คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
จักรพรรดิเต้ากวัง
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
จักรพรรดิเต้ากวัง (จีน: 道光; พินอิน: Dàoguāng) พงศาวดารไทยเรียก เตากวาง[1] เป็นจักรพรรดิองค์ที่เจ็ดแห่งราชวงศ์ชิง และจักรพรรดิชิงองค์ที่ 6 ที่ปกครองประเทศจีนโดยชอบธรรม ครองสิริราชสมบัติจากปี ค.ศ. 1820 ถึงปี ค.ศ. 1850 รัชสมัยของพระองค์เกิด ภัยภายนอก กบฏภายใน นั่นคือ สงครามฝิ่นครั้งที่หนึ่ง และจุดเริ่มต้นของ กบฏไท่ผิง ที่เกือบจะล้มราชวงศ์ นักประวัติศาสตร์ โจนาธาน สเปนซ์ อธิบายเกี่ยวกับจักรพรรดิเต้ากวังว่ามีลักษณะ เป็นคนดีแต่ไร้ประสิทธิภาพ[2]
Remove ads
พระราชประวัติ
จักรพรรดิเต้ากวังประสูติใน พระราชวังต้องห้าม ในปี ค.ศ. 1782 เดิมมีพระนามว่า เหมียนหนิง (綿寧) (แปลว่า อาทิตย์อัสดง) แต่ภายหลังเปลี่ยนเป็น หมิ่นหนิง (旻宁) (แปลว่า ท้องฟ้า หรือ จักรวาล) เมื่อพระองค์กลายเป็นจักรพรรดิ อักษรตัวแรกของพระนามของพระองค์ถูกเปลี่ยนจาก เหมี่ยน เป็น หมิ่น เพื่อหลีกเลี่ยงอักษรเหมี่ยนที่ค่อนข้างธรรมดา ความแปลกใหม่นี้ได้รับการแนะนำโดย พระอัยกาของพระองค์ จักรพรรดิเฉียนหลง ที่เชื่อว่าไม่ควรมีภาษาจีนที่ใช้กันทั่วไป เนื่องมาจากธรรมเนียมการตั้งพระนามต้องห้ามในราชวงศ์มาช้านาน
จักรพรรดิเต้ากวัง เป็นพระราชโอรสองค์ที่ 2 ของ องค์ชายหย่งเยี่ยน พระราชโอรสองค์ที่ 15 และรัชทายาทของ จักรพรรดิเฉียนหลง แม้ว่าพระองค์จะเป็นพระโอรสองค์ที่ 2 ของ องค์ชายหย่งเยี่ยน แต่พระองค์เป็นลำดับแรกในการสืบราชบัลลังก์หลังจาก องค์ชายหย่งเยี่ยน ขึ้นเป็นรัชทายาทเพื่อสืบทอดราชบัลลังก์ของพระอัยกา เพราะพระมารดาของพระองค์ พระชายาฉี่ถ่าล่า เป็นพระชายาเอกขององค์ชายหย่งเยี่ยน ขณะที่พระเชษฐาองค์ใหญ่ของพระองค์ที่สิ้นพระชนม์ไปก่อนนั้นเป็นโอรสที่ประสูติแต่นางสนมของ องค์ชายหย่งเยี่ยน
Remove ads
วัยเด็ก
สรุป
มุมมอง
จักรพรรดิเต้ากวงพระราชสมภพที่พระราชวังต้องห้ามในกรุงปักกิ่งเมื่อปี 1782 และได้รับพระราชทานพระนามว่า เหมียนหนิง (Mianning) ภายหลังเมื่อขึ้นครองราชย์ พระนามจึงถูกเปลี่ยนเป็น หมิ่นหนิง (Minning) โดยเปลี่ยนอักษรตัวแรกจากคำว่า "เหมียน" เป็น "หมิ่น" เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้อักษรที่ใช้กันทั่วไป ซึ่งเป็นธรรมเนียมที่ริเริ่มโดยสมเด็จพระอัยกา (ปู่) ของพระองค์ คือ จักรพรรดิเฉียนหลง ที่ทรงเห็นว่าไม่เหมาะสมที่จะใช้อักษรธรรมดาในพระนามส่วนพระองค์ของจักรพรรดิ เนื่องด้วยธรรมเนียมการต้องหลีกเลี่ยงชื่อของผู้ที่สูงกว่าที่สืบทอดกันมายาวนาน
เหมียนหนิงเป็นพระโอรสองค์ที่สองของ องค์ชายหย่งเหยี่ยน ซึ่งเป็นพระโอรสองค์ที่ 15 และรัชทายาทของจักรพรรดิเฉียนหลง แม้จะเป็นโอรสองค์ที่สองของหย่งเหยี่ยน แต่พระองค์กลับมีสิทธิในบัลลังก์เหนือกว่าพระเชษฐา (พี่ชาย) เพราะตามระบบการสืบทอดแบบ dīshǔ (嫡庶) นั้น พระชายาหิตารา พระมารดาของเหมียนหนิงเป็นพระชายาเอกของหย่งเหยี่ยน ในขณะที่พระเชษฐาเกิดจากพระสนม


เหมียนหนิงเป็นที่โปรดปรานของจักรพรรดิเฉียนหลงผู้เป็นพระอัยกา พระองค์มักจะเสด็จตามเสด็จจักรพรรดิเฉียนหลงไปล่าสัตว์บ่อยครั้ง ในการล่าสัตว์ครั้งหนึ่งเมื่อพระชนมายุ 9 พรรษา เหมียนหนิงทรงล่ากวางได้สำเร็จ ซึ่งทำให้จักรพรรดิเฉียนหลงทรงพอพระทัยอย่างยิ่ง ห้าปีหลังจากเหตุการณ์นั้นในปี 1796 จักรพรรดิเฉียนหลงก็ทรงสละราชสมบัติเมื่อเหมียนหนิงพระชนมายุ 14 พรรษา และพระบิดาของเหมียนหนิงคือองค์ชายหย่งเหยี่ยนก็ขึ้นครองราชย์เป็น จักรพรรดิเจียชิ่ง หลังจากนั้นพระองค์ก็ทรงแต่งตั้งพระชายาหิตารา (พระมารดาของเหมียนหนิง) เป็นสมเด็จพระจักรพรรดินี จักรพรรดิเฉียนหลงทรงมีพระชนม์ชีพอีกสามปีหลังจากทรงเกษียณ ก่อนจะเสด็จสวรรคตในปี 1799 ขณะพระชนมายุ 87 พรรษา ซึ่งเหมียนหนิงพระชนมายุ 17 พรรษา
ในปี 1813 ขณะยังทรงเป็นองค์ชาย เหมียนหนิงยังมีบทบาทสำคัญในการขับไล่และสังหารผู้บุกรุกจาก ลัทธิแปดทิศ (Eight Trigrams) ที่บุกเข้าโจมตีพระราชวังต้องห้ามอีกด้วย
Remove ads
รัชสมัย
สรุป
มุมมอง
กบฏโคจาในซินเจียง
ในปี 1820 ขณะพระชนมายุ 38 พรรษา เหมียนหนิง ได้ขึ้นครองราชย์สืบต่อจากจักรพรรดิเจียชิ่งผู้เป็นพระบิดาที่สวรรคตกะทันหัน พระองค์กลายเป็นจักรพรรดิชิงองค์แรกที่เป็นโอรสที่ชอบด้วยกฎหมายองค์โตที่สุดของพระบิดา หลังจากขึ้นครองราชย์ พระนามของพระองค์คือ จักรพรรดิเต้ากวง ซึ่งมีความหมายว่า "หนทางที่เจิดจรัส"
ในช่วงหกปีแรกของรัชสมัย จาฮังกีร์ โคจา ทายาทผู้ถูกเนรเทศของตระกูลโคจาได้นำกองกำลังเข้าโจมตีซินเจียงจากโคกัน (Kokand) กบฏนี้ทำให้เมืองสำคัญของชิงหลายแห่ง เช่น คัชการ์ ยาร์คันด์ โคตัน และหยางอิซาร์ ตกเป็นของกบฏทั้งหมดภายในสิ้นปี 1826 อย่างไรก็ตาม หลังถูกเพื่อนหักหลังในเดือนมีนาคม 1827 จาฮังกีร์ โคจาก็ถูกส่งตัวไปปักกิ่งและถูกประหารชีวิตด้วยการ ประหารชีวิตแบบหลิงฉี (การเฉือนเนื้อทีละส่วน) ในปี 1828 ทำให้ราชสำนักชิงสามารถยึดดินแดนที่สูญเสียไปกลับคืนมาได้
สงครามฝิ่นครั้งที่หนึ่ง
ในรัชสมัยของจักรพรรดิเต้ากวง จีนประสบปัญหาอย่างหนักจาก ฝิ่น ซึ่งถูกนำเข้ามาในจีนโดยพ่อค้าชาวอังกฤษ การนำเข้าฝิ่นเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจากยุคจักรพรรดิหย่งเจิ้งที่มีเพียงประมาณ 200 หีบต่อปี จนถึงสมัยเต้ากวงที่พุ่งสูงกว่า 30,000 หีบต่อปี
จักรพรรดิเต้ากวงทรงออกพระราชกฤษฎีกาหลายฉบับเพื่อสั่งห้ามฝิ่นอย่างเด็ดขาด และทรงแต่งตั้ง หลิน เจ๋อสู เป็นข้าหลวงใหญ่ประจำกวางตุ้งเพื่อปราบปราม แต่ความพยายามของหลิน เจ๋อสูนำไปสู่ สงครามฝิ่นครั้งที่หนึ่ง โดยตรง เมื่อจีนแพ้สงคราม หลิน เจ๋อสูถูกลดตำแหน่งและเนรเทศไปยังเมืองยี่หลี ในระหว่างสงคราม จักรพรรดิเต้ากวงยังทรงสั่งประหารชีวิตเชลยศึกชาวอังกฤษและอินเดีย 187 คนที่ถูกคุมขังในไต้หวันเพื่อแก้แค้นที่จีนพ่ายแพ้ในยุทธการหนิงโป
ความพ่ายแพ้ในสงครามครั้งนี้เผยให้เห็นถึงความด้อยกว่าทางเทคโนโลยีและการทหารของราชวงศ์ชิงเมื่อเทียบกับชาติยุโรป ทำให้จีนต้องจำยอม ยกเกาะฮ่องกงให้แก่อังกฤษ ตามสนธิสัญญานานกิงในปี 1842 และต้องจ่ายค่าปฏิกรรมสงครามจำนวนมหาศาล ซึ่งทำให้ท้องพระคลังประสบปัญหาอย่างหนัก
การต่อต้านศาสนาคริสต์
ในปี 1811 ได้มีการเพิ่มมาตราลงในประมวลกฎหมายต้าชิงเพื่อลงโทษชาวยุโรปที่เผยแพร่ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกด้วยโทษประหารชีวิต แม้ว่ากฎหมายจะระบุชื่อนิกายคาทอลิกไว้โดยเฉพาะ แต่หลังจากมิชชันนารีชาวโปรเตสแตนต์ได้แจกจ่ายหนังสือคริสเตียนให้กับคนจีนในช่วงปี 1835-1836 จักรพรรดิเต้ากวงก็ทรงสั่งให้ตรวจสอบว่า "ชนพื้นเมืองทรยศ" ในกวางโจวที่ให้ความช่วยเหลือในการแจกจ่ายหนังสือเหล่านี้คือใคร
สวรรคตและมรดก
จักรพรรดิเต้ากวงเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 1850 ที่พระราชวังฤดูร้อนเก่า สิบปีหลังจากนั้น พระราชวังแห่งนี้ถูกเผาทำลายโดยกองทัพอังกฤษ-ฝรั่งเศสในสงครามฝิ่นครั้งที่สอง พระโอรสองค์โตที่ยังมีพระชนม์ชีพ อี้จู่ ได้ขึ้นสืบราชสมบัติเป็น จักรพรรดิเสียนเฟิง
โดยรวมแล้ว จักรพรรดิเต้ากวงไม่เข้าใจเจตนาและความมุ่งมั่นของชาติตะวันตก รวมถึงเศรษฐศาสตร์พื้นฐานของสงครามยาเสพติด พระองค์ทรงมองข้ามการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในโลก และไม่ได้ตระหนักถึงความก้าวหน้าจากการ ปฏิวัติอุตสาหกรรม ของอังกฤษและยุโรป พระองค์ทรงเป็นจักรพรรดิชิงองค์สุดท้ายที่ได้เสด็จสวรรคตในพระราชวังฤดูร้อนเก่า ก่อนที่จะถูกทำลายลงในอีกหนึ่งทศวรรษให้หลัง
รัชสมัย 30 ปีของพระองค์เต็มไปด้วยความตึงเครียดทางเศรษฐกิจ ความไม่มั่นคงภายใน และการแทรกแซงจากต่างชาติ ซึ่งท้ายที่สุดก็นำไปสู่ การล่มสลายของราชวงศ์ชิง ในปี 1911 ในที่สุด พระศพของพระองค์ถูกฝังไว้ที่สุสานมู่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสุสานราชวงศ์ชิงตะวันตก
Remove ads
พระบรมวงศานุวงศ์
สรุป
มุมมอง
- พระราชบิดา: จักรพรรดิเจี่ยชิ่ง
- พระราชมารดา: จักรพรรดินีเซี่ยวซูรุ่ย
พระภรรยาเจ้าและพระภรรยา
พระภรรยาเจ้า
ฮองเฮา (皇后)
หวงกุ้ยเฟย (皇貴妃)
กุ้ยเฟย (貴妃)
เฟย (妃)
ผิน (嬪)
พระภรรยา
กุ้ยเหริน (貴人)
ฉางไจ้ (常在)
ตาอิ้ง (答应)
นางใน
กวนหนวี่จื่อ(官女子)
- หลิวกวนหนวี่จื่อ(劉官女子) จาก สกุลหลิว (劉)
พระราชโอรส
พระราชธิดา
Remove ads
ในวัฒนธรรมร่วมสมัย
- หลอจุ้นซุน (Lo Chun-shun) รับบทในเรื่อง 13 ฮ่องเต้ตำนานจักรพรรดิราชวงศ์ชิง(The Rise and Fall of Qing Dynasty ; 1988)
- ตู้จื้อกั๋ว (Du Zhiguo) รับบทในเรื่อง Sigh of His Highness (2006)
- เฉินจิ่นหง (Sunny Chan) รับบทในเรื่อง ศึกจอมนางสะท้านแผ่นดิน (Curse of the Royal Harem ; 2011)
- หยาเทียนฮั่ว (Nono Yeung) รับบทในเรื่อง ศึกโค่นกังฉินมหาอำนาจ (Succession War ; 2018)
ราชตระกูล
Remove ads
อ้างอิง
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads