คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
สถานีรถไฟหลักของประเทศไทย จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (อังกฤษ: Krung Thep Aphiwat Central Terminal Station) ชื่อเดิมคือ สถานีกลางบางซื่อ (อังกฤษ: Bang Sue Grand Station) เป็นสถานีกลางแห่งใหม่ของประเทศไทย ซึ่งใช้ทดแทนสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เดิมที่จะลดฐานะเหลือเพียงสถานีรายทางของรถไฟฟ้าชานเมือง สายธานีรัถยาในอนาคต ตัวสถานีตั้งอยู่ใจกลางศูนย์คมนาคมพหลโยธิน ในพื้นที่แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ใกล้กับศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง และบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ถือเป็นสถานีรถไฟกลางที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีชานชาลามากถึง 26 ชานชาลา และเมื่อเปิดบริการครบทุกเส้นทางสถานีแห่งนี้จะเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางระบบรางที่สำคัญที่สุดของประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นาม กรุงเทพอภิวัฒน์ เป็นชื่อที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้เป็นชื่ออย่างเป็นทางการของโครงการสถานีกลางบางซื่อ มีความหมายว่า "ความเจริญรุ่งเรืองยิ่งแห่งกรุงเทพมหานคร"[3]
สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์เปิดใช้งานอย่างไม่เป็นทางการตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 เพื่อเป็นศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยเริ่มให้บริการแก่บุคลากรภายในกระทรวงคมนาคมก่อน ก่อนจะเริ่มให้บริการวัคซีนแก่ประชาชนตั้งแต่ 7 มิถุนายน จากนั้นได้เริ่มทดลองให้บริการรถไฟฟ้าชานเมือง สายสีแดง เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ก่อนเริ่มให้บริการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน และเริ่มให้บริการรถไฟระหว่างเมืองตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2566
สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์เมื่อเปิดให้บริการเต็มรูปแบบแล้ว จะรองรับรถไฟทางไกลของการรถไฟแห่งประเทศไทยทุกเส้นทาง, รถไฟฟ้าชานเมือง สายสีแดง, รถไฟความเร็วสูงทุกเส้นทาง และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ รวม 24 ชานชาลา อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และยังเป็นส่วนหนึ่งของโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนทางราง คุนหมิง–สิงคโปร์ ในเส้นทางหลัก ที่เป็นเส้นทางรถไฟจากสถานีรถไฟคุนหมิง ประเทศจีน ไปยังสถานีรถไฟจูรงตะวันออก ประเทศสิงคโปร์ โดยผ่านสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นสถานีชุมทางในการเปลี่ยนสายระหว่างช่วงกรุงเทพมหานคร–ลาว–จีน (สายอีสาน) และกรุงเทพมหานคร–มาเลเซีย–สิงคโปร์ (สายใต้)
Remove ads
อาคารสถานี
สรุป
มุมมอง
สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ก่อสร้างระหว่าง พ.ศ. 2556–2564 ใช้งบประมาณในย่านสถานีทั้งสิ้น 34,142 ล้านบาท[4] อาคารสถานีมีความยาว 596.6 เมตร ความกว้าง 244 เมตร ความสูง 43 เมตร พื้นที่ใช้สอยในอาคารรวม 274,192 ตารางเมตร (ไม่รวมพื้นที่สถานีใต้ดิน)[4] ออกแบบภูมิสถาปัตย์โดย บริษัท ดีไซน์ คอนเซปท์ จำกัด ด้านหน้าอาคารยังติดตั้งนาฬิกาขนาดใหญ่ ซึ่งผู้ออกแบบใส่เลขบนหน้าปัดนาฬิกาเฉพาะเลข ๙ ไทย เพื่อระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยเฉพาะ[5]
ชานชาลาภายในสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์มีทั้งหมด 26 ชานชาลา เป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย 24 ชานชาลา ทั้งรถไฟฟ้าชานเมือง สายสีแดง, รถไฟทางไกล รถไฟความเร็วสูง และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ และของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยอีก 2 ชานชาลา ในเส้นทางรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล ซึ่งอยู่ใต้ดิน
อาคารสถานีมีทั้งหมด 7 ชั้นรวมชั้นใต้ดิน ชั้นใต้ดิน 2 ชั้นฝั่งใต้เป็นสถานีรถไฟฟ้ามหานคร ชั้นใต้ดินส่วนที่เหลือ 1 ชั้นเป็นลานจอดรถใต้ดิน ชั้นเหนือพื้นดินทั้งหมดถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนคือส่วนบริการรถไฟ และส่วนบริการผู้โดยสาร สำหรับส่วนบริการรถไฟ ชั้นระดับดินเป็นห้องจำหน่วยตั๋วและโถงพักคอยผู้โดยสาร ชั้นที่สองให้บริการรถไฟรางหนึ่งเมตร ชั้นที่สามให้บริการรถไฟความเร็วสูง และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ และส่วนบริการผู้โดยสาร ประกอบด้วยชั้นระดับดินเป็นโถงต้อนรับ พื้นที่จำหน่ายบัตรโดยสารสำหรับรถไฟทางไกล และศูนย์อาหาร ชั้นลอยเป็นร้านค้า และชั้น 3 เป็นพื้นที่สำนักงาน ประกอบด้วยสำนักงานใหญ่ของ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ศูนย์ควบคุมการเดินรถไฟฟ้าสายสีแดง และรถไฟที่ใช้ทางร่วม สำนักงานบริหารโครงการรถไฟความเร็วสูง และพื้นที่รองรับแขกวีไอพี
สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์จะแตกต่างจากสถานีกรุงเทพเดิมเนื่องจากถูกออกแบบให้เป็นสถานีระบบปิด ผู้โดยสารที่ไม่มีตั๋วโดยสารรถไฟจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสู่พื้นที่ผู้โดยสารขาออกของสถานี (พื้นที่ส่วนบริการรถไฟบริเวณทิศเหนือของสถานี) ผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2543
- สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
Remove ads
ประวัติ
สรุป
มุมมอง

ในปี 2536-2537 รัฐบาลนายชวน หลีกภัยได้มีการจ้างวานบริษัทที่ปรึกษาในการศึกษาความเป็นไปได้ของรถไฟความเร็วสูง ประกอบไปด้วยบริษัท วิลเบอร์สมิธแอสโซซิเอทส์ อิงค์ , บริษัททรานมาร์ค จำกัด , บริษัท เอเซี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอลซัลแตนส์ จำกัด , บริษัท ทีมคอลซันติ้ง เอนจิเนียร์ จำกัด ผลการศึกษาพบว่าควรสร้างสายกรุงเทพ-หนองงูเห่า-ระยอง โดยให้เหตุผลว่าความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจและช่วยสนับสนุนพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออก ได้มีการอนุมัติเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2537 โดยตั้งพื้นที่ห้วยขวางเป็นสถานีกลางกรุงเทพ[6] เชื่อมกับโครงการโฮปเวลล์ และเชื่อมกับ รถไฟฟ้ามหานคร สายสีน้ำเงิน [7]โดยให้การรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นผู้รับผิดชอบ และดำเนินการหาเอกชนมาร่วมลงทุน แต่โครงการถูกชะงักเพราะเกิดการยุบสภา ปัจจุบันพิ้นที่โครงการรถไฟสายกรุงเทพ-หนองงูเห่า-ระยอง[8] คือกรุงเทพ-ชลบุรีสายใหม่ [9]ก่อนที่จะมีการปรับสถานีกลางกรุงเทพเป็นสถานีกลางบางซื่อตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ 22 พฤษภาคม 2550 ในรัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ [10] โดยที่พื้นที่สถานีกลางกรุงเทพเดิม ปัจจุบันถูกใช้ประโยชน์เป็นที่ทำการใหญ่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และศูนย์ซ่อมบำรุงของโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีน้ำเงิน และรถไฟฟ้ามหานคร สายสีส้ม
ในคราวการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน เมื่อ พ.ศ. 2552 ได้ออกแบบให้มีการก่อสร้างทางยกระดับบางส่วนสำหรับเข้าสถานีกลางบางซื่อ แต่ครั้งนั้นยังไม่อนุมัติให้มีการก่อสร้างตัวสถานี เนื่องจากปัญหาการบุกรุกพื้นที่ และความไม่ชัดเจนในการออกแบบตัวสถานี ทำให้มีการโยกงานติดตั้งเสาจ่ายไฟฟ้าและสายส่งไฟฟ้า (OCS) ทั้งหมดไปรวมกับสายสีแดงเข้ม เพื่อเปลี่ยนระบบเป็นระบบไฟฟ้าในคราวเดียว จึงทำให้โครงการถูกทิ้งร้าง ไม่ได้มีการใช้งานตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ในปี พ.ศ. 2553 ในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้อนุมัติในหลักการ สถานีกลางบางซื่อ โดยถูกเสนอเข้าเป็นส่วนหนึ่งของโครงการรถไฟฟ้าชานเมือง สายสีแดง ซึ่งเดิมกำหนดให้มีโครงสร้างสถานีจำนวน 2 ชั้น ได้แก่ชั้นที่ 1 เป็นชั้นชานชาลาสำหรับรถไฟทางไกล ชั้นที่ 2 เป็นชั้นชานชาลาสำหรับรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง และรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยาน ส่วนต่อขยาย (ช่วงพญาไท-บางซื่อ) แต่ในปีเดียวกันเกิดการยุบสภา โครงการจึงหยุดชะงักลง
ต่อมาในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลงนามในสัญญาก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อ และ โครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ-รังสิต เมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2556[11] โดยเริ่มเปิดพื้นที่การก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อในวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2556 หลังเริ่มก่อสร้างเพียงไม่นาน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในขณะนั้น (ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร) สั่งการให้ปรับแบบสถานีกลางบางซื่อเพื่อรองรับรถไฟความเร็วสูงและปรับแบบทางวิ่งช่วงบางซื่อ-รังสิต จาก 3 ทางเป็น 4 ทางเพื่อให้รถไฟทางไกลสามารถวิ่งสวนกันได้โดยไม่ต้องจอดรอหลีก,ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาล่าช้าของขบวนรถ และไม่จำเป็นต้องใช้ห่วงทางสะดวก[12] อย่างไรก็ตาม ได้เกิดการยุบสภาของคณะรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ในปลายปี 2556 [13][14] ซึ่งส่งผลให้ภาพรวมทั้งโครงการล่าช้าไปอย่างน้อยครึ่งปี
บริษัท ขนส่ง จำกัด เคยมีแนวคิดจะย้ายขนส่งหมอชิตมาอยู่ที่ขนส่งรังสิต [15]เพื่อคืนพื้นที่ให้ การรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อนำไปสร้างสถานีกลางบางซื่อ แต่ภายหลังพบว่าต้องใช้งบประมาณราว 2,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบที่สูงเกินเท่าตัว บริษัท ขนส่ง จำกัด จึงปรับพื้นที่ใหม่ลดจาก 90 ไร่เป็น 50 ไร่เพื่อนำพื้นที่บางส่วนใช้เป็นสถานีกลางบางซื่อ รวมถึงปรับแบบการก่อสร้างสถานีเดินรถจากความสูง 5 ชั้นเหลือเพียง 2 ชั้น[16][17]
ในสถานการณ์การระบาดทั่วของโควิด-19 สถานีกลางบางซื่อเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงก่อนเปิดให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง โดยตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 เริ่มให้บริการแก่บุคลากรภายในกระทรวงคมนาคมก่อน ก่อนจะเริ่มให้บริการวัคซีนแก่ประชาชนตั้งแต่ 7 มิถุนายน[18] ต่อมาในเดือนเมษายน พ.ศ. 2565 เป็นสถานที่จัดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 50 และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติครั้งที่ 20 เพื่อเป็นการฉลองการจัดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครบรอบ 50 ปี และครบรอบ 125 ปีการรถไฟแห่งประเทศไทย [19] และในวันที่ 29 กันยายน ปีเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานนามแก่สถานีนี้ว่า สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ โดยมีความหมายถึง "ความเจริญรุ่งเรืองยิ่งแห่งกรุงเทพมหานคร"[3] พร้อมกับทางพิเศษประจิมรัถยา ซึ่งมีความหมายถึง "เส้นทางไปยังทิศตะวันตก"[20]
สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์เริ่มให้บริการรถไฟครั้งแรกในการเปิดอย่างไม่เป็นทางการของรถไฟฟ้าชานเมือง สายสีแดง เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2564[21] ก่อนเริ่มให้บริการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน[22] และเริ่มทำการย้ายรถไฟระหว่างเมืองในกลุ่มขบวนรถเร็ว รถด่วน และรถด่วนพิเศษ ของสายเหนือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ และสายใต้ รวมจำนวน 52 ขบวน จากสถานีกรุงเทพ มาเริ่มต้นให้บริการที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2566[23] ส่วนรถไฟในกลุ่มขบวนรถธรรมดา รถชานเมือง และรถนำเที่ยว จำนวน 62 ขบวน ยังคงเริ่มต้นให้บริการที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ตามเดิม[6]
Remove ads
ศูนย์การขนส่ง
สรุป
มุมมอง
บริการขบวนรถไฟ
สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ให้บริการขบวนรถดังต่อไปนี้
การรถไฟแห่งประเทศไทย ให้บริการขบวนรถด่วนพิเศษ รถด่วน รถเร็ว มีสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์สถานีปลายทาง ประกอบด้วย
- สายเหนือ: ปลายทาง เชียงใหม่
- สายตะวันออกเฉียงเหนือ: ปลายทาง อุบลราชธานี หรือ หนองคาย
- สายใต้: ปลายทาง นครศรีธรรมราช, กันตัง, ปาดังเบซาร์ (ไทย) หรือ สุไหงโก-ลก
รถไฟฟ้าชานเมือง สายสีแดง ให้บริการของรถไฟฟ้าชานเมืองในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
สายสีแดงเข้ม: กรุงเทพอภิวัฒน์ – รังสิต
สายสีแดงอ่อน: กรุงเทพอภิวัฒน์ – ตลิ่งชัน
เชื่อมต่อบริการขบวนรถไฟ
สายต่อไปนี้มีสถานีที่อยู่บริเวณใกล้เคียงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
สายเฉลิมรัชมงคล: หลักสอง – ท่าพระ เชื่อมต่อไปยังสถานีบางซื่อ ผ่านทางเดินใต้ดินเชื่อมภายในสถานี[24]
การรถไฟแห่งประเทศไทย เชื่อมต่อไปยังสถานีรถไฟชุมทางบางซื่อ ผ่านทางออกประตู 5-12 ให้บริการขบวนรถชานเมือง[25]
แผนผังสถานี
U3 ชั้นชานชาลาบน (สแตนดาร์ดเกจ) (ยังไม่เปิดใช้งาน) |
ชานชาลา 24 | HSR ใต้ สถานีปลายทาง, มุ่งหน้า สถานีสุราษฎร์ธานี |
ชานชาลา 23 | HSR ใต้ สถานีปลายทาง, มุ่งหน้า สถานีสุราษฎร์ธานี | |
ชานชาลา 22 | HSR ใต้ สถานีปลายทาง, มุ่งหน้า สถานีสุราษฎร์ธานี | |
ชานชาลา 21 | HSR ใต้ สถานีปลายทาง, มุ่งหน้า สถานีสุราษฎร์ธานี | |
ชานชาลา 20 | HSR เหนือ สถานีปลายทาง, มุ่งหน้า สถานีเชียงใหม่ | |
ชานชาลา 19 | HSR เหนือ สถานีปลายทาง, มุ่งหน้า สถานีเชียงใหม่ | |
ชานชาลา 18 | เอชเอสอาร์ สายอีสาน (กำลังก่อสร้าง) สถานีปลายทาง, มุ่งหน้า นครราชสีมา | |
ชานชาลา 17 | เอชเอสอาร์ สายอีสาน (กำลังก่อสร้าง) สถานีปลายทาง, มุ่งหน้า นครราชสีมา | |
ชานชาลา 16 | เอชเอสอาร์ สายอีสาน (กำลังก่อสร้าง) สถานีปลายทาง, มุ่งหน้า นครราชสีมา | |
ชานชาลา 15 | เอชเอสอาร์ สายอีสาน (กำลังก่อสร้าง) สถานีปลายทาง, มุ่งหน้า นครราชสีมา | |
ชานชาลา 14 | สายซิตี้ และ เอชเอสอาร์ เชื่อม 3 สนามบิน มุ่งหน้า ดอนเมือง | |
ชานชาลา 13 | สายซิตี้ มุ่งหน้า สุวรรณภูมิ เอชเอสอาร์ เชื่อม 3 สนามบิน มุ่งหน้า อู่ตะเภา | |
พื้นที่รับรองพิเศษ และสำนักงาน |
บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด, บริษัท เอเชีย เอราวัน จำกัด (สำนักงานบริหารโครงการ), สำนักงานบริหารโครงการรถไฟความเร็วสูง, ห้องรับรองแขกคนสำคัญ, สำนักงานบริหารสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ | |
U2 ชั้นชานชาลาล่าง (มีเตอร์เกจ) |
ชานชาลา 12 | สายใต้ สถานีปลายทาง |
ชานชาลา 11 | สายใต้ สถานีปลายทาง | |
ชานชาลา 10 | สายสีแดงอ่อน สถานีปลายทาง | |
ทางลงเชื่อม สายสีแดงเข้ม | ||
ชานชาลา 9 | สายสีแดงอ่อน มุ่งหน้า ตลิ่งชัน | |
ชานชาลา 8 | สายใต้ มุ่งหน้า สุไหงโก-ลก | |
ชานชาลา 7 | สายใต้ มุ่งหน้า สุไหงโก-ลก | |
ชานชาลา 6 | สายเหนือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ สถานีปลายทาง | |
ชานชาลา 5 | สายเหนือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ สถานีปลายทาง | |
ชานชาลา 4 | สายสีแดงเข้ม สถานีปลายทาง | |
ทางลงเชื่อม สายสีแดงอ่อน | ||
ชานชาลา 3 | สายสีแดงเข้ม มุ่งหน้า รังสิต | |
ชานชาลา 2 | สายเหนือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ เชียงใหม่, อุบลราชธานี หรือ เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) | |
ชานชาลา 1 | สายเหนือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ เชียงใหม่, อุบลราชธานี หรือ เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) | |
ร้านค้า | ร้านค้า, ร้านอาหาร, ภัตตาคาร | |
G ระดับถนน |
ทางออกถนนเทอดดำริ | ป้ายรถประจำทาง, ![]() บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) |
เชื่อมต่อ ชุมทางบางซื่อ | ||
ทางออก W | ประตู 5-13, ป้ายรถประจำทาง ทางไป ชุมทางบางซื่อ | |
โถงผู้โดยสาร | โถงพักคอยและรับผู้โดยสาร, ห้องขายบัตรโดยสาร, เครื่องขายบัตรโดยสาร , ร้านค้า![]() | |
ทางออก E | ประตู 1-4, ป้ายรถประจำทาง, ถนนเวียนเข้าลานจอดรถ, ทางขึ้นทางพิเศษศรีรัช | |
B1 ลานจอดรถใต้ดิน |
ที่จอดรถชั้นใต้ดิน 1,100 คัน | |
B2 ชั้นขายบัตรโดยสาร (รถไฟฟ้ามหานคร) |
ทางเดินเชื่อมระหว่างอาคารและทางออกเอสซีจี, ทางออก 1-3, ห้องขายบัตรโดยสาร, เครื่องขายบัตรโดยสาร | |
B3 ชั้นชานชาลาใต้ดิน (รถไฟฟ้ามหานคร) |
||
ชานชาลา 2 | สายสีน้ำเงิน มุ่งหน้า ท่าพระ | |
ชานชาลา 1 | สายสีน้ำเงิน มุ่งหน้า หลักสอง | |
Remove ads
สถานีเชื่อมต่อ
สรุป
มุมมอง
สถานีรถไฟชุมทางบางซื่อ
สถานีรถไฟชุมทางบางซื่อ เป็นสถานีรถไฟชั้น 1 ตั้งอยู่ที่ ถนนเทอดดำริ แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร เป็นสถานีชุมทางรถไฟ ซึ่งแยกทางรถไฟสายใต้ ออกจากทางรถไฟสายเหนือและสายตะวันออกเฉียงเหนือ ปัจจุบันเหลือเพียงขบวนรถธรรมดา ขบวนรถชานเมืองที่มีปลายทางจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) จะหยุดรับส่งผู้โดยสารที่สถานีนี้[26]
สถานีรถไฟบางซื่อเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2439 โดยเป็นส่วนหนึ่งของทางรถไฟสายแรกของประเทศไทยระหว่างสถานีกรุงเทพ – อยุธยา[27] ต่อมาเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2469 ได้กลายเป็นชุมทางของรถไฟสายเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ และสายใต้ หลังจากมีการก่อสร้างทางรถไฟสายพระรามหกเชื่อมระหว่างสถานีบางซื่อกับสถานีตลิ่งชันด้วยสะพานพระราม 6 หลังจากนั้น พ.ศ. 2532 บางซื่อถูกแยกออกเป็นสองสถานีรถไฟ อาคารเดิมเปลี่ยนชื่อเป็น "บางซื่อ 1" เพื่อให้บริการขบวนรถสายเหนือ และสายตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนอาคารใหม่ "บางซื่อ 2" ใช้ให้บริการขบวนรถสายใต้ ระยะห่างระหว่างอาคารห่างกันประมาณ 200 เมตร อาคารสถานีบางซื่อ 1 ปิดให้บริการเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2559 เพื่อสร้างสถานีรถไฟใหม่ ขณะที่รถไฟทุกสายในปัจจุบันใช้บริการที่อาคารสถานีบางซื่อ 2 ซึ่งยังคงเปิดดำเนินการอยู่[28]
- อาคารสถานีชุมทางบางซื่อ 2 ที่เปิดให้บริการอยู่
- สถานีชุมทางบางซื่อ 1 ของสายเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ (ปัจจุบันถูกรื้อถอนแล้ว)
- แผนผังสถานี
ระดับดิน | ทางออกถนนเทอดดำริ | ป้ายรถประจำทาง, ![]() |
ราง 1 | สายใต้ มุ่งหน้า สุพรรณบุรี หรือ สวนสนประดิพัทธ์ | |
ราง 2 | สายใต้ มุ่งหน้า กรุงเทพ (หัวลำโพง) | |
ราง 3 | สายเหนือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ มุ่งหน้า พิษณุโลก หรือ สุรินทร์ | |
ราง 4 | สายเหนือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ มุ่งหน้า กรุงเทพ (หัวลำโพง) | |
ทางออกถนนกำแพงเพชร | เชื่อมต่อ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ |
สถานีรถไฟฟ้ามหานคร สถานีบางซื่อ


สถานีบางซื่อ (อังกฤษ: Bang Sue Station, รหัส BL11) เป็นสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในเส้นทางรถไฟฟ้ามหานคร สายสีน้ำเงิน การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ที่ดำเนินการโดยบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) บริเวณชั้นใต้ดินของสถานีกลางบางซื่อในลักษณะแนวตัดขวาง
สถานีบางซื่อ เปิดให้บริการเมื่อ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2547 เป็นปลายทางของรถไฟฟ้ามหานคร สายสีน้ำเงินในระยะแรก จนถึงเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2560 ได้มีการเปิดให้บริการส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินส่วนที่ 1 บางซื่อ-เตาปูน ทำให้สถานีรถไฟฟ้าบางซื่อสิ้นสุดการเป็นสถานีปลายทาง และเมื่อวันที่ 4 และ 23 ธันวาคม พ.ศ 2562 รถไฟฟ้ามหานคร สายสีน้ำเงิน ได้เปิดทดลองให้บริการส่วนที่ 3 เตาปูน-สิรินธร และสิรินธร-ท่าพระตามลำดับ
ที่ทำการรับส่งสินค้าพหลโยธิน
ที่ทำการรับส่งสินค้าพหลโยธิน หรือ ย่านพหลโยธิน เป็นย่านสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีจำนวนรางมากกว่า 50 ราง เป็นย่านสับเปลี่ยนขนาดใหญ่ รวมความยาว (ตามแนวเส้นทาง) ถึง 4 กม. เป็นศูนย์ขนถ่ายสินค้าหลักของประเทศไทย อยู่ห่างจากตัวอาคารสถานีรถไฟไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือราว 1.5 กิโลเมตร
โรงรถจักรดีเซลกลางบางซื่อ
โรงรถจักรดีเซลกลางบางซื่อ เป็นโรงซ่อมบำรุงและโรงจอดรถจักรดีเซลที่ใช้ในการลากขบวนรถไฟ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของสถานีรถไฟไปตามแนวเส้นทางในระยะประมาณ 1.5 กิโลเมตร นอกจากที่กลางบางซื่อแล้ว ยังมีโรงรถจักรที่ สถานีรถไฟธนบุรี สถานีรถไฟนครราชสีมา สถานีรถไฟอุตรดิตถ์ สถานีรถไฟนครลำปาง สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ สถานีรถไฟชุมทางแก่งคอย สถานีรถไฟชุมทางทุ่งสง และ สถานีรถไฟชุมพร
Remove ads
ตารางเวลาเดินรถ
รถไฟฟ้า

เที่ยวขึ้น
เที่ยวล่อง
Remove ads
รถประจำทางสายที่ผ่าน
สรุป
มุมมอง
สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (ด้านหลัง)
องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ
รถเอกชน
สถานีชุมทางบางซื่อ
องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ
รถเอกชน
Remove ads
อ้างอิง
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads