คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง

มหาวิทยาลัยมหิดล

มหาวิทยาลัยรัฐในประเทศไทย จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

มหาวิทยาลัยมหิดล
Remove ads

มหาวิทยาลัยมหิดล (อังกฤษ: Mahidol University; MU) เป็นมหาวิทยาลัยวิจัยของรัฐที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย ตั้งอยู่ในตำบลศาลายา จังหวัดนครปฐม ก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2432 ในฐานะมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์[1] ซึ่งถือเป็นสถาบันอุดมศึกษาด้านการแพทย์แห่งแรกของประเทศไทย ต่อมาได้รับพระราชทานนามตามพระนามของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ด้วยประวัติอันยาวนาน บทบาททางวิชาการ และการวิจัยที่โดดเด่นทั้งในระดับชาติและนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดลจึงได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้[4]

ข้อมูลเบื้องต้น ชื่อเดิม, ชื่อย่อ ...
Thumb
กันภัยมหิดล (Afgekia mahidoliae) ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย

ต้นกำเนิดของมหาวิทยาลัยมหิดลย้อนกลับไปถึง พ.ศ. 2432 เมื่อมีการจัดตั้งโรงเรียนแพทยากร ณ บริเวณโรงพยาบาลศิริราช ปลุกปั้นบุคลากรทางการแพทย์ยุคใหม่ในประเทศสยาม ก่อนที่จะรวมเข้ากับโรงเรียนข้าราชการพลเรือนเพื่อสถาปนาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเปลี่ยนสถานะเป็นคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล[5] และในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2486 รัฐบาลได้แยกคณะวิชาแพทยศาสตร์จำนวนสี่คณะออกมา จัดตั้งเป็นมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์โดยเฉพาะ[1] ซึ่งต่อมาได้วิวัฒน์เป็นมหาวิทยาลัยมหิดลในปัจจุบัน

มหาวิทยาลัยมหิดลประกอบด้วย 17 คณะ 6 วิทยาลัย 9 สถาบัน และ 3 วิทยาเขต มีภารกิจหลักในการจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษา การวิจัย การบริการวิชาการ และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ได้รับเลือกเป็นหนึ่งใน 9 มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติของประเทศไทย เมื่อ พ.ศ. 2552 และเป็นสมาชิกเครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียน (ASEAN University Network; AUN) มหาวิทยาลัยมหิดลยังได้รับการจัดอันดับในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และนานาชาติอย่างต่อเนื่องในสาขาต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านแพทยศาสตร์ สาธารณสุข และวิทยาศาสตร์สุขภาพ ซึ่งสะท้อนถึงบทบาทผู้นำทางวิชาการและการวิจัยที่มหาวิทยาลัยสืบทอดมาอย่างยาวนาน

Remove ads

ประวัติ

สรุป
มุมมอง
Thumb
สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดสร้างโรงศิริราชพยาบาลขึ้นบริเวณพระราชวังบวรสถานพิมุข หรือที่เรียกว่า วังหลัง[6] ต่อมาใน พ.ศ. 2432 จึงมีพระบรมราชานุญาตให้จัดตั้ง โรงเรียนแพทยากร[7] โดยจัดการเรียนการสอนในระดับประกาศนียบัตร 3 ปี หลังจากนั้น เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินเปิดตึกของโรงเรียนแพทย์ จึงได้พระราชทานนามใหม่ว่า โรงเรียนราชแพทยาลัย

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาโรงเรียนข้าราชการพลเรือนของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นเป็น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงได้รวมโรงเรียนราชแพทยาลัยเข้าเป็นคณะหนึ่งของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเมื่อววันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2460[8] โดยใช้ชื่อว่า "คณะแพทยศาสตร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย" ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเป็น "คณะแพทยศาสตร์และศิริราชพยาบาล" ซึ่งได้รับการพัฒนาวิชาการจากมูลนิธิร็อกเกอะเฟลเลอร์[9] จนสามารถจัดการศึกษาถึงขั้นประสาทปริญญาบัตร[10] ซึ่งอนุมัติโดยสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย[11]

ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2486 คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในพระปรมาภิไธยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล มีพระบรมราชโองการให้ตราพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ขึ้น โดยแยกคณะแพทยศาสตร์และศิริราชพยาบาล แผนกอิสระทันตแพทยศาสตร์ แผนกอิสระเภสัชศาสตร์ และแผนกอิสระสัตวแพทยศาสตร์ จัดตั้งเป็น มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์[12] สังกัดกระทรวงสาธารณสุข โดยได้จัดตั้งคณะต่าง ๆ หลายคณะ ต่อมาได้โอนคืนคณะที่ซ้ำซ้อนออกจากมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ ได้แก่ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ คณะเภสัชศาสตร์ และคณะทันตแพทยศาสตร์ โอนไปสังกัดจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลนครเชียงใหม่ โอนไปสังกัดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณะสัตวแพทยศาสตร์ โอนไปสังกัดมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2512 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามมหาวิทยาลัยว่า มหาวิทยาลัยมหิดล อันเป็นพระนามของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก แทนชื่อมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์เดิม[13] ในวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2550 มหาวิทยาลัยมหิดลได้เปลี่ยนรูปแบบการบริหารงานเป็นสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ[14] และใน พ.ศ. 2551 มีแผนแม่บทพัฒนามหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ให้เป็นเมืองมหาวิทยาลัยสีเขียว โดยปรับนโยบายในการจัดสภาพแวดล้อมเพื่อยกระดับความสำคัญและเอื้อต่อการทำกิจกรรม[15] นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยยังจัดทำแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืน พ.ศ. 2558–2562 โดยมี 3 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่ การส่งเสริมให้เกิดการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร การส่งเสริมความเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ และการส่งเสริมให้เกิดพันธกิจสัมพันธ์กับชุมชน

Remove ads

สัญลักษณ์

Thumb
ตราประจำมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์
  • ตราสัญลักษณ์
    • สมัยที่ยังเป็นมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ ตราสัญลักษณ์เป็นตราวงกลม 2 ชั้น ภายในเป็นรูปงูพันคบเพลิง วงนอกด้านบนเขียนว่า "อตฺตานํ อุปมํ กเร" ด้านล่างเขียนว่า "มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์"
    • ต่อมาเมื่อมีการพระราชทานชื่อ "มหาวิทยาลัยมหิดล" ได้เปลี่ยนเป็นตราวงกลม 2 ชั้น วงกลมชั้นในมีพื้นหลังเป็นสีน้ำเงิน ตรงกลางเป็นตราประจำราชสกุลมหิดลสีเหลืองทอง ส่วนวงกลมชั้นนอกนั้นมีพื้นหลังสีขาวตัวอักษรสีเหลืองทองด้านบนเขียนว่า "อตฺตานํ อุปมํ กเร" ด้านล่างเขียนว่า "มหาวิทยาลัยมหิดล" คั่นด้วยดอกประจำยามสีเหลืองทอง[16] ตรานี้ร่างและออกแบบโดยนายแพทย์นันทวัน พรหมผลิน และกอง สมิงชัย พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานแก่หม่อมราชวงศ์มิตรารุณ เกษมศรี สถาปนิกพิเศษประจำสำนักพระราชวัง ในการปรับแก้ไขตรีและพระมหามงกุฎของตราให้เป็นแบบไทยและพระราชทานตราให้แก่มหาวิทยาลัยมหิดลเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2512[17]
  • สีประจำมหาวิทยาลัย คือ สีน้ำเงิน โดยสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีพระราชทานสีนี้ซึ่งเป็นสีแห่งความเป็นราชขัติยนุกูลแห่งบรมราชวงศ์ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2512[18]
  • ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย คือ ต้นกันภัยมหิดล ซึ่งสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พระวินิจฉัยชี้ขาดให้เป็นต้นไม้สัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัยเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542[19]
Remove ads

ทำเนียบอธิการบดี

ข้อมูลเพิ่มเติม มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์, ลำดับ ...

สภามหาวิทยาลัย

สรุป
มุมมอง
ข้อมูลเพิ่มเติม รายนาม, ตำแหน่ง ...
Remove ads

ผู้บริหารมหาวิทยาลัย

ข้อมูลเพิ่มเติม รายชื่อผู้บริหาร, ตําเเหน่ง ...
Remove ads

พื้นที่มหาวิทยาลัย

สรุป
มุมมอง
Thumb
ภูมิทัศน์ของมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ขวามือเป็นมหิดลสิทธาคาร

มหาวิทยาลัยมหิดลมีที่ตั้งในหลายพื้นที่ ได้แก่[39]

พื้นที่ศาลายา

ตั้งอยู่ที่ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม เป็นที่ตั้งหลักของมหาวิทยาลัย ประกอบไปด้วยคณะและวิทยาลัยส่วนใหญ่ และหน่วยงานอื่น ๆ ได้แก่ สำนักงานอธิการบดี บัณฑิตวิทยาลัย โรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก โรงเรียนสาธิตนานาชาติ นอกจากนี้ ยังเป็นที่ตั้งของมหิดลสิทธาคารและอุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ

พื้นที่บางกอกน้อย

ตั้งอยู่ที่แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร เป็นที่ตั้งของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล คณะพยาบาลศาสตร์ และคณะเทคนิคการแพทย์ นอกจากนี้ยังมีศูนย์กายภาพบำบัดของคณะกายภาพบำบัด ตั้งอยู่บริเวณเชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าในแขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด

พื้นที่พญาไท

ตั้งอยู่ที่แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร มี 3 บริเวณย่อย ได้แก่

  • บริเวณถนนพระรามที่ 6 เป็นที่ตั้งของคณะวิทยาศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี สถาบันวิทยาศาสตร์การวิเคราะห์และตรวจสารในการกีฬา
  • บริเวณถนนราชวิถี เป็นที่ตั้งของคณะสาธารณสุขศาสตร์ คณะเวชศาสตร์เขตร้อน และคณะทันตแพทยศาสตร์
  • บริเวณถนนศรีอยุธยา เป็นที่ตั้งของคณะเภสัชศาสตร์

นอกจากนี้ยังมีวิทยาลัยการจัดการ ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสามเสนใน เขตพญาไท

พื้นที่ต่างจังหวัด
Remove ads

การศึกษา

สรุป
มุมมอง

มหาวิทยาลัยมหิดลเปิดสอนในระบบหน่วยกิต ปัจจุบันมีการจัดการเรียนการสอนและการวิจัยทั้งสิ้น 629 สาขาวิชา[a][40] ครอบคลุมทั้งสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ทั้งในหลักสูตรไทยและหลักสูตรนานาชาติ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่สามารถผลิตบัณฑิตในระดับปริญญาเอกได้มากที่สุดในประเทศ[41] ในปี พ.ศ. 2548 มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นมหาวิทยาลัยรัฐที่มีปริมาณนักศึกษาต่างชาติมากที่สุด[42] และใน พ.ศ. 2549 และได้รับรางวัลประกาศเกียรติคุณประเภทธุรกิจบริการดีเด่นกลุ่มการศึกษานานาชาติจากนายกรัฐมนตรี (Prime Minister’s Export Award 2006) เพื่อประกาศเกียรติคุณมหาวิทยาลัยมหิดลในฐานะที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างประเทศมากที่สุด (Most recognized service) ในพิธีประกาศเกียรติคุณและมอบรางวัล เมื่อวันจันทร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2549 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล[43]

ปัจจุบันมหาวิทยาลัยมหิดล มีส่วนงานและกลุ่มภารกิจในสังกัด ประกอบด้วย 17 คณะ 10 สถาบัน 6 วิทยาลัย 3 วิทยาเขต และหน่วยงานต่างๆ[44] นอกจากนี้ยังมีสถาบันสมทบอีกหลายสถาบัน ซึ่งนักศึกษาของบางสถาบันเข้าร่วมการเรียนการสอนกับมหาวิทยาลัยมหิดล ในขณะที่บางสถาบันมีหลักสูตรเป็นเอกเทศ

คณะ

วิทยาลัย

สถาบัน

ศูนย์และกลุ่มภารกิจ

วิทยาเขต

สถาบันสมทบ


สถาบันสมทบและสถาบันร่วมผลิตในอดีต
Remove ads

การจัดระเบียบ

สรุป
มุมมอง

โรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์

Thumb
โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ และอาคารพิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน

เนื่องจากมหาวิทยาลัยมหิดลเป็นสถาบันอุดมศึกษาที่เน้นการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ จึงมีโรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์หลายแห่ง คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลมีโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกและโรงพยาบาลที่มีจำนวนเตียงผู้ป่วยมากที่สุดในประเทศไทย, โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ซึ่งสร้างขึ้นบนพื้นที่ที่การรถไฟแห่งประเทศไทยบริจาคให้ และสถาบันการแพทย์สยามินทราธิราช ศูนย์การแพทย์ทั้งสามแห่งตั้งอยู่บริเวณเดียวกันในแขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย นอกจากนี้ คณะยังมีศูนย์การแพทย์อีกหนึ่งแห่ง นั่นคือ ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับพื้นที่ศาลายาโดยมีถนนบรมราชชนนีคั่นกลาง คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มีโรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์สองแห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลรามาธิบดี ตั้งอยู่บนถนนพระรามที่ 6 ในเขตราชเทวี และสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ ตั้งอยู่ในอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ

นอกเหนือจากคณะแพทยศาสตร์แล้ว คณะเวชศาสตร์เขตร้อนก็มีโรงพยาบาลเป็นของตนเอง ตั้งอยู่ริมถนนราชวิถี ใกล้กับอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เช่นเดียวกันกับคณะทันตแพทยศาสตร์ ที่มีโรงพยาบาลตั้งอยู่ภายในคณะ คณะสัตวแพทยศาสตร์มีโรงพยาบาลสัตว์ประศุอาทรและโรงพยาบาลปศุสัตว์และสัตว์ป่าปศุปาลันในพื้นที่ศาลายา และวิทยาเขตนครสวรรค์ ก็มีศูนย์การแพทย์มหิดลเป็นของตนเองด้วยเช่นกัน

สื่อ

มหาวิทยาลัยมหิดลมีสถานีโทรทัศน์ มหิดลแชนเนล ซึ่งนำเสนอเนื้อหาจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอก[50][51] นอกจากนี้ ยังมีช่องบนยูทูบสองช่องหลัก ชื่อว่า มหิดลแชนเนล[52] และ วีมหิดล

Remove ads

โพรไฟล์วิชาการ

สรุป
มุมมอง

หอสมุด

Thumb
หอสมุดและคลังความรู้ มหาวิทยาลัยมหิดล

ห้องสมุดมหาวิทยาลัยมหิดล มีฐานเดิมจาก "ห้องอ่านหนังสือ" ของโรงเรียนราชแพทยาลัย ต่อมาใน พ.ศ. 2468 ได้ก่อตั้งเป็น "ห้องสมุดคณะแพทยศาสตร์" และใน พ.ศ. 2499 กฤษฎีกาการจัดวางระเบียบราชการของกรมมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ได้ยกฐานะห้องสมุดเป็น "แผนกห้องสมุด" สังกัดสำนักงานเลขานุการ กรมมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ ซึ่งขณะนั้นทำหน้าที่เป็นห้องสมุดของทั้งมหาวิทยาลัยและคณะแพทยศาสตร์และศิริราชพยาบาลด้วย

ห้องสมุดยกฐานะเป็น "กองห้องสมุด" ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 4 สิงหาคม 2520 ต่อมากองห้องสมุดได้รับการสถาปนาเป็น "สำนักหอสมุด" ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 103 ตอนที่ 140 วันที่ 8 สิงหาคม 2529 โดยมีฐานะเทียบเท่าคณะ มหาวิทยาลัยได้นำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วยดำเนินงานระบบห้องสมุดอัตโนมัติ ทำให้มีทรัพยากรห้องสมุดในรูปแบบที่หลากหลาย ต่อมาในวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 สภามหาวิทยาลัยมหิดลได้เปลี่ยนชื่อสำนักหอสมุดเป็น "หอสมุดและคลังความรู้ มหาวิทยาลัยมหิดล" โดยเป็นส่วนงานหนึ่งในระดับคณะ[53]

พิพิธภัณฑ์

ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยมหิดลมีพิพิธภัณฑ์และหอจดหมายเหตุที่เปิดให้บริการหลายแห่ง[54] ทั้งในพื้นที่ศาลายา พื้นที่บางกอกน้อย พื้นที่พญาไท และวิทยาเขตกาญจนบุรี

งานวิจัย

มหาวิทยาลัยมหิดลได้รับการยอมรับว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่เน้นงานวิจัย โดยในปัจจุบันมีกลุ่มงานวิจัยใน 5 สาขาหลักด้วยกัน ได้แก่ กลุ่มวิทยาศาสตร์การแพทย์และคลินิก กลุ่มวิทยาศาสตร์สุขภาพและสาธารณสุข กลุ่มวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มมนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ การจัดการ และศิลปศาสตร์ และกลุ่มภาษาและวัฒนธรรม[55] เมื่อพิจารณาจากจำนวนผลงานทางวิชาการระดับนานาชาตินั้น พบว่า มหาวิทยาลัยมหิดลมีจำนวนผลงานทางวิชาการที่ตีพิมพ์ในระดับนานาชาติบนฐานข้อมูลของ ISI databases เป็นอันดับ 1 ติดต่อกันตั้งแต่ พ.ศ. 2542–2549[56] โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ใน พ.ศ. 2548 คณะวิทยาศาสตร์มีจำนวนผลงานวิจัยเป็นอันดับ 1 เมื่อเทียบกับคณะวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแห่งอื่นในประเทศ[57] มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นมหาวิทยาลัยที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชนมากที่สุดในประเทศ[58]

การประเมินคุณภาพและการจัดอันดับ

ข้อมูลเพิ่มเติม อันดับมหาวิทยาลัย(คัดเฉพาะอันดับนานาชาติไม่เกิน 500), อันดับในประเทศ (อันดับนานาชาติ) ...

ใน พ.ศ. 2549 สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา จัดอันดับให้มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นอันดับที่ 1 ของประเทศไทย ทั้งในด้านการเรียนการสอน ซึ่งได้คะแนนร้อยละ 61.11 จากคะแนนเต็มร้อยละ 80 และด้านการวิจัย ซึ่งได้คะแนนเต็ม[59][60]

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ประเมินคุณภาพผลงานวิจัยเชิงวิชาการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของสถาบันอุดมศึกษา ผลปรากฏว่าในการประเมินครั้งที่ 3 (พ.ศ. 2554) มหาวิทยาลัยมหิดลได้รับการประเมินในระดับดีมากในสาขาวิชาเทคโนโลยีชีวภาพ ภาควิชาเทคโนโลยีชีวภาพ, สาขาวิชาฟิสิกส์ ภาควิชาฟิสิกส์, สาขาวิชาพรีคลินิก ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ สรีรวิทยา พยาธิชีววิทยา และเภสัชวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, สาขาวิชาจุลชีววิทยาและอณูชีววิทยา สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล มหาวิทยาลัยมหิดล และสาขาวิชาเภสัชศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล[61][62]

นอกจากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดยหน่วยงานในประเทศไทยแล้ว ยังมีหน่วยงานจัดอันดับมหาวิทยาลัยจากต่างประเทศอีกหลายหน่วยงาน ซึ่งแต่ละหน่วยงานมีเกณฑ์การจัดอันดับและการให้คะแนนที่แตกต่างกัน SCImago Institutions Ranking,[63] The Times Higher Education,[64][65][66][67] Academic Performance,[68] และ U.S. News & World Report[69] จัดอันดับให้มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นอันดับที่ 1 ของประเทศไทยในด้านวิชาการ ส่วนในด้านอื่น ๆ อย่างด้านสิ่งแวดล้อม[70] และด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ[71][72] มหาวิทยาลัยมหิดลก็ถูกจัดอันดับให้เป็นอันดับที่ 1 ของประเทศด้วยเช่นกัน

Remove ads

ชีวิตนักศึกษา

สรุป
มุมมอง

นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ของมหาวิทยาลัยมหิดล จะเข้าศึกษาที่พื้นที่ศาลายาร่วมกันเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี จากนั้นจะแยกย้ายกันไปตามคณะในพื้นที่ต่างๆ บรรยากาศในการใช้ชีวิตของนักศึกษามีความหลากหลายมากเพราะนักศึกษามาจากต่างคณะกัน มีกิจกรรมมากมาย เช่น งานรักน้อง การเชียร์แสตนด์ งานอำลาศาลายา งานวันมหิดล เป็นต้น มีสถานที่ออกกำลังกายและลานกีฬาให้นักศึกษาได้เล่นตามความต้องการ การสัญจรหลักของนักศึกษาคือจักรยานหรือรถราง รวมถึงรถรับส่งจากพื้นที่ศาลายาไปยังพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร

การพักอาศัย

ที่พักอาศัยสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา จะเรียกว่า บ้านมหิดล[73] โดยบริเวณที่พักมีการจัดเป็นสัดส่วน อยู่บริเวณทางด้านหลังศูนย์การเรียนรู้มหิดล บ้านมหิดลประกอบไปด้วยอาคารหอพัก 6 หลัง ได้แก่

นอกจากบ้านมหิดลแล้ว ยังมีหอพักแห่งอื่นที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ศาลายา ได้แก่ หอพักพยาบาลรามาธิบดี หอพักสถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน หอพักสถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล หอพักวิทยาลัยนานาชาติ หอพักน้ำทองสิกขาลัยของวิทยาลัยศาสนศึกษา อาคารชุดพักอาศัยหรือคอนโดมิเนียม 4 อาคาร และโรงแรมศาลายาพาวิลเลียน

สำหรับพื้นที่บางกอกน้อย มีหอพักสำหรับนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลและคณะพยาบาลศาสตร์ ได้แก่ หอมหิตลาธิเบศ หอหญิงเตี้ย หอหญิงสูง หอแปดไร่ และหอเจ้าพระยา พื้นที่พญาไทมีหอพักคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีและหอพักคณะเวชศาสตร์เขตร้อน และพื้นที่ต่างจังหวัด อันได้แก่ กาญจนบุรี นครสวรรค์ อำนาจเจริญ ต่างก็มีหอพักประจำวิทยาเขตด้วยกันทั้งสิ้น

กิจกรรมนักศึกษา

กิจกรรมที่จัดโดยนักศึกษาระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยมหิดลจะจัดโดยองค์กรนักศึกษาและกลุ่มกิจกรรมนักศึกษา องค์กรนักศึกษาในมหาวิทยาลัยมหิดล ได้แก่ สโมสรนักศึกษาซึ่งมีทั้งระดับมหาวิทยาลัยและระดับส่วนงาน และสภานักศึกษา ส่วนกลุ่มกิจกรรมได้แก่ ชมรมซึ่งสังกัดอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสโมสรนักศึกษา และกลุ่มกิจกรรมอิสระ กิจกรรมนักศึกษาในมหาวิทยาลัยมหิดลจะเป็นไปตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยมหิดล ว่าด้วยกิจกรรมนักศึกษา พ.ศ. 2557

สโมสรนักศึกษา

สโมสรนักศึกษาเป็นศูนย์กลางส่งเสริมและจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรแก่นักศึกษา โดยมีคณะกรรมการสโมสรนักศึกษาเป็นผู้ดำเนินงานเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และนโยบายของมหาวิทยาลัย คณะกรรมการสโมสรนักศึกษา ประกอบด้วย นายกสโมสร อุปนายกสโมสร เลขานุการ เหรัญญิก ปฏิคม ประชาสัมพันธ์ วิเทศสัมพันธ์ กรรมการด้านกีฬา กรรมการด้านศิลปะและวัฒนธรรม กรรมการด้านบำเพ็ญประโยชน์ กรรมการด้านวิชาการ และกรรมการอื่น ๆ อีกจำนวนไม่เกิน 14 คน

สภานักศึกษา

สภานักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล (อังกฤษ: Mahidol University Student Council) เป็นองค์กรนักศึกษาที่เป็นตัวแทนของนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล จัดตั้งขึ้นภายใต้ข้อบังคับมหาวิทยาลัยมหิดล ว่าด้วยกิจกรรมนักศึกษา พ.ศ. 2557 โดยมีหน้าที่กำกับดูแลและประสานงานกิจกรรมนักศึกษา เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายและวัตถุประสงค์ของมหาวิทยาลัย[74]

สมาชิก

สภานักศึกษาประกอบด้วยผู้แทนนักศึกษาจากแต่ละส่วนงาน โดยแต่ละส่วนงานสามารถมีผู้แทนได้ไม่เกินสามคน การได้มาซึ่งผู้แทนเหล่านี้จะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่สภานักศึกษากำหนดและต้องเสร็จสิ้นภายในเดือนธันวาคมของทุกปี[74]

คุณสมบัติ

สมาชิกสภานักศึกษาต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้:

  1. เป็นนักศึกษาที่ลงทะเบียนเป็นนักศึกษาโดยสมบูรณ์แล้วในปีการศึกษานั้น
  2. มีผลการเรียนแต้มเฉลี่ยสะสมจนถึงภาคเรียนสุดท้ายก่อนภาคเรียนที่มีการแต่งตั้งมากกว่า 2.00
  3. ผู้ดำรงตำแหน่งประธานสภานักศึกษาต้องเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 ขึ้นไป
  4. ไม่อยู่ในระหว่างถูกลงโทษทางวินัยตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย
  5. ไม่ดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการสโมสรนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยหรือส่วนงาน หรือกรรมการชมรมระดับมหาวิทยาลัย
  6. ไม่เป็นผู้มีสภาพวิทยาทัณฑ์
วาระการดำรงตำแหน่ง

สมาชิกสภานักศึกษามีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละหนึ่งปี นับตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 31 มกราคมของปีถัดไป[74]

การสิ้นสุดวาระ

การดำรงตำแหน่งของสมาชิกสภานักศึกษาสิ้นสุดลงเมื่อ:

  1. ครบวาระ
  2. ตาย
  3. ลาออก
  4. พ้นสภาพการเป็นนักศึกษา
  5. ขาดคุณสมบัติตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยมหิดล ว่าด้วยกิจกรรมนักศึกษา พ.ศ. 2557
  6. ถูกถอดถอนโดยอธิการบดี
  7. ถูกถอดถอนตามมติของสภานักศึกษา
การแทนที่สมาชิก

ในกรณีที่สมาชิกสภานักศึกษาสิ้นสุดวาระก่อนกำหนด จะมีการเลือกตั้งสมาชิกใหม่ภายใน 30 วัน ยกเว้นหากเหลือวาระไม่ถึง 60 วัน สามารถไม่เลือกตั้งสมาชิกใหม่ได้[74]

การถอดถอนสมาชิก

การถอดถอนสมาชิกสภานักศึกษาให้ดำเนินการโดยนักศึกษาจำนวนตั้งแต่ 250 คน หรือคณะกรรมการสโมสรนักศึกษาจำนวน 2 ใน 3 หรือสมาชิกสภานักศึกษาจำนวน 1 ใน 5 สามารถยื่นเรื่องถอดถอนต่อประธานสภานักศึกษา และการถอดถอนจะเป็นไปตามมติของสภานักศึกษา

อำนาจหน้าที่ การประชุม และการดำเนินงาน

หน้าที่ของสภานักศึกษาประกอบด้วย:

  1. กำกับดูแลการดำเนินกิจกรรมของสโมสรนักศึกษาทั้งระดับมหาวิทยาลัยและส่วนงานให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และนโยบายของมหาวิทยาลัย
  2. อนุมัตินโยบาย โครงการ และงบประมาณของสโมสรนักศึกษา
  3. ออกประกาศ ข้อกำหนด หรือคำสั่งที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของสภานักศึกษา โดยไม่ขัดกับข้อบังคับและนโยบายของมหาวิทยาลัย
  4. ตรวจสอบและประเมินผลการดำเนินงานของสโมสรนักศึกษาให้เป็นไปตามนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อสภานักศึกษา
  5. จัดทำรายงานประเมินผลการดำเนินกิจกรรมในรอบปีและรวบรวมผลการดำเนินกิจกรรมของสโมสรนักศึกษาและชมรม เสนอต่ออธิการบดีเมื่อครบวาระ
  6. ให้ความร่วมมือในการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยและกิจกรรมของมหาวิทยาลัย
  7. เสนอปรับปรุงแก้ไขข้อบังคับโดยความเห็นชอบของอธิการบดี
  8. ถอดถอนสมาชิกสภานักศึกษา นายกสโมสรนักศึกษา และกรรมการสโมสรนักศึกษา

สภานักศึกษามีอำนาจในการเสนอให้ยุบสโมสรนักศึกษา โดยใช้มติ 4 ใน 5 ของสมาชิกสภานักศึกษาเพื่อยื่นเสนอต่ออธิการบดี โดยอธิการบดีจะเรียกประชุมคณะกรรมการฝ่ายกิจการนักศึกษาเพื่อพิจารณา

การประชุมและการดำเนินงานของสภานักศึกษา

การประชุมและการดำเนินงานของสภานักศึกษาจะเป็นไปตามประกาศสภานักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล เรื่อง การประชุมและการดำเนินงานของสภานักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล พ.ศ. 2567

โครงสร้าง

โครงสร้างของสภานักศึกษาประกอบไปด้วยคณะกรรมการบริหาร[75] คณะกรรมาธิการสามัญ และสำนักงานเลขาธิการ[76]

คณะกรรมการบริหารสภานักศึกษา

กิจการของสภานักศึกษาถูกบริหารโดยคณะกรรมการบริหารสภานักศึกษา ซึ่งมีองค์ประกอบดังต่อไปนี้

  1. ประธานสภา
  2. รองประธานสภาคนที่ 1
  3. รองประธานสภาคนที่ 2
  4. เลขาธิการสภา
  5. รองเลขาธิการสภา
  6. เหรัญญิก
  7. ผู้ช่วยประธานสภา

ตำแหน่งที่ 1 ถึง 5 ได้จากการเลือกตั้งโดยสมาชิกสภานักศึกษาโดยถือเสียงข้างมาก ส่วนตำแหน่งที่ 6 และ 7 ได้จากการเสนอชื่อโดยประธานสภานักศึกษาและได้รับการรับรองจากที่ประชุมสภานักศึกษา โดยทุกตำแหน่งต้องได้รับการแต่งตั้งจากอธิการบดี

คณะกรรมาธิการสามัญ

คณะกรรมาธิการสามัญตามประกาศคณะกรรมการบริหารสภานักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล เรื่อง คณะกรรมาธิการสามัญและสำนักงานภายในสภานักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล พ.ศ. 2567 ได้แก่

  1. คณะกรรมาธิการส่งเสริมเสรีภาพและความเท่าเทียม
  2. คณะกรรมาธิการพิทักษ์สิทธิและสวัสดิภาพ
  3. คณะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณ
  4. คณะกรรมาธิการกิจกรรมนักศึกษา
  5. คณะกรรมาธิการวิชาการและพัฒนาการศึกษา
สำนักงานภายในสภานักศึกษา

สำนักงานภายในสภานักศึกษาตามประกาศคณะกรรมการบริหารสภานักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล เรื่อง คณะกรรมาธิการสามัญและสำนักงานภายในสภานักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล พ.ศ. 2567 มีสำนักเดียว นั้นคือ สำนักงานเลขาธิการสภานักศึกษา ซึ่งประกอบไปด้วยฝ่ายดังต่อไปนี้

  1. ฝ่ายประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร
  2. ฝ่ายสารสนเทศ
  3. ฝ่ายการประชุมและธุรการทั่วไป
อาจารย์ที่ปรึกษา

สภานักศึกษามีอำนาจในการเสนอชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาให้อธิการบดีพิจารณาแต่งตั้ง เพื่อให้คำปรึกษา แนะนำ และกำกับดูแลการปฏิบัติงานของสภานักศึกษาให้เป็นไปตามนโยบายและข้อบังคับของมหาวิทยาลัย

การยุบสภานักศึกษา

กรณีการยุบสภานักศึกษา นักศึกษาจำนวน 1 ใน 8 หรือมติเอกฉันท์ของคณะกรรมการสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัย สามารถเสนอยุบสภานักศึกษาได้ โดยอธิการบดีจะเรียกประชุมคณะกรรมการฝ่ายกิจการนักศึกษาเพื่อพิจารณา และอธิการบดีมีอำนาจในการยุบสภานักศึกษาได้หากมีเหตุผลสมควร

รายชื่อประธานสภานักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล
ข้อมูลเพิ่มเติม ลำดับที่, ชื่อ ...
การได้มาซึ่งสมาชิกสภานักศึกษา

ตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยมหิดล ว่าด้วยกิจกรรมนักศึกษา พ.ศ. 2557 นั้น ให้การได้มาซึ่งสมาชิกสภานักศึกษาเป็นไปตามที่สภานักศึกษากำหนดเอง

พิธีพระราชทานปริญญาบัตร

Thumb
มหิดลสิทธาคาร เป็นสถานที่จัดพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยมหิดลนับตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน

ในขณะที่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทรเสด็จนิวัตประเทศไทยเป็นครั้งที่ 2 พระองค์ได้เสด็จมาพระราชทานปริญญาบัตร ณ มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ เมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2489 ซึ่งเป็นการพระราชทานปริญญาบัตรเป็นครั้งสุดท้ายในรัชสมัยของพระองค์ ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้จัดพิธีพระราชทานปริญญาบัตรเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2493 โดยพระองค์เสด็จพระราชดำเนินเป็นประธาน ณ ปะรำพิธีหน้าตึกรังสีวิทยา โรงพยาบาลศิริราช เมื่อครั้งยังเป็นมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ โดยมีบัณฑิตจากคณะต่าง ๆ เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรต่อหน้าพระพักตร์ จำนวน 200 คน งานพิธีพระราชทานปริญญาบัตรยังคงจัดขึ้นที่หอประชุมราชแพทยาลัยในโรงพยาบาลศิริราชเป็นประจำทุกปีจนถึง พ.ศ. 2520 ซึ่งเมื่อมีผู้สำเร็จการศึกษาเพิ่มมากขึ้น จึงได้เปลี่ยนมาจัดที่สวนอัมพรแทน[77]

นับตั้งแต่ พ.ศ. 2557 เป็นต้นมา พิธีพระราชทานปริญญาบัตรจัดขึ้นที่หอประชุมมหิดลสิทธาคาร โดย สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหิดล[78]

Remove ads

การเดินทาง

สรุป
มุมมอง

ระบบขนส่งมวลชน

Thumb
รถโดยสารประจำทางปรับอากาศสาย 515 ให้บริการระหว่างศาลายากับอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

การเดินทางมายังมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา มีระบบขนส่งมวลชนหลากหลายรูปแบบ[79] รถโดยสารประจำทางที่ผ่านมหาวิทยาลัยทั้งฝั่งถนนบรมราชชนนี ถนนพุทธมณฑล สาย 4 และทางหลวงชนบท นฐ.4006 มีหลายสาย ทั้งรถประจำทางสายที่ให้บริการโดยองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.), บริษัท ไทยสมายล์บัส จำกัด และผู้ให้บริการเอกชนรายอื่น ๆ นอกจากรถประจำทางแล้ว ยังมีรถโดยสารที่ให้บริการโดยมหาวิทยาลัย ได้แก่ ชัตเทิลบัส ที่ให้บริการรับส่งระหว่างพื้นที่ศาลายา บางกอกน้อย และพญาไท และศาลายาลิงก์ ที่ให้บริการรับส่งระหว่างวิทยาลัยดุริยางคศิลป์กับสถานีบางหว้า[80] มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ยังตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟศาลายาบนทางรถไฟสายใต้ มีขบวนรถโดยสารจอดทุกขบวน ในอนาคตมีโครงการรถไฟฟ้าชานเมือง สายสีแดงอ่อน ซึ่งผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้ว[81]

สำหรับพื้นที่พญาไท มีรถโดยสายประจำทางผ่านทางฝั่งถนนพระรามที่ 6 และถนนราชวิถี หลายสาย และมีรถไฟชานเมืองให้บริการที่ที่หยุดรถไฟโรงพยาบาลรามาธิบดี หลังคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี นอกจากนี้ โรงพยาบาลรามาธิบดียังมีรถโดยสารรับส่งระหว่างคณะกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส พญาไท และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

พื้นที่บางกอกน้อย มีรถโดยสารประจำทางให้บริการฝั่งถนนอรุณอมรินทร์ โดยถนนสายนี้มีสะพานข้ามแยกศิริราชที่เปิดให้บริการในเดือนกันยายน พ.ศ. 2564 นอกจากรถประจำทางแล้ว ยังมีรถสองแถวที่ให้บริการในหลายเส้นทาง และมีรถโดยสารของคณะ ได้แก่ ชัตเทิลบัสที่ให้บริการระหว่างคณะกับสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีไฟฉาย, เซ็นทรัลปิ่นเกล้า และหอพักนักศึกษาแพทย์ ทางรางมีรถไฟชานเมืองให้บริการที่สถานีรถไฟธนบุรี ในอนาคตมีโครงการสถานีร่วมศิริราชบนเส้นทางรถไฟฟ้าชานเมือง สายสีแดงอ่อน และรถไฟฟ้าสายสีส้ม[81] ทางน้ำมีเรือด่วนเจ้าพระยา และเรือโดยสารสาธารณะ ไมน์ สมาร์ท เฟอร์รี่ ให้บริการที่ท่าพรานนกและท่ารถไฟ และมีเรือข้ามฟากให้บริการจากท่าวังหลังไปยังท่าพระจันทร์ (มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์), ท่ามหาราช และท่าช้าง

ระบบขนส่งภายในมหาวิทยาลัย

Thumb
รถรางสาย 3 (สายสีแดง)

ภายในมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา มีรถรางวิ่งให้บริการทั้งหมด 4 สาย เรียงตามหมายเลข ได้แก่ สายสีเขียว, สายสีน้ำเงิน, สายสีแดง และสายสีเหลือง[82] นอกจากนี้ ยังมีจักรยานสาธารณะซึ่งนักศึกษาและบุคลากรสามารถยืมใช้ฟรีได้ที่ จักก้าเซ็นเตอร์ หน้าหอพักนักศึกษา โดยต้องลงทะเบียนเพื่อรับบัตรก่อนใช้งาน

Remove ads

บุคคลสำคัญ

คณาจารย์และบุคลากรของมหาวิทยาลัยมหิดลนั้นได้รับแต่งตั้งเป็นนักวิทยาศาสตร์ดีเด่นของไทยมากที่สุด โดยมีรายพระนาม และรายนามบุคคลสำคัญจากมหาวิทยาลัย เช่น

หมายเหตุ

  1. ข้อมูลสิ้นสุดสภามหาวิทยาลัยมหิดล ครั้งที่ 512 (9/2559) วันที่ 21 กันยายน 2559

อ้างอิง

ดูเพิ่ม

แหล่งข้อมูลอื่น

Loading related searches...

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.

Remove ads