คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
รองประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน
ตำแหน่งเชิงพิธีการในประเทศจีน จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
รองประธานาธิบดีจีน มีชื่อย่างเป็นทางการว่า รองประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นผู้ช่วยประธานาธิบดีของสาธารณรัฐประชาชนจีน ผู้แทนรัฐของจีน คล้ายคลึงกับประธานาธิบดีจีน ตำแหน่งรองประธานาธิบดีเป็นตำแหน่งตามพิธีการและไม่มีอำนาจแท้จริงในระบบการเมืองของจีน[a]
ตำแหน่งนี้มีต้นกำเนิดในสมัยสาธารณรัฐเมื่อหลี ยฺเหวียนหงดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีคนแรกของจีน ตำแหน่งนี้ในรูปแบบปัจจุบันถูกสถาปนาขึ้นครั้งแรกใน รัฐธรรมนูญ ค.ศ. 1954 โดยมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการในภาษาอังกฤษว่า "รองประธานรัฐ" (state vice chairman) ตำแหน่งรองประธานถูกยกเลิกภายใต้รัฐธรรมนูญ ค.ศ. 1975 พร้อมกับตำแหน่งประธาน จากนั้นได้ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งในรัฐธรรมนูญ ค.ศ. 1982 ตั้งแต่ ค.ศ. 1982 ชื่อตำแหน่งอย่างเป็นทางการในภาษาอังกฤษคือ "รองประธานาธิบดี" (vice president) แม้ชื่อตำแหน่งในภาษาจีนจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ระบุว่ารองประธานาธิบดีไม่สามารถดำรงตำแหน่งเกินสองวาระติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม การจำกัดวาระดังกล่าวถูกยกเลิกไปใน ค.ศ. 2018
ภายใต้รัฐธรรมนูญปัจจุบัน ประธานาธิบดีดำรงตำแหน่งตามความพอใจของสภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) องค์กรนิติบัญญัติ ตามรัฐธรรมนูญ หน้าที่หลักของรองประธานาธิบดีคือการช่วยเหลือประธานาธิบดีในการปฏิบัติหน้าที่ รองประธานาธิบดียังเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในกรณีที่ตำแหน่งว่างลงจนกว่าสภาประชาชนแห่งชาติจะเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ รองประธานาธิบดีคนปัจจุบันของจีนคือหาน เจิ้ง ซึ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อ 10 มีนาคม ค.ศ. 2023
Remove ads
ประวัติศาสตร์
สรุป
มุมมอง

ตำแหน่งนี้สถาปนาขึ้นครั้งแรกภายใต้รัฐบาลเป่ย์หยางเมื่อหลี ยฺเหวียนหงกลายเป็นรองประธานาธิบดีคนแรกของประเทศเมื่อมีการสถาปนาสาธารณรัฐใน ค.ศ. 1912 ตำแหน่งนี้ถูกยกเลิกใน ค.ศ. 1917 แต่ได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาอีกครั้งหลังการสิ้นสุดของรัฐบาลชาตินิยม โดยที่หลี่ จงเหรินได้เป็นรองประธานาธิบดีคนแรกในสมัยปัจจุบันภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งสาธารณรัฐจีน ค.ศ. 1947 ตำแหน่งรองประธานาธิบดีพร้อมกับรัฐบาลของสาธารณรัฐจีนย้ายไปยังไต้หวันใน ค.ศ. 1949 ซึ่งยังคงมีอยู่จนถึงทุกวันนี้
ตำแหน่งของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเริ่มต้นจากการเป็นรองประธานรัฐ สถาปนาขึ้นครั้งแรกภายใต้รัฐธรรมนูญ ค.ศ. 1954 พร้อมกับตำแหน่งประธาน[2] ตำแหน่งดังกล่าว พร้อมกับตำแหน่งประธานรัฐ ถูกยกเลิกในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่รับรองโดยสภาประชาชนแห่งชาติชุดที่ 4 ใน ค.ศ. 1975 ตำแหน่งนี้ ซึ่งปัจจุบันเรียกว่ารองประธานาธิบดี ได้รับการฟื้นฟูขึ้นในรัฐธรรมนูญ ค.ศ. 1982 พร้อมกับตำแหน่งประธานาธิบดี รัฐธรรมนูญฉบับใหม่กำหนดวาระการดำรงตำแหน่ง โดยระบุว่าประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีไม่สามารถดำรงตำแหน่งเกินสองวาระติดต่อกัน วันที่ 11 มีนาคม ค.ศ. 2018 สมัยประชุมแรกของสภาประชาชนแห่งชาติชุดที่ 13 ด้วยคะแนนเสียงเห็นชอบ 2,958 เสียง, ไม่เห็นชอบ 2 เสียง และงดออกเสียง 3 เสียง ได้ผ่านการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ยกเลิกข้อจำกัดวาระการดำรงตำแหน่งเดิมสำหรับประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี[3]
Remove ads
การเลือก
สรุป
มุมมอง
คุณสมบัติ
มาตรา 79 ของรัฐธรรมนูญกำหนดคุณสมบัติสามประการสำหรับการได้รับเลือกตั้งเป็นรองประธานาธิบดี ในการดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี บุคคลนั้นจะต้อง:
- เป็นพลเมืองจีน;
- มีสิทธิ์เลือกตั้งและมีสิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้ง;
- มีอายุอย่างน้อย 45 ปี[4][ต้องการแหล่งข้อมูลที่ไม่ใช่ปฐมภูมิ]
การเลือกตั้ง
ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยสภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) องค์กรสูงสุดแห่งอำนาจรัฐตามรัฐธรรมนูญของจีน รองประธานาธิบดีได้รับการเสนอชื่อโดยคณะผู้บริหารสูงสุดประจำสภาประชาชนแห่งชาติ (NPC Presidium) องค์กรบริหารของสภาฯ[5][ต้องการแหล่งข้อมูลที่ไม่ใช่ปฐมภูมิ] อย่างไรก็ตาม การเสนอชื่อนี้เป็นการดำเนินการโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการตัดสินใจจะเกิดขึ้นในหมู่ผู้นำพรรค[6] แม้ในทางทฤษฎีคณะผู้บริหารสูงสุดสามารถเสนอชื่อผู้สมัครรองประธานาธิบดีได้หลายคน ทำให้การเลือกตั้งมีการแข่งขัน แต่ก็มีการเสนอชื่อผู้สมัครเพียงคนเดียวสำหรับตำแหน่งนี้มาโดยตลอด[6]
หลังการเสนอชื่อ รองประธานาธิบดีจะได้รับเลือกโดยสภาประชาชนแห่งชาติ ซึ่งยังมีอำนาจถอดถอนรองประธานาธิบดีและเจ้าหน้าที่รัฐอื่น ๆ ออกจากตำแหน่งได้ การเลือกตั้งและการถอดถอนจะตัดสินด้วยคะแนนเสียงข้างมาก[4][ต้องการแหล่งข้อมูลที่ไม่ใช่ปฐมภูมิ] ระยะเวลาการดำรงตำแหน่งของรองประธานาธิบดีนั้นเท่ากับวาระของสภาประชาชนแห่งชาติ ซึ่งก็คือ 5 ปี[4] ตั้งแต่ ค.ศ. 2018 รองประธานาธิบดีต้องกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณตามรัฐธรรมนูญก่อนเข้ารับตำแหน่ง[6]
Remove ads
อำนาจและหน้าที่
สรุป
มุมมอง
ตามรัฐธรรมนูญ หน้าที่ของรองประธานาธิบดีรวมถึงการช่วยเหลือประธานาธิบดี และใช้อำนาจและหน้าที่บางส่วนในนามของประธานาธิบดี[7] รองประธานาธิบดียังเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในกรณีที่ตำแหน่งว่างลง จนกว่าสภาประชาชนแห่งชาติจะเลือกประธานาธิบดีคนใหม่[7] ในกรณีที่ตำแหน่งรองประธานาธิบดีว่างลง สภาประชาชนแห่งชาติจะเลือกรองประธานาธิบดีคนใหม่[8]
ในทางปฏิบัติ ตำแหน่งรองประธานาธิบดีส่วนใหญ่เป็นเชิงพิธีการ[9] รองประธานาธิบดีหู จิ่นเทา, เจิง ชิ่งหงและสี จิ้นผิงเคยเป็นสมาชิกคณะกรรมาธิการสามัญประจำกรมการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CCP) และสำนักเลขาธิการกลาง องค์กรตัดสินใจหลักของประเทศ โดยทั้งสามคนนี้เคยดำรงตำแหน่งเลขาธิการคนที่หนึ่งของสำนักเลขาธิการควบคู่กัน ซึ่งมีหน้าที่ดูแลกิจการของพรรค
รองประธานาธิบดีอาจมีบทบาทสำคัญในกิจการต่างประเทศ ตัวอย่างเช่น โดยทั่วไปแล้ว รองประธานาธิบดีจะดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการกิจการต่างประเทศส่วนกลาง (Central Foreign Affairs Commission) องค์กรประสานงานนโยบายของพรรคคอมมิวนิสต์จีน รองประธานาธิบดียังมักดำรงตำแหน่งในคณะผู้นำด้านกิจการฮ่องกงและมาเก๊าส่วนกลาง (Central Leading Group on Hong Kong and Macau Affairs) ดังนั้น แม้รองประธานาธิบดีอาจไม่มีอำนาจแท้จริงตามที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ แต่ตำแหน่งนี้ก็ยังคงมีความสำคัญและมีเกียรติ ผู้ดำรงตำแหน่งนี้ล้วนเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลทางการเมืองในระดับหนึ่ง[ต้องการอ้างอิง]
รายชื่อ
คณะบริหารชุดแรก คณะบริหารชุดที่สอง คณะบริหารชุดที่สาม คณะบริหารหู–เวิน คณะบริหารสี–หลี่/การดำรงตำแหน่งเลขาธิการใหญ่ของสี จิ้นผิง
รัฐบาลประชาชนส่วนกลาง (ค.ศ. 1949–1954)
- รองประธานคณะรัฐบาลประชาชนส่วนกลาง
- (ดำรงตำแหน่งร่วมกัน, 1 ตุลาคม ค.ศ. 1949 – 27 กันยายน ค.ศ. 1954)
- จู เต๋อ
- หลิว เช่าฉี
- ซ่ง ชิงหลิง
- หลี่ จี้เชิน
- จาง หลาน
- เกา กั่ง (กระทั่งเขาฆ่าตัวตายในวันที่ 17 สิงหาคม 1954)
รัฐธรรมนูญฉบับที่ 1 (ค.ศ. 1954–1975)
รัฐธรรมนูญฉบับที่ 4 (ค.ศ. 1982–ปัจจุบัน)
Remove ads
ดูเพิ่ม
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads