.ศ. 1984 – ปัจจุบัน |
ประเทศ | สหรัฐ |
เหล่า | กองทัพบกสหรัฐ |
รูปแบบ | หน่วยปฏิบัติการพิเศษ |
กำลังรบ | 4 กองพัน ได้แก่ หนึ่งกองพันที่สถานีโทรี จังหวัดโอกินาวะ ประเทศญี่ปุ่น, สามกองพันในฐานร่วมลูวิส–แมคคอร์ด รัฐวอชิงตัน |
ขึ้นกับ | หน่วยบัญชาการรบพิเศษที่ 1 |
กองบัญชาการ | ฐานร่วมลูวิส–แมคคอร์ด |
คำขวัญ | ที่หนึ่งในเอเชีย[ต้องการอ้างอิง] |
ปฏิบัติการสำคัญ | สงครามเวียดนาม สงครามต่อต้านการก่อการร้าย
|
เครื่องหมายสังกัด | |
อดีตแถบการรับรู้กองรบพิเศษที่ 1 (ส่งทางอากาศ) สวมใส่โดยทหารมีคุณสมบัติปฏิบัติการไม่พิเศษ—แทนเครื่องหมายหน้าหมวกเบอเรต์—จากคริสต์ทศวรรษ 1960 ถึง ค.ศ. 1984[2] | |
อาร์มหน่วยที่ไหล่ของหน่วยบัญชาการรบพิเศษที่ 1 (ส่งทางอากาศ) สวมใส่โดยหน่วยกองรบพิเศษที่ 1 (ส่งทางอากาศ) |
กองรบพิเศษสหรัฐ | |
---|---|
ก่อน | ถัดไป |
กองรบพิเศษที่ 3 |
กองรบนี้เป็นหนึ่งในกองแรกของหน่วยรบพิเศษที่เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ กองนี้รับผิดชอบปฏิบัติการในแปซิฟิก ปัจจุบัน กองพันที่ 1 ประจำการอยู่ที่จังหวัดโอกินาวะ ในขณะที่กองพันที่ 2, 3, 4 และกองสนับสนุนประจำการอยู่ที่ฐานร่วมลูวิส–แมคคอร์ด รัฐวอชิงตัน[6][7]
ประวัติของกองรบพิเศษที่ 1 เริ่มต้นที่ค่ายแบรกก์ รัฐนอร์ทแคโรไลนาใน ค.ศ. 1955 กองกำลังพิเศษปฏิบัติการปลดประจำการสี่หน่วย ได้แก่ 12, 13, 14, และ 16 - ได้รับการคัดเลือกจากกองรบพิเศษที่ 77 และโอนไปยังเขตสงครามแปซิฟิกในปีถัดไป กองรบพิเศษที่ 1 ได้เคลื่อนพลอย่างเป็นทางการที่ค่ายบักเนอร์ จังหวัดโอกินาวะ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ค.ศ. 1957 โดยมีพันโท เอ. สก็อต แมดดิง เป็นผู้บัญชาการ และจ่าสิบเอก โรเบิร์ต แอล. วอส เป็นจ่าสิบเอกพิเศษ ทั้งนี้ กองรบพิเศษที่ 1 มีความเด่นดังจากการมีทหารหน่วยรบพิเศษคนแรกและคนสุดท้ายที่ถูกสังหารในเวียดนาม ได้แก่ ร้อยเอก แฮร์รี เครเมอร์ ซึ่งถูกสังหารเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ค.ศ. 1957 และร้อยเอก ริชาร์ด เอ็ม. รีส ซึ่งถูกสังหารเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 1973 หลายทศวรรษต่อมา ทหารกองรบพิเศษที่ 1 อีกคนหนึ่งได้กลายเป็นชาวอเมริกันคนแรกที่เสียชีวิตโดยการยิงของศัตรูในประเทศอัฟกานิสถาน ซึ่งคือ จ่าสิบโท นาธาน แชปแมน ที่ถูกสังหารเมื่อวันที่ 2 มกราคม ค.ศ. 2002[8][9][10]
กองรบพิเศษที่ 1 ในจังหวัดโอกินาวะเป็นหนึ่งในสองกองกำลังปฏิบัติการพิเศษ/กองกำลังรักษาความมั่นคง (SAF) ที่ได้รับการสถาปนาอยู่รอบ ๆ กองรบพิเศษ ส่วนอีกกองกำลังได้รับการสถาปนาอยู่รอบ ๆ กองรบพิเศษที่ 8 ประเทศปานามา ทั้งนี้ กองกำลังปฏิบัติการพิเศษ/กองกำลังรักษาความมั่นคงทวีปเอเชีย[11] ซึ่งจากกองที่ 1 สามารถจัดกองกำลังสำหรับภารกิจในขอบแปซิฟิกได้ตลอดเวลา โดยในช่วงสงครามเวียดนาม ได้ส่งทีมไปเวียดนามเพื่อปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวหกเดือน นอกจากนี้ ยังดำเนินการศูนย์ฝึกการรบค่ายฮาร์ดีในพื้นที่ฝึกตอนเหนือของโอกินาวะเพื่อฝึกหน่วยรบพิเศษ, เนวีซีล และนาวิกโยธินสหรัฐที่กรีธาพลไปยังเวียดนาม ตลอดจนได้รับรางวัลหน่วยกิตติมศักดิ์จากผลงานในช่วง ค.ศ. 1973[12]
หลังจากสงครามในประเทศเวียดนามใต้และการถอนกำลังทหารอเมริกันในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความสำคัญของปฏิบัติการทางทหารได้เปลี่ยนไปจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และมุ่งเน้นไปที่ทวีปยุโรปและพันธมิตรเนโทมากขึ้น กองรบพิเศษซึ่งเติบโตเป็นทั้งหมดเจ็ดกองใน ค.ศ. 1963 ต้องเผชิญกับการลดลงอย่างรุนแรงในกองทัพ เป็นผลให้กองที่ 1 ถูกยกเลิก ณ วันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ. 1974 ที่ค่ายแบรกก์ รัฐนอร์ทแคโรไลนา หลังจากหยุดพักไป 10 ปี ความต้องการกองกำลังการสงครามนอกแบบของเอเชียได้รับการยอมรับ และกองร้อยแอลฟา กองพันที่ 1 ก็ได้รับการฟื้นฟูที่ค่ายแบรกก์ในวันที่ 15 มีนาคม ค.ศ. 1984 กองร้อยนี้และกองพันที่ 1 ส่วนที่เหลือได้รวมตัวกัน และส่งไปประจำการที่สถานีโทรี จังหวัดโอกินาวะ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน ค.ศ. 1984 ส่วนกองพันที่ 2 และ 3 พร้อมด้วยกองบัญชาการและกองร้อยบริการได้รับการฟื้นฟูอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 4 กันยายน ค.ศ. 1984 ที่ค่ายลูวิส รัฐวอชิงตัน[13]
แล้วมีการรื้อฟื้นโดยเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตโดยรวมในการสนับสนุนความพยายามเชิงกลยุทธ์ของสหรัฐในทวีปเอเชีย หน่วยนี้มุ่งเน้นไปที่พื้นที่ปฏิบัติการของหน่วยบัญชาการแปซิฟิก แต่ได้กรีธาพลนอกทวีปเอเชียเป็นประจำเพื่อสนับสนุนผู้บังคับบัญชารวมกันทั่วโลก สมาชิกหน่วยสนับสนุนการรักษาความมั่นคงเขตสงครามภายในพื้นที่ปฏิบัติการหน่วยบัญชาการแปซิฟิก, ปฏิบัติการฉุกเฉินประเทศเฮติ, เอเชียกลาง และบอสเนีย โดยชุดปฏิบัติการ "แอลฟา" ได้กรีธาพลสู่ประเทศเฮติเพื่อปฏิบัติภารกิจของทีมสนับสนุนแนวร่วมเมื่อ ค.ศ. 1993–1994 เพื่อสนับสนุนกองกำลังเฉพาะกิจร่วม 190 แห่งสหรัฐ และปฏิบัติการกองกำลังผสมนานาชาติที่สนับสนุนปฏิบัติการสนับสนุนประชาธิปไตย ทั้งนี้ หน่วยรบพิเศษกองทัพบกสหรัฐเพิ่มเติมได้ดำเนินการปฏิบัติการศูนย์ระหว่างประเทศเพื่อการเก็บกู้ทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมแห่งนครเจนีวาในประเทศลาว, ไทย, กัมพูชา และเวียดนาม โดยได้รับเหรียญราชการด้านมนุษยธรรมจากความพยายามของพวกเขาทั้งในประเทศลาวและไทย นอกจากนั้น หน่วยย่อยจากกองรบพิเศษที่ 1 (ส่งทางอากาศ) ดำเนินการฝึกร่วมกับหน่วยทหารจากรัฐที่ตั้งขึ้นใหม่จากอดีตสหภาพโซเวียตที่สนับสนุนการพัฒนากองพันเอเชียกลาง (CENTRASBAT) ซึ่งเป็นกองกำลังรักษาสันติภาพระดับภูมิภาคในช่วงกลางคริสต์ทศวรรษ 1990[14] เมื่อสิ้นสุดสหัสวรรษ ทหารกองรบพิเศษที่ 1 (ส่งทางอากาศ) ได้เข้าประจำการในกองกำลังรักษาเสถียรภาพในประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา[ต้องการอ้างอิง]
หลังจากวินาศกรรม 11 กันยายน สมาชิกของกองรบพิเศษที่ 1 (ส่งทางอากาศ) ได้กรีธาพลไปสนับสนุนปฏิบัติการเสรีภาพยั่งยืนที่ประเทศอัฟกานิสถาน และหมุนเวียนกองพันสู่ประเทศฟิลิปปินส์อย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2002 หน่วยของกองรบพิเศษที่ 1 (ส่งทางอากาศ) ได้กรีธาพลสู่การสงครามนอกแบบในภาคใต้ของฟิลิปปินส์ และร่วมกับกองทัพฟิลิปปินส์ (AFP) เพื่อช่วยเหลือรัฐบาลฟิลิปปินส์ (GOP)[15]
ในอีกสามปีข้างหน้า สมาชิกกองรบพิเศษที่ 1 (ส่งทางอากาศ) ได้สร้างประวัติที่น่าชื่นชมในฟิลิปปินส์ในการฝึกกองพันทหารราบเบาหกกองพีน, สามกองร้อยตอบโต้เร็วจากกองทัพฟิลิปปินส์ (AFP), เยียวยาชาวฟิลิปปินส์กว่า 31,000 คนในปฏิบัติการช่วยเหลือทางการแพทย์, ช่วยให้กองทัพฟิลิปปินส์มีความเป็นมืออาชีพ รวมถึงจัดหาทีมปฏิบัติการและหน่วยข่าวกรองเพื่อช่วยเหลือกองทัพฟิลิปปินส์ในการกำหนดเป้าหมายกลุ่มก่อการร้าย ตลอด ค.ศ. 2003–2004 กองรบพิเศษที่ 1 (ส่งทางอากาศ) ได้ส่งทหารจำนวนมากเพื่อสนับสนุนปฏิบัติการเสรีภาพอิรักและปฏิบัติการเสรีภาพยั่งยืน ในประเทศอิรักและประเทศอัฟกานิสถานตามลำดับ ตลอดจนภายในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2004 หน่วยนี้ได้ส่งกองพันทั้งหมดไปยังประเทศประเทศอัฟกานิสถานในฐานะส่วนหนึ่งของหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษร่วม-อัฟกานิสถาน (CJSOTF-A)[16]
ปัจจุบันนี้ กองรบพิเศษที่ 1 (ส่งทางอากาศ) สนับสนุนสงครามต่อต้านการก่อการร้ายระดับโลกด้วยการปฏิบัติการในประเทศฟิลิปปินส์, อิรัก และอัฟกานิสถาน ตลอดจนรักษาความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงของสหรัฐ กับประเทศพันธมิตรทั่วแปซิฟิกจนถึง ค.ศ. 2021[17]
ก่อตั้งเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ค.ศ. 1942 ในกองทัพบกแห่งสหรัฐในฐานะกองร้อยที่ 2 กองพันที่ 1 กรมที่หนึ่ง ในนามเฟิสต์สเปเชียลเซอร์วิสฟอร์ซ ซึ่งเป็นหน่วยผสมระหว่างแคนาดา-อเมริกัน
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.