Loading AI tools
พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร (ประสูติ: 29 เมษายน พ.ศ. 2548) เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่ ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดี (ขณะดำรงพระอิสริยยศเป็นพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณฯ สยามมกุฎราชกุมาร) ตามลำดับการสืบราชสันตติวงศ์ไทยที่บัญญัติไว้ในกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พระพุทธศักราช 2467 พระองค์จึงทรงดำรงฐานะเป็นพระรัชทายาทโดยสันนิษฐาน[1]
การแก้ไขบทความนี้ของผู้ใช้ใหม่หรือผู้ใช้ไม่ลงทะเบียนถูกปิดใช้งาน ดูนโยบายการป้องกันและปูมการป้องกันสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม หากคุณไม่สามารถแก้ไขบทความนี้และคุณประสงค์เปลี่ยนแปลง คุณสามารถส่งคำขอแก้ไข อภิปรายการเปลี่ยนแปลงทางหน้าคุย ขอเลิกป้องกัน ล็อกอิน หรือสร้างบัญชี |
สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ | |
---|---|
เจ้าฟ้าชั้นเอก | |
ประสูติ | 29 เมษายน พ.ศ. 2548 โรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย |
ราชวงศ์ | จักรี |
ราชสกุล | มหิดล |
พระบิดา | พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว |
พระมารดา | ศรีรัศมิ์ สุวะดี |
ศาสนา | พุทธเถรวาท |
ลายพระอภิไธย |
สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ประสูติเมื่อวันศุกร์ แรม 6 ค่ำ เดือน 5 ปีระกา สัปตศก จ.ศ. 1367 ตรงกับวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2548 เวลา 18.35 น. ณ โรงพยาบาลศิริราช เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดี ขณะดำรงพระอิสริยยศเป็น พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร พระองค์มีพระเชษฐภคินีต่างพระมารดา 2 พระองค์ คือ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา มีพระอิสริยยศเมื่อแรกประสูติเป็น พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ
คณะแพทย์ถวายพระประสูติโดยการผ่าตัด เมื่อแรกประสูติ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติทรงมีน้ำหนัก 2,680 กรัม ความยาวพระองค์ 47 เซนติเมตร รอบพระเศียร 31 เซนติเมตร ลืมพระเนตรเวลา 19.00 น. มีพระพลานามัยสมบูรณ์ แข็งแรง พระเนตรโต พระนาสิกโด่ง[2]
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระราชหัตถเลขาเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2548 ให้ขนานพระนามว่า "พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ" หมายถึง "ผู้ทำประทีปคือปัญญาให้สว่างกระจ่างแจ้ง, ผู้ทำเกาะคือที่พึ่งให้รุ่งเรืองโชติช่วง" และพระราชทานเสมาอักษรพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. ทองคำ
ต่อมาเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เขียนพระนามของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เป็นภาษาอังกฤษ ว่า His Royal Highness Prince Dipangkorn Rasmijoti[3]
เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2548 ได้มีพระราชพิธีสมโภชเดือนและขึ้นพระอู่ตามพระราชประเพณีในพระที่นั่งอนันตสมาคม เมื่อพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ มีพระชนมายุครบ 1 เดือน
นอกจากนี้ ในวาระที่พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ทรงเจริญพระชันษาครบ 1 ปี ในวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2549 กรมธนารักษ์จัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ชนิดราคา 50 บาท ทำด้วยทองแดงผสมนิกเกิล น้ำหนัก 21 กรัม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 36 มิลลิเมตร จำนวนผลิตไม่เกิน 500,000 เหรียญ ลวดลายด้านหน้ากลางเหรียญมีพระรูป พระเจ้าหลานเธอฯ ผินพระพักตร์ทางเบื้องซ้าย ภายในวงขอบเหรียญด้านขวามีข้อความว่า "พระองค์เจ้า" ด้านซ้ายมีข้อความว่า "ทีปังกรรัศมีโชติ" ด้านหลังกลางเหรียญมีข้อความว่า "พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ทรงเจริญพระชันษา 1 ปี 29 เมษายน 2549 50 บาท" ภายในวงขอบเหรียญด้านขวา มีรูปลูกไก่ยืนอยู่บนหัวเม็ดทรงมัณฑ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งสำหรับม้วนเก็บแผ่นจารึก เบื้องล่างมีข้อความว่า "ประเทศไทย"
สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร เริ่มต้นการศึกษาที่โรงเรียนจิตรลดาในพระราชวังดุสิต ก่อนเสด็จไปทรงศึกษาต่อต่างประเทศที่โรงเรียนนานาชาติบาวาเรีย (BIS) ในบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ (กันยายน 2024) |
วันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2551 พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เสด็จไปยังห้องสมุดฝ่ายประถมศึกษาโรงเรียนจิตรลดา เพื่อร่วมกิจกรรมงานสัปดาห์รักการอ่าน[4]
วันที่ 2 ตุลาคม ปีเดียวกันนั้น พระองค์ก็ได้รับเกียรติบัตรพร้อมรางวัล "งานประหยัดน้ำ-ไฟ" ที่จัดขึ้นประจำในโรงเรียนจิตรลดา ด้วยพระองค์ปฏิบัติอยู่เป็นประจำ และเป็นแบบอย่างที่ดีต่อพระสหาย[5]
วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ได้เสด็จไปยังสนามกีฬากลาง พื้นที่ควบคุมในพระองค์ 904 เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ในการประทานถ้วยรางวัลพระราชทานและถ้วยรางวัลประทานแก่ทีมที่ชนะเลิศการแข่งขันเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับประเภทต่าง ๆ ในรายการ "หนูน้อยเจ้าเวหา"[6][7]
ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ทรงร่วมทำกิจกรรมจิตอาสา "เราทำความดี ด้วยหัวใจ" โดยทรงทำความสะอาดภายในสุสานหลวงและวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร รวมทั้งประทานน้ำดื่ม อาหาร และพิมเสนน้ำแก่พสกนิกรที่มาร่วมในพระราชพิธีฯ ณ บริเวณศาลหลักเมืองอีกด้วย[8]
สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ทรงประกอบพระกรณียกิจตามรอยเบื้องพระยุคลบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการทำนุบำรุงพระศาสนาทุกครั้งที่เสด็จกลับประเทศไทย สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร จะเสด็จไปทรงบำเพ็ญพระกุศลและทรงสนทนาธรรมกับพระเถระชั้นผู้ใหญ่อยู่เสมอ ดังเช่น เสด็จไปถวายสักการะเจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร ในการนี้ ทรงบำเพ็ญพระกุศลถวายจตุปัจจัยไทยธรรม ทรงสนทนาธรรม และทรงสดับพระโอวาทที่เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช ทรงรับพระราชทานถวายแม้ในคราว สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินยังต่างจังหวัด โอกาสนี้ เสด็จไปยังสถานพำนักสงฆ์บ้านไร่ทอสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อทรงบำเพ็ญพระกุศล และทรงสนทนาธรรมกับพระธรรมพัชรญาณมุนี เป็นการส่วนพระองค์ ซึ่งพระกรณียกิจนี้เป็นที่ประจักษ์แก่พสกนิกรมาโดยตลอด
พงศาวลีของสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.