คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
เอริก การ์ซิอา
นักฟุตบอลชาวสเปน จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
เอริก การ์ซิอา มาร์เตรต (สเปน: Eric García Martret; เกิด 9 มกราคม ค.ศ. 2001) เป็นนักฟุตบอลชาวสเปน ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กให้กับบาร์เซโลนา สโมสรในลาลิกา และทีมชาติสเปน
การ์ซิอาเริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลกับศูนย์ฝึกฟุตบอลลามาซิอา ก่อนที่จะย้ายสู่ทีมเยาวชนของแมนเชสเตอร์ซิตีเมื่ออายุ 17 ปี ก่อนที่จะลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ครั้งแรกในวันที่ 21 กันยายน ค.ศ. 2019 เขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ชนะเลิศเอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ 2019 และคาราบาวคัพ 2020 ในฤดูกาลสุดท้ายของเขากับแมนฯ ซิตี เขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และรองชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในเดือนมิถุนายน ค ศ. 2022 เขาเซ็นสัญญาโดยไม่มีค่าตัวเป็นเวลาห้าปีกับบาร์เซโลนา โดยมีค่าฉีกสัญญา 400 ล้านยูโร ก่อนถูกยืมตัวไปฌิโรนา ในปี ค.ศ. 2023
เขายังลงเล่นให้กับทีมชาติสเปนมาตั้งแต่ระดับเยาวชน เขาช่วยให้ทีมรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี และรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ชนะเลิศการแข่งขันชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป เขามีชื่อติดทีมชาติชุดใหญ่เพื่อแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ในปี ค.ศ. 2021 ในเดือนถัดมาเขาช่วยให้ทีมรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ได้รับเหรียญเงินโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 ที่โตเกียว ในเดือนตุลาคม ปีเดียวกัน เขาพาทีมชุดใหญ่ได้รองชนะเลิศยูฟ่าเนชันส์ลีก และเป็นส่วนหนึ่งของสเปนในฟุตบอลโลก 2022
Remove ads
สโมสรอาชีพ
สรุป
มุมมอง
แมนเชสเตอร์ซิตี
การ์ซิอา เกิดในบาร์เซโลนา แคว้นกาตาลุญญา ประเทศสเปน เขาเข้าร่วมศูนย์ฝึกฟุตบอลลามาซิอา ในปี ค.ศ. 2008 ก่อนที่จะย้ายไปทีมเยาวชนของแมนเชสเตอร์ซิตี ในปี ค.ศ. 2017[5] เขายังได้รับเลือกให้เป็นกัปตันทีมของชุดอายุไม่เกิน 18 ปี และ 19 ปีในรายการยูฟ่ายูธลีก ในฤดูกาลแรกของเขากับแมนฯ ซิตี[6]
เขาได้เข้าร่วมกับทีมชุดใหญ่ครั้งแรกในช่วงการไปปรีซีซันที่สหรัฐอเมริกา ในช่วงกลางปี ค.ศ. 2018[5] ก่อนที่ในวันที่ 18 ธันวาคม ค.ศ. 2018 การ์ซิอา ได้ลงเล่นนัดแรกกับแมนเชสเตอร์ซิตีชุดใหญ่ในนัดที่พวกเขาพบกับเลสเตอร์ซิตี ในรายการคาราบาวคัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ ที่คิงเพาเวอร์สเตเดียม[7] โดยเขาลงเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก คู่กับนิโกลัส โอตาเมนดี ในระบบ 4–3–3 โดยผลจบลงด้วยการเสมอกันด้วยคะแนน 1–1 ก่อนที่แมนฯ ซิตีจะเอาชนะไปในช่วงการดวลลูกโทษ[8] ก่อนที่ในวันที่ 4 สิงหาคม ค.ศ. 2019 การ์ซิอา เขามีชื่อเป็นตัวสำรองในเกมเอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ 2019 พบกับลิเวอร์พูล โดยแมนฯ ซิตี คว้าแชมป์ได้สำเร็จ หลังจากเอาชนะในช่วงการดวลลูกโทษ 5–4 หลังเสมอกันใน 90 นาที 1–1 นับเป็นการชนะเลิศครั้งแรกในระดับอาชีพของการ์ซิอา ในวันที่ 21 กันยายน ค.ศ. 2019 เขาได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกครั้งแรก ในนัดที่พวกเขาเอาชนะวอตฟอร์ด จากการถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทน โอตาเมนดี ในนาทีที่ 63 โดยทีมของเขาเอาชนะไปด้วยคะแนน 8–0[9]
ในวันที่ 30 ธันวาคม ค.ศ. 2019. การ์ซิอา ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกครั้งแรก ในนัดเหย้ากับเชฟฟิลด์ยูไนเต็ด โดยทีมของเขาเอาชนะไปด้วยคะแนน 2–0[10] รวมถึง ในอีกสามวันถัดมากับเอฟเวอร์ตัน โดยแมนฯ ซิตี ชนะไปด้วยคะแนน 2–1[11]
ในวันที่ 17 กรกฎาคม ค.ศ. 2020 การ์ซฺอา ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมลีกกับอาร์เซนอลโดยแมนฯ ซิตี เอาชนะไปด้วยคะแนน 3–0 ในช่วงท้ายเกม การ์ซิอา ได้เข้าปะทะกับ แอแดร์ซง โมไรส์ ในตอนแรกทำให้เขาหมดสติ[12] การ์เซีย ได้รับการรักษาในสนามเป็นเวลานานก่อนที่จะถูกนำออกจากสนามและให้ออกซิเจน และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในทันที ถึงแม้จะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงแต่เขาก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ในวันรุ่งขึ้น[13] ผู้จัดการทีม แป็ป กวาร์ดิออลา กล่าวในงานแถลงข่าวว่าการ์ซิอาได้รับการถูกกระทบกระแทก และคาดว่าเขาจะฟิตภายใน 10 วัน[14]
ในวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 2020 กวาดิโอลา ได้กล่าวในงานแถลงข่าวว่า การ์ซิอา ได้ปฏิเสธที่จะต่อสัญญาที่จะหมดลงในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2021[15]
บาร์เซโลนา
ในวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 2021 บาร์เซโลนา ได้เปิดตัวและเซ็นสัญญา การ์ซิอา เข้าร่วมทีมอย่างเป็นทางการโดยไม่มีค่าย้ายทีม โดยเซ็นสัญญาเป็นเวลา 5 ปี และมีค่าฉีกสัญญา 400 ล้านยูโร โดยสัญญาจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2021 เป็นต้นไปหลังจากสัญญาของเขากับแมนฯ ซิตี หมดลง[16] เขาได้ลงเล่นนัดแรกในวันที่ 15 สิงหาคม ในลาลิกานัดแรกของฤดูกาล ในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กคู่กับฌาราร์ต ปิเก ช่วยให้ทีมเอาชนะเรอัลโซซิเอดัด 4–2 ที่กัมนอว์ ในนัดถัดมาในอีก 6 วันถัดมา ซึ่งพวกเขาเสมอกับอัตเลติกบิลบาโอ 1–1 ที่ซันมาเมส เขาได้รับใบแดงไล่ออกจากสนามในนาทีที่ 90+3 หลังการทำฟาล์วนิโก วิเลียมส์[17] ในวันที่ 29 กันยายน การ์ซิอา ถูกไล่ออกเป็นครั้งที่สองหลังจากได้รับใบเหลืองสองใบ ในนัดที่แพ้ต่อไบฟีกา 0–3 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่ม[18]
ในวันที่ 3 กันยายน ค.ศ. 2022 เขาทำประตูแรกในระดับอาชีพได้ เป็นประตูที่สามที่ช่วยให้บาร์เซโลนาเอาชนะเซบิยา 0–3 ที่รามอน ซันเชซ ปิซฆวน จากแอสซิตส์เป็นประตูที่สองของฌูล กูนเด[19]
ระดับทีมชาติ
ระดับเยาวชน
เขาได้เป็นตัวแทนของทีมชาติสเปน ในระดับรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี[20]ในปี ค.ศ. 2017 เขายังเป็นตัวแทนของทีมรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ในชุดชนะเลิศการแข่งขันชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ที่โครเอเชีย และรองชนะเลิศฟุตบอลโลกเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ที่อินเดีย หลังแพ้ให้กับอังกฤษ ในรอบชิงชนะเลิศ 5–2 ในปีถัดมา เขายังเป็นกัปตันของทีมในการแข่งขันชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ที่อังกฤษ เขาทำสองประตูได้ในรอบแบ่งกลุ่มกับเยอรมนี และเซอร์เบีย ก่อนจะแพ้ให้กับเบลเยียม ในรอบก่อนรองชนะเลิศ[21]ในปี ค.ศ. 2019 เขายังเป็นตัวแทนให้กับทีมรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ช่วยให้สเปนชนะเลิศการแข่งขันชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ที่อาร์มีเนีย โดยเขาได้ลงเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กคู่กับอูโก กียามองครบทุกนาที[22]ในช่วงปลายปีเดียวกัน เขายังเป็นตัวแทนของทีมรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี 2021 รอบคัดเลือก ช่วยให้ทีมผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายได้สำเร็จ[23]
ทีมชุดใหญ่–โอลิมปิกฤดูร้อน
![]() | ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
Remove ads
สถิติอาชีพ
สโมสร
- ณ วันที่ 12 ตุลาคม ค.ศ. 2021
ทีมชาติ
- ณ วันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ. 2022[27]
Remove ads
เกียรติประวัติ
แมนเชสเตอร์ซิตี
- พรีเมียร์ลีก: 2020–21[3]
- อีเอฟแอลคัพ: 2019–20[28]
- เอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์: 2019[29]
- ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รองชนะเลิศ: 2020–21[30]
สเปน อายุไม่เกิน 17 ปี
- ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี: 2017[31]
- ฟุตบอลโลกเยาวชนอายุไม่เกิน 17 ปี รองชนะเลิศ: 2017[32]
สเปน อายุไม่เกิน 19 ปี
- ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ชนะเลิศ: 2019[33]
สเปน อายุไม่เกิน 23 ปี
- โอลิมปิกฤดูร้อน เหรียญเงิน: 2020
สเปน
- ยูฟ่าเนชันส์ลีก รองชนะเลิศ: 2021
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads