มณฑลกุ้ยโจว
From Wikipedia, the free encyclopedia
มณฑลกุ้ยโจว (จีนตัวย่อ: 贵州省; จีนตัวเต็ม: 貴州省; พินอิน: Guìzhōu Shěng) หรือเดิมไทยเรียกว่า กุยจิว[5] เป็นมณฑลหนึ่งที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีน เมืองหลวงและเมืองใหญ่สุดของมณฑลคือ กุ้ยหยาง ตั้งอยู่ตอนกลางของมณฑล มณฑลกุ้ยโจวติดต่อกับเขตปกครองตนเองกว่างซีทางทิศใต้ ติดมณฑลยูนนานทางทิศตะวันตก ติดมณฑลเสฉวนทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ติดเทศบาลนครฉงชิ่งทางทิศเหนือ และมณฑลหูหนานทางทิศตะวันออก ประชากรของมณฑลมีประมาณ 34 ล้านคน เป็นมณฑลที่มีประชากรมากเป็นอันดับที่ 19 ของประเทศจีน
มณฑลกุ้ยโจว 贵州省 | |
---|---|
การถอดเสียงชื่อมณฑล | |
• ภาษาจีน | กุ้ยโจวเฉิ่ง (贵州省 Guìzhōu Shěng) |
• อักษรย่อ | GZ / เฉียน (黔 Qián) หรือ กุ้ย (贵 Guì) |
น้ำตกหฺวังกั่วชู่ น้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน | |
แผนที่แสดงที่ตั้งของมณฑลกุ้ยโจว | |
พิกัด: 26°50′N 106°50′E | |
ตั้งชื่อจาก | กุ้ย – ภูเขากุ้ย โจว – เขตการปกครองในประวัติศาสตร์จีน |
เมืองหลวง (และเมืองใหญ่สุด) | กุ้ยหยาง |
เขตการปกครอง | 9 จังหวัด, 88 อำเภอ, 1539 ตำบล |
การปกครอง | |
• เลขาธิการพรรค | ซุน จื้อกัง (孙志刚) |
• ผู้ว่าราชการ | เชิ่น อี้ฉิน (谌贻琴) |
พื้นที่[1] | |
• ทั้งหมด | 176,167 ตร.กม. (68,018 ตร.ไมล์) |
อันดับพื้นที่ | อันดับที่ 16 |
ความสูงจุดสูงสุด | 2,900 เมตร (9,500 ฟุต) |
ประชากร (ค.ศ. 2010)[2] | |
• ทั้งหมด | 34,746,468 คน |
• อันดับ | อันดับที่ 19 |
• ความหนาแน่น | 200 คน/ตร.กม. (510 คน/ตร.ไมล์) |
• อันดับความหนาแน่น | อันดับที่ 18 |
ประชากรศาสตร์ | |
• องค์ประกอบทางชาติพันธุ์ | ฮั่น - 62% ม้ง - 12% ปู้อี - 8% ต้ง - 5% ตูเจีย - 4% ยี่ - 2% Gelao - 2% สุย - 1% อื่น ๆ - 2% |
• ภาษาและภาษาถิ่น | ภาษาจีนกลางตะวันตกเฉียงใต้ |
รหัส ISO 3166 | CN-GZ |
GDP (ค.ศ. 2017 [3]) | 1.35 ล้านล้านเหรินหมินปี้ 200.55 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (อันดับที่ 25) |
• ต่อหัว | 37,956 เหรินหมินปี้ 5,622 ดอลลาร์สหรัฐ (อันดับที่ 29) |
HDI (ค.ศ. 2018) | 0.680[4] ปานกลาง · อันดับที่ 29 |
เว็บไซต์ | http://www.gzgov.gov.cn (อักษรจีนตัวย่อ) |
พื้นที่ของมณฑลกุ้ยโจวเดิมเป็นที่ตั้งของอาณาจักรเตียน โดยต่อมาอาณาจักรเตียนได้ถูกผนวกเข้ากับแผ่นดินราชวงศ์ฮั่นเมื่อ 106 ปีก่อนคริสตกาล[6] มณฑลกุ้ยโจวได้ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี ค.ศ. 1413 ในสมัยราชวงศ์หมิง หลังจากการโค่นล้มราชวงศ์ชิงในปี ค.ศ. 1911 และมาตามด้วยการเกิดสงครามกลางเมืองจีน พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนได้เข้าลี้ภัยในมณฑลกุ้ยโจวระหว่างการเดินทัพทางไกลในช่วงปี ค.ศ. 1934 และ 1935[7] และหลังจากการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน เหมา เจ๋อตงได้ส่งเสริมการย้ายอุตสาหกรรมหนักเข้ามายังมณฑลภายในประเทศดังเช่นมณฑลกุ้ยโจว เพื่อป้องกันการโจมตีจากโซเวียตและอเมริกา
เมื่อเทียบกับมณฑลอื่น ๆ ในประเทศจีน มณฑลกุ้ยโจวไม่ได้รับประโยชน์มากนักจากการปฏิรูปเศรษฐกิจจีน มณฑลกุ้ยโจวอุดมไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติและทางวัฒนธรรม อุตสาหกรรมที่เป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจในมณฑล ได้แก่ อุตสาหกรรมป่าไม้ อุตสาหกรรมพลังงาน และการทำเหมืองแร่ แต่ถึงกระนั้น มณฑลกุ้ยโจวก็ยังถือว่าเป็นมณฑลที่ค่อนข้างยากจนและเศรษฐกิจยังไม่พัฒนา โดยมีจีดีพีต่อหัวต่ำเป็นอันดับสามในประเทศจีน นำหน้าเพียงมณฑลกานซู และมณฑลยูนนานที่ตั้งอยู่ติดกัน อย่างไรก็ตาม มณฑลกุ้ยโจวนั้นเป็นหนึ่งในมณฑลที่เศรษฐกิจเติบโตเร็วที่สุดในประเทศจีน[8] โดยรัฐบาลจีนกำลังมุ่งพัฒนากุ้ยโจวเพื่อให้เป็นศูนย์กลางด้านข้อมูล (data hub)[9][10]
มณฑลกุ้ยโจวตั้งอยู่บนส่วนตะวันออกของที่ราบสูงยฺหวินกุ้ย มีลักษณะภูมิประเทศเต็มไปด้วยภูเขา โดยทางตะวันตกและตอนกลางเป็นที่สูง ในด้านประชากรศาสตร์ กุ้ยโจวเป็นหนึ่งในมณฑลที่มีความหลากหลายมากที่สุดในประเทศจีน โดยมีประชากรชนกลุ่มน้อยมากกว่าร้อยละ 37 ของประชากรทั้งหมด ประกอบด้วย ม้ง, ปู้อี, ต้ง, ตูเจีย และ Yi ซึ่งพูดภาษาที่แตกต่างจากภาษาจีน ภาษาหลักที่ใช้พูดในมณฑลกุ้ยโจว คือ ภาษาจีนกลางตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นภาษาถิ่นหนึ่งของภาษาจีนกลาง