คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง

ลิเวอร์มอเรียม

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ลิเวอร์มอเรียม
Remove ads

ลิเวอร์มอเรียม (อังกฤษ: Livermorium; เสียงอ่านภาษาอังกฤษ: /ˌlɪvərˈmɔəriəm/)[1] เป็น ธาตุในกลุ่มโลหะหลังทรานซิชัน ที่มีเลขอะตอมเท่ากับ 116 และมีสัญลักษณ์ Lv ชื่อนี้ตั้งขึ้นโดย IUPAC เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ค.ศ. 2012 โดยใช้ชื่อของ ห้องปฏิบัติการแห่งชาติลอเรนซ์ลิเวอร์มอร์ [2] พร้อมกับธาตุฟลีโรเวียม (เลขอะตอม 114) ส่วนชื่อเดิมของธาตุนี้เรียกว่า "อูนอูนเฮกเซียม" (ละติน: Ununhexium) มีสัญลักษณ์คือ "Uuh" เป็นชื่อชั่วคราวในระบบ IUPAC และมีชื่อชั่วคราวอีกชื่อตามพยากรณ์ของดมีตรี เมนเดเลเยฟว่า "เอกา-โปโลเนียม" (eka-polonium)

ข้อมูลเพิ่มเติม ทั่วไป, แหล่งอ้างอิง ...
Remove ads

การปรากฏ สมบัติ และปฏิกิริยาเคมี

สรุป
มุมมอง

ลิเวอร์มอเรียมบริสุทธิ์ คาดว่าเป็นของแข็ง ที่ STP สีเงิน วาว เป็นธาตุสังเคราะห์ เป็นธาตุกัมมันตรังสี และเป็นธาตุหนักยิ่งยวด (superheavy element)

ลิเวอร์มอเรียมเป็นธาตุที่เพิ่งค้นพบใหม่ ยังไม่มีข้อมูลนัก แต่ได้มีการทำนายไว้ว่าหากพบธาตุชนิดนี้ในสถานะเสถียร คาดว่ามีสมบัติคล้ายโปโลเนียม ซึ่งเป็นธาตุกึ่งโลหะ หรืออาจแสดงสมบัติเป็นธาตุอโลหะ ตามตำหน่งหมู่แชลโคเจนในตารางธาตุ

จากบทความประกาศการค้นพบเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2549[3] ระบุว่า ลิเวอร์มอเรียม-292 สังเคราะห์ได้จาก การกระหน่ำยิง แคลิฟอร์เนียม-249 ที่เป็นไปได้จำนวน 3 อะตอม ด้วยอนุภาคอิออนของอะตอม แคลเซียม-48 เพื่อผลิตอะตอม ออกาเนสซอน (ธาตุเลขอะตอม 118) แต่สลายตัวเป็น ลิเวอร์มอเรียม ภายในไม่เกินมิลลิวินาที ดังสมการ

จากนั้น 47 มิลลิวินาที สลายตัวเป็น ไอโซโทปของ ฟลีโรเวียม (ธาตุเลขอะตอม 114) ดังสมการ

Remove ads

ประโยชน์

นักเคมีเชิงฟิสิกส์ คาดหวังให้ลิเวอร์มอเรียมและธาตุใกล้เคียง เป็นหมู่เกาะแห่งเสถียรภาพ สำหรับสังเคราะห์และศึกษาทำความเข้าใจ ธาตุหนักยิ่งยวดอื่น ต่อไป

ประวัติการค้นพบและการศึกษา

เมื่อ ธันวาคม พ.ศ. 2543 (2000) คณะวิจัยจากสถาบันความร่วมมือเพื่อการวิจัยนิวเคลียร์ ดุบนา สหพันธรัฐรัสเซีย ประกาศผลการค้นพบ รูปแบบการสลายตัวของลิเวอร์มอเรียม ซึ่งสังเคราะห์ได้ในปฏิกิริยาระหว่าง ซีเรียม-248 กับ แคลเซียม-48 โดยไอโซโทป ลิเวอร์มอเรียม-292 มีครึ่งชีวิตประมาณ 18 มิลลิวินาที (0.018 วินาที) และสลายตัวเป็น ฟลีโรเวียม-288[4]

การค้นพบดังกล่าวกำลังรอการยืนยัน โดยปีก่อนหน้านั้นมีประกาศผลการค้นพบที่ถูกปลอมข้อมูลขึ้น[5]

เมื่อ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2544 (2001) สถาบันฯ รายงานผลการสังเคราะห์ลิเวอร์มอเรียมได้เป็นอะตอมที่สอง โดยสมบัติความเสถียรที่นานกว่าธาตุอันดับต้นในคาบเดียวกัน เช่นเดียวกับฟลีโรเวียม แสดงถึงขอบเขตของหมู่เกาะแห่งเสถียรภาพที่ขยายขึ้น เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ในทฤษฎี

เมื่อ พ.ศ. 2547 สถาบันฯ สามารถยืนยันสังเคราะห์ลิเวอร์มอเรียมได้อีกวิธีหนึ่ง คือด้วยการวิเคราะห์จากผลลัพธ์สุดท้ายของธาตุได้จากการสลายตัว

เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2552 คณะทำงานร่วมรายงานการค้นพบโคเปอร์นิเซียมและได้รับรองการค้นพบไอโซโทป 283Cn[6] ซึ่งถือว่าเป็นการค้นพบลิเวอร์มอเรียม ในปี พ.ศ. 2554 IUPAC ประเมินผลการค้นพบของทีมดุบนาและยอมรับว่าเป็นเอกลักษณ์ที่น่าเชื่อถือธาตุ 116[7]

ดูเพิ่ม

เชิงอรรถ

อ้างอิง และแหล่งข้อมูลอื่น

Loading related searches...

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.

Remove ads