คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช
อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช (เกิด 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2489) เป็นนักการเมืองชาวไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย [2] อดีตอธิบดีกรมโยธาธิการ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น อดีตรองประธานคณะกรรมการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ และอดีตกรรมการในคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ [3]
Remove ads
ประวัติ
เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช เกิดเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2489 ที่ตำบลบางกระทุ่ม อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก เป็นบุตรของนายจำรัส กับนางพริ้ง พงษ์พานิช มีพี่น้อง 9 คน หนึ่งในนั้นคือ มนตรี พงษ์พานิช[4] อดีตรองนายกรัฐมนตรี สมรสกับ นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช (อดีตวุฒิสมาชิกจังหวัดขอนแก่น)[5] มีบุตร 3 คน หญิง 2 คน ชาย 1 คน ซึ่งบุตรชายคือ ร้อยโทปรีชาพล พงษ์พานิช เป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น พรรคเพื่อไทย และอดีตหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ
Remove ads
การศึกษา
เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช เข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษา ที่โรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม สำเร็จการศึกษารัฐศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมดี) และนิติศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระดับปริญญาโท รัฐศาสตรมหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัย 3 แห่ง ได้แก่
- รัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยโคสต์ไลน์ สหรัฐอเมริกา
- รัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (สาขาการพัฒนาชนบท) มหาวิทยาลัยหลุยเซียนา สหรัฐอเมริกา
- ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ในระหว่างรับราชการ ได้เข้ารับการศึกษา อบรมหลักสูตรต่างๆ ได้แก่
- หลักสูตรโรงเรียนนายอำเภอ รุ่นที่ 18
- หลักสูตรนักปกครองระดับสูง รุ่นที่ 20
- หลักสูตรฝ่ายอำนวยการอาสารักษาดินแดน ชุดที่ 5
- หลักสูตรผู้บริหารระดับ 9 ของกระทรวงมหาดไทย
- หลักสูตรผู้บริหารระดับ 10 ของกระทรวงมหาดไทย
- วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 39
Remove ads
การรับราชการ
เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช เริ่มรับราชการในตำแหน่งปลัดอำเภอตรี อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก และเป็นปลัดอำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ต่อมาได้ดำรงตำแหน่ง นายอำเภอสิเกา จังหวัดตรัง (ไปแก้ไขปัญหากรณีนายอำเภอคนก่อนเสียชีวิตจากการวางระเบิด ของ ผกค.) นายอำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ นายอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายอำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายอำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี นายอำเภอเมืองราชบุรี และผู้อำนวยการกองการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
ต่อมาได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดปทุมธานี และตำแหน่งอธิการวิทยาลัยการปกครอง กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย จากนั้นได้รับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น อธิบดีกรมโยธาธิการ และตำแหน่งสุดท้าย คือ ปลัดกระทรวงมหาดไทย
งานการเมือง
เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช เข้าร่วมงานการเมืองกับพรรคไทยรักไทย และได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร (พ.ศ. 2548)[6] ต่อมาในปี พ.ศ. 2550 ได้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยซึ่งถูกยุบในคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ. 2549[7] และ เสริมศักดิ์ ได้เข้าร่วมชุมนุมกับแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติเมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2553[8] ต่อมาในปี พ.ศ. 2555 ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย[9] ต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร[10] (ครม.ยิ่งลักษณ์ 3) และในปี พ.ศ. 2566 ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมในคณะรัฐมนตรีของเศรษฐา ทวีสิน โดยเป็นรัฐมนตรีที่มีอายุมากที่สุดในคณะดังกล่าว[11] ต่อมาในปี พ.ศ. 2567 ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
Remove ads
ยศกองอาสารักษาดินแดน
- พ.ศ. 2524 รับพระราชทานยศกองอาสารักษาดินแดนเป็น นายกองตรี เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช[12]
- พ.ศ. 2536 รับพระราชทานยศกองอาสารักษาดินแดนเป็น นายกองเอก เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช[2]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2544 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)[13]
- พ.ศ. 2540 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)[14]
- พ.ศ. 2555 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นสิริยิ่งรามกีรติ ลูกเสือสดุดีชั้นพิเศษ[15]
- พ.ศ. 2549 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นที่ 5 เบญจมดิเรกคุณาภรณ์ (บ.ภ.)[16]
- พ.ศ. 2522 –
เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ 2 ประเภทที่ 2 (ส.ช.)[17]
- พ.ศ. 2520 –
เหรียญราชการชายแดน (ช.ด.)[18]
- พ.ศ. 2540 –
เหรียญจักรพรรดิมาลา (ร.จ.พ.)[19]
- พ.ศ. 2539 –
เหรียญกาชาดสมนาคุณ ชั้นที่ 1 (เหรียญทอง)
- พ.ศ. 2493 –
เหรียญพระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 9 (ร.ร.ศ.9)
Remove ads
หมายเหตุ
อ้างอิง
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads