Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
บลูเทรน (อังกฤษ: Blue Train) (ญี่ปุ่น: ブルートレイン) เป็นชื่อเล่นของตู้รถนั่งและตู้รถนอนของญี่ปุ่น รถไฟบลูเทรนประกอบด้วยห้องนอน โดยห้องนอนหนึ่งห้องมี 4 เตียง(คลาสบี) และห้องนอนหนึ่งห้องมี 1 เตียง (คลาสเอ) ไม่สามารถปรับเป็นรถนั่งได้ โดยปกติในประเทศญี่ปุ่นจะใช้รถบลูเทรนพ่วงเป็นขบวนรถทางไกล โดยใช้หัวรถจักรไฟฟ้าตระกูล EF ตระกูล ED และ หัวรถจักรดีเซลตระกูล DD ทำขบวน โดยให้บริการโดย JR East (ญี่ปุ่น: JR東日本) JR West (ญี่ปุ่น: JR西日本) และ JR Hokkaido (ญี่ปุ่น: JR北海道) รถบลูเทรนมีทั้งหมด 5 รุ่น คือ รุ่น 20(20系) รุ่น 14(14系) รุ่น 15(15系) รุ่น 24(24系) รุ่น 25(25系) ส่วนรถโดยสารรุ่น 12 ไม่นับว่าเป็นบลูเทรน
รถบลูเทรนนั้นถือกำเนิดครั้งแรกในปี 2499 โดยบลูเทรนที่ออกวิ่งให้บริการครั้งแรกของประเทศญี่ปุ่นจะเป็นรุ่น 20 (20系) เนื่องจากสีที่พ่นลงที่ตัวตู้รถขณะนั้นใช้สีน้ำเงินเป็นหลัก คาดด้วยแถบสีขาวนวลสองเส้นขนาดไปกับตัวรถ จากจุดกำเนิดของบลูเทรนรุ่น 20 นี้เอง จึงทำให้รถโดยสารประเภทเดียวกันที่ถูกสร้างขึ้นมาภายหลัง และออกวิ่งให้บริการประชาชนที่ประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นรุ่น 14(14系), 15(15系), 24(24系), 25(25系) ก็ถูกเรียกว่าบลูเทรนเช่นเดียวกันกับรุ่นที่ผ่านมา ต่อมาในปี 2514 บลูเทรนรุ่นใหม่จึงได้ถือกำเนิดขึ้น โดยรุ่นใหม่นี้มีความแตกต่างจากรุ่น 20 ตรงที่ว่า ไม่ต้องมีรถไฟฟ้ากำลัง (พาวเวอร์ เจเนเรเตอร์ คาร์ - Power Generator Car) เฉพาะก็สามารถวิ่งทำขบวนได้ โดยตู้รถรุ่นใหม่ที่ว่านี้ได้รับการออกแบบมาให้ติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ใต้ท้องตู้รถโดยสาร อีกทั้งยังสามารถที่จะจ่ายกระแสไฟฟ้าไปเลี้ยงตู้รถที่อยู่ข้างเคียงที่ไม่มีเครื่องกำเนิดกระแสไฟฟ้าได้อีกด้วย ซึ่งบลูเทรนรุ่นใหม่ที่ว่านี้มีชื่อเรียกว่า บลูเทรนรุ่น 14 (14系) นั้นเอง
บลูเทรนรุ่น 14(14系) ที่ผลิตออกมานั้นมีทั้งตู้รถรถนั่งและตู้รถรถนอน โดยแยกชุดกันทำขบวน แต่ในระยะหลังก็ได้นำมาพ่วงทำขบวนร่วมกันก็มีบ้าง เช่นปัจจุบันรถ ฮามานาซุ(Hamanasu)(ญี่ปุ่น: はまなす) วิ่งสายเหนือเชื่อมระหว่างจังหวัดอะโอโมริกับจังหวัดซัปโปโร ทำขบวนโดยรถรุ่น 14 นั่งและนอน ในส่วนตู้รถรถนั่งในประเทศไทยมีให้บริการอยู่ในสายใต้ กรุงเทพ – ตรัง รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ผลิตออกมาเพื่อใช้พ่วงเข้ากับรถบลูเทรนอิซึโมะ(Izumo)(ญี่ปุ่น: 出雲) ขบวนที่ 3 (ไป) และ 4 (กลับ) เป็นครั้งแรก โดยมีรถนอนชั้น 1 และชั้น 2 พิเศษทำขบวน ต่อมาเมื่อบริษัทเจอาร์ยกเลิกการให้บริการของบลูเทรนอิซึโมะ(Izumo) ขบวนที่ 3 และ 4 ตู้รถนอนชั้น 1 และชั้น 2 พิเศษนี้ได้ถูกนำไปใช้พ่วงทำขบวนกับรถบลูเทรนอากาซึกิ(Akatsuki)(ญี่ปุ่น: あかつき) แทน โดยในครั้งนี้ได้ทำการปรับปรุงรถบลูเทรนนั่งธรรมดารุ่น 14 ซีรีส์ 0 ให้กลายเป็นรุ่น 14 ซีรีส์ 300 ให้ชื่อว่า Segato ซึ่งเป็นรถนั่งชั้น 2 พิเศษ 3 แถว มีห้องล็อบบี้อยู่ปลายสุดตู้รถให้บริการอยู่เพียงไม่กี่ปีและท้ายสุดในปี 2551 บริษัทเจอาร์ได้ทำการยกเลิกบลูเทรนขบวนอะกาซึกิ(Akatsuki)(ญี่ปุ่น: あかつき) ลง และตู้รถโดยสารทั้งหมดนี้ปัจจุบันได้ถูกแยกสิ้นส่วนทำลายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหลือไว้เพียงแต่รูปภาพและโมเดลให้ดูต่างหน้าเท่านั้น
บลูเทรนขบวนแรกที่ให้บริการในญี่ปุ่นคือบลูเทรนอะซากาเซะ(Asakaze)(ญี่ปุ่น: あさかぜ) วิ่งระหว่างโตเกียว-ฮากาตะในปี 2499 โดยใช้รถปรับอากาศบลูเทรนรุ่น20 ทำขบวน และมีผู้นิยมใช้เป็นจำนวนมากจึงทำให้เกิดบลูเทรนมากถึง 26 สาย
ต่อมาในปี 2507 ญี่ปุนได้เปิดบริการชินกันเซ็นขึ้น ความจำเป็นของรถบลูเทรนจึงค่อยๆลดลงและถูกยกเลิกไปทีละขบวน
ขบวนอะซากาเซะ(Asakaze) (ญี่ปุ่น: あさかぜ) ถูกยกเลิกการวิ่งไปในวันที่ 13 มีนาคม 2548
รถบลูเทรนที่วิ่งทำขบวนนั้นสามารถแบบชนิดตู้รถได้ดังต่อไปนี้
บลูเทรนรุ่นคาดแถบขาวหรือเงินนี้เป็นบลูเทรนยุคแรกของรุ่น มีความเก่าแก่ที่สุดในบรรดาบลูเทรนรุ่น 24 และ 25 โดยในยุคแรกเตียงที่ติดตั้งอยู่ในห้องโดยสารนั้นจะเป็นแบบ 3 ชั้น ต่อมาได้มีการปรับให้เหลือเพียงแค่ 2 ชั้นเหมือนที่เห็นในปัจจุบัน บลูเทรนคาดแถบขาวนี้ต่อมาบางส่วนได้ถูกนำมาดัดแปลงเป็นบลูเทรนคาดทองประตูบานเลือนและนำไปพ่วงทำขบวนกับขบวนรถ ฮกกุโตเซ อะเกโบโน่ นิฮงไก ฮามานะสึ
สัญลักษณ์ | ลักษณะที่นอน | รถไฟที่สามารถพบได้ |
---|---|---|
★ | ที่นอน 3ชั้น | รถนอนรุ่น20 รถนอนรุ่น14และ24รุ่นเดิม |
★★ | ที่นอน 3ชั้น | รถไฟรุ่น583 |
★★★ | ที่นอน 2ชั้น | รถนอนรุ่น 14,15และ24,25 หลังการปรับปรุงแล้ว |
★★★★ | ห้อง 4คนแบบส่วนตัว | Ohane14 700 และOhane24 700 |
การรถไฟแห่งประเทศไทยได้รับมอบรถบลูเทรนที่ใช้แล้วจากประเทศญี่ปุ่นโดยไม่คิดค่าตอบแทนจำนวนทั้งสิ้น 62 คัน แบ่งเป็น 3 ชุด ได้แก่ ชุดที่ 1 ปี พ.ศ. 2547 จำนวน 20 คัน จากบริษัท JR-West ชุดที่ 2 ปี พ.ศ. 2551 จำนวน 32 คัน จากบริษัท JR-West และชุดที่ 3 ปี พ.ศ. 2559 จำนวน 10 คัน จากบริษัท JR-Hokkaido โดยนำมาทำการปรับความกว้างล้อ (Regauge) จาก 1067 มิลลิเมตร ตามมาตรฐานทางรถไฟญี่ปุ่น เป็น 1000 มิลลิเมตร ตามมาตรฐานทางรถไฟในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน และปรับปรุงเล็กน้อย
รถบลูเทรนที่ได้รับมอบจากบริษัท JR-West เคยใช้เป็นรถไฟด่วนพิเศษ ไปมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 เรียกว่า ขบวนรถด่วนพิเศษราชพฤกษ์ หรือขบวนพิเศษโดยสารที่ 963/964 กรุงเทพ-เชียงใหม่-กรุงเทพ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2549 - 31 มกราคม 2550 ในปัจจุบันการรถไฟแห่งประเทศไทยยุติการให้บริการรถบลูเทรนแล้ว เนื่องจากตัวรถที่เริ่มชำรุดและเก่า ประกอบกับค่าบำรุงรักษาใช้จ่ายมาก จึงได้ทำการยกเลิกไปเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2559 โดยให้โดยสารครั้งสุดท้ายในขบวน 13/14 กรุงเทพ-เชียงใหม่-กรุงเทพ หลังจากยกเลิกรถบลูเทรนแล้ว ขบวน13/14 ใช้ตู้โดยสารรุ่น ฮุนได(บนอ.ป),โตกิว(บนท.ป),แดวูรุ่นเก่า(บนท.ป) แทนบลูเทรน ปัจจุบันการรถไฟฯ ได้นำรถบลูเทรนบางส่วนไปใช้งานเป็นรถเสริมในบางขบวน รวมถึงนำไปดัดแปลงเป็นรถจัดเฉพาะปรับอากาศ (บจพ.ป.) จำนวน 3 คัน และล่าสุดได้นำรถบลูเทรนจำนวน 16 คันมาปรับปรุงใหม่ในสีเทาแดง และดัดแปลงระบบเพื่อใช้งานร่วมกับรถไฟฟ้ากำลังปรับอากาศ (บฟก.ป.) เพื่อลดมลพิษในการนำขบวนรถขึ้นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ต่อไป
รถบลูเทรนที่ได้รับมอบจากบริษัท JR-Hokkaido ในปี พ.ศ. 2559 เป็นรถนั่งปรับอากาศทั้ง 10 คัน แบ่งเป็นรุ่น Oha 14 จำนวน 5 คัน และรุ่น Suhafu 14 จำนวน 5 คัน ปัจจุบันอยู่ในโครงการดัดแปลงเป็นรถไฟท่องเที่ยวชุดแรกของ รฟท.ตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งจะนำมาใช้ในเส้นทาง กรุงเทพ-น้ำตก และ เชียงใหม่-ลำปาง
จากบริษัท JR-West ปี พ.ศ. 2547 จำนวน 20 คัน
จากบริษัท JR-West ปี พ.ศ. 2551 จำนวน 32 คัน
จากบริษัท JR-Hokkaido ปี พ.ศ. 2559 จำนวน 10 คัน
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.