คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
ร่างพระราชบัญญัติอากาศสะอาด
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
ร่างพระราชบัญญัติอากาศสะอาด (อังกฤษ: Clear Air Bill) หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ ร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. .... เป็นร่างกฎหมายที่คณะรัฐมนตรี ประชาชน และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเสนอ เพื่อนำเสนอการควบคุมคุณภาพอากาศอย่างครอบคลุม รวมถึงการจัดการกับแหล่งกำเนิดมลพิษ[1]
Remove ads
เบื้องหลัง
สรุป
มุมมอง
ประเทศไทยเผชิญกับมลพิษทางอากาศอย่างรุนแรงอันเป็นผลมาจากการเผาไหม้พื้นที่เกษตรกรรม การปล่อยมลพิษจากอุตสาหกรรม และการขนส่ง[2]
ในปี พ.ศ. 2566 ภาคประชาชนได้เสนอร่างพระราชบัญญัติอากาศสะอาดและร่างพระราชบัญญัติการรายงานการปล่อยและการเคลื่อนย้ายสารมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม[3]
เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้ยื่นร่างพระราชบัญญัติการรายงานการปล่อยและการเคลื่อนย้ายสารมลพิษสู่สิ่งแวดล้อมต่อรัฐสภา[4][5] ได้มีการประกาศใช้ร่างกฎหมายที่คล้ายคลึงกันในอีก 30 ประเทศ ซึ่งอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับมลพิษในระดับท้องถิ่นได้[4] ร่างกฎหมายกำหนดให้ธุรกิจที่ก่อมลพิษต้องระบุแหล่งที่มาของการปล่อยมลพิษ[4][1]
หมอกควันในกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2568
ในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 คุณภาพอากาศในกรุงเทพมหานครอยู่ในระดับอันตราย ทำให้ต้องปิดโรงเรียนมากกว่า 350 แห่ง และต้องมีโครงการทำงานจากที่บ้านโดยสมัครใจ พร้อมทั้งมีข้อจำกัดเกี่ยวกับรถบรรทุก 6 ล้ออีกด้วย[6] ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครกล่าวว่า สาเหตุของมลพิษเกิดจากการปล่อยไอเสียจากยานพาหนะ การเผาขยะ และการเผาพืชผลตามฤดูกาล[6] สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า ระบบขนส่งสาธารณะในกรุงเทพมหานคร รถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที รถไฟฟ้ารางเบา และรถโดยสารประจำทาง จะเปิดให้บริการฟรี 1 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2568 เพื่อลดมลพิษ[7]
หมอกควันดังกล่าวถูกกล่าวถึงว่าเป็นการเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการผ่านร่างพระราชบัญญัติอากาศสะอาด[8][9]
Remove ads
การพิจารณา
สรุป
มุมมอง
ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2566 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่างพระราชบัญญัติอากาศสะอาดเพื่อป้องกันมลพิษและลดข้อจำกัดของรัฐบาลในการควบคุมมลพิษ[10] ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวได้ถูกโพสต์เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากสาธารณชนบนเว็บไซต์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจนถึงวันที่ 13 พฤศจิกายน[10] เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวถูกส่งไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อรอความคิดเห็นจากหน่วยงานภาครัฐ ก่อนนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีในวันที่ 21 พฤศจิกายน[10]
เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 คณะรัฐมนตรีเศรษฐาได้อนุมัติร่างพระราชบัญญัติอากาศสะอาดจำนวน 7 ฉบับ[11] ร่างกฎหมายฉบับหนึ่งได้รับการเสนอโดยเครือข่ายอากาศสะอาด ซึ่งเป็นโครงการทึ่ริเริ่มโดยประชาชนที่เน้นย้ำถึงสิทธิในการมีอากาศบริสุทธิ์[12]
เมื่อวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2567 สภาผู้แทนราษฎรได้ผ่านร่างพระราชบัญญัติทั้ง 7 ฉบับในวาระแรกด้วยคะแนน 439 ต่อ 0 เสียง[13] ต่อมาสภาได้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญจำนวน 39 คน เพื่อแก้ไขร่างกฎหมายก่อนที่จะนำเสนอต่อสภาในวาระที่สองและวาระที่สาม[13]
ร่างที่อยู่ระหว่างการพิจารณาจำนวน 7 ฉบับ ได้แก่:[14]
- ร่างพระราชบัญญัติเพื่ออากาศสะอาด เสนอโดยคณะรัฐมนตรี
- ร่างพระราชบัญญัติอากาศสะอาดเพื่อประชาชน เสนอโดยอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
- ร่างพระราชบัญญัติอากาศสะอาดเพื่อสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน เสนอโดยจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์จากพรรคเพื่อไทย
- ร่างพระราชบัญญัติกำกับดูแลการจัดการอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพแบบบูรณาการ เสนอโดยคนึงนิจ ศรีบัวเอี่ยม ผู้ร่วมก่อตั้งเครือข่ายอากาศสะอาด กับผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 22,251 คน[13]
- ร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด เสนอโดยตรีนุช เทียนทองจากพรรคพลังประชารัฐ
- ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาอากาศเพื่อสุขภาพ เสนอโดยร่มธรรม ขำนุรักษ์จากพรรคประชาธิปัตย์
- ร่างพระราชบัญญัติฝุ่นพิษและการก่อมลพิษข้ามพรมแดน เสนอโดยภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์จากพรรคประชาชน
ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2568 บัณฑูร เศรษฐศิโรตม์ ประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณากรอบหลัก หลักการสำคัญและโครงสร้างการบริหารโครงสร้าง ร่างพระราชบัญญัติอากาศสะอาดฯ แสดงความมั่นใจว่าร่างพระราชบัญญัติอากาศสะอาดจะผ่านสภาผู้แทนราษฎรในเดือนเมษายน พ.ศ. 2568[2] ไทม์ไลน์ของรัฐบาลคาดหวังว่าร่างสุดท้ายของร่างพระราชบัญญัติจะเสร็จภายในกลางเดือนกุมภาพันธ์และจะถูกส่งต่อไปยังสภาในการพิจารณาวาระที่สองและสาม โดยคาดว่าจะผ่านในเดือนเมษายน[2][15] จักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส. พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติอากาศสะอาด เปิดเผยว่า ขณะนี้กระบวนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติอากาศสะอาดคืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 85 โดยรัฐบาลได้หารือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแล้วในปีที่ผ่านมา[15]
หลังจากผ่านสภาแล้ว วุฒิสภาจะมีเวลา 30 วันในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว[2] คาดว่าจะมีผลใช้บังคับในช่วงปลายปี พ.ศ. 2568[16]
Remove ads
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads