สแตนลีย์ บอลดวิน
From Wikipedia, the free encyclopedia
สแตนลีย์ บอลดวิน เอิร์ลบอลดวินแห่งบิวดลีย์ (อังกฤษ: Stanley Baldwin, 1st Earl Baldwin of Bewdley) เป็นนักการเมืองชาวอังกฤษจากพรรคอนุรักษนิยม เขาทำงานในรัฐบาลอังกฤษคาบเกี่ยวในช่วงเวลาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่หนึ่งและสงครามโลกครั้งที่สอง และได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีถึงสามครั้ง และเป็นนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวที่ดำรงตำแหน่งในสามรัชกาล (พระเจ้าจอร์จที่ 5, พระเจ้าเอดเวิร์ดที่ 8 และ พระเจ้าจอร์จที่ 6)
เอิร์ลบอลดวินแห่งบิวดลีย์ | |
---|---|
นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร | |
ดำรงตำแหน่ง 7 มิถุนายน 1935 – 28 พฤษภาคม 1937 | |
กษัตริย์ | พระเจ้าจอร์จที่ 5 พระเจ้าเอดเวิร์ดที่ 8 พระเจ้าจอร์จที่ 6 |
ก่อนหน้า | แรมเซย์ แมคโดนัล |
ถัดไป | เนวิล เชมเบอร์ลิน |
ดำรงตำแหน่ง 4 พฤศจิกายน 1924 – 5 มิถุนายน 1929 | |
กษัตริย์ | พระเจ้าจอร์จที่ 5 |
ก่อนหน้า | แรมเซย์ แมคโดนัล |
ถัดไป | แรมเซย์ แมคโดนัล |
ดำรงตำแหน่ง 23 พฤษภาคม 1923 – 16 มกราคม 1924 | |
กษัตริย์ | พระเจ้าจอร์จที่ 5 |
ก่อนหน้า | แอนดริว บอนาร์ ลอว์ |
ถัดไป | แรมเซย์ แมคโดนัล |
หัวหน้าพรรคอนุรักษนิยม | |
ดำรงตำแหน่ง 22 พฤษภาคม 1923 – 28 พฤษภาคม 1937 | |
ก่อนหน้า | แอนดริว บอนาร์ ลอว์ |
ถัดไป | เนวิล เชมเบอร์ลิน |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 3 สิงหาคม ค.ศ. 1867(1867-08-03) บิวดลีย์ สหราชอาณาจักร |
เสียชีวิต | 14 ธันวาคม ค.ศ. 1947(1947-12-14) (80 ปี) สตูร์พอร์ทออนเซเวิร์น สหราชอาณาจักร |
ศาสนา | คริสตจักรแห่งอังกฤษ |
พรรคการเมือง | อนุรักษนิยม |
ลายมือชื่อ | |
เขาเข้าเป็นสมาชิกสภาสามัญชนในค.ศ. 1908 ในฐานะผู้แทนราษฎรจากบิวดลีย์ ซึ่งบิดาของเขา อัลเฟรด บอลด์วิลด์ ก็เป็นอดีตผู้แทนจากเมืองนี้เช่นเดียวกันตั้งแต่ค.ศ. 1892 หลังบิดาถึงแก่กรรมในปีค.ศ. 1908 เขาก็ได้รับการเสนอชื่อจากสมาคมพรรคอนุรักษนิยมในท้องถิ่นให้เข้ารับเลือกตั้งต่อจากบิดา เขาทำงานทางการเมืองไปกระทั่งเกษียณตัวเองในปีค.ศ. 1937 หลังเกษียณตนเองได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น เอิร์ลบอลดวินแห่งบิวดลีย์
บอลดวินได้มีโอกาสเป็นรัฐมนตรีคลังในรัฐบาลของเดวิด ลอยด์ จอร์จ แต่ในปีค.ศ. 1922 เขาเป็นแกนนำในการผลักดันให้สมาชิกพรรคฯ เลิกการสนับสนุนลอยด์ จอร์จ ซึ่งต่อมาเขาได้เป็นรัฐมนตรีคลังในรัฐบาลของแอนดริว บอนาร์ ลอว์ จนกระทั่งลอว์ได้ลาออกเนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพในเดือนพฤษภาคม 1923 บอลดวินก็ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคอนุรักษนิยมต่อจากลอว์ อย่างไรก็ตาม จากข้อขัดแย้งภายในพรรคเรื่องประเด็นภาษีศุลกากร ก็ทำให้บอลดวินเสียเสียงข้างมากในสภาไป และทำให้แรมเซย์ แมคโดนัลจากพรรคแรงงานสามารถจัดตั้งรัฐบาลจากเสียงข้างน้อยได้ ในช่วงทศวรรษจากนี้ บอลดวินและแมคโดนัลถือเป็นสองคู่แข่งทางการเมืองในระดับประเทศ