ยุทธการที่เดียนเบียนฟู
From Wikipedia, the free encyclopedia
ยุทธการที่เดียนเบียนฟู (ฝรั่งเศส: Bataille de Diên Biên Phu; เวียดนาม: Chiến dịch Điện Biên Phủ) เป็นการเผชิญหน้าครั้งสำคัญสุดยอดในสงครามอินโดจีนครั้งที่หนึ่ง ระหว่างกองทัพรบนอกประเทศภาคพื้นตะวันออกไกลของสหภาพฝรั่งเศสและนักปฏิวัติคอมมิวนิสต์-ชาตินิยมเวียดมินห์ ยุทธการนี้เกิดขึ้นระหว่างเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม ค.ศ. 1954 และสิ้นสุดลงด้วยความพ่ายแพ้อย่างกว้างขวางของฝรั่งเศสซึ่งส่งอิทธิพลต่อการเจรจาเหนืออนาคตของคาบสมุทรอินโดจีนที่นครเจนีวา นักประวัติศาสตร์การทหาร มาร์ติน วินโดรว์ เขียนว่า เดียนเบียนฟูเป็น "ครั้งแรกซึ่งขบวนการเรียกร้องเอกราชอาณานิคมวิวัฒนาผ่านทุกขั้นตอนจากกองโจรไปเป็นกองทัพซึ่งจัดระเบียบและติดอาวุธตามแบบจนสามารถเอาชนะเจ้าอาณานิคมตะวันตกสมัยใหม่ในการรบแบบที่ตั้งมั่น (pitched battle)"[17]
ยุทธการที่เดียนเบียนฟู | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ สงครามอินโดจีนครั้งที่หนึ่ง | |||||||
พลร่มฝรั่งเศสกำลังกระโดดร่มลงจากเครื่องบินลำเลียง ซี-119 ฟลายอิงบอกซ์คาร์ | |||||||
| |||||||
คู่สงคราม | |||||||
สนับสนุนโดย: สหรัฐ |
สนับสนุนโดย: จีน[3] สหภาพโซเวียต | ||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||
Henri Eugène Navarre Jules Gaucher † ปีแยร์ ล็องแกล André Lalande Charles Piroth † |
โฮจิมินห์ หวอ เงวียน ซ้าป Hoàng Văn Thái Lê Liêm Đặng Kim Giang Lê Trọng Tấn Vương Thừa Vũ Hoàng Minh Thảo Lê Quảng Ba | ||||||
กำลัง | |||||||
13 มีนาคม: ~10,800 นาย;[4] กำลังหน่วยรบ ~9,000 นาย กำลังพลสนับสนุนการส่งกำลังบำรุง ~1,800 นาย รถถัง 10 คัน 7 พฤษภาคม: ~14,000 นาย; กำลังหน่วยรบ ~12,000 นาย ฝ่ายโลจิสติกส์และสนับสนุน ~2,000 นาย อากาศยานขนส่ง 37 ลำ[5] อากาศยาน ~600 ลำ |
13 มีนาคม: กำลังหน่วยรบ ~49,500 นาย กำลังพลสนับสนุนการส่งกำลังบำรุง ~15,000 นาย[6] 7 พฤษภาคม: กำลังหน่วยรบ ~80,000 นาย (รวมกำลังพลสนับสนุนการส่งกำลังบำรุง) | ||||||
ความสูญเสีย | |||||||
เสียชีวิต 1,571[7]–2,293 นาย[8] หายไป 1,729 นาย[9] ถูกจับกุม 11,721 นาย (ในจำนวนนี้บาดเจ็บ 4,436 นาย)[10] อากาศยาน 62 ลำ[11] และเสียรถถัง 10 คัน อากาศยานเสียหาย 167 ลำ[12] เสียชีวิต 2 นาย[5] |
จำนวนประมาณการของนักประวัติศาสตร์ตะวันตก: เสียชีวิต 8,000 นาย บาดเจ็บ 15,000 นาย[13] ตัวเลขของเวียดนาม: 13,930 นาย[14] จำนวนประมาณการของนักประวัติศาสตร์เอเชีย: 23,000[15]-25,000 นาย[16] | ||||||
ผลจากความผิดพลาดในกระบวนการตัดสินใจของฝรั่งเศส ทำให้ฝรั่งเศสเริ่มปฏิบัติการเพื่อสนับสนุนทหารของตนที่เดียนเบียนฟู ลึกเข้าไปในหุบเขาทางตะวันตกเฉียงเหนือของเวียดนาม จุดประสงค์ของปฏิบัติการนี้เพื่อตัดเส้นทางเสบียงของเวียดมินห์ที่เข้าสู่ราชอาณาจักรลาวซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านและพันธมิตรของฝรั่งเศส และเพื่อดึงให้เวียดมินห์มาเผชิญหน้าครั้งสำคัญที่จะทำลายศักยภาพของเวียดมินห์ในทางยุทธวิธี อย่างไรก็ดี เวียดมินห์ ภายใต้การบังคับบัญชาของพลเอก หวอ เงวียน ซ้าป ได้ปิดล้อมฝรั่งเศส โดยที่ฝรั่งเศสไม่ทราบมาก่อนว่าเวียดมินห์มีปืนใหญ่หนัก รวมทั้งปืนต่อสู้อากาศยานอยู่ในครอบครอง ตลอดจนความสามารถของเวียดมินห์ในการเคลื่อนย้ายอาวุธดังกล่าวผ่านภูมิประเทศทุรกันดารยิ่งมายังยอดเขาที่มองไปเห็นที่มั่นของฝรั่งเศส เวียดมินห์ได้ยึดครองที่สูงรอบเดียนเบียนฟูและยิงปืนใหญ่ถล่มที่มั่นของฝรั่งเศส ได้เกิดการรบภาคพื้นดินอย่างยืนหยัดขึ้นตามมา ซึ่งคล้ายกับการสงครามสนามเพลาะในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ทหารฝรั่งเศสได้ขับไล่การโจมตีที่มั่นของฝ่ายเวียดมินห์หลายครั้ง เสบียงและกำลังหนุนถูกส่งเข้ามาทางอากาศ แต่ก็ถูกขัดขวาง เพราะที่ตั้งฝรั่งเศสถูกยึดและได้รับความสูญเสียจากปืนต่อสู้อากาศยาน ทำให้มีเสบียงไปถึงทหารน้อยลงทุกขณะ หลังจากการล้อมนานสองเดือน ที่มั่นของฝรั่งเศสได้ถูกยึดและกำลังฝรั่งเศสส่วนใหญ่ยอมจำนน มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่สามารถหลบหนีไปยังประเทศลาวได้ รัฐบาลฝรั่งเศสลาออกและนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ปีแยร์ ม็องแด็ส-ฟร็องส์ ฝ่ายซ้ายกลาง สนับสนุนการถอนทหารฝรั่งเศสออกจากอินโดจีน
ไม่นานหลังจากยุทธการนี้ สงครามอินโดจีนยุติลงด้วยสนธิสัญญาสันติภาพเจนีวา ซึ่งภายใต้สนธิสัญญาฝรั่งเศสยินยอมสละอดีตอาณานิคมทั้งหมด สำหรับทางเหนือ ฝรั่งเศสรับรองอำนาจของโฮจิมินห์ แต่สำหรับทางใต้ จะมีการจัดการเลือกตั้งเพื่อกำหนดอนาคต แต่การเลือกตั้งไม่เคยเกิดขึ้นจริง เพราะสหรัฐอเมริกายกเลิกไป[18] ข้อตกลงนี้แบ่งประเทศเวียดนามออกเป็นสองประเทศ ภายหลังได้เกิดการสู้รบระหว่างกลุ่มแยกเวียดนามที่เป็นปรปักษ์กันใน ค.ศ. 1959 จนนำไปสู่สงครามเวียดนาม (หรือสงครามอินโดจีนครั้งที่สอง)