มิสเตอร์บีน
From Wikipedia, the free encyclopedia
มิสเตอร์ บีน (อังกฤษ: Mr. Bean) เป็นซิตคอมของสหราชอาณาจักรสร้างโดย โรวัน แอตคินสันและริชาร์ด เคอร์ติส ผลิตโดย ไทเกอร์แอสเปกต์ แสดงนำโดย แอตคินสัน เป็น ตัวละครตามชื่อเรื่อง ซิทคอมประกอบด้วย 15 ตอน เขียนบทโดยแอตคินสันร่วมกับ เคอร์ติสและ โรบิน ดริสคอลล์ สำหรับตอนนำร่อง เขียนบทร่วมกันกับ เบน เอลตัน ซิทคอมออกอากาศตอนแรกทางช่อง ไอทีวี เมื่อวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1990[1] และออกอากาศตอนจบ "เดอะเบสต์บิตส์ออฟมิสเตอร์ บีน" เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 1995
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
มิสเตอร์บีน | |
---|---|
ชื่อเรื่องในตอน | |
ประเภท | ซิตคอม |
สร้างโดย |
|
เขียนโดย |
|
กำกับโดย |
|
แสดงนำ | โรวัน แอตคินสัน |
ผู้ประพันธ์เพลง | ฮาวเวิร์ด กูดดอลล์ |
ประเทศแหล่งกำเนิด | สหราชอาณาจักร |
ภาษาต้นฉบับ | อังกฤษ |
จำนวนตอน | 15 (รายชื่อตอน) |
การผลิต | |
ผู้อำนวยการผลิต | ปีเตอร์ เบนเน็ตต์-โจนส์ |
ผู้อำนวยการสร้าง |
|
ความยาวตอน | 24–26 นาที |
บริษัทผู้ผลิต | ไทเกอร์แอสเปกต์โปรดักชันส์[lower-alpha 1] |
ออกอากาศ | |
เครือข่าย | ไอทีวี:
|
ออกอากาศ | 1 มกราคม ค.ศ. 1990 (1990-01-01)[1] – 15 ธันวาคม ค.ศ. 1995 (1995-12-15) |
การแสดงที่เกี่ยวข้อง | |
บีน เดอะมูฟวี่ |
มิสเตอร์ บีน เป็นตัวละครที่แอตคินสันพัฒนาขึ้นครั้งแรกในขณะที่เขากำลังศึกษาระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด แอตคินสันอธิบายว่าเป็น "เด็กในร่างของผู้ชายที่โตแล้ว" ในขณะที่เขาแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่นำเสนอโดยงานประจำวันและมักจะทำให้เกิดการหยุดชะงักในกระบวนการ[2] ละครชุดได้รับอิทธิพลจากนักแสดงแนวตลกกายภาพ เช่น แจก ทาติ และนักแสดงในช่วงต้นของยุคภาพยนตร์เงียบ[2]
มิสเตอร์ บีน ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางและดึงดูดผู้ชมโทรทัศน์จำนวนมากในช่วงการออกอากาศในห้าปีแรก โดยเฉพาะตอน "เดอะทรอเบิลวิทมิสเตอร์ บีน" มีผู้ชมจำนวน 18.74 ล้านคน[3] และได้รับรางวัลระดับนานาชาติมากมาย รวมทั้ง รางวัลกุหลาบทองคำ ละครชุดได้วางจำหน่ายไปแล้วใน 245 ดินแดนทั่วโลก เป็นแรงบันดาลใจให้กับแอนิเมชันชุดและภาพยนตร์สองเรื่อง แอตคินสันกลับมารับบทเดิมเป็น มิสเตอร์ บีน สำหรับการแสดงใน พิธีเปิดโอลิมปิกฤดูร้อน 2012 ที่ลอนดอน, โฆษณาทางโทรทัศน์และละครสั้นหลายชุดให้กับ คอมิกรีลีฟ รายการมีความน่าดึงดูดใจอย่างมากในหลายร้อยพื้นที่ทั่วโลก เพราะนอกจากจะได้รับการยกย่องตั้งแต่การออกอากาศเดิมแล้ว ยังใช้บทสนทนาที่เข้าใจได้น้อยมาก ทำให้ผู้ที่รู้ภาษาอังกฤษเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยสามารถเข้าถึงรายการนี้ได้