คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
ยุคโจมง
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
ในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ยุคโจมง (ญี่ปุ่น: 縄文時代; โรมาจิ: Jōmon jidai) เป็นช่วงเวลาระหว่าง ป. 14,000 ถึง 300 ปีก่อน ค.ศ.[1][2][3] ในช่วงนั้น ญี่ปุ่นมีประชากรเก็บของป่าล่าสัตว์และเกษตรกรยุคแรกหลายกลุ่มอาศัยอยู่ ซึ่งอยู่ร่วมกับผ่านวัฒนธรรมโจมง คำว่า "ลายเชือก" ใช้งานครั้งแรกโดยเอ็ดเวิร์ด เอส. มอร์ส นักสัตววิทยาและนักบูรพาคดีชาวอเมริกันที่ค้นพบชิ้นส่วนเครื่องปั้นดินเผาใน ค.ศ. 1877 และภายหลังแปล "ลายเชือก" ไปเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า โจมง[4] ลักษณะเครื่องปั้นดินเผาของวัฒนธรรมโจมงระยะแรกได้รับการตกแต่งด้วยการร้อยเชือกลงบนพื้นผิวดินเหนียวเปียก และเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่าเป็นหนึ่งในเครื่องปั้นดินเผาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก[5]
ยุคโจมงอุดมไปด้วยเครื่องมือและเครื่องประดับที่ทำจากกระดูก หิน เปลือกหอย และเขากวาง รูปแกะสลักเครื่องปั้นดินเผาและภาชนะ และเครื่องเขิน[6][7][8][9] มักเทียบกับวัฒนธรรมก่อนโคลัมบัสในอเมริกาเหนือฝั่งแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือ และโดยเฉพาะวัฒนธรรมบัลดีเบียในประเทศเอกวาดอร์ เนื่องจากในสภาพแวดล้อมเหล่านี้ ความซับซ้อนทางวัฒนธรรมพัฒนาขึ้นจากบริบทการเก็บของป่าล่าสัตว์เป็นหลัก โดยมีการใช้พืชกรรมสวนอย่างจำกัด[10][11][12][13]
Remove ads
เส้นเวลา
ยุคโจมงที่กินระยะเวลาประมาณ 14,000 ปีแบ่งออกเป็นหลายระยะ แต่ละระยะสั้นกว่าระยะก่อนหน้า: ตั้งเค้า (13,750–8,500), เริ่มแรก (8,500–5,000), ตอนต้น (5,000–3,520), ตอนกลาง (3,520–2,470), ตอนปลาย (2,470–1,250) และ ท้ายสุด (1,250–500 ปีก่อน ค.ศ.)[14] ข้อเท็จจริงที่ว่านักโบราณคดีตั้งชื่อช่วงเวลาทั้งหมดให้เหมือนกันไม่ควรถือว่ายุคนี้ไม่มีความหลากหลายทางภูมิภาคและเวลามากนัก ช่วงเวลาระหว่างเครื่องปั้นดินเผาโจมงแรกสุดกับสมัยโจมงตอนกลางที่เป็นที่รู้จักมากกว่า มีระยะห่างนานกว่าการสร้างมหาพีระมิดแห่งกีซาถึงคริสต์ศตวรรษที่ 21 ประมาณสองเท่า
การระบุระยะย่อยโจมงโดยหลักอิงจากการจัดจำแนกวัตถุเครื่องปั้นดินเผา และการหาอายุจากคาร์บอนกัมมันตรังสีในระดับที่น้อยกว่า
การค้นคว้าล่าสุดได้ปรับเปลี่ยนระยะสุดท้ายของยุคโจมงที่ 300 ปีก่อน ค.ศ.[1][2][3] ตามหลักฐานจากคาร์บอนกัมมันตรังสี ยุคยาโยอิเริ่มต้นระหว่าง 500 ถึง 300 ปีก่อน ค.ศ. ในขณะที่เครื่องปั้นดินเผาแบบยาโยอิพบในพื้นที่โจมงในคีวชูเหนือมีอายุที่ 800 ปีก่อน ค.ศ.[15][16][17]
Remove ads
เครื่องปั้นดินเผา
![]() | ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
เส้นเวลาการจำแนกเครื่องปั้น
ยุคโจมงตั้งเค้า (14,000–7,500 ปีก่อน ค.ศ.)[18]
- ลายปั้นแปะ
- ลายเล็บกด
- ลายเชือกทาบ
- มูโรยะล่าง
ยุคโจมงเริ่มแรก (7,500–4,000 ปีก่อน ค.ศ.)[19][20]
- โบตาซาวะ
- อิงูซะ
- อินาริได
- มิโตะ
- โนจิมะ
- ทาโดะล่าง
- ทาโดะบน
- ชิโบงูจิ
- คายามะ
- อูงาชิมะ
ยุคโจมงตอนต้น (5,000–3,520 ปีก่อน ค.ศ.)[21]
- โกเรียวงาได
- จูซัมโบได
- คิตะ-ชิรากาวะ
- โมโรอิโซะ
- โอกิตสึ
- อูกิชิมะ
ยุคโจมงตอนกลาง (3,520–2,470 ปีก่อน ค.ศ.)[22]
- คาโซริ อี
- คัตสึซากะ
- โอตามาได
ยุคโจมงตอนปลาย (2,470–1,250 ปีก่อน ค.ศ.)
ยุคโจมงท้ายสุด (1,250–500 ปีก่อน ค.ศ.)[25]
- อังเงียว[26]
- ฟูเซ็มมง
- โฮกูริกูบันกิ
- คาเมงาโอกะ
- มาเออูระ
- นางาตาเกะ
- นิชิฮมมาเก็ง
- นูซาไม
- ชิโมโนะ
Remove ads
ยุคโจมงตั้งเค้าและโจมงเริ่มแรก (10,000 – 4,000 ก่อน ค.ศ.)
สรุป
มุมมอง
รูปแบบการดำรงชีวิตของมนุษย์ที่เริ่มมีรูปแบบคงที่นั้น เริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 10,000 ปีก่อนคริสต์ศักราชถึงยุคหินกลาง หากแต่นักวิชาการบางคนเสนอว่าเป็นยุคหินใหม่ที่มีคุณลักษณะบางอย่างของทั้งยุคหินกลางและหินใหม่ ในยุคดังกล่าวนี้ สมาชิกของวัฒนธรรมโจมงซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลายกลุ่ม และเป็นไปได้ว่าเป็นบรรพบุรุษของชาวไอนุในญี่ปุ่นปัจจุบัน ได้ทิ้งร่องรอยทางโบราณคดีไว้อย่างชัดเจนที่สุด วัฒนธรรมโจมงนี้อาจนับได้อย่างคร่าว ๆ ว่าอยู่ร่วมสมัยกับอารยธรรมในเมโสโปเตเมีย ลุ่มแม่น้ำไนล์ และลุ่มแม่น้ำสินธุ
เครื่องดินเผายุคแรก
โดยอาศัยหลักฐานทางโบราณคดี ชาวโจมงอาจเป็นคนพวกแรกในโลกที่ทำภาชนะดินเผาขึ้นเมื่อสหัสวรรษที่ 11 ก่อนคริสต์ศักราช อีกทั้งยังเป็นพวกแรกที่ทำเครื่องมือหินอีกด้วย ความเก่าแก่ของเครื่องดินเผาเหล่านี้ได้รับการระบุภายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง โดยวิธีการหาอายุจากคาร์บอนกัมมันตรังสี อย่างไรก็ตาม นักวิชาการชาวญี่ปุ่นบางคนเชื่อว่าการผลิตเครื่องดินเผาน่าจะเกิดขึ้นบนแผ่นดินใหญ่ก่อน เนื่องจากแหล่งเครื่องดินเผาในบริเวณซึ่งอยู่ในประเทศจีนและรัสเซียปัจจุบันนั้นได้ผลิตเครื่องดินเผาซึ่ง "อาจจะเก่าพอ ๆ กับเครื่องดินเผาถ้ำฟุกุอิ แม้จะไม่เก่ากว่าก็ตาม" ชาวโจมงได้ปั้นตุ๊กตาและภาชนะจากดินเหนียวและทำลวดลายอย่างซับซ้อนด้วยการกดดินที่ยังหมาดอยู่ด้วยเชือกทั้งแบบที่ฟั่นเป็นเกลียวและไม่ฟั่น และกิ่งไม้
รูปแบบของยุคหินใหม่
โดยทั่วไป การผลิตเครื่องดินเผาสามารถบอกเป็นนัยได้ถึงรูปแบบการดำรงชีวิตแบบอยู่ติดที่ ด้วยข้อเท็จจริงที่ว่าเครื่องดินเผานั้นแตกหักได้ง่ายและย่อมไม่มีประโยชน์กับผู้ดำรงชีวิตแบบหาของป่า-ล่าสัตว์ซึ่งต้องย้ายถิ่นฐานอยู่เสมอ ด้วยเหตุนี้ ชาวโจมงจึงน่าจะเป็นคนพวกแรกในโลกที่ดำรงชีวิตแบบอยู่ติดที่ หรืออย่างน้อยก็เป็นแบบกึ่งติดที่ ชาวโจมงใช้เครื่องมือหินทั้งแบบที่ขึ้นรูปด้วยการสกัดและการบด และใช้ธนู อีกทั้งยังน่าจะชำนาญในการหาของป่า-ล่าสัตว์และการประมงทั้งชายฝั่งและน้ำลึก ชาวโจมงได้เริ่มทำการเกษตรขั้นตั้นและอาศัยในถ้ำ ซึ่งภายหลังได้ย้ายมาอาศัยในหลุมขุดตื้น ๆ และบ้านที่สร้างขึ้นบนพื้นดิน ร่องรอยที่เหลือของที่อาศัยเหล่านี้เป็นประโยชน์สำหรับการศึกษาทางโบราณคดีในภายหลัง ร่องรอยเหล่านี้เองเป็นเหตุให้นักวิชาการส่วนหนึ่งยกให้ญี่ปุ่นเป็นแหล่งที่เริ่มต้นทำการเกษตรเป็นที่แรกในโลกเมื่อ 10,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช ก่อนที่เกษตรกรรมจะแพร่หลายในตะวันออกกลางถึงสองพันปี อย่างไรก็ตาม หลักฐานทางโบราณคดีบางอย่างชี้ว่าการทดลองทำการเกษตรบนเนินเขาและในหุบเขาต่าง ๆ ของเขตพระจันทร์เสี้ยวอันอุดมสมบูรณ์ในบริเวณที่ปัจจุบันเป็นประเทศซีเรีย จอร์แดน ตุรกี และอิรักนั้น มีมาแล้วตั้งแต่ประมาณ 11,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช
การขยายตัวของประชากร
วัฒนธรรมแบบกึ่งอยู่ติดที่นี้ได้นำไปสู่การเพิ่มขึ้นของประชากรอย่างสำคัญ จนกระทั่งมีหลักฐานว่าวัฒนธรรมโจมงมีความหนาแน่นประชากรสูงที่สุดแห่งหนึ่งในบรรดากลุ่มประชากรที่ดำรงชีวิตด้วยการล่าสัตว์ การศึกษาแผนที่ทางพันธุกรรมโดยลุยจี ลูกา กาวัลลี-สฟอร์ซา ได้แสดงให้เห็นรูปแบบของการขยายตัวทางพันธุกรรมจากพื้นที่ในทะเลญี่ปุ่นไปยังพื้นที่อื่น ๆ ในเอเชียตะวันออก การขยายตัวครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งที่สำคัญที่สุดเป็นอันดับสามของเอเชียตะวันออก (รองจาก "การขยายตัวครั้งใหญ่" จากทวีปแอฟริกา และการขยายตัวครั้งที่สองจากตอนเหนือของไซบีเรีย) ซึ่งสื่อถึงการขยายตัวทางภูมิศาสตร์ในยุคโจมงตอนต้น การศึกษาเหล่านี้ยังชี้ว่าการขยายตัวของกลุ่มประชากรชาวโจมงครั้งนี้อาจแผ่ไปจนถึงทวีปอเมริกาผ่านเส้นทางเลียบชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก
Remove ads
ยุคโจมงตอนต้นถึงท้ายสุด (4,000 – 400 ก.ค.ศ.)

ยุคโจมงตอนต้นและตอนกลางนั้นมีการขยายตัวของประชากรอย่างมาก ซึ่งเห็นได้จากปริมาณของหลักฐานที่ขุดพบได้จากสองยุคนี้ ทั้งสองยุคดังกล่าวสอดคล้องกับกับช่วงภูมิอากาศร้อนสุดในยุคโฮโลซีน (ระหว่าง 4,000 ถึง 2,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช) ซึ่งอุณหภูมิเฉลี่ยขึ้นสูงกว่าปัจจุบันหลายองศาเซลเซียส และระดับน้ำทะเลสูงกว่าปัจจุบันประมาณ 5 ถึง 6 เมตร งานศิลปะที่งดงามเช่นภาชนะดินเผารูปเปลวไฟซึ่งประดับประดาอย่างซับซ้อนนั้นเกิดขึ้นในยุคนี้ หลังจาก 1,500 ปีก่อนคริสต์ศักราช ภูมิอากาศเริ่มเย็นลง และประชากรเริ่มหดตัวลงอย่างมาก การค้นพบแหล่งทางโบราณคดีหลัง 1,500 ปีก่อนคริสต์ศักราชมีจำนวนน้อยลง
เมื่อถึงช่วงท้ายของยุคโจมง ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างสำคัญเกิดขึ้นในแง่โบราณคดี โดยการเพาะปลูกและเก็บเกี่ยวได้พัฒนาจากแบบเริ่มต้นมาเป็นนาข้าวแบบซับซ้อนและเกิดระบบการปกครองขึ้น องค์ประกอบอื่น ๆ หลายอย่างของวัฒนธรรมญี่ปุ่นอาจนับย้อนไปได้ถึงยุคนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งสะท้อนถึงการอพยพเข้ามาผสมปนเปกันของผู้คนจากภูมิภาคแปซิฟิกใต้รวมถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และคาบสมุทรเกาหลี องค์ประกอบเหล่านั้นมีทั้งเทพปกรณัมชินโต ประเพณีการแต่งงาน ลีลาทางสถาปัตยกรรม และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เช่น ภาชนะเคลือบเงา สิ่งทอ คันธนูที่ทำโดยการอัดไม้ต่างชนิดเข้าด้วยกัน งานโลหะ และงานแก้ว
Remove ads
อ้างอิง
ข้อมูล
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads