![cover image](https://wikiwandv2-19431.kxcdn.com/_next/image?url=https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/4/40/Anti_Trump_immigration_protest_in_Baltimore_DSC_6631_%252832445497342%2529.jpg/640px-Anti_Trump_immigration_protest_in_Baltimore_DSC_6631_%252832445497342%2529.jpg&w=640&q=50)
อาการกลัวอิสลาม
From Wikipedia, the free encyclopedia
อาการกลัวอิสลาม (อังกฤษ: Islamophobia) เป็นความเกลียดกลัวอย่างรุนแรง หรือความเดียดฉันท์ต่อศาสนาอิสลามหรือมุสลิม[1][2][3] โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมองว่าเป็นกำลังภูมิรัฐศาสตร์หรือบ่อเกิดของการก่อการร้าย[4]
![Thumb image](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/4/40/Anti_Trump_immigration_protest_in_Baltimore_DSC_6631_%2832445497342%29.jpg/640px-Anti_Trump_immigration_protest_in_Baltimore_DSC_6631_%2832445497342%29.jpg)
คำนี้เป็นคำสร้างใหม่ในคริสต์ทศวรรษ 1970 และโดดเด่นขึ้นระหว่างคริสต์ทศวรรษ 1980 และ 1990 และมีความโดดเด่นในนโยบายสาธารณะด้วยรายงานโดยคณะกรรมการพิพิธภัณฑ์และอาการกลัวอิสลามบริติชของรันนีมีดทรัสต์ ชื่อ อาการกลัวอิสลาม: ความท้าทายสำหรับเราทุกคน (ปี 1997)[5]
สาเหตุและลักษณะของอาการกลัวอิสลามยังมีการโต้เถียงกัน นักวิจารณ์บางคนระบุว่าอาการกลัวอิสลามเพิ่มขึ้นจากเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน พ.ศ. 2544 บ้างว่ามาจากการก่อการร้ายโดยกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงที่มุ่งเป้าต่อผู้บริสุทธิ์หลายครั้งในทวีปยุโรปและสหรัฐ บ้างสัมพันธ์กับการมีมุสลิมในสหรัฐและสหภาพยุโรปมากขึ้น บ้างยังสงสัยความถูกต้องของคำนี้ นักวิชาการ S. Sayyid และ Abdoolkarim Vakil ยืนยันว่าอาการกลัวอิสลามเป็นการตอบสนองต่อการถือกำเนิดของอัตลักษณ์สาธารณะของมุสลิมที่แตกต่าง และการมีมุสลิมไม่ใช่ตัวบ่งชี้ระดับของอาการกลัวอิสลามในสังคม โดยว่าสังคมที่แทบไม่มีมุสลิมเลยแต่มีอาการกลัวอิสลามแบบสถาบันหลายแบบอยู่[6]
อาการกลัวอิสลามมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย เช่น ความหวาดกลัวการก่อการร้าย มุมมองที่ขัดกันของเทววิทยาทางศาสนา การขยายตัวของกระแสการเมืองแบบอัตลักษณ์ (identity politics)[7] แต่สาเหตุสำคัญของความหวาดกลัวอิสลามในตะวันตกมีสาเหตุสำคัญมาจากมุมมองของผู้ที่อยู่อาศัยในสังคมตะวันตกว่า อิสลามเป็นลัทธิที่ต่อต้านความเชื่อ, ค่านิยม และหลักการพื้นฐานของอารยธรรมตะวันตก เช่น ความเท่าเทียมกันทางเพศ เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และเสรีภาพในการนับถือศาสนา[8] พวกมุสลิมถูกชาวตะวันตกมองว่ามีแนวคิดเหยียด และดูหมิ่นชาวยิว (antisemitism) นอกจากนี้ในสังคมที่มีประชากรอพยพจำนวนมากเป็นชาวมุสลิม เช่น สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส หรือเยอรมัน, ชาวมุสลิมถูกมองว่าเป็นกลุ่มที่ไม่ยอมเรียนรู้ที่จะกลมกลืนไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่น (assimilation) เหมือนประชากรอพยพกลุ่มอื่นๆ แต่จะยึดถือลัทธิความเชื่อ และอัตลักษณ์ของตนเองอย่างหวนแหน และมองประชากรกลุ่มอื่นเป็นคนต่างพวก หรือเป็นคนนอกศาสนา ซึ่งประชากรส่วนใหญ่ในสังคมมองว่าทัศนคติของอิสลามเป็นสิ่งคุกคามความเป็นเอกภาพของสังคม