Loading AI tools
อำเภอในจังหวัดบึงกาฬ ประเทศไทย จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เซกา เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดบึงกาฬซึ่งแยกออกมาจากจังหวัดหนองคายตามพระราชบัญญัติตั้งจังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. 2554 อันมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2554 เป็นต้นไป[1]
อำเภอเซกา | |
---|---|
การถอดเสียงอักษรโรมัน | |
• อักษรโรมัน | Amphoe Seka |
น้ำตกเจ็ดสี | |
คำขวัญ: พระมูลเมืองคู่บ้าน แหล่งสราญน้ำตกเจ็ดสี ปลารสดีน้ำสงคราม น้ำใจงามคนเซกา | |
แผนที่จังหวัดบึงกาฬ เน้นอำเภอเซกา | |
พิกัด: 17°55′42″N 103°57′12″E | |
ประเทศ | ไทย |
จังหวัด | บึงกาฬ |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 978.428 ตร.กม. (377.773 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2567) | |
• ทั้งหมด | 58,051 คน |
• ความหนาแน่น | 59.330 คน/ตร.กม. (153.66 คน/ตร.ไมล์) |
รหัสไปรษณีย์ | 38150 |
รหัสภูมิศาสตร์ | 3804 |
ที่ตั้งที่ว่าการ | ที่ว่าการอำเภอเซกา ถนนโพธิ์ศรี ตำบลเซกา อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ 38150 |
ส่วนหนึ่งของสารานุกรมประเทศไทย |
อำเภอเซกามีอาณาเขตติดต่อกับอำเภอข้างเคียง ดังนี้
เมื่อประมาณ พ.ศ. 2400 ผู้เขียนไม่ปรากฏนามได้เขียนบนไม้ไผ่ไว้ว่ามี ทรายคำ (เนื้อทรายสีเหลืองทอง) ถูกนายพรานยิงบาดเจ็บวิ่งหนีโซเซมาจากบ้านพันห่าว ข้ามห้วยโด (เขตอำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม) มาถึงบริเวณที่ราบลุ่มแห่งหนึ่งก็ไปไม่ไหว ล้มลงสิ้นชีพ ณ บริเวณแห่งนี้ บรรดาผู้คนที่ตามเนื้อทรายตัวนี้มา มาถึงก็ได้แล่เนื้อแบ่งกินครบถ้วนทุกคน ทั้งสาวแก่แม่ม่ายสร้างจินตนาการให้เกิดปาฏิหาริย์ว่า เนื้อทรายแม้เพียงตัวเดียว แต่ก็มีเนื้อแจกจ่ายกินกันจนกินไม่หมดเหลือทิ้ง จนนกกาบินมารุมกินเนื้อทรายที่เหลือ ที่บริเวณนี้จึงมีชื่อเรียก "เซกา"
อีกตำนานหนึ่งเล่าว่า เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2405 ได้มีผู้เฒ่า 3 คน คือ จันทรโคตร/จันผาย/ฮาดดา อพยพมาจากบ้านซางหาที่ทำกินใหม่ มาถึงที่แห่งหนึ่งเป็นที่ราบลุ่มอุดมสมบูรณ์ มีห้วยหนองแหล่งน้ำมากมาย จึงได้บอกข่าวกับญาติพี่น้อง ผู้คนทั้งหลายจึงได้อพยพกันมาอยู่บริเวณนี้ ผู้คนต่างก็เอาไซ (เครื่องมือจับปลาพื้นเมือง) ลงไปดักปลาในห้วยและเนื่องจาก ปลาในลำห้วยมีมากมาย ไม่ว่าใครก็ตามเอาไซลงไปดักปลา พอยกขึ้นมาก็มีปลาเต็มไปหมดจนขนปลาไปไม่ไหว ต้องทิ้งปลาไว้บนฝั่ง นกกาพากันบินมารุมกินปลาที่ชาวบ้านทิ้งไว้ คนจึงเรียกว่า "บ้านไซกา" ห้วยนั้นก็เรียกว่า "ห้วยไซกา" ต่อมาจึงเรียกเพี้ยนมาเป็น "เซกา" ดังที่ปรากฏในปัจจุบัน
ต่อมาเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2501 ได้มีประกาศกระทรวงมหาดไทยให้แยกตำบลเซกา ตำบลดงบัง ตำบลซาง ตำบลโพธิ์หมากแข้ง และตำบลท่ากกแดง ออกจากการปกครองของอำเภอบึงกาฬ รวมตั้งเป็น กิ่งอำเภอเซกา[2] จนกระทั่งเมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2502 จึงมีพระราชกฤษฎีกาฯ ยกฐานะขึ้นเป็น อำเภอเซกา[3] จนถึงปัจจุบัน
อำเภอเซกาแบ่งเขตการปกครองย่อยออกเป็น 9 ตำบล 136 หมู่บ้าน ได้แก่
ลำดับ | อักษรไทย | อักษรโรมัน | จำนวนหมู่บ้าน | จำนวนประชากร (ธันวาคม 2565)[23] |
---|---|---|---|---|
1. | เซกา | Seka | 23 |
19,069 |
2. | ซาง | Sang | 13 |
4,435 |
3. | ท่ากกแดง | Tha Kok Daeng | 16 |
3,594 |
4. | บ้านต้อง | Ban Tong | 15 |
5,737 |
5. | ป่งไฮ | Pong Hai | 18 |
5,226 |
6. | น้ำจั้น | Nam Chan | 13 |
3,246 |
7. | ท่าสะอาด | Tha Sa-at | 13 |
4,957 |
8. | หนองทุ่ม | Nong Thum | 13 |
3,513 |
9. | โสกก่าม | Sok Kam | 12 |
3,064 |
ท้องที่อำเภอเซกาประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 11 แห่ง ได้แก่
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.