คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
อำเภอเชียงตุง
อำเภอในรัฐฉาน ประเทศพม่า จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
อำเภอเชียงตุง (ไทเขิน: ᩮᨾᩨ᩠ᨦᨩ᩠ᨿᨦᨲᩩᨦ; ไทใหญ่: ၸႄႈဝဵင်းၵဵင်းတုင်; พม่า: ကျိုင်းတုံမြို့နယ်) เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดเชียงตุง รัฐฉาน ประเทศเมียนมา มีศูนย์กลางการบริหารอยู่ที่เมืองเชียงตุง ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของจังหวัดเชียงตุงด้วย อาณาเขตเกือบทั้งหมดของอำเภอตั้งอยู่ทางฟากตะวันออกของแม่น้ำสาละวิน มีพื้นที่ประมาณ 3,500 ตารางกิโลเมตร
เมื่อคราวที่ประเทศไทยส่งกำลังทหารเข้ายึดครองดินแดนบางส่วนของประเทศเมียนมาและจัดตั้งดินแดนสหรัฐไทยเดิมขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ทางราชการไทยได้กำหนดชื่อเรียกของอำเภอเชียงตุงว่า "อำเพอเมืองเชียงตุง"[2]
Remove ads
ประวัติ
ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าเมืองเชียงตุงได้รับการสถาปนาขึ้นเมื่อใด แต่เชื่อกันว่าในช่วงปลายพุทธศตวรรษที่ 17 เมืองเชียงตุงได้ถูกปกครองโดยชาวลัวะ จนกระทั่งถึงปี พ.ศ. 1786 จึงถูกพระญามังรายผนวกให้เข้ามาอยู่ภายใต้อำนาจของเมืองเชียงใหม่[3] ต่อมาในปี พ.ศ. 2107 หลังจากที่เมืองเชียงใหม่เสียให้แก่พระเจ้าบุเรงนองแล้ว เจ้าแก้วบุญนำ (ᨧᩮᩢ᩶ᩣᨠᩯ᩠᩶ᩅᨷᩩᨬᨶᩣᩴ) เจ้าฟ้าเมืองเชียงตุงในขณะนั้น ก็ได้เข้าสวามิภักดิ์ต่อพม่า[4] และนับจากนั้นพม่าก็ได้เข้ามามีอิทธิพลและบทบาทเหนือเมืองเชียงตุงตลอดมาจนถึงปัจจุบัน
Remove ads
ลักษณะประชากร
ประชากรหลักของอำเภอเชียงตุงเป็นชาวไทกลุ่มหนึ่งซึ่งเรียกตนเองว่าไทขืน โดยภาษาของชาวไทขืนจะมีคำศัพท์แตกต่างจากภาษาของชาวไทหลวงหรือไทใหญ่ ซึ่งเป็นกลุ่มประชากรหลักของรัฐฉานอยู่ค่อนข้างมาก อีกทั้งยังมีภาษาเขียนที่แตกต่างกัน โดยภาษาเขียนของชาวไทขืนนั้นดัดแปลงมาจากอักษรธรรมล้านนาของเชียงใหม่[5]
นอกจากนี้ประชากรของอำเภอเชียงตุงยังประกอบด้วยกลุ่มชาติพันธุ์อีกมากมาย เช่น ไทลื้อ ไทหลวง ไทเหนือ ลาหู่ อาข่า พม่า ว้า ลีซอ ปะหล่อง จีน กะชีน เป็นต้น[6] ชาวอำเภอเชียงตุงส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธนิกายเถรวาท ศาสนาอื่นที่สำคัญคือ ศาสนาคริสต์ และการนับถือผี[7]
Remove ads
ที่ตั้งและลักษณะทางภูมิศาสตร์
อำเภอเชียงตุงตั้งอยู่บริเวณจุดกึ่งกลางของรัฐฉานภาคตะวันออก มีอาณาเขตติดต่อกับอำเภออื่นดังนี้
- ทิศเหนือติดต่อกับอำเภอเมืองขากและอำเภอเมืองลา จังหวัดเชียงตุง
- ทิศตะวันออกติดต่อกับอำเภอเมืองลา จังหวัดเชียงตุง อำเภอเมืองยองและอำเภอเมืองพยาก จังหวัดท่าขี้เหล็ก
- ทิศใต้ติดต่อกับอำเภอเมืองพยาก จังหวัดท่าขี้เหล็ก และอำเภอเมืองสาต จังหวัดเมืองสาต
- ทิศตะวันตกติดต่อกับอำเภอเมืองเป็ง จังหวัดเชียงตุง
พื้นที่ส่วนใหญ่ของอำเภอเชียงตุงเป็นพื้นที่ภูเขา มีแอ่งที่ราบขนาดใหญ่อยู่บริเวณตอนกลางค่อนไปทางเหนือ มีแม่น้ำสำคัญคือแม่น้ำขืนและแม่น้ำหลวย ซึ่งเป็นลำน้ำสาขาของแม่น้ำโขง
ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยในแต่ละปีอยู่ที่ประมาณ 1,500 มม. ในบริเวณพื้นราบ มีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยในช่วงฤดูร้อนอยู่ที่ประมาณ 38 °ซ และอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยในช่วงฤดูหนาวอยู่ที่ 21 °ซ
เขตการปกครอง
สรุป
มุมมอง

อำเภอเชียงตุงแบ่งการปกครองออกเป็น 1 เมือง (ᩅ᩠ᨿᨦ/မြို့/Town) และ 31 ตำบล (เอิ่ง/ᩋᩮᩥ᩠᩵ᨦ/ကျေးရွာအုပ်စု/Village Tract) ได้แก่
- เมืองเชียงตุง (ကျိုင်းတုံ)
- เอิ่งกาดเต่า (ကတ်တောင်)
- เอิ่งกาดถ้าย (ကတ်ထိုက်)
- เอิ่งกาดฟ้า (ကတ်ဖ)
- เอิ่งดอยหลวง (လွယ်လုံ)
- เอิ่งดอยเหมย (လွိုင်မွေ,လွယ်မွေ)
- เอิ่งท่าเดื่อ (တာလေ)
- เอิ่งนาปอ (နားပေါ်)
- เอิ่งน้ำขัก (နမ့်ခတ်)
- เอิ่งน้ำหลวง (နမ့်လုံ)
- เอิ่งน้ำอิง (နမ့်အင်း)
- เอิ่งปางจู่ (ပန်ကြူ)
- เอิ่งปางมาต (ပန်မတ်)
- เอิ่งเป็งเต้า (ပင်းတောက်)
- เอิ่งเมืองกาย (မိုင်းကိုင်)
- เอิ่งเมืองขอน (မိုင်းခွန်)
- เอิ่งเมืองงอม (မိုင်းငွန်း)
- เอิ่งเมืองเจม (မိုင်းဇင်း)
- เอิ่งเมืองนอ/ผาต้า (မိုင်းနော့/ဖာတ)
- เอิ่งเมืองปักใต้ (မိုင်းပတ် (အောက်))
- เอิ่งเมืองปักเหนือ (မိုင်းပတ် (အထက်))
- เอิ่งเมืองปันกลาง (မိုင်းပန် (လယ်))
- เอิ่งเมืองลัง (မိုင်းလန်း)
- เอิ่งเมืองลาบ (မိုင်းလပ်)
- เอิ่งเมืองอิน (မိုင်းအင်း)
- เอิ่งยางเกี๋ยง (ယန်းကျိန်)
- เอิ่งยางคะ (ယန်းခ)
- เอิ่งยางลอ (ယန်းလော)
- เอิ่งวัดซาว (ဝပ်ဆောင်း)
- เอิ่งหนองกุ้ง (နောင်ကုန်)
- เอิ่งหนองตอง (နောင်တောင်း)
- เอิ่งห้วยก๋อย (ဟွေကွယ်)
เมืองเชียงตุง มีฐานะเทียบเท่าเทศบาลนครของประเทศไทย แบ่งเขตการปกครองย่อยลงไปเป็นแขวง (ရပ်ကွက်/Ward) โดยมีจำนวนทั้งหมด 5 แขวง[8] ซึ่งเรียกว่าเขต (ᨡᩮ᩠ᨲ) ส่วนตำบลต่าง ๆ จะแบ่งเขตการปกครองออกเป็นหมู่บ้าน (ᨷ᩶ᩤ᩠ᨶ/ကျေးရွာ/Village) ซึ่งอำเภอเชียงตุงมีจำนวนหมู่บ้านทั้งหมด 718 หมู่บ้าน[9]

Remove ads
การสาธารณสุข
อำเภอเมืองเชียงตุง มีโรงพยาบาล 6 แห่ง[12] ดังนี้
- โรงพยาบาลเชียงตุง — หรือโรงยาหลวงเชียงตุง (ᩁᩰ᩠ᨦᩀᩣᩉᩖᩅ᩠ᨦᨩ᩠ᨿᨦᨲᩩᨦ) เป็นโรงพยาบาลรัฐบาล ตั้งอยู่ในเขตตำบลเมืองเจม มีขนาด 200 เตียง เป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัดเชียงตุง
- โรงพยาบาลหมายเลข 3/300 — หรือโรงพยาบาลทหาร (တပ်မတော်စစ်ဆေးရုံ) เป็นโรงพยาบาลรัฐบาล ตั้งอยู่ในเขตตำบลเมืองเจม มีขนาด 300 เตียง
- โรงพยาบาลดอยเหมย — เป็นโรงพยาบาลรัฐบาล ตั้งอยู่ในเขตตำบลดอยเหมย มีขนาด 16 เตียง
- โรงพยาบาลเมืองขอน — เป็นโรงพยาบาลรัฐบาล ตั้งอยู่ในเขตตำบลเมืองขอน มีขนาด 16 เตียง
- โรงพยาบาลเมืองกาย — เป็นโรงพยาบาลรัฐบาล ตั้งอยู่ในเขตตำบลเมืองกาย มีขนาด 16 เตียง
- โรงพยาบาลเจตนา (စေတနာဆေးရုံ) — เป็นโรงพยาบาลเอกชน ตั้งอยู่ในพื้นที่เขต 3 เวียงเชียงตุง มีขนาด 25 เตียง
นอกจากนี้ภายในเขตอำเภอเชียงตุงยังมีสถานบริการพยาบาลของเอกชน (คลินิก) อีกประมาณ 40 แห่ง ซึ่งเกือบทั้งหมดตั้งอยู่ในเวียงเชียงตุง และยังมีสถานบริการรัฐบาลระดับตำบลกระจายอยูในตำบลต่าง ๆ อย่างน้อยตำบลละหนึ่งแห่ง
Remove ads
การศึกษา
สรุป
มุมมอง
ระดับอุดมศึกษา
อำเภอเชียงตุงมีมหาวิทยาลัย 3 แห่ง[13] ได้แก่
ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
อำเภอเชียงตุงมีโรงเรียนที่เปิดสอนในระดับมัธยมปลาย 15 แห่ง[14] ได้แก่
การศึกษาของคณะสงฆ์
การศึกษาของขณะสงฆ์ในอำเภอเชียงตุง แบ่งออกเป็น 2 ระบบ คือ[15]
- ระบบการศึกษาตามจารีตของชาวไต ซึ่งเป็นระบบการศึกษาแบบดั้งเดิม ไม่มีแบบแผนในการเรียนการสอนที่ชัดเจน โดยคร่าว ๆ แล้วประกอบด้วย 3 ระดับ คือ 1) ชั้นปฐมะ 2) ชั้นทุติยะ และ 3) ชั้นตติยะ ในปัจจุบันเป็นระบบการเรียนการสอนที่ไม่ได้รับความนิยมนัก จะพบได้เฉพาะในวัดไตใหญ่
- ระบบการศึกษาในปัจจุบัน ซึ่งประกอบด้วย 2 ระบบ คือ
- ระบบการเรียนการสอนตามหลักสูตรของรัฐบาลเมียนมา หรือ “ระบบต่าน” โดยการศึกษาจะแบ่งเป็น 10 ชั้นปี เหมือนระบบการศึกษาของฆราวาสทั่วไป เป็นหลักสูตรภาคบังคับของรัฐบาลจากส่วนกลาง ใช้ภาษาพม่าในการเรียนการสอน และมีข้อจำกัดที่ทำให้พระสงฆ์สามารถเรียนได้ถึงต่าน 5 ตามหลักสูตรนี้เท่านั้น (เทียบเท่ากับระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของไทย) ทำให้เป็นระบบที่ไม่ได้รับความนิยมสำหรับชาวเมืองเชียงตุง
- ระบบการเรียนการสอนแบบนักธรรม เป็นหลักสูตรที่จัดขึ้นโดยคณะสงฆ์เมืองเชียงตุง โดยริเริ่มมีขึ้นที่วัดราชฐานหลวงหัวข่วงใน พ.ศ.2491 ซึ่งการจัดการศึกษาโดยคณะสงฆ์เมืองเชียงตุงนี้จะครอบคลุมเฉพาะในเขตเวียงเมืองเชียงตุงและตำบลรอบนอกที่อยู่ภายใต้สำนักเรียน 9 แห่ง ได้แก่
การจัดการศึกษาจะแบ่งออกเป็น 7 ชั้น คือ
- ชั้นมูล (มูลละ) — เป็นการเรียนอักขระไทเขิน การเรียนการสอนจะทำที่วัดทั่วไป แต่การสอบวัดความรู้จะทำในงานสอบธรรมที่จัดขึ้นโดยสำนักเรียนต่าง ๆ เป็นชั้นที่ประชาชนทั่วไปนิยมส่งบุตรหลานเข้าศึกษาในช่วงที่โรงเรียนปิดเทอม เพื่อสืบทอดความรู้ในภาษาไทเขิน
- ชั้นปฐมะ — เป็นหลักสูตรว่าด้วยการเรียนบทสวดมนต์ การสอบจะจัดขึ้นที่วัดราชฐานหลวงหัวข่วง ในงานสอบธรรมประจำปี
- ธรรมศึกษาชั้นต้น หรือ นักธรรมชั้นตรี — เป็นชั้นเริ่มต้นในการศึกษาระดับปริยัติธรรม
- ธรรมศึกษาชั้นกลาง หรือ นักธรรมชั้นโท
- ธรรมศึกษาชั้นปลาย หรือ นักธรรมเอก
- หลักสูตรวิชาบาลีไวยกรณ์เบื้องต้นและการแปลภาษาบาลี หรือ เปรียญธรรมประโยค 1-2
- หลักสูตรวิชาบาลีไวยกรณ์ชั้นสูงและการแปลภาษาบาลี หรือ เปรียญธรรมประโยค 5-6 — ผู้ที่ศึกษาจบชั้น 7 แล้ว จะมีคุณสมบัติเข้าไปศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยสงฆ์ในจังหวัดเชียงใหม่ต่อไป
Remove ads
การคมนาคม
สรุป
มุมมอง
ทางอากาศ
อำเภอเชียงตุงมีสนามบินพลเรือน 1 แห่ง ตั้งอยู่ในเขตตำบลหนองกุ้ง เป็นสนามบินภายในประเทศ
ทางบก
ถนนติดต่อระหว่างเมือง
อำเภอเชียงตุงมีถนนติดต่อระหว่างเมืองที่สำคัญดังนี้[16]
- ถนนมิถิลา-ตองจี-เชียงตุง-ท่าขี้เหล็ก — คือทางหลวงแห่งชาติหมายเลข 4 และเป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงเอเชียสาย 2 มีระยะทางของถนนอยู่ในเขตอำเภอเชียงตุงประมาณ 57 กิโลเมตร เป็นเส้นทางหลักในการเดินทางไปเมืองตองจีและเมืองท่าขึ้เหล็ก โดยเส้นทางของถนนจะผ่านเข้ามาในเขตอำเภอเชียงตุงทางทิศตะวันตกที่ตำบลเมืองปันกลาง ผ่านตำบลปางจู่ ตำบลยางลอ เข้าสู่เขตเมืองเชียงตุง (ในเวียง) แล้วหักลงไปทางทิศใต้ ผ่านเขตตำบลเมืองเจม ตำบลดอยเหมย และออกจากเขตอำเภอเชียงตุงที่ตำบลยางคะ สถานที่สำคัญที่ตั้งอยู่บนถนนสายนี้ มีอาทิเช่น น้ำตกปางจู่ สถานีรถไฟเชียงตุง มหาวิทยาลัยเชียงตุง อนุสาวรีย์อิสรภาพ กาดหลวงเชียงตุง กองทัพน้อยภาคสามเหลี่ยม (တြိဂံတိုင်းစစ်ဌာနချုပ်) โรงพยาบาลเชียงตุง ดอยปางควาย และดอยเหมย เป็นต้น
- ถนนเชียงตุง-เมืองลา — เป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงเอเชียสาย 3 ส่วนใต้ มีระยะทางของถนนอยู่ในเขตอำเภอเชียงตุงประมาณ 48 กิโลเมตร เป็นเส้นทางหลักในการเดินทางไปยังเมืองลา จุดเริ่มต้นของถนนสายนี้อยู่ที่วัดพระเจ้าหลวง เมืองเชียงตุง (ในเวียง) ผ่านตำบลหนองกุ้ง ตำบลกาดฟ้า และออกจากเขตอำเภอเชียงตุงที่ตำบลยางเกี๋ยง สถานที่สำคัญที่ตั้งอยู่บนถนนสายนี้ มีอาทิเช่น หนองคำ สนามบินเชียงตุง หมู่บ้านหนองเงิน และหมู่บ้านกาดฟ้า เป็นต้น
- ถนนเชียงตุง-เมืองขาก-เมืองยาง — มีระยะทางของถนนอยู่ในเขตอำเภอเชียงตุงประมาณ 33 กิโลเมตร เป็นเส้นทางหลักที่ใช้ในการเดินนทางไปยังเมืองขากและเมืองยาง จุดเริ่มต้นของถนนสายนี้อยู่ที่วัดพระเจ้าหลวง เมืองเชียงตุง (ในเวียง) ผ่านตำบลยางลอ ตำบลวัดซาว ตำบลกาดเต่า และออกจากเขตอำเภอเชียงตุงที่ตำบลเป็งเต้า สถานที่สำคัญที่ตั้งอยู่บนถนนสายนี้ มีอาทิ หมู่บ้านกาดเต่า และ 13 หลัก เป็นต้น
- ถนนเชียงตุง-เมืองขอน-เมืองกก — มีระยะทางของถนนอยู่ในเขตอำเภอเชียงตุงประมาณ 32 กิโลเมตร เป็นเส้นทางหลักที่ใช้ในการเดินทางไปยังเมือขก (เมืองกก) จังหวัดเมืองสาด จุดเริ่มต้นของถนนสายนี้แยกออกจากถนนมิถิลา-ตองจี-เชียงตุง-ท่าขี้เหล็ก ที่บริเวณใกล้ด่านเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางบ้านยางลู ตำบลเมืองเจม เส้นทางผ่านตำบลห้วยก๋อย ตำบลน้ำอิง และออกจากเขตอำเภอเชียงตุงที่ตำบลหนองตอง สถานที่สำคัญที่ตั้งอยู่บนถนนสายนี้ มีอาทิ 19 หลัก เป็นต้น
Remove ads
สถานที่ท่องเที่ยว
สถานที่ท่องเที่ยวทั่วไป
- หนองตุง (ᩉ᩠ᨶᨦᩬᨲᩩᨦ) — เป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ พื้นที่ประมาณ 80 ไร่ ตั้งอยู่ภายในเวียงเมืองเชียงตุง เขต 2 เป็นจุดที่มีทัศนียภาพโล่งกว้าง มีสถานที่สำคัญทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมตั้งอยู่ใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก
- กาดหลวง (ᨠᩣ᩠ᨯᩉᩖᩅ᩠ᨦ) — เป็นตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใหญ่ที่สุดของอำเภอ ตั้งอยู่ภายในเวียงเมืองเชียงตุง เขต 1
- หอหลวงเชียงตุงจำลอง (ᩉᩳᩉᩖᩅ᩠ᨦᨩ᩠ᨿᨦᨲᩩᨦ)
- – เป็นอาคารพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ของเมือเชียงตุง โดยจำลองแบบการก่อสร้างมาจากหอหลวงเมืองเชียงตุงหลังเก่า ที่เริ่มก่อสร้างในรัชสมัยของเจ้าฟ้ารัตนะก้อนแก้วอินแถลงเมื่อ พ.ศ. 2448 และถูกรื้อลงใน พ.ศ 2534 อาคารหอหลวงเชียงตุงจำลองหลังนี้ตั้งอยู่ในเวียงเมืองเชียงตุง เขต 2 บริเวณริมหนองตุงด้านทิศตะวันออก ใกล้กับตำแหน่งของหอหลวงเมืองเชียงตุงหลังเก่าที่ถูกรื้อไป
- – มีการประกอบพิธีเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 โดยมีพลเอกอาวุโสมี่นอองไลง์ นายกรัฐมนตรีเมียนมาในขณะนั้นเป็นประธาน และ ดร. เจ้านาง หยินหยินน้อย (Yin Yin Nwe) ซึ่งเป็นนัดดาของเจ้าฟ้ารัตนะก้อนแก้วอินแถลง ได้เข้าร่วมในพิธีครั้งนี้ด้วย[17]
- – หอหลวงเชียงตุงจำลองได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมเป็นครั้งแรกเป็นการชั่วคราว (การตกแต่งภายในยังไม่เสร็จสมบูรณ์) ระหว่างวันที่ 27 – 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 ซึ่งอยู่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ไท ระหว่างเวลา 9.00 น. – 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของประเทศเมียนมา โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
- – มีการประกอบพิธีประดิษฐานพระรูปเหมือนของเจ้าฟ้าเมืองเชียงตุง 3 พระองค์ คือ เจ้าฟ้าก้อนแก้วอินแถลง เจ้าฟ้ากองไท และเจ้าฟ้าชายหลวง ภายในหอหลวงเชียงตุงจำลอง เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2568[18]
- พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรม — ตั้งอยู่บนดอยจอมสัก เวียงเมืองเชียงตุง เขต 1 ติดกับพระพุทธรูปพระเจ้าชี้นิ้วดอยจอมสัก
- น้ำตกเชียงตุง (หัวยาง) — ตั้งอยู่บริเวณบ้านหัวยาง (ᩉᩫ᩠ᩅᨿᩣ᩠ᨦ) ตำบลกาดเต่า (ᨠᩣ᩠ᨯᨴᩮᩢ᩵ᩤ) อยู่ห่างจากเมืองเชียงตุงประมาณ 16 กิโลเมตร
- ดอยเหมย (ᨯᩭᩉᩮᩨ᩠ᨾ᩠ᨿ) — เป็นดอยสูง อยู่ห่างจากเมืองเชียงตุงประมาณ 20 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในเขตตำบลดอยเหมย มีภูมิอากาศเย็นสบาย มีสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่หลายแห่ง และในช่วงฤดูหนาวต้นหมอกก๋อมที่ขึ้นในพื้นที่จะออกดอกจำนวนมาก เพิ่มความงามด้านทัศนียภาพในพื้นที่
- ดอยปางควาย (ᨯᩭᨸᩣ᩠ᨦᨣᩤ᩠ᨿ) - เป็นตอยสูง อยู่ใกล้ดอยเหมย ตั้งอยู่ในเขตตำบลดอยเหมย เป็นที่ตั้งของพุทธมณฑลนครเชียงตุง มีจุดชมวิว รีสอร์ท และร้านกาแฟ หลายแห่ง
- บ่อน้ำพุร้อนบ้านหล้าว — ตั้งอยู่ใกล้บ้านน้ำปุ่ง (ᨶᩣᩴ᩶ᨻᩩ᩵ᨦ) และบ้านหล้าว (ᨷᩢᩤ᩠ᨶᩃᩢᩣ᩠ᩅ) ตำบลดอยหลวง (ᨯᩭᩉᩖᩅ᩠ᨦ) อยู่ห่างจากเมืองเชียงตุงไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 8 กิโลเมตร
- 13 หลัก — เป็นหาดทรายริมฝั่งแม่น้ำขืน ตั้งอยู่ในเขตตำบลกาดเต่า อยู่ห่างจากเมืองเชียงตุงไปทางทิศเหนือประมาณ 20 กิโลเมตร หรือ 13 ไมล์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมในช่วงฤดูร้อน
- 19 หลัก — เป็นจุดชมทัศนียภาพบนภูเขาสูง ตั้งอยู่ในเขตตำบลเมืองขอน บนถนนเชียงตุง-เมืองขอน-เมืองกก ห่างจากเมืองเชียงตุงไปทางทิศใต้ราว 37 กิโลเมตร หรือ 19 ไมล์นับจากจุดเริ่มต้นของถนนเชียงตุง-เมืองขอน-เมืองกก
- จุดชมทิวทัศน์พระธาตุจุ๊กเป็งฟ้า — เป็นจุดสูงสุดของยอดดอยสองแห่งที่มีทางเดินต่อเนื่องจากพระธาตุจุ๊กเป็งฟ้าขึ้นไป โดยจุดชมวิวที่สองนั้น ถือว่าเป็นจุดสูงสุดที่สามารถชมทิวทัศน์แอ่งที่ราบทางตอนเหนือของเมืองเขียงตุงได้ในมุมกว้าง
สถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม
ในเขตเวียงเมืองเชียงตุง
- วัดพระเจ้าหลวง (ᩅᩢ᩠ᨯᨻᩕᨧᩮᩢᩢᩣᩉᩖᩅ᩠ᨦ)
- วัดราชฐานหลวงหัวข่วง (ᩅᩢ᩠ᨯᩁᩣᨩᨮᩣ᩠ᨶᩉᩖᩅ᩠ᨦᩉᩫ᩠ᩅᨡ᩠ᩅ᩵ᨦ)
- วัดพระธาตุหลวงจอมคำ (ᩅᩢ᩠ᨯᨻᩕᨵᩤ᩠ᨲᩩᩉᩖᩅ᩠ᨦᨧᩬᨾᨤᩴᩣ)
- วัดพระธาตุจอมมน (ᩅᩢ᩠ᨯᨻᩕᨵᩤ᩠ᨲᩩᩉᩖᩅ᩠ᨦᨧᩬᨾᨾᩫ᩠ᨶ) และต้นไม้หมายเมือง
- วัดราชฐานหลวงเชียงยืน (ᩅᩢ᩠ᨯᩁᩣᨩᨮᩣ᩠ᨶᩉᩖᩅ᩠ᨦᨩ᩠ᨿᨦᨿᩨ᩠ᨶ)
- วัดพระแก้ว (ᩅᩢ᩠ᨯᨻᩕᨠᩯ᩠᩶ᩅ)
- วัดอินทบุปผาราม (ᩅᩢ᩠ᨯᩍᨶ᩠ᨴᨷᩩᨷ᩠ᨹᩣᩁᩣ᩠ᨾ)
- วัดราชฐานหลวงป่าแดง สีหฬนัตตารามะ (ᩈᩦᩉᩊᨶᨲ᩠ᨲᩣᩁᩣᨾ ᩅᩢ᩠ᨯᩁᩣᨩᨮᩣ᩠ᨶᩉᩖᩅ᩠ᨦᨸ᩵ᩣᨯᩯ᩠ᨦ)
- วัดเชียงจันทน์ (ᩅᩢ᩠ᨯᨩ᩠ᨿᨦᨧᨶ᩠ᨴ᩼)
- วัดเชียงงาม (ᩅᩢ᩠ᨯᨩ᩠ᨿᨦᨦᩣ᩠ᨾ)
- วัดหนองคำ (ᩉ᩠ᨶᨦᩬᨤᩴᩣ)
- พระเจ้าชี้นิ้วดอยจอมสัก (ခေမာရဋ္ဌဗျာဒိတ်ပေးရပ်တော်မူဘုရားကြီး)
- กู่เจ้าฟ้าเชียงตุง (ᨠᩪ᩵ᨧᩮᩢ᩶ᩣᨼ᩶ᩣᨩ᩠ᨿᨦᨲᩩᨦ) — สุสานบรรจุพระอัฐิของเจ้าฟ้าเมืองเชียงตุงแปดพระองค์ ตั้งอยู่ในเวียงเมืองเชียงตุง เขต 3 ติดถนนเซตานหลวง ใกล้ประตูป่าแดง และเนื่องจากกู่เจ้าฟ้าเชียงตุงนี้ตั้งอยู่ในบริเวณกาดหลวงเก่า จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “หอเจ้าหลวงกาด” ตำแหน่งของกู่ทั้งแปดองค์ เรียงไปตามลำดับจากทิศตะวันออกไปทางทิศตะวันตก มีดังนี้
- กู่องค์แรก ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก (ด้านใกล้ประตูป่าแดง) ซึ่งเป็นกู่ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสอง เป็นกู่บรรจุพระอัฐิของเจ้าฟ้ากองไต (ᨧᩮᩢ᩶ᩣᨼ᩶ᩣᨠᩬᨦᨴᩱ)
- กู่องค์ที่สอง ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุด เป็นกู่บรรจุพระอัฐิของเจ้าฟ้าก้อนแก้วอินแถลง (ᨧᩮᩢ᩶ᩣᨼ᩶ᩣᨠᩬ᩶ᩁᨠᩯ᩠᩶ᩅᩋᩥ᩠ᨶᨳᩯ᩠ᩃᨦ) กู่ในลำดับถัดจากนั้นจะมีขนาดใกล้เคียงกันและเล็กกว่ากู่สององค์แรก
- กู่องค์ที่สาม เป็นกู่บรรจุอัฐิของเจ้าฟ้ากองคำฟู (ᩮᨧᩢ᩶ᩣᨼ᩶ᩣᨠᩬᩙᨤᩴᩣᨼᩪ)
- กู่องค์ที่สี่ เป็นกู่บรรจุอัฐิของเจ้ากองไทย (ᩮᨧᩢ᩶ᩣᨠᩬᩙᨴᩱ᩠ᨿ) หรือ เจ้าหม่อมเชียงแขง (ᨧᩢ᩶ᩣᩉ᩠ᨾ᩵ᨾᩬᨩ᩠ᨿᩙᨡᩯ᩠ᨦ)
- กู่องค์ที่ห้า เป็นกู่บรรจุอัฐิเจ้าคำแสน (ᨧᩮᩢ᩶ᩣᨤᩴᩣᩈᩯ᩠ᨶ)
- กู่องค์ที่หก เป็นกู่บรรจุอัฐิของเจ้ามหาพรหม (ᨧᩮᩢ᩶ᩣᨾᩉᩣᨻᩕᩫ᩠ᨾ)
- กู่องค์ที่เจ็ด เป็นกู่บรรจุอัฐิของเจ้ามหาขนานดวงแสง (ᨧᩮᩢ᩶ᩣᨾᩉᩣᨡ᩠ᨶᩣ᩠ᨶᨯ᩠ᩅᨦᩈᩯ᩠ᨦ) และ
- กู่องค์ที่แปด ซึ่งเป็นองค์สุดท้าย เป็นกู่บรรจุอัฐิของเจ้าฟ้าชายหลวง (ᨧᩮᩢ᩶ᩣᨼ᩶ᩣᨩᩣ᩠ᨿᩉᩖᩅ᩠ᨦ) ซึ่งเป็นเจ้าฟ้าเชียงตุงองค์สุดท้าย กู่องค์นี้สร้างขึ้นเป็นองค์สุดท้ายและเป็นกู่องค์เดียวที่มีป้ายจารึกเป็นภาษาพม่าและภาษาอังกฤษ ในขณะที่ป้ายจารึกของกู่องค์อื่นจะถูกจากรึกด้วยภาษาไทขืน (ข้อมูลถึงวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2568) [19][20][21]
- อนุสาวรีย์เจ้าฟ้ามหาขนาน — พระราชานุสาวรีย์ของเจ้าฟ้ามหาสิงหบวรสุธรรมราชา หรือเจ้าฟ้ามหาขนานดวงแสง เจ้าฟ้าเชียงตุงองค์ที่ 35 ตั้งอยู่ในเวียงเมืองเชียงตุง เขต 3 ติดถนนเซตานหลวง ตรงข้ามกู่เจ้าฟ้าเชียงตุง โดยมีการประกอบพิธีประดิษฐานพระราชานุสาวรีย์เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564
- ประตูป่าแดง — เป็นประตูเมืองหนึ่งในสิบสองประตูของเมืองเชียงตุง ตั้งอยู่ในเวียงเมืองเชียงตุง เขต 3 เป็นประตูเมืองแห่งเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน ปัจจุบันได้ปิดการจราจรผ่านประตูไปตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 และได้ปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์โดยรอบให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว
- กู่เจ้านางสุวรรณา — สุสานบรรจุพระอัฐิของเจ้านางสุวรรณา (ᨧᩮᩢ᩶ᩣᨶᩣ᩠ᨦᩈᩩᩅᩢᨱ᩠ᨱᩣ) พระราชมารดาของเจ้าฟ้ารัตนะก้อนแก้วอินแถลง ตั้งอยู่ในเขตหมู่บ้านน้อยนอ (ᨷᩢᩤ᩠ᨶᨶᩢᩭᨶᩳ) เวียงเมืองเชียงตุง
- กูเจ้านางบัวสวรรค์ — สุสานบรรจุพระอัฐิของเจ้านาย 3 องค์ คือ เจ้านางบัวสวรรค์ (ᨧᩮᩢ᩶ᩣᨶᩣ᩠ᨦᨷᩫ᩠ᩅᩈᩅᩢᩁ᩠᩼ᨣ / ᨧᩮᩢ᩶ᩣᨶᩣ᩠ᨦᩅᩫ᩠ᩅᩈ᩠ᩅᩢᩁ) พระธิดาของเจ้าฟ้ารัตนะก้อนแก้วอินแถลง กับพระชายาของเจ้าฟ้ารัตนะก้อนแก้วอินแถลงอีก 2 องค์ คือ เจ้านางแดง (ᨧᩮᩢ᩶ᩣᨶᩣ᩠ᨦᨯᩯ᩠ᨦ) และ เจ้านางบัวทิพย์น้อย (ᩮᨧᩢ᩶ᩣᨶᩣ᩠ᨦᨷᩫ᩠ᩅᨴᩥ᩠ᨷᨶ᩶ᩭ) สุสานนี้ตั้งอยู่ในเขตวัดพระธาตุภูมมินท์ (ᩅᩢ᩠ᨯᨻᩕᨵᩤ᩠ᨲᩩᨽᩪᨾᩦ᩠ᨾᨶ᩠᩼ᨴ) ซึ่งตั้งอยู่ในเวียงเมืองเชียงตุง เขต 4
นอกเขตเวียงเมืองเชียงตุง
- วัดพระธาตุจอมหมอก (ᩅᩢ᩠ᨯᨻᩕᨵᩤ᩠ᨲᩩᨧᩬᨾᩉ᩠ᨾᨠᩬ) — ตั้งอยู่ห่างจากเมืองเชียงตุงไปทางทิศเหนือประมาณ 20 กิโลเมตร
- วัดพระธาตุป้านเมือง (ᩅᩢ᩠ᨯᨻᩕᨵᩤ᩠ᨲᩩᨸ᩶ᩣ᩠ᨶᨾᩮᩨ᩠ᨦ) — ตั้งอยู่ในเขตตำบลเป็งเต้า (ᨸᩮ᩠ᨦᨴᩮᩢ᩶ᩣ) ห่างจากเมืองเชียงตุงไปทางทิศเหนือประมาณ 22 กิโลเมตร
- พระธาตุจุ๊กเป็งฟ้า — ตั้งอยู่ในเขตบ้านหัวยาง (ᩉᩫ᩠ᩅᨿᩣ᩠ᨦ) ตำบลกาดเต่า (ᨠᩣ᩠ᨯᨴᩮᩤ᩵) ห่างจากเมืองเชียงตุงไปทางทิศเหนือประมาณ 21 กิโลเมตร ใกล้น้ำตกเชียงตุง (หัวยาง)
- พระธาตุจอมแก้ว (ᨻᩕᨵᩤ᩠ᨲᩩᨧᩬᨾᨠᩯᩢ᩠᩶ᩅ) — ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านเดื่อลอเหนือ (ᨯᩮᩬᩨ᩵ᩉᩳᩉ᩠ᨶᩮᩨᩋ) ตำบลกาดฟ้า (ᨠᩣ᩠ᨯᨼ᩶ᩣ) ห่างจากเมืองเชียงตุงไปทางทิศเหนือประมาณ 16 กิโลเมตร
- วัดพระธาตุเวียงไชย (ᩅᩢ᩠ᨯᨻᩕᨵᩤ᩠ᨲᩩᩅ᩠ᨿᨦᨩᩱ᩠ᨿ) — ตั้งอยู่ใกล้หมู่บ้านป่าขาม (ᨸ᩵ᩣᨡᩣ᩠ᨾ) ตำบลกาดฟ้า ห่างจากเมืองเชียงตุงไปทางทิศเหนือประมาณ 12 กิโลเมตร
- พระธาตุจอมดอย (ᨻᩕᨵᩤ᩠ᨲᩩᨧᩬᨾᨯᩭ) — ตั้งอยู่ในเขตตำบลเมืองลัง (ᨾᩮᩨ᩠ᨦᩃᩢ᩠ᨦ) ห่างจากเมืองเชียงตุงไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 15 กิโลเมตร เกี่ยวกับพระธาตุองค์นี้มีตำนานเล่าว่า "เมื่อครั้งพุทธกาลพระพุทธเจ้าได้เสด็จมาถึงท้องที่แถบนี้ ประทับยืนอยู่บนดอยซึ่งปัจจุบันประดิษฐานพระธาตุจอมดอย ประชาชนแถบนั้นเป็นพวกละว้า หัวหน้าหมู่บ้านชื่อก้านอ้ายอ่อน (หรืออุ่น) กับภรรยาพากันมากราบไหว้บูชาและขอพระเกศาธาตุของพระพุทธองค์ไว้องค์หนึ่งเพื่อเป็นที่เคารพบูชา เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จกลับไปแล้วหลังจากนั้นก้านอ้ายอ่อนก็ร่วมกับชาวบ้านซึ่งเป็นละว้าด้วยกันมุมานะสร้างพระสถูปขึ้นองค์หนึ่งเพื่อบรรจุพระเกศาธาตุไว้ แต่เจ้าผู้ครองเชียงตุงเห็นว่าเรื่องนี้ไม่น่าเชื่อถือเพราะเป็นเพียงคนป่าคนดอย ที่ไหนจึงจะได้รับประทานพระเกศาธาตุจากพระพุทธเจ้าได้ จึงห้ามมิให้สร้าง แต่ก้านอ้ายอ่อนก็ยังคงสร้างต่อไปจนสำเร็จ เจ้าครองเชียงตุงจึงนำเอาก้านอ้ายอ่อนและภรรยาไปประหารเสีย ก่อนตายก้านอ้ายอ่อนได้สาปแช่งไว้ว่า ต่อไปในอนาคตอย่าได้มีเจ้าผู้ครองเชียงตุงคนใดได้มาเคารพสักการะพระธาตุเลย หากเจ้าผู้ครองเชียงตุงองค์ใดยังขืนเสด็จขึ้นมาเคารพบูชาพระธาตุก็ขอให้เจ้าครองเชียงตุงองค์นั้นถึงแก่กาลวิบัติต่าง ๆ นานา" ทำให้ "ไม่เคยมีเจ้าฟ้าเชียงตุงองค์ใดเสด็จมาถึงที่นั่นสักพระองค์เดียว เพราะไม่กล้ากลัวคำสาปแช่งของก้านอ้ายอ่อน ได้แต่ส่งเครื่องบูชามาถวายแทนตัวเท่านั้น"[22]
- หมู่บ้านหนองเงิน (ᨷᩢᩤ᩠ᨶᩉ᩠ᨶᨦᩬᨦᩨ᩠ᨶ) — ตั้งอยู่ในเขตตำบลกาดฟ้า เป็นหมู่บ้านของชาวไทเหนือ มีลักษณะพิเศษที่สถาปัตยกรรมของบ้านเรือนซึ่งทำด้วยดิน ตั้งอยู่ในเขตตำบลกาดฟ้า ห่างจากเมืองเชียงตุงประมาณ 6 กิโลเมตร เคยมีโครงการจะพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ แต่เนื่องจากประสบกับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 และเหตุการณ์ความไม่มั่นคงทางการเมืองหลังการรัฐประหารใน ค.ศ. 2021 โครงการถึงถูกชะลอออกไป
Remove ads
วัฒนธรรมประเพณี
สรุป
มุมมอง
ประเพณี 12 เดือน เมืองเชียงตุง[23]
- เดือน 6 — ตรงกับเดือน 5 ตามปฏิทินจันทรคติของไทย ประมาณเดือนมีนาคม–เมษายน ตามปฏิทินสากล
- ประเพณีสังขานต์ปีใหม่ (ᨸᩣᩮᩅᨱᩦᩈᩘᨠᩕᩣᨶ᩠ᨲ᩼ᨸᩦᩉᩱ᩠ᨾ᩵) — คือประเพณีสงกรานต์ปีใหม่ เปลี่ยนจุลศักราชใหม่ ชาวไทขืนถือเป็นการขึ้นปีใหม่
- เดือน 7 — ตรงกับเดือน 6 ตามปฏิทินจันทรคติของไทย ประมาณเดือนเมษายน–พฤษภาคม ตามปฏิทินสากล
- ประเพณีขึ้นธาตุเจดีย์ (ᨸᩣᩮᩅᨱᩦᨡ᩠ᨶᩨᩢᨵᩤ᩠ᨲᩩ) — คือประเพณีการทำบุญสมโภชพระธาตุสำคัญต่าง ๆ ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จะจัดในวันขึ้น 15 ค่ำ (ชาวเชียงตุงไม่ได้เรียกว่าวันวิสาขบูชา)
- ประเพณีเป็กข์ตุ๊บวชพระ (ᨸᩣᩮᩅᨱᩦᨻ᩠ᨠᩥᨴᩩᨷ᩠ᩅᨩᨽ) — คือประเพณีการอุปสมบทพระภิกษุและการบรรพชาสามเณร
- เดือน 8 — ตรงกับเดือน 7 ตามปฏิทินจันทรคติของไทย ประมาณเดือนพฤษภาคม–มิถุนายน ตามปฏิทินสากล
- ประเพณีเลี้ยงเมืองเลี้ยงบ้าน (ᨸᩣᩮᩅᨱᩦᩃ᩠ᨿᩢᨦᨾᩮ᩠ᨦᩨᩃ᩠ᨿᩢᨦᨷ᩠ᨶᩤᩢ) — คือประเพณีการเซ่นไหว้บวงสรวงดวงวิญญาณของเจ้าฟ้าที่คุ้มครองเมือง และเทวดาที่คุ้มครองหมู่บ้าน จะจัดขึ้นในวันข้างแรมที่ตรงกับวันกาดลีหรือวันกาดเต่า
- เดือน 9 — ตรงกับเดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติของไทย ประมาณเดือนมิถุนายน–กรกฎาคม ตามปฏิทินสากล
- ประเพณีเข้าวัสสา (ᨸᩣᩮᩅᨱᩦᨡᩮᩢᩢᩣᩅᩔᩣ) — คือประเพณีวันเข้าพรรษา
- ประเพณีการสวดกลางใจศีล (ᨸᩣᩮᩅᨱᩦᩈᩪᨯᨠᩣ᩠ᨦᨧᩱᩈᩦ᩠ᩃ) — คือประเพณีการสวดสืบชาตาสะเดาะเคราะห์ในช่วงเข้าพรรษาเพื่อให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข จะจัดขึ้นในวันพระที่สองหลังจากวันเข้าพรรษา แต่บางวัด เช่น วัดราชฐานหลวงหัวข่วง จะจัดในวันข้างแรมในเดือน 10 ในปัจจุบันมีความนิยมที่จะย้ายการจัดงานประเพณีนี้ไปจัดกันในวันแรม 14 ค่ำเดือน 10 (ตามปฏิทินไทเขิน) ซึ่งเป็นวันพระกึ่งกลางช่วงเข้าพรรษา โดยสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของการจัดงานประเพณีนี้ก็คือ จะมีการจัดทำ “ตาแหลว” (เครื่องลางที่ทำจากการนำไม้ไผ่มาขัดกันเป็นรูปคล้ายดาวหกเหลี่ยม) ไปเข้าร่วมพิธี หลังจากนั้นก็จะนำกลับมาผูกไว้เหนือประตูบ้าน โดยเชื่อว่าเป็นเครื่องลางที่สามารถป้องกันไม่ให้สิ่งที่ไม่เป็นมงคลเข้ามาภายในบ้านได้
- ประเพณีการส่งเคราะห์เมือง (ᨸᩣᩮᩅᨱᩦᩈ᩠ᨦᩫᩰᨣᩕ᩠ᩋᩡᨾᩮ᩠ᨦᩨ) — คือประเพณีการจัดพิธีสืบชาตาเมือง ณ ใจกลางเมืองเชียงตุง
- เดือน 10 — ตรงกับเดือน 9 ตามปฏิทินจันทรคติของไทย ประมาณเดือกรกฎาคม–สิงหาคม ตามปฏิทินสากล
- ประเพณีสูตมนต์ไล่ผีปล่อยเผต (ᨸᩣᩮᩅᨱᩦᩈᩪᨲ᩠ᨲ᩼ᨾᩫᨶ᩠ᨲ᩼ᩃᩱ᩵ᨹᩦᨸᩖ᩵ᩭᩮᨹ᩠ᨲ) — คือประเพณีการจัดพิธีสวดมนต์ขับไล่พวกผีเปรตไม่ให้มารังควาน และทำความเดือดร้อนแก่ผู้คน จะจัดขึ้นในวันขึ้น 15 ค่ำ
- เดือน 11 — ตรงกับเดือน 10 ตามปฏิทินจันทรคติของไทย ประมาณเดือสิงหาคม–กันยายน ตามปฏิทินสากล
- ประเพณีตั้งธรรมมหาเวสสันตระ (ᨸᩣᩮᩅᨱᩦᨦᩢᩢᨵᨾ᩠ᨾ᩼ᨾᩉᩣᩅᩮᩔᨶ᩠ᨲᩁ) — คือประเพณีการจัดให้มีการฟังพระธรรมเทศนาเวสสันดรชาดก
- ประเพณีการทานธรรมค้ำนาม (ᨸᩣᩮᩅᨱᩦᨠᩣ᩠ᩁᨴᩤ᩠ᨶᨵᩢᨾ᩠ᨾ᩼ᨣᩴᩤ᩶ᨶᩣ᩠ᨾ) — คือประเพณีการทำทานประจำวันเกิดและปีเกิดของเจ้าภาพผู้จัดงาน เพื่อความเป็นสิริมงคล
- เดือน 12 — ตรงกับเดือน 11 ตามปฏิทินจันทรคติของไทย ประมาณเดือกันยายน–ตุลาคม ตามปฏิทินสากล
- ประเพณีออกวัสสา (ᨸᩣᩮᩅᨱᩦᩋ᩠ᩋᨠᩅᩔᩣ) — คือประเพณีวันออกพรรษา
- เดือนเกี๋ยง — ตรงกับเดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติของไทย ประมาณเดือตุลาคม–พฤศจิกายน ตามปฏิทินสากล
- ประเพณีบิณฑบาตวัดพระเจ้าหลวง (ᨷᩥᨱ᩠ᨯᩥᨷᩤ᩠ᨲᩅ᩠ᨯᩢᨻᩕᨧᩮᩢᩢᩣᩉᩖᩅ᩠ᨦ) — คือประเพณีการจัดพิธีทำบุญตักบาตรในงานสมโภชของวัดพระเจ้าหลวง โดยจะขึ้นในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ
- ประเพณีทานซองสลาก (ᨸᩣᩮᩅᨱᩦᨴᩤ᩠ᨶᨪ᩠ᩋᨦᨨᩖᩣ᩠ᨠ) — คือประเพณีการทำบุญสลากภัต ซึ่งเป็นการถวายทานโดยไม่ระบุพระสงฆ์ที่เป็นผู้รับ
- ประเพณีทานผ้ากฐิน (ᨸᩣᩮᩅᨱᩦᨴᩤ᩠ᨶᨹᩢᩣᨠᨮᩥᨶ) — คือประเพณีการทอดกฐิน
- เดือนยี่ — ตรงกับเดือนอ้าย ตามปฏิทินจันทรคติของไทย ประมาณเดือพฤศจิกายน–ธันวาคม ตามปฏิทินสากล
- ประเพณีเข้ากรรม (ᨸᩣᩮᩅᨱᩦᨡᩮᩢᩢᩣᨠᨾ᩠ᨾ᩼) — คือประเพณีการจัดให้พระสงฆ์เข้าปริวาสกรรม ประพฤติปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อชำระศีลให้บริสุทธิ์ยิ่งขึ้น
- เดือน 3 — ตรงกับเดือนยี่ ตามปฏิทินจันทรคติของไทย ประมาณเดือธันวาคม–มกราคม ตามปฏิทินสากล
- ประเพณีเลี้ยงหนองตุง (ᨸᩣᩮᩅᨱᩦᩃ᩠ᨿᩢᨦᩉ᩠ᨶᨦ᩠ᩋᨲᩩᨦ) — คือประเพณีการจัดพิธีเซ่นไหว้บวงสรวงวิญญาณบรรพบุรุษผู้ปกครองเมืองเชียงตุง จะจัดในวันกาดลีหรือวันกาดเต่า ที่ตรงกับวันแรม 3–7 ค่ำ
- เดือน 4 — ตรงกับเดือน 3 ตามปฏิทินจันทรคติของไทย ประมาณเดือมกราคม–กุมภาพันธ์ ตามปฏิทินสากล
- ประเพณีทานธรรมน้ำอ้อย (ᨸᩣᩮᩅᨱᩦᨴᩤ᩠ᨶᨵᨾ᩠ᨾ᩼ᨶᩣᩴᩢᩋ᩶ᩭ) — คือประเพณีการสวดมนต์และถวายน้ำอ้อยเป็นทานของคู่สามีภรรยาที่เพิ่งแต่งงานกัน เพื่อความเป็นสิริมงคลในการครองเรือน
- เดือน 5 — ตรงกับเดือน 4 ตามปฏิทินจันทรคติของไทย ประมาณเดือกุมภาพันธ์–มีนาคม ตามปฏิทินสากล
- ประเพณีขึ้นธาตุเจดีย์หนองผา (ᨸᩣᩮᩅᨱᩦᨡ᩠ᨶᩨᩢᨵᩤ᩠ᨲᩩᨧᩮᨯᩦ᩠ᨿᩉ᩠ᨶᨦ᩠ᩋᨺᩣ) — เป็นประเพณีการจัดงานสมโภชพระธาตุวัดหนองผา จะจัดในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ
- ประเพณีเลี้ยงกาด (ᨸᩣᩮᩅᨱᩦᩃ᩠ᨿᩢᨦᨠᩣ᩠ᨯ)— คือประเพณีการจัดพิธีเซ่นไหว้บวงสรวงวิญญาณเทวดาที่ดูแลรักษาตลาด ดูรายละเอียดเพิ่มเติมในหัวข้อเทศกาลวันกาดเก่า
- ประเพณีรำดอก (ᨸᩣᩮᩅᨱᩦᩁᩴᩣᨯ᩠ᩋᨠ) — คือประเพณีการบูชาพระรัตนตรัยด้วยดอกไม้ จะจัดในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ
เทศกาลประจำปีอื่น
- เทศกาลอาบน้ำร้อน — ช่วงต้นเดือนมกราคม ที่น้ำพุร้อนบ้านหล้าว
- เทศกาลดอกซากูระบานดอยเหมย — จัดขึ้นในช่วงต้นเดือนมกราคม ที่อุทยานแห่งชาติดอยเหมย จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อระหว่างวันที่ 6-10 มกราคม พ.ศ. 2565
- เทศกาลวัดกาดเก่า — จัดขึ้น ณ บริเวณที่ตั้งของกาดหลวงเดิม (กาดตุง) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณหน้าวัดเชียงจันทร์ ใกล้กู่เจ้าฟ้าเชียงตุง โดยหัวตลาดอยู่ที่วัดหัวกาด และท้ายตลาอดยู่ที่วัดราชฐานหลวงหัวข่วง แต่แรกนั้นจะจัดขึ้นประมาณ 2-3 วันก่อนการจัดงานประเพณีสังขานต์ปีใหม่ (งานสงกรานต์) แต่ในปัจจุบันเลือกจัดในวันแรมเลขคี่ เดือนห้า ตามปฏิทินไทขืน ก่อนเทศกาลสงกรานต์ และตรงกับวันกาดลีหรือวันกาดเต่า ซึ่งมักจะตรงกับช่วงกลางถึงปลายของเดือนมีนาคมในแต่ละปี โดยในวันนี้จะมีการจัดงานประเพณีเลี้ยงกาด มีการจัดให้มีตลาดนัดเช่นเดียวกับวันกาดหลวงในสมัยโบราณ และมีการจัดพิธีสักการะหอเจ้าหลวงกาดพร้อมกันไปด้วย ซึ่งทำให้วันกาดเก่านี้มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “วันกาดเจ้าฟ้า”
หมายเหตุ — ในปี พ.ศ. 2563 แต่เดิมได้กำหนดให้มีการจัดงานวันกาดเก่าขึ้นในวันที่ 16 มีนาคม แต่เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้น ทำให้มีประกาศยกเลิกการจัดงานในวันที่ 14 มีนาคม อย่างไรก็ตามเมื่อถึงวันที่ 16 มีนาคม ก็ยังมีผู้ค้ามาตั้งร้านขายของและมีประชาชนเข้ามาร่วมงาน ร่วมถึงมีการเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะกู่เจ้าหลวงได้ตามปกติ แต่จำนวนผู้ค้าและประชาชนที่มาร่วมงานมีน้อยกว่าในปีที่ผ่านๆ มา
- เทศกาลตั้งธรรม — จัดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม
- เทศกาลกินเจ — จัดขึ้นในช่วงเดือนตุลาคม
- เทศกาลปีใหม่ไท — จัดขึ้นในช่วงปลายเดือนธันวาคม
วันกาด[24][25][26]
วันกาดคือวันที่กำหนดให้มีการจัดตลาดนัดขึ้นภายในเวียงเมืองเชียงตุง ซึ่งเชื่อว่าเป็นธรรมเนียมที่รับมาจากจีน โดยตั้งแต่ในสมัยโบราณได้กำหนดให้มีการจัดตลาดนัดใหญ่ 5 วันต่อครั้ง ณ บริเวณกาดหลวงเดิม หรือกาดเก่า เรียกวันที่จัดตลาดนัดนี้ขึ้นว่า "วันกาดหลวง" ซึ่งมาจากคำว่า "กาด" ที่แปลว่าตลาด กับคำว่า "หลวง" ที่แปลว่าใหญ่ ส่วนอีกสี่วันที่เหลือ แม้จะไม่มีการจัดตลาดนัดใหญ่เหมือนในวันกาดหลวง แต่ก็จะยังมีผู้นำสินค้ามาขายอยู่บ้าง โดยจะมีการนับรอบวันในการจัดให้มีตลาดนัดหมุมเวียนไปดังนี้
- วันกาดหลวง (ᩅᩢ᩠ᨶᨠᩣ᩠ᨯᩉ᩠ᩃᩅ᩠ᨦ) — เป็นวันที่กำหนดให้จัดตลาดนัดใหญ่ บริเวณกาดตุ๋ง ซึ่งตั้งอยู่บริเวณหน้าวัดเชียงจันทร์ ใกล้สุสานเจ้าฟ้าเชียงตุง กินพื้นที่ตั้งแต่วัดหัวกาดยาวไปตามถนนจนถึงวัดหัวข่วง วันนี้จะมีผู้ค้านำสินค้ามาขายมากที่สุด และเป็นวันที่คึกคักที่สุด
- วันวายกาดหลวง (ᩅᩢ᩠ᨶᩅᩤ᩠ᨿᨠᩣ᩠ᨯᩉ᩠ᩃᩅ᩠ᨦ) — เป็นวันที่ไม่มีการจัดตลาดนัด แต่ยังมีผู้ค้าจำนวนเล็กน้อยที่นำสินค้ามาขาย
- วันกาดลี (ᩅᩢ᩠ᨶᨠᩣ᩠ᨯᨯᩦ) — เป็นวันที่มีการจัดตลานัด แต่จะไม่คึกคักนัก
- วันวายกาดลี (ᩅᩢ᩠ᨶᩅᩤ᩠ᨿᨠᩣ᩠ᨯᨯᩦ) หรือ วันกาดม่าน (ᩅᩢ᩠ᨶᨠᩣ᩠ᨯᨾ᩵ᩣ᩠ᨶ) — เป็นวันที่ไม่มีการจัดตลาดนัด แต่ยังมีผู้ค้าจำนวนเล็กน้อยที่นำสินค้ามาขาย เช่นเดียวกับวันวายกาดหลวง
- วันกาดข่วง (ᩅᩢ᩠ᨶᨠᩣ᩠ᨯᨡ᩠ᩅ᩵ᨦ) — เป็นวันที่ผู้ค้าที่เตรียมตัวจะมาขายสินค้าในวันกาดหลวง ซึ่งเป็นวันถัดไป มาจับจองพื้นที่เพื่อตั้งร้านขายสินค้า โดยจะไปตั้งร้านกระจุกตัวกันอยู่ที่บริเวณวัดราชฐานหลวงหัวข่วง
ต่อมาในรัชสมัยของเจ้าฟ้ารัตนะก้อนแก้วอินแถลง พระองค์ทรงพัฒนาปรับปรุงเมืองเชียงตุงในหลายด้าน โดยใน พ.ศ. 2478 ทรงโปรดให้สร้างกาดหลวงแห่งใหม่ ซึ่งก็คือกาดหลวงในปัจจุบัน แล้วยกเลิกการจัดตลาดนัดใหญ่ในบริเวณเดิม กาดหลวงใหม่มีลักษณะเป็นตลาดถาวรที่เปิดจำหน่ายสินค้าทุกวัน ทำให้การจัดตลาดนัดเป็นรอบทุกห้าวันภายในเวียงเมืองเชียงตุงมีความสำคัญลดลง จนเหลือวันที่มีการจัดตลาดนัดตามธรรมเนียมนี้อยู่เพียงวันเดียวคือในวันกาดหลวง การนับรอบวันกาดแบบเดิมจึงไม่ถูกนำมาใช้อีก แต่ก็ได้มีการสืบทอดโดยได้นำเอาการจัดตลาดนัดหมุนเวียนในชุมชนทางทิศเหนือของเวียงเมืองเชียงตุง ซึ่งก็เป็นสิ่งที่มีควบคู่อยู่กับการจัดตลาดนัดภายในเวียงเมืองเชียงตุงมาตั้งแต่โบราณ เข้ามาทดแทน ทำให้เกิดการนับรอบวันกาดในรูปแบบใหม่ อันประกอบด้วย

- วันกาดตุง (ᩅᩢ᩠ᨶᨠᩣ᩠ᨯᨲᩩᨦ) — มีการจัดตลาดนัดที่กาดหลวง (ᨠᩣ᩠ᨯᩉᩖᩅ᩠ᨦ) ในเมืองเชียงตุง
- วันกาดบุ้ง (ᩅᩢ᩠ᨶᨠᩣ᩠ᨯᨷᩩᩢᨦ) — มีการจัดตลาดนัดที่บ้านกาดบุ้ง (ᨷ᩶ᩤ᩠ᨶᨠᩣ᩠ᨯᨷᩩᩢᨦ) ตำบลกาดถ้าย (ᩋᩮᩥ᩠᩵ᨦᨠᩣ᩠ᨯᨳ᩶ᩣ᩠ᨿ) เป็นตลาดนัดที่เกิดจากการที่ผู้ค้าได้เข้าไปซื้อสินค้าจากเวียงเมืองเชียงตุงในวันกาดหลวงแล้วนำมาขายที่นี่ในวันรุ่งขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของชุมชนห่างไกลในแถบนี้ที่ไม่สะดวกต่อการเดินทางเข้าไปซื้อสินค้าในเวียงเมืองเชียงตุง
- วันกาดเต่า (ᩅᩢ᩠ᨶᨠᩣ᩠ᨯᨴᩮᩢ᩵ᩤ) — มีการจัดตลาดนัดที่บ้านกาดเต่า (ᨷ᩶ᩤ᩠ᨶᨠᩣ᩠ᨯᨴᩮᩢ᩵ᩤ) ตำบลกาดเต่า (ᩋᩮᩥ᩠᩵ᨦᨠᩣ᩠ᨯᨴᩮᩢ᩵ᩤ)
- วันกาดถ้าย (ᩅᩢ᩠ᨶᨠᩣ᩠ᨯᨳ᩶ᩣ᩠ᨿ) — มีการจัดตลาดนัดที่บ้านกาดถ้าย (ᨷ᩶ᩤ᩠ᨶᨠᩣ᩠ᨯᨳ᩶ᩣ᩠ᨿ) ตำบลกาดถ้าย (ᩋᩮᩥ᩠᩵ᨦᨠᩣ᩠ᨯᨳ᩶ᩣ᩠ᨿ) เป็นตลาดนัดที่เกิดจากการที่ผู้ค้าจะมาตั้งร้านรับซื้อสินค้าของป่าที่ถูกนำมาขายจากพื้นที่ใกล้เคียงก่อนหน้าวันกาดหลวง 2 วัน เพื่อจะนำสินค้าเหล่านั้นไปเตรียมขายในเวียงเมืองเชียงตุงตั้งแต่ในวันกาดลีซึ่งเป็นวันรุ่งขึ้น และเนื่องจากจุดประสงค์ที่แตกต่างจากการจัดให้มีกาดบุ้ง จึงทำให้กาดบุ้งและกาดถ้ายถูกจัดแยกออกจากกันเป็นคนละวัน ทั้งที่ตลาดนัดทั้งสองแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างกันเพียงประมาณ 2 กิโลเมตรเท่านั้น
- วันกาดฟ้า (ᩅᩢ᩠ᨶᨠᩣ᩠ᨯᨼ᩶ᩣ) — มีการจัดตลาดนัดที่บ้านกาดฟ้า (ᨷ᩶ᩤ᩠ᨶᨠᩣ᩠ᨯᨼ᩶ᩣ) ตำบลกาดฟ้า (ᩋᩮᩥ᩠᩵ᨦᨠᩣ᩠ᨯᨼ᩶ᩣ) ซึ่งเป็นจุดพักสำคัญของผู้ค้าที่เดินทางมาจากเมืองลาก่อนจะเข้าไปไปยังเวียงเมืองเชียงตุง ในสมัยโบราณ ผู้ค้าที่จะเข้าไปค้าขายในวันกาดหลวงซึ่งเป็นวันรุ่งขึ้น มักเลือกตั้งร้านขายของกันที่นี่ด้วยในขณะแวะพัก จึงทำให้เกิดเป็นตลาดนัดขึ้นในช่วงวันดังกล่าว
Remove ads
อ้างอิง
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads