คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
พระสงฆ์
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
สงฺฆ เป็นคำภาษาสันสกฤต[1][2][3] ที่ใช้ในภาษาอินเดียหลายภาษา รวมทั้งภาษาบาลี[4] ซึ่งหมายถึง "สมาคม" "การชุมนุม" "บริษัท" หรือ "ชุมชน" ในภาษาเหล่านี้ สงฺฆมักถูกใช้เป็นนามสกุล ในบริบททางการเมือง ในอดีตมีการใช้คำนี้เพื่อแสดงถึงสภาที่ปกครองในสาธารณรัฐหรืออาณาจักร และมีการใช้โดยสมาคมทางศาสนามาช้านาน รวมทั้งพุทธศาสนิกชน เชน และซิกข์ จากประวัติศาสตร์นี้ พุทธศาสนิกชนบางคนกล่าวว่าสาย สงฺฆ แสดงถึงสถาบันประชาธิปไตยที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังหลงเหลืออยู่ของมนุษยชาติ เนื่องจากสังฆะหมายถึงกลุ่มคน ที่อยู่ร่วมกันด้วยสามัคคีธรรม 5 อย่างคือ 1.ร่วมกันคิด 2.ร่วมกันทำ 3.ร่วมกันตรวจสอบ 4.ร่วมกันแก้ไข และ 5.ร่วมกันรับผิดชอบ

สังฆะในทางพุทธคือชุมชนแห่งการเรียนรู้ แต่เดิมมีลักษณะเป็นเหมือนโรงเรียน เป็นความสัมพันธ์ระหว่างศิษย์กับอาจารย์ที่สั่งสอนกัน และระหว่างศิษย์พี่ศิษย์น้องศิษย์ร่วมสำนักเรียนที่แนะนำกัน มิใช่ความสัมพันธ์แบบเจ้านายลูกน้องและผู้ปกครองผู้ใต้ปกครอง แม้แต่พระธรรมวินัยที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ให้เป็นศาสดาแทนพระองค์ ก็มีความหมายว่าให้เป็นครูแทนพระองค์ มิใช่ผู้ปกครอง พระพุทธเจ้าทรงตั้งสังฆะขึ้นมาเพื่อให้เป็นชุมชนที่ต่างจะช่วยเหลือกันและกันในการเรียนรู้ การปฏิบัติธรรมและสร้างความดี[5]เพื่อสร้างอริยสงฆ์ สร้างอริยสังคม สร้างสังคมของผู้มีอริยวิถีอยู่ด้วยอริยมรรคมีองค์ 8
ในศาสนาพุทธ สงฺฆ หมายถึงหมู่ของ ภิกษุ และ ภิกษุณี หมู่คณะเหล่านี้เรียกตามธรรมเนียมว่า ภิกษุสงฆ์ หรือ ภิกษุณีสงฆ์ อริยบุคคลไม่ว่าจะเป็นบรรพชิตหรือไม่ก็ตาม เรียกว่า อริยสงฆ์[6][7]
ตามศาสนาพุทธนิกายเถรวาทและนิจิเร็นโชชู คำว่า สงฺฆ ไม่ได้หมายถึงหมู่สาวก (สาวกฆราวาส) และไม่ได้หมายถึงหมู่พุทธศาสนิกชนโดยรวม[8][9][7]
Remove ads
ความหมาย
สงฆ์ หรือ สงฺฆ ในภาษาบาลีแปลว่า หมู่ เช่นในคำว่าภิกษุสงฆ์ แปลว่า หมู่ภิกษุ ใช้ในความหมายว่า ภิกษุทั้งปวงก็ได้ เช่น"จีวรนี้เป็นของสงฆ์ ควรจะจัดเป็นพิธีสงฆ์ถวาย"
เมื่อใช้ควบกับคำว่า พระ เป็น พระสงฆ์ ซึ่งมีความหมายว่าภิกษุ เช่น "นิมนต์ภิกษุสงฆ์มาฉันในงานเมื่อวาน มีพระสงฆ์มาเป็นจำนวนมาก" ตามพระวินัย ภิกษุตั้งแต่ 4 รูปขึ้นไปจึงเรียกว่าสงฆ์ เช่นในคำว่า สังฆกรรม (กรรมที่สงฆ์ คือภิกษุตั้งแต่ 4 รูปขึ้นไปพึงทำรวมกัน)
Remove ads
ประเภทของพระสงฆ์
พระไตรปิฎกภาษาบาลีได้กล่าวถึงถึง พระสงฆ์ ไว้ 2 ประเภท ได้แก่ สาวกสงฆ์ และ ภิกขุสงฆ์[10]
สาวกสงฆ์
สาวกสงฆ์ หรือที่สมัยหลังนิยมเรียกว่า อริยสงฆ์ คือหมู่พระอริยบุคคล ไม่ว่าเป็นคฤหัสถ์หรือบรรพชิต ไม่ว่าเป็นมนุษย์หรือเทวดา ที่เป็นสาวกของพระพุทธเจ้า โดยการบรรลุมรรคผล อริยบุคคล 4 ประเภท คือ
- พระโสดาบัน
- พระสกทาคามี
- พระอนาคามี
- พระอรหันต์
ภิกขุสงฆ์
ภิกขุสงฆ์ หรือที่สมัยหลังนิยมเรียกว่า สมมุติสงฆ์ คือ หมู่ภิกษุ ที่ได้รับการอุปสมบทตามพระบรมพุทธานุญาต จากพระเถระตั้งแต่ 4 รูปขึ้นไปเรียกว่าสงฆ์ เนื่องจากคำว่าสงฆ์แปลว่าหมู่ จึงเรียกหมู่พระภิกษุว่าภิกษุสงฆ์ และหมู่พระภิกษุณีว่าภิกษุณีสงฆ์ จัดเป็น 4 วรรค ตามตามพระบรมพุทธานุญาตให้ทำสังฆกิจตามพระวินัย คือ จตุวรรค 4 รูป ปญฺจวรรค 5 รูป ทสวรรค 10 รูป วิสติวรรค 20 รูป แต่ถ้าพระภิกษุ 2-3 รูป เรียกว่า คณะ (เนื่องจากแบ่งพวกกันฝ่ายละ 2 รูปมิได้) ถ้าพระภิกษุรูปเดียว จัดเป็นบุคคล
Remove ads
สังฆคุณ
- สุปฏิปณฺโณ ผู้ปฏิบัติดีงาม
- อุชุปฏิปณฺโณ ผู้ปฏิบัติตรง ถูกต้อง
- ญายปฏิปณฺโณ ผู้ปฏิบัติชอบ , เพื่อธรรมเป็นเครื่องออกจากทุกข์
- สามีจิปฏิปณฺโณ ผู้ปฏิบัติสมควร , เหมาะสม
- อนุตฺตรํ ปุญฺญเขตฺตํ โลกสฺส เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า
- อาหุเนยฺโย เป็นสงฆ์ควรแก่สักการะที่เขานำมาบูชา (นำมาถวาย เช่นนำมาใส่บาตรขณะบิณฑบาตร)
- ปาหุเนยฺโย เป็นสงฆ์ควรแก่สักการะที่เขาจัดไว้ต้อนรับ (จัดไว้รอท่าให้ท่านมารับ เช่น การนิมนต์มาฉันที่บ้าน)
- ทกฺขิเนยฺโย เป็นสงฆ์ควรแก่การรับทักษิณาทาน (การเอ่ยปากขอเองจากท่าน)
- อฺญชลีกรณีโย เป็นผู้ที่บุคคลทั่วไปควรทำอัญชลี (การประนมมือ)
พระภิกษุสงฆ์เถรวาทในประเทศไทย
สรุป
มุมมอง
พระสงฆ์ ในประเทศไทย หมายถึง นักบวชชายในพระพุทธศาสนานิกายเถรวาท ซึ่งเป็นศาสนาหลักของประเทศ มีบทบาทสำคัญในสังคมไทยมายาวนาน โดยมีหน้าที่ศึกษาและปฏิบัติตามพระธรรมวินัย เผยแผ่พระพุทธศาสนา และเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณให้แก่พุทธศาสนิกชน
บทบาทและหน้าที่โดยทั่วไปของพระสงฆ์ในประเทศไทย คือ
- การศึกษาและปฏิบัติตามพระธรรมวินัย พระสงฆ์ต้องศึกษาพระไตรปิฎกและปฏิบัติตามพระวินัย 227 ข้ออย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ญาติโยม
- ประกอบศาสนกิจ เช่น การทำวัตรเช้า-เย็น การสวดมนต์ การเจริญสมาธิภาวนา การเทศนา และการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่างๆ
- เผยแผ่พระพุทธศาสนา การสั่งสอนธรรมะแก่ประชาชน การอบรมศีลธรรม และการเป็นผู้นำในการทำกิจกรรมทางศาสนา
- สงเคราะห์ญาติโยม การให้คำปรึกษา การช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก และการเป็นที่พึ่งทางใจ
การบวชเป็นพระสงฆ์ในประเทศไทย
โดยทั่วไป สมัยก่อนชายไทยนิยมบวชเป็นพระสงฆ์ในช่วงเข้าพรรษา (ประมาณ 3 เดือนในช่วงฤดูฝน) เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยและสร้างบุญกุศล ผู้ที่ต้องการบวชต้องมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีความประพฤติเสื่อมเสีย และได้รับการอนุญาตจากผู้ปกครอง (ถ้ายังไม่บรรลุนิติภาวะ) การบวชมีพิธีกรรมที่สำคัญ เช่น การปลงผม การครองผ้ากาสาวพัสตร์ และการรับศีลจากพระอุปัชฌาย์
พระสงฆ์ในประเทศไทย มี 2 นิกายหลัก คือ มหานิกายและธรรมยุติกนิกาย ซึ่งมีข้อปฏิบัติและวัตรที่แตกต่างกันบ้างเล็กน้อย นอกจากนี้ ยังมีพระสงฆ์ที่ปฏิบัติตนในแนวทางต่างๆ เช่น พระสงฆ์ที่เน้นการปฏิบัติธรรมในป่า (พระธุดงค์) หรือพระสงฆ์ที่เน้นการศึกษาพระปริยัติธรรม
ความสำคัญของพระสงฆ์ต่อสังคมไทย
- พระสงฆ์เป็นผู้ธำรงรักษาพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของวัฒนธรรมและจิตใจของคนไทย
- เป็นผู้ให้การศึกษาด้านศีลธรรมและคุณธรรมแก่สังคม
- เป็นผู้ชี้นำและเป็นที่พึ่งทางใจแก่ประชาชนในยามทุกข์และสุข
- พระสงฆ์มีบทบาทในการอนุรักษ์ศิลปะสถาปัตยกรรม และประเพณีอันดีงามของไทย
พระสงฆ์จึงเป็นบุคคลที่ได้รับความเคารพและศรัทธาอย่างสูงในสังคมไทย
Remove ads
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads