มหาศึกชิงบัลลังก์ (ภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์)
From Wikipedia, the free encyclopedia
มหาศึกชิงบัลลังก์ (อังกฤษ: Game of Thrones) เป็นภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์แนวแฟนตาซีย้อนยุคของสถานีโทรทัศน์เอชบีโอ สร้างสรรค์โดยเดวิด เบนิออฟฟ์ และดี. บี. ไวส์ ดัดแปลงจากชุดหนังสือนิยายขายดีของจอร์จ อาร์. อาร์. มาร์ติน ชุด มหาศึกชิงบัลลังก์ เรื่อง เกมล่าบัลลังก์ มีการถ่ายทำทั้งในเบลฟาสต์และที่อื่น ๆ ในสหราชอาณาจักร แคนาดา โครเอเชีย ไอซ์แลนด์ มอลตา โมร็อกโก สเปนและสหรัฐอเมริกา ฉายครั้งแรกทางช่อง HBO ในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2554 จนถึง 2562 [1]
มหาศึกชิงบัลลังก์ | |
---|---|
ประเภท |
|
สร้างโดย |
|
เค้าโครงจาก | มหาศึกชิงบัลลังก์ โดย จอร์จ อาร์. อาร์. มาร์ติน |
แสดงนำ | see List of Game of Thrones characters |
ผู้ประพันธ์ดนตรีแก่นเรื่อง | Ramin Djawadi |
ดนตรีแก่นเรื่องเปิด | "Main Title" |
ผู้ประพันธ์เพลง | Ramin Djawadi |
ประเทศแหล่งกำเนิด | สหรัฐอเมริกา |
ภาษาต้นฉบับ | อังกฤษ |
จำนวนฤดูกาล | 8 |
จำนวนตอน | 73 |
การผลิต | |
ผู้อำนวยการผลิต |
|
สถานที่ถ่ายทำ |
|
ความยาวตอน | 50–82 นาที |
บริษัทผู้ผลิต |
|
ออกอากาศ | |
เครือข่าย | เอชบีโอ |
ออกอากาศ | 17 เมษายน ค.ศ. 2011 (2011-04-17) – 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2019 (2019-05-19) |
การแสดงที่เกี่ยวข้อง | |
After the Thrones Thronecast |
ภาพยนตร์ชุดเรื่องนี้เล่าเรื่องราวของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในดินแดนสมมติคือทวีปเวสเทรอสและเอสซอส ซึ่งเกิดเรื่องราวหลากหลายและมีตัวละครมากมาย โดยมีเรื่องราวหลักอยู่ 3 เส้นเรื่อง เส้นเรื่องแรกเป็นเรื่องราวของการชิงบัลลังก์เหล็กแห่งเจ็ดอาณาจักร ซึ่งมีโยงใยของพันธมิตรและความเป็นศัตรูกันระหว่างตระกูลขุนนางต่างๆ ซึ่งบ้างก็ต่อสู้กันเพื่อแย่งบัลลังก์ หรือต่อสู้เพื่ออิสระจากบัลลังก์ เส้นเรื่องที่สองคือเรื่องราวของทายาทคนสุดท้ายของตระกูลกษัตริย์ที่ถูกชิงบัลลังก์ไป ซึ่งถูกขับไล่ออกจากอาณาจักรและวางแผนที่จะกลับมาชิงบัลลังก์คืน และเส้นเรื่องที่สามเป็นเรื่องราวของกลุ่มพันธมิตรที่มีหน้าที่ปกป้องอาณาจักรจากภัยคุกคามจากโบราณกาล ทั้งภัยจากมนุษย์ที่โหดร้าย ภัยจากสัตว์ในตำนานที่อยู่ในแดนเหนืออันห่างไกล และภัยจากฤดูหนาวอันยาวนานที่กำลังจะปกคลุมอาณาจักรทั้งหมด
มหาศึกชิงบัลลังก์ ประสบความสำเร็จอย่างมากและกลายเป็นรายการโทรทัศน์ที่ทำให้มียอดผู้ชมสถานีโทรทัศน์เอชบีโอสูงมากเป็นประวัติการณ์ และเกิดมีชุมชนของกลุ่มผู้ชื่นชอบเป็นจำนวนมากในหลายประเทศ ได้รับการชื่นชมจากนักวิจารณ์โดยเฉพาะในด้านการแสดง ความซับซ้อนของตัวละคร เนื้อเรื่อง ขอบเขตของเรื่อง และการผลิตที่มีคุณภาพสูง แต่ก็ถูกวิจารณ์เรื่องความรุนแรงและฉากที่สื่อทางเพศอย่างโจ่งแจ้ง นอกจากนี้ยังได้รับรางวัล Primetime Emmy Awards 38 รางวัล รวมถึงรางวัล Outstanding Drama Series ใน ค.ศ. 2015 และ ค.ศ. 2016 ซึ่งถือเป็นสถิติรับรางวัลมากที่สุดในบรรดาภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์ที่ออกฉายในช่วงไพรม์ไทม์ ไม่นับรายการสด รางวัลอื่นๆ ที่ได้รับ ได้แก่ รางวัล Hugo สาขา Best Dramatic Presentation (2012-2014), รางวัล Peabody Award ปี 2011 และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Golden Globe Award สาขา Best Television Series - Drama (ปี 2012 และ 2015-2018)