![cover image](https://wikiwandv2-19431.kxcdn.com/_next/image?url=https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/b/b7/I_Won%2527t_Cry_Daddy.jpg/640px-I_Won%2527t_Cry_Daddy.jpg&w=640&q=50)
ภาวะความเป็นชายเป็นพิษ
From Wikipedia, the free encyclopedia
แนวคิดเกี่ยวกับภาวะความเป็นชายเป็นพิษ (อังกฤษ: toxic masculinity) นั้นมีปรากฏใช้ในทางวิชาการและการพูดคุยในสื่อเกี่ยวกับความเป็นชายเพื่อสื่อถึงบรรทัดฐานทางวัฒนธรรมบางประการที่เกี่ยวข้องกับการส่งผลร้ายต่อสังคมและต่อผู้ชายเอง รูปเหมารวมดั้งเดิม (Traditional stereotypes) ของผู้ชายในฐานะผู้เป็นใหญ่ทางสังคม ควบคู่ไปกับลักษณะอื่น ๆ อย่าง ความรังเกียจสตรี และ ความรังเกียจคนรักร่วมเพศ สามารถถือได้ว่า "เป็นพิษ" (toxic) บางส่วนมาจากการสนับสนุนความรุนแรง เช่น การทำร้ายทางเพศ และ ความรุนแรงในครัวเรือน การเข้าสังคมของเด็กผู้ชายในสังคมชายเป็นใหญ่มักพบว่าทำให้ความรุนแรงเป็นเรื่องปกติ เช่นในกรณีของการกลั่นแกล้ง
![Thumb image](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/b/b7/I_Won%27t_Cry_Daddy.jpg/320px-I_Won%27t_Cry_Daddy.jpg)
ลักษณะความเป็นชายแบบดั้งเดิมอื่น ๆ เช่น ความทุ่มเทให้กับงาน, ความภูมิใจที่เก่งในกีฬาทุกแขนง และการเป็นเสาหลักครอบครัว ไม่ถือว่า "เป็นพิษ" แนวคิดความเป็นพิษนี้ดั้งเดิมเกี่ยวโยงกับการเคลื่อนไหวของผู้ชายกลุ่มตำนานและกวี เช่นเชเปิร์ด บลิสส์ (Shepherd Bliss) เพื่อให้แย้งกับลักษณะภาพเหมารวมของชายว่าต้องเป็นความเป็นชายที่ "จริง" (real) หรือ "ลุ่มลึก" (deep) อย่างไรก็ตามได้มีคำวิจารณ์ว่าแนวคิดนี้เป็นการสื่อโดยผิด ๆ ถึงปัญหาอันเกี่ยวโยงจากเพศนั้นเป็นสิ่งที่มีมาแต่กำเนิด[3]