คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
มหาวิทยาลัยมหิดล
มหาวิทยาลัยรัฐในประเทศไทย จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
มหาวิทยาลัยมหิดล (อังกฤษ: Mahidol University; MU) เป็นมหาวิทยาลัยวิจัยของรัฐที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย ตั้งอยู่ในตำบลศาลายา จังหวัดนครปฐม ก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2432 ในฐานะมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์[1] ซึ่งถือเป็นสถาบันอุดมศึกษาด้านการแพทย์แห่งแรกของประเทศไทย ต่อมาได้รับพระราชทานนามตามพระนามของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ด้วยประวัติอันยาวนาน บทบาททางวิชาการ และการวิจัยที่โดดเด่นทั้งในระดับชาติและนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดลจึงได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้[4]

ต้นกำเนิดของมหาวิทยาลัยมหิดลย้อนกลับไปถึง พ.ศ. 2432 เมื่อมีการจัดตั้งโรงเรียนแพทยากร ณ บริเวณโรงพยาบาลศิริราช ปลุกปั้นบุคลากรทางการแพทย์ยุคใหม่ในประเทศสยาม ก่อนที่จะรวมเข้ากับโรงเรียนข้าราชการพลเรือนเพื่อสถาปนาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเปลี่ยนสถานะเป็นคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล[5] และในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2486 รัฐบาลได้แยกคณะวิชาแพทยศาสตร์จำนวนสี่คณะออกมา จัดตั้งเป็นมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์โดยเฉพาะ[1] ซึ่งต่อมาได้วิวัฒน์เป็นมหาวิทยาลัยมหิดลในปัจจุบัน
มหาวิทยาลัยมหิดลประกอบด้วย 17 คณะ 6 วิทยาลัย 9 สถาบัน และ 3 วิทยาเขต มีภารกิจหลักในการจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษา การวิจัย การบริการวิชาการ และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ได้รับเลือกเป็นหนึ่งใน 9 มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติของประเทศไทย เมื่อ พ.ศ. 2552 และเป็นสมาชิกเครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียน (ASEAN University Network; AUN) มหาวิทยาลัยมหิดลยังได้รับการจัดอันดับในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และนานาชาติอย่างต่อเนื่องในสาขาต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านแพทยศาสตร์ สาธารณสุข และวิทยาศาสตร์สุขภาพ ซึ่งสะท้อนถึงบทบาทผู้นำทางวิชาการและการวิจัยที่มหาวิทยาลัยสืบทอดมาอย่างยาวนาน
Remove ads
ประวัติ
สรุป
มุมมอง

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดสร้างโรงศิริราชพยาบาลขึ้นบริเวณพระราชวังบวรสถานพิมุข หรือที่เรียกว่า วังหลัง[6] ต่อมาใน พ.ศ. 2432 จึงมีพระบรมราชานุญาตให้จัดตั้ง โรงเรียนแพทยากร[7] โดยจัดการเรียนการสอนในระดับประกาศนียบัตร 3 ปี หลังจากนั้น เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินเปิดตึกของโรงเรียนแพทย์ จึงได้พระราชทานนามใหม่ว่า โรงเรียนราชแพทยาลัย
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาโรงเรียนข้าราชการพลเรือนของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นเป็น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงได้รวมโรงเรียนราชแพทยาลัยเข้าเป็นคณะหนึ่งของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเมื่อววันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2460[8] โดยใช้ชื่อว่า "คณะแพทยศาสตร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย" ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเป็น "คณะแพทยศาสตร์และศิริราชพยาบาล" ซึ่งได้รับการพัฒนาวิชาการจากมูลนิธิร็อกเกอะเฟลเลอร์[9] จนสามารถจัดการศึกษาถึงขั้นประสาทปริญญาบัตร[10] ซึ่งอนุมัติโดยสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย[11]
ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2486 คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในพระปรมาภิไธยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล มีพระบรมราชโองการให้ตราพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ขึ้น โดยแยกคณะแพทยศาสตร์และศิริราชพยาบาล แผนกอิสระทันตแพทยศาสตร์ แผนกอิสระเภสัชศาสตร์ และแผนกอิสระสัตวแพทยศาสตร์ จัดตั้งเป็น มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์[12] สังกัดกระทรวงสาธารณสุข โดยได้จัดตั้งคณะต่าง ๆ หลายคณะ ต่อมาได้โอนคืนคณะที่ซ้ำซ้อนออกจากมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ ได้แก่ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ คณะเภสัชศาสตร์ และคณะทันตแพทยศาสตร์ โอนไปสังกัดจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลนครเชียงใหม่ โอนไปสังกัดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณะสัตวแพทยศาสตร์ โอนไปสังกัดมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2512 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามมหาวิทยาลัยว่า มหาวิทยาลัยมหิดล อันเป็นพระนามของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก แทนชื่อมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์เดิม[13] ในวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2550 มหาวิทยาลัยมหิดลได้เปลี่ยนรูปแบบการบริหารงานเป็นสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ[14] และใน พ.ศ. 2551 มีแผนแม่บทพัฒนามหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ให้เป็นเมืองมหาวิทยาลัยสีเขียว โดยปรับนโยบายในการจัดสภาพแวดล้อมเพื่อยกระดับความสำคัญและเอื้อต่อการทำกิจกรรม[15] นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยยังจัดทำแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืน พ.ศ. 2558–2562 โดยมี 3 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่ การส่งเสริมให้เกิดการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร การส่งเสริมความเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ และการส่งเสริมให้เกิดพันธกิจสัมพันธ์กับชุมชน
Remove ads
สัญลักษณ์

- ตราสัญลักษณ์
- สมัยที่ยังเป็นมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ ตราสัญลักษณ์เป็นตราวงกลม 2 ชั้น ภายในเป็นรูปงูพันคบเพลิง วงนอกด้านบนเขียนว่า "อตฺตานํ อุปมํ กเร" ด้านล่างเขียนว่า "มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์"
- ต่อมาเมื่อมีการพระราชทานชื่อ "มหาวิทยาลัยมหิดล" ได้เปลี่ยนเป็นตราวงกลม 2 ชั้น วงกลมชั้นในมีพื้นหลังเป็นสีน้ำเงิน ตรงกลางเป็นตราประจำราชสกุลมหิดลสีเหลืองทอง ส่วนวงกลมชั้นนอกนั้นมีพื้นหลังสีขาวตัวอักษรสีเหลืองทองด้านบนเขียนว่า "อตฺตานํ อุปมํ กเร" ด้านล่างเขียนว่า "มหาวิทยาลัยมหิดล" คั่นด้วยดอกประจำยามสีเหลืองทอง[16] ตรานี้ร่างและออกแบบโดยนายแพทย์นันทวัน พรหมผลิน และกอง สมิงชัย พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานแก่หม่อมราชวงศ์มิตรารุณ เกษมศรี สถาปนิกพิเศษประจำสำนักพระราชวัง ในการปรับแก้ไขตรีและพระมหามงกุฎของตราให้เป็นแบบไทยและพระราชทานตราให้แก่มหาวิทยาลัยมหิดลเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2512[17]
- สีประจำมหาวิทยาลัย คือ สีน้ำเงิน โดยสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีพระราชทานสีนี้ซึ่งเป็นสีแห่งความเป็นราชขัติยนุกูลแห่งบรมราชวงศ์ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2512[18]
- ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย คือ ต้นกันภัยมหิดล ซึ่งสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พระวินิจฉัยชี้ขาดให้เป็นต้นไม้สัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัยเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542[19]
Remove ads
ทำเนียบอธิการบดี
สภามหาวิทยาลัย
สรุป
มุมมอง
Remove ads
ผู้บริหารมหาวิทยาลัย
Remove ads
พื้นที่มหาวิทยาลัย
สรุป
มุมมอง

มหาวิทยาลัยมหิดลมีที่ตั้งในหลายพื้นที่ ได้แก่[39]
- พื้นที่ศาลายา
ตั้งอยู่ที่ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม เป็นที่ตั้งหลักของมหาวิทยาลัย ประกอบไปด้วยคณะและวิทยาลัยส่วนใหญ่ และหน่วยงานอื่น ๆ ได้แก่ สำนักงานอธิการบดี บัณฑิตวิทยาลัย โรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก โรงเรียนสาธิตนานาชาติ นอกจากนี้ ยังเป็นที่ตั้งของมหิดลสิทธาคารและอุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ
- พื้นที่บางกอกน้อย
ตั้งอยู่ที่แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร เป็นที่ตั้งของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล คณะพยาบาลศาสตร์ และคณะเทคนิคการแพทย์ นอกจากนี้ยังมีศูนย์กายภาพบำบัดของคณะกายภาพบำบัด ตั้งอยู่บริเวณเชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าในแขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด
- พื้นที่พญาไท
ตั้งอยู่ที่แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร มี 3 บริเวณย่อย ได้แก่
- บริเวณถนนพระรามที่ 6 เป็นที่ตั้งของคณะวิทยาศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี สถาบันวิทยาศาสตร์การวิเคราะห์และตรวจสารในการกีฬา
- บริเวณถนนราชวิถี เป็นที่ตั้งของคณะสาธารณสุขศาสตร์ คณะเวชศาสตร์เขตร้อน และคณะทันตแพทยศาสตร์
- บริเวณถนนศรีอยุธยา เป็นที่ตั้งของคณะเภสัชศาสตร์
นอกจากนี้ยังมีวิทยาลัยการจัดการ ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสามเสนใน เขตพญาไท
- พื้นที่ต่างจังหวัด
- สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ตั้งอยู่ที่ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
- วิทยาเขตกาญจนบุรี ตั้งอยู่ที่ตำบลลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี
- วิทยาเขตนครสวรรค์ ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาทอง อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์
- วิทยาเขตอำนาจเจริญ ตั้งอยู่ที่ตำบลโนนหนามแท่ง อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ
Remove ads
การศึกษา
สรุป
มุมมอง
- อาคารคณะวิชาต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยมหิดล
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดลเปิดสอนในระบบหน่วยกิต ปัจจุบันมีการจัดการเรียนการสอนและการวิจัยทั้งสิ้น 629 สาขาวิชา[a][40] ครอบคลุมทั้งสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ทั้งในหลักสูตรไทยและหลักสูตรนานาชาติ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่สามารถผลิตบัณฑิตในระดับปริญญาเอกได้มากที่สุดในประเทศ[41] ในปี พ.ศ. 2548 มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นมหาวิทยาลัยรัฐที่มีปริมาณนักศึกษาต่างชาติมากที่สุด[42] และใน พ.ศ. 2549 และได้รับรางวัลประกาศเกียรติคุณประเภทธุรกิจบริการดีเด่นกลุ่มการศึกษานานาชาติจากนายกรัฐมนตรี (Prime Minister’s Export Award 2006) เพื่อประกาศเกียรติคุณมหาวิทยาลัยมหิดลในฐานะที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างประเทศมากที่สุด (Most recognized service) ในพิธีประกาศเกียรติคุณและมอบรางวัล เมื่อวันจันทร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2549 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล[43]
ปัจจุบันมหาวิทยาลัยมหิดล มีส่วนงานและกลุ่มภารกิจในสังกัด ประกอบด้วย 17 คณะ 10 สถาบัน 6 วิทยาลัย 3 วิทยาเขต และหน่วยงานต่างๆ[44] นอกจากนี้ยังมีสถาบันสมทบอีกหลายสถาบัน ซึ่งนักศึกษาของบางสถาบันเข้าร่วมการเรียนการสอนกับมหาวิทยาลัยมหิดล ในขณะที่บางสถาบันมีหลักสูตรเป็นเอกเทศ
คณะ
วิทยาลัย
สถาบัน
|
|
ศูนย์และกลุ่มภารกิจ
|
|
วิทยาเขต
สถาบันสมทบ
|
|
- สถาบันสมทบและสถาบันร่วมผลิตในอดีต
- วิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล (จัดตั้งเป็นคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช[48])
- วิทยาลัยพยาบาลเกื้อการุณย์ (จัดตั้งเป็นคณะพยาบาลศาสตร์เกื้อการุณย์ มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช[48])
- สถาบันพระบรมราชชนก (จัดตั้งเป็นสถาบันอุดมศึกษา สังกัดกระทรวงสาธารณสุข[49])
- โครงการร่วมผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
- ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา (โอนไปสังกัดคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี)
- ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช (โอนไปสังกัดสถาบันพระบรมราชชนก)
- ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จังหวัดนครสวรรค์ (โอนไปสังกัดสถาบันพระบรมราชชนก)
- ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลราชบุรี จังหวัดราชบุรี (โอนไปสังกัดสถาบันพระบรมราชชนก)
Remove ads
การจัดระเบียบ
สรุป
มุมมอง
โรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์

เนื่องจากมหาวิทยาลัยมหิดลเป็นสถาบันอุดมศึกษาที่เน้นการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ จึงมีโรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์หลายแห่ง คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลมีโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกและโรงพยาบาลที่มีจำนวนเตียงผู้ป่วยมากที่สุดในประเทศไทย, โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ซึ่งสร้างขึ้นบนพื้นที่ที่การรถไฟแห่งประเทศไทยบริจาคให้ และสถาบันการแพทย์สยามินทราธิราช ศูนย์การแพทย์ทั้งสามแห่งตั้งอยู่บริเวณเดียวกันในแขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย นอกจากนี้ คณะยังมีศูนย์การแพทย์อีกหนึ่งแห่ง นั่นคือ ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับพื้นที่ศาลายาโดยมีถนนบรมราชชนนีคั่นกลาง คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มีโรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์สองแห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลรามาธิบดี ตั้งอยู่บนถนนพระรามที่ 6 ในเขตราชเทวี และสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ ตั้งอยู่ในอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
นอกเหนือจากคณะแพทยศาสตร์แล้ว คณะเวชศาสตร์เขตร้อนก็มีโรงพยาบาลเป็นของตนเอง ตั้งอยู่ริมถนนราชวิถี ใกล้กับอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เช่นเดียวกันกับคณะทันตแพทยศาสตร์ ที่มีโรงพยาบาลตั้งอยู่ภายในคณะ คณะสัตวแพทยศาสตร์มีโรงพยาบาลสัตว์ประศุอาทรและโรงพยาบาลปศุสัตว์และสัตว์ป่าปศุปาลันในพื้นที่ศาลายา และวิทยาเขตนครสวรรค์ ก็มีศูนย์การแพทย์มหิดลเป็นของตนเองด้วยเช่นกัน
สื่อ
มหาวิทยาลัยมหิดลมีสถานีโทรทัศน์ มหิดลแชนเนล ซึ่งนำเสนอเนื้อหาจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอก[50][51] นอกจากนี้ ยังมีช่องบนยูทูบสองช่องหลัก ชื่อว่า มหิดลแชนเนล[52] และ วีมหิดล
Remove ads
โพรไฟล์วิชาการ
สรุป
มุมมอง
บทความนี้ต้องการการจัดหน้า จัดหมวดหมู่ ใส่ลิงก์ภายใน หรือเก็บกวาดเนื้อหา ให้มีคุณภาพดีขึ้น คุณสามารถปรับปรุงแก้ไขบทความนี้ได้ และนำป้ายออก พิจารณาใช้ป้ายข้อความอื่นเพื่อชี้ชัดข้อบกพร่อง |
หอสมุด

ห้องสมุดมหาวิทยาลัยมหิดล มีฐานเดิมจาก "ห้องอ่านหนังสือ" ของโรงเรียนราชแพทยาลัย ต่อมาใน พ.ศ. 2468 ได้ก่อตั้งเป็น "ห้องสมุดคณะแพทยศาสตร์" และใน พ.ศ. 2499 กฤษฎีกาการจัดวางระเบียบราชการของกรมมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ได้ยกฐานะห้องสมุดเป็น "แผนกห้องสมุด" สังกัดสำนักงานเลขานุการ กรมมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ ซึ่งขณะนั้นทำหน้าที่เป็นห้องสมุดของทั้งมหาวิทยาลัยและคณะแพทยศาสตร์และศิริราชพยาบาลด้วย
ห้องสมุดยกฐานะเป็น "กองห้องสมุด" ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 4 สิงหาคม 2520 ต่อมากองห้องสมุดได้รับการสถาปนาเป็น "สำนักหอสมุด" ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 103 ตอนที่ 140 วันที่ 8 สิงหาคม 2529 โดยมีฐานะเทียบเท่าคณะ มหาวิทยาลัยได้นำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วยดำเนินงานระบบห้องสมุดอัตโนมัติ ทำให้มีทรัพยากรห้องสมุดในรูปแบบที่หลากหลาย ต่อมาในวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 สภามหาวิทยาลัยมหิดลได้เปลี่ยนชื่อสำนักหอสมุดเป็น "หอสมุดและคลังความรู้ มหาวิทยาลัยมหิดล" โดยเป็นส่วนงานหนึ่งในระดับคณะ[53]
พิพิธภัณฑ์
ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยมหิดลมีพิพิธภัณฑ์และหอจดหมายเหตุที่เปิดให้บริการหลายแห่ง[54] ทั้งในพื้นที่ศาลายา พื้นที่บางกอกน้อย พื้นที่พญาไท และวิทยาเขตกาญจนบุรี
|
|
|
งานวิจัย
มหาวิทยาลัยมหิดลได้รับการยอมรับว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่เน้นงานวิจัย โดยในปัจจุบันมีกลุ่มงานวิจัยใน 5 สาขาหลักด้วยกัน ได้แก่ กลุ่มวิทยาศาสตร์การแพทย์และคลินิก กลุ่มวิทยาศาสตร์สุขภาพและสาธารณสุข กลุ่มวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มมนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ การจัดการ และศิลปศาสตร์ และกลุ่มภาษาและวัฒนธรรม[55] เมื่อพิจารณาจากจำนวนผลงานทางวิชาการระดับนานาชาตินั้น พบว่า มหาวิทยาลัยมหิดลมีจำนวนผลงานทางวิชาการที่ตีพิมพ์ในระดับนานาชาติบนฐานข้อมูลของ ISI databases เป็นอันดับ 1 ติดต่อกันตั้งแต่ พ.ศ. 2542–2549[56] โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ใน พ.ศ. 2548 คณะวิทยาศาสตร์มีจำนวนผลงานวิจัยเป็นอันดับ 1 เมื่อเทียบกับคณะวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแห่งอื่นในประเทศ[57] มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นมหาวิทยาลัยที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชนมากที่สุดในประเทศ[58]
การประเมินคุณภาพและการจัดอันดับ
ใน พ.ศ. 2549 สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา จัดอันดับให้มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นอันดับที่ 1 ของประเทศไทย ทั้งในด้านการเรียนการสอน ซึ่งได้คะแนนร้อยละ 61.11 จากคะแนนเต็มร้อยละ 80 และด้านการวิจัย ซึ่งได้คะแนนเต็ม[59][60]
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ประเมินคุณภาพผลงานวิจัยเชิงวิชาการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของสถาบันอุดมศึกษา ผลปรากฏว่าในการประเมินครั้งที่ 3 (พ.ศ. 2554) มหาวิทยาลัยมหิดลได้รับการประเมินในระดับดีมากในสาขาวิชาเทคโนโลยีชีวภาพ ภาควิชาเทคโนโลยีชีวภาพ, สาขาวิชาฟิสิกส์ ภาควิชาฟิสิกส์, สาขาวิชาพรีคลินิก ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ สรีรวิทยา พยาธิชีววิทยา และเภสัชวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, สาขาวิชาจุลชีววิทยาและอณูชีววิทยา สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล มหาวิทยาลัยมหิดล และสาขาวิชาเภสัชศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล[61][62]
นอกจากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดยหน่วยงานในประเทศไทยแล้ว ยังมีหน่วยงานจัดอันดับมหาวิทยาลัยจากต่างประเทศอีกหลายหน่วยงาน ซึ่งแต่ละหน่วยงานมีเกณฑ์การจัดอันดับและการให้คะแนนที่แตกต่างกัน SCImago Institutions Ranking,[63] The Times Higher Education,[64][65][66][67] Academic Performance,[68] และ U.S. News & World Report[69] จัดอันดับให้มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นอันดับที่ 1 ของประเทศไทยในด้านวิชาการ ส่วนในด้านอื่น ๆ อย่างด้านสิ่งแวดล้อม[70] และด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ[71][72] มหาวิทยาลัยมหิดลก็ถูกจัดอันดับให้เป็นอันดับที่ 1 ของประเทศด้วยเช่นกัน
Remove ads
ชีวิตนักศึกษา
สรุป
มุมมอง
นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ของมหาวิทยาลัยมหิดล จะเข้าศึกษาที่พื้นที่ศาลายาร่วมกันเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี จากนั้นจะแยกย้ายกันไปตามคณะในพื้นที่ต่างๆ บรรยากาศในการใช้ชีวิตของนักศึกษามีความหลากหลายมากเพราะนักศึกษามาจากต่างคณะกัน มีกิจกรรมมากมาย เช่น งานรักน้อง การเชียร์แสตนด์ งานอำลาศาลายา งานวันมหิดล เป็นต้น มีสถานที่ออกกำลังกายและลานกีฬาให้นักศึกษาได้เล่นตามความต้องการ การสัญจรหลักของนักศึกษาคือจักรยานหรือรถราง รวมถึงรถรับส่งจากพื้นที่ศาลายาไปยังพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร
การพักอาศัย
ที่พักอาศัยสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา จะเรียกว่า บ้านมหิดล[73] โดยบริเวณที่พักมีการจัดเป็นสัดส่วน อยู่บริเวณทางด้านหลังศูนย์การเรียนรู้มหิดล บ้านมหิดลประกอบไปด้วยอาคารหอพัก 6 หลัง ได้แก่
|
|
นอกจากบ้านมหิดลแล้ว ยังมีหอพักแห่งอื่นที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ศาลายา ได้แก่ หอพักพยาบาลรามาธิบดี หอพักสถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน หอพักสถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล หอพักวิทยาลัยนานาชาติ หอพักน้ำทองสิกขาลัยของวิทยาลัยศาสนศึกษา อาคารชุดพักอาศัยหรือคอนโดมิเนียม 4 อาคาร และโรงแรมศาลายาพาวิลเลียน
สำหรับพื้นที่บางกอกน้อย มีหอพักสำหรับนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลและคณะพยาบาลศาสตร์ ได้แก่ หอมหิตลาธิเบศ หอหญิงเตี้ย หอหญิงสูง หอแปดไร่ และหอเจ้าพระยา พื้นที่พญาไทมีหอพักคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีและหอพักคณะเวชศาสตร์เขตร้อน และพื้นที่ต่างจังหวัด อันได้แก่ กาญจนบุรี นครสวรรค์ อำนาจเจริญ ต่างก็มีหอพักประจำวิทยาเขตด้วยกันทั้งสิ้น
กิจกรรมนักศึกษา
กิจกรรมที่จัดโดยนักศึกษาระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยมหิดลจะจัดโดยองค์กรนักศึกษาและกลุ่มกิจกรรมนักศึกษา องค์กรนักศึกษาในมหาวิทยาลัยมหิดล ได้แก่ สโมสรนักศึกษาซึ่งมีทั้งระดับมหาวิทยาลัยและระดับส่วนงาน และสภานักศึกษา ส่วนกลุ่มกิจกรรมได้แก่ ชมรมซึ่งสังกัดอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสโมสรนักศึกษา และกลุ่มกิจกรรมอิสระ กิจกรรมนักศึกษาในมหาวิทยาลัยมหิดลจะเป็นไปตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยมหิดล ว่าด้วยกิจกรรมนักศึกษา พ.ศ. 2557
บทความนี้อาจต้องเขียนใหม่ทั้งหมดเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพของวิกิพีเดีย หรือกำลังดำเนินการอยู่ คุณช่วยเราได้ หน้าอภิปรายอาจมีข้อเสนอแนะ |
สโมสรนักศึกษา
สโมสรนักศึกษาเป็นศูนย์กลางส่งเสริมและจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรแก่นักศึกษา โดยมีคณะกรรมการสโมสรนักศึกษาเป็นผู้ดำเนินงานเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และนโยบายของมหาวิทยาลัย คณะกรรมการสโมสรนักศึกษา ประกอบด้วย นายกสโมสร อุปนายกสโมสร เลขานุการ เหรัญญิก ปฏิคม ประชาสัมพันธ์ วิเทศสัมพันธ์ กรรมการด้านกีฬา กรรมการด้านศิลปะและวัฒนธรรม กรรมการด้านบำเพ็ญประโยชน์ กรรมการด้านวิชาการ และกรรมการอื่น ๆ อีกจำนวนไม่เกิน 14 คน
สภานักศึกษา
สภานักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล (อังกฤษ: Mahidol University Student Council) เป็นองค์กรนักศึกษาที่เป็นตัวแทนของนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล จัดตั้งขึ้นภายใต้ข้อบังคับมหาวิทยาลัยมหิดล ว่าด้วยกิจกรรมนักศึกษา พ.ศ. 2557 โดยมีหน้าที่กำกับดูแลและประสานงานกิจกรรมนักศึกษา เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายและวัตถุประสงค์ของมหาวิทยาลัย[74]
สมาชิก
สภานักศึกษาประกอบด้วยผู้แทนนักศึกษาจากแต่ละส่วนงาน โดยแต่ละส่วนงานสามารถมีผู้แทนได้ไม่เกินสามคน การได้มาซึ่งผู้แทนเหล่านี้จะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่สภานักศึกษากำหนดและต้องเสร็จสิ้นภายในเดือนธันวาคมของทุกปี[74]
คุณสมบัติ
สมาชิกสภานักศึกษาต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้:
- เป็นนักศึกษาที่ลงทะเบียนเป็นนักศึกษาโดยสมบูรณ์แล้วในปีการศึกษานั้น
- มีผลการเรียนแต้มเฉลี่ยสะสมจนถึงภาคเรียนสุดท้ายก่อนภาคเรียนที่มีการแต่งตั้งมากกว่า 2.00
- ผู้ดำรงตำแหน่งประธานสภานักศึกษาต้องเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 ขึ้นไป
- ไม่อยู่ในระหว่างถูกลงโทษทางวินัยตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย
- ไม่ดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการสโมสรนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยหรือส่วนงาน หรือกรรมการชมรมระดับมหาวิทยาลัย
- ไม่เป็นผู้มีสภาพวิทยาทัณฑ์
วาระการดำรงตำแหน่ง
สมาชิกสภานักศึกษามีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละหนึ่งปี นับตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 31 มกราคมของปีถัดไป[74]
การสิ้นสุดวาระ
การดำรงตำแหน่งของสมาชิกสภานักศึกษาสิ้นสุดลงเมื่อ:
- ครบวาระ
- ตาย
- ลาออก
- พ้นสภาพการเป็นนักศึกษา
- ขาดคุณสมบัติตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยมหิดล ว่าด้วยกิจกรรมนักศึกษา พ.ศ. 2557
- ถูกถอดถอนโดยอธิการบดี
- ถูกถอดถอนตามมติของสภานักศึกษา
การแทนที่สมาชิก
ในกรณีที่สมาชิกสภานักศึกษาสิ้นสุดวาระก่อนกำหนด จะมีการเลือกตั้งสมาชิกใหม่ภายใน 30 วัน ยกเว้นหากเหลือวาระไม่ถึง 60 วัน สามารถไม่เลือกตั้งสมาชิกใหม่ได้[74]
การถอดถอนสมาชิก
การถอดถอนสมาชิกสภานักศึกษาให้ดำเนินการโดยนักศึกษาจำนวนตั้งแต่ 250 คน หรือคณะกรรมการสโมสรนักศึกษาจำนวน 2 ใน 3 หรือสมาชิกสภานักศึกษาจำนวน 1 ใน 5 สามารถยื่นเรื่องถอดถอนต่อประธานสภานักศึกษา และการถอดถอนจะเป็นไปตามมติของสภานักศึกษา
อำนาจหน้าที่ การประชุม และการดำเนินงาน
หน้าที่ของสภานักศึกษาประกอบด้วย:
- กำกับดูแลการดำเนินกิจกรรมของสโมสรนักศึกษาทั้งระดับมหาวิทยาลัยและส่วนงานให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และนโยบายของมหาวิทยาลัย
- อนุมัตินโยบาย โครงการ และงบประมาณของสโมสรนักศึกษา
- ออกประกาศ ข้อกำหนด หรือคำสั่งที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของสภานักศึกษา โดยไม่ขัดกับข้อบังคับและนโยบายของมหาวิทยาลัย
- ตรวจสอบและประเมินผลการดำเนินงานของสโมสรนักศึกษาให้เป็นไปตามนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อสภานักศึกษา
- จัดทำรายงานประเมินผลการดำเนินกิจกรรมในรอบปีและรวบรวมผลการดำเนินกิจกรรมของสโมสรนักศึกษาและชมรม เสนอต่ออธิการบดีเมื่อครบวาระ
- ให้ความร่วมมือในการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยและกิจกรรมของมหาวิทยาลัย
- เสนอปรับปรุงแก้ไขข้อบังคับโดยความเห็นชอบของอธิการบดี
- ถอดถอนสมาชิกสภานักศึกษา นายกสโมสรนักศึกษา และกรรมการสโมสรนักศึกษา
สภานักศึกษามีอำนาจในการเสนอให้ยุบสโมสรนักศึกษา โดยใช้มติ 4 ใน 5 ของสมาชิกสภานักศึกษาเพื่อยื่นเสนอต่ออธิการบดี โดยอธิการบดีจะเรียกประชุมคณะกรรมการฝ่ายกิจการนักศึกษาเพื่อพิจารณา
การประชุมและการดำเนินงานของสภานักศึกษา
การประชุมและการดำเนินงานของสภานักศึกษาจะเป็นไปตามประกาศสภานักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล เรื่อง การประชุมและการดำเนินงานของสภานักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล พ.ศ. 2567
โครงสร้าง
โครงสร้างของสภานักศึกษาประกอบไปด้วยคณะกรรมการบริหาร[75] คณะกรรมาธิการสามัญ และสำนักงานเลขาธิการ[76]
คณะกรรมการบริหารสภานักศึกษา
กิจการของสภานักศึกษาถูกบริหารโดยคณะกรรมการบริหารสภานักศึกษา ซึ่งมีองค์ประกอบดังต่อไปนี้
- ประธานสภา
- รองประธานสภาคนที่ 1
- รองประธานสภาคนที่ 2
- เลขาธิการสภา
- รองเลขาธิการสภา
- เหรัญญิก
- ผู้ช่วยประธานสภา
ตำแหน่งที่ 1 ถึง 5 ได้จากการเลือกตั้งโดยสมาชิกสภานักศึกษาโดยถือเสียงข้างมาก ส่วนตำแหน่งที่ 6 และ 7 ได้จากการเสนอชื่อโดยประธานสภานักศึกษาและได้รับการรับรองจากที่ประชุมสภานักศึกษา โดยทุกตำแหน่งต้องได้รับการแต่งตั้งจากอธิการบดี
คณะกรรมาธิการสามัญ
คณะกรรมาธิการสามัญตามประกาศคณะกรรมการบริหารสภานักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล เรื่อง คณะกรรมาธิการสามัญและสำนักงานภายในสภานักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล พ.ศ. 2567 ได้แก่
- คณะกรรมาธิการส่งเสริมเสรีภาพและความเท่าเทียม
- คณะกรรมาธิการพิทักษ์สิทธิและสวัสดิภาพ
- คณะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณ
- คณะกรรมาธิการกิจกรรมนักศึกษา
- คณะกรรมาธิการวิชาการและพัฒนาการศึกษา
สำนักงานภายในสภานักศึกษา
สำนักงานภายในสภานักศึกษาตามประกาศคณะกรรมการบริหารสภานักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล เรื่อง คณะกรรมาธิการสามัญและสำนักงานภายในสภานักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล พ.ศ. 2567 มีสำนักเดียว นั้นคือ สำนักงานเลขาธิการสภานักศึกษา ซึ่งประกอบไปด้วยฝ่ายดังต่อไปนี้
- ฝ่ายประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร
- ฝ่ายสารสนเทศ
- ฝ่ายการประชุมและธุรการทั่วไป
อาจารย์ที่ปรึกษา
สภานักศึกษามีอำนาจในการเสนอชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาให้อธิการบดีพิจารณาแต่งตั้ง เพื่อให้คำปรึกษา แนะนำ และกำกับดูแลการปฏิบัติงานของสภานักศึกษาให้เป็นไปตามนโยบายและข้อบังคับของมหาวิทยาลัย
การยุบสภานักศึกษา
กรณีการยุบสภานักศึกษา นักศึกษาจำนวน 1 ใน 8 หรือมติเอกฉันท์ของคณะกรรมการสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัย สามารถเสนอยุบสภานักศึกษาได้ โดยอธิการบดีจะเรียกประชุมคณะกรรมการฝ่ายกิจการนักศึกษาเพื่อพิจารณา และอธิการบดีมีอำนาจในการยุบสภานักศึกษาได้หากมีเหตุผลสมควร
รายชื่อประธานสภานักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล
การได้มาซึ่งสมาชิกสภานักศึกษา
ตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยมหิดล ว่าด้วยกิจกรรมนักศึกษา พ.ศ. 2557 นั้น ให้การได้มาซึ่งสมาชิกสภานักศึกษาเป็นไปตามที่สภานักศึกษากำหนดเอง
พิธีพระราชทานปริญญาบัตร

ในขณะที่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทรเสด็จนิวัตประเทศไทยเป็นครั้งที่ 2 พระองค์ได้เสด็จมาพระราชทานปริญญาบัตร ณ มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ เมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2489 ซึ่งเป็นการพระราชทานปริญญาบัตรเป็นครั้งสุดท้ายในรัชสมัยของพระองค์ ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้จัดพิธีพระราชทานปริญญาบัตรเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2493 โดยพระองค์เสด็จพระราชดำเนินเป็นประธาน ณ ปะรำพิธีหน้าตึกรังสีวิทยา โรงพยาบาลศิริราช เมื่อครั้งยังเป็นมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ โดยมีบัณฑิตจากคณะต่าง ๆ เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรต่อหน้าพระพักตร์ จำนวน 200 คน งานพิธีพระราชทานปริญญาบัตรยังคงจัดขึ้นที่หอประชุมราชแพทยาลัยในโรงพยาบาลศิริราชเป็นประจำทุกปีจนถึง พ.ศ. 2520 ซึ่งเมื่อมีผู้สำเร็จการศึกษาเพิ่มมากขึ้น จึงได้เปลี่ยนมาจัดที่สวนอัมพรแทน[77]
นับตั้งแต่ พ.ศ. 2557 เป็นต้นมา พิธีพระราชทานปริญญาบัตรจัดขึ้นที่หอประชุมมหิดลสิทธาคาร โดย สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหิดล[78]
Remove ads
การเดินทาง
สรุป
มุมมอง
ระบบขนส่งมวลชน

การเดินทางมายังมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา มีระบบขนส่งมวลชนหลากหลายรูปแบบ[79] รถโดยสารประจำทางที่ผ่านมหาวิทยาลัยทั้งฝั่งถนนบรมราชชนนี ถนนพุทธมณฑล สาย 4 และทางหลวงชนบท นฐ.4006 มีหลายสาย ทั้งรถประจำทางสายที่ให้บริการโดยองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.), บริษัท ไทยสมายล์บัส จำกัด และผู้ให้บริการเอกชนรายอื่น ๆ นอกจากรถประจำทางแล้ว ยังมีรถโดยสารที่ให้บริการโดยมหาวิทยาลัย ได้แก่ ชัตเทิลบัส ที่ให้บริการรับส่งระหว่างพื้นที่ศาลายา บางกอกน้อย และพญาไท และศาลายาลิงก์ ที่ให้บริการรับส่งระหว่างวิทยาลัยดุริยางคศิลป์กับสถานีบางหว้า[80] มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ยังตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟศาลายาบนทางรถไฟสายใต้ มีขบวนรถโดยสารจอดทุกขบวน ในอนาคตมีโครงการรถไฟฟ้าชานเมือง สายสีแดงอ่อน ซึ่งผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้ว[81]
สำหรับพื้นที่พญาไท มีรถโดยสายประจำทางผ่านทางฝั่งถนนพระรามที่ 6 และถนนราชวิถี หลายสาย และมีรถไฟชานเมืองให้บริการที่ที่หยุดรถไฟโรงพยาบาลรามาธิบดี หลังคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี นอกจากนี้ โรงพยาบาลรามาธิบดียังมีรถโดยสารรับส่งระหว่างคณะกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส พญาไท และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
พื้นที่บางกอกน้อย มีรถโดยสารประจำทางให้บริการฝั่งถนนอรุณอมรินทร์ โดยถนนสายนี้มีสะพานข้ามแยกศิริราชที่เปิดให้บริการในเดือนกันยายน พ.ศ. 2564 นอกจากรถประจำทางแล้ว ยังมีรถสองแถวที่ให้บริการในหลายเส้นทาง และมีรถโดยสารของคณะ ได้แก่ ชัตเทิลบัสที่ให้บริการระหว่างคณะกับสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีไฟฉาย, เซ็นทรัลปิ่นเกล้า และหอพักนักศึกษาแพทย์ ทางรางมีรถไฟชานเมืองให้บริการที่สถานีรถไฟธนบุรี ในอนาคตมีโครงการสถานีร่วมศิริราชบนเส้นทางรถไฟฟ้าชานเมือง สายสีแดงอ่อน และรถไฟฟ้าสายสีส้ม[81] ทางน้ำมีเรือด่วนเจ้าพระยา และเรือโดยสารสาธารณะ ไมน์ สมาร์ท เฟอร์รี่ ให้บริการที่ท่าพรานนกและท่ารถไฟ และมีเรือข้ามฟากให้บริการจากท่าวังหลังไปยังท่าพระจันทร์ (มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์), ท่ามหาราช และท่าช้าง
ระบบขนส่งภายในมหาวิทยาลัย

ภายในมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา มีรถรางวิ่งให้บริการทั้งหมด 4 สาย เรียงตามหมายเลข ได้แก่ สายสีเขียว, สายสีน้ำเงิน, สายสีแดง และสายสีเหลือง[82] นอกจากนี้ ยังมีจักรยานสาธารณะซึ่งนักศึกษาและบุคลากรสามารถยืมใช้ฟรีได้ที่ จักก้าเซ็นเตอร์ หน้าหอพักนักศึกษา โดยต้องลงทะเบียนเพื่อรับบัตรก่อนใช้งาน
Remove ads
บุคคลสำคัญ
คณาจารย์และบุคลากรของมหาวิทยาลัยมหิดลนั้นได้รับแต่งตั้งเป็นนักวิทยาศาสตร์ดีเด่นของไทยมากที่สุด โดยมีรายพระนาม และรายนามบุคคลสำคัญจากมหาวิทยาลัย เช่น
- สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ผู้ทรงบุกเบิกการแพทย์แผนใหม่ในประเทศไทย ผู้ทรงเป็นที่มาแห่งนาม "มหาวิทยาลัยมหิดล"
- ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานของสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์
- ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.ประเวศ วะสี นักเรียนทุนมูลนิธิอานันทมหิดล ผู้ได้รับรางวัลแมกไซไซ ปี 2524 และนักวิทยาศาสตร์ดีเด่น ปี 2526
- ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.นพ.ณัฐ ภมรประวัติ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ได้รับรางวัลนักวิทยาศาสตร์ดีเด่นแห่งชาติ
- ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ประสพ รัตนากร ปรมาจารย์ด้านประสาทวิทยาศาสตร์ของประเทศไทย ประธานคณะที่ปรึกษามูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็นผู้ริเริ่มการก่อตั้งโรงพยาบาลประสาททั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคของประเทศไทย หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
หมายเหตุ
อ้างอิง
ดูเพิ่ม
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads