คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
โรบล็อกซ์
แพลตฟอร์มการสร้างเกมหลายผู้เล่น จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
โรบล็อกซ์ (อังกฤษ: Roblox, /ˈroʊblɒks/ ) เป็นแพลตฟอร์มเกมออนไลน์หลายผู้เล่น และเกมเอนจินที่ถูกพัฒนาโดยโรบล็อกซ์คอร์ปอเรชั่น แพลตฟอร์มนี้อนุญาตให้ผู้เล่นสร้างเกมเอง หรือเล่นเกมที่คนอื่นสร้าง แพลตฟอร์มนี้ถูกสร้างขึ้นโดยเดวิด บาสซุกกี และเอริค แคสเซลในปี พ.ศ. 2547 และปล่อยออกมาในปี พ.ศ. 2549 แพลตฟอร์มนี้โฮสต์เกมที่ผู้เล่นสร้างโดยใช้ภาษาลูอา ในช่วงแรกของโรบล็อกซ์ แพลตฟอร์มนี้ถือว่าเล็กมาก เนื่องจากการที่เดวิด บาสซุกกีไม่ได้มีความสนใจในการที่จะประชาสัมพันธ์ ทำให้มันถูกลืมในช่วงแรก เนื่องจากมีแพลตฟอร์มอื่น ๆ อีกหลายแพลตฟอร์มที่ถูกปล่อยออกมาในช่วงเดียวกัน โรบล็อกซ์เริ่มเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในครึ่งหลังของคริสต์ทศวรรษ 2010 และถูกเร่งให้เร็วขึ้นอีกจากการระบาดของโควิด-19[8][9]
ยังมีนักพัฒนา 7 ล้านคนและได้รับผลกำไรมากกว่า 200 ล้านดอลลาร์นับตั้งแต่ก่อตั้งโรบล็อกซ์จะเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถเข้าถึงได้ฟรี แต่ก็มีสกุลเงินเสมือนที่เรียกว่า "โรบักซ์" (อังกฤษ: Robux) จากข้อมูลในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2564 โรบล็อกซ์มีผู้ใช้ที่มีความเคลื่อนไหวต่อเดือนอยู่ที่ 200 ล้านบัญชี โดนสหรัฐอเมริกาและแคนาดาเป็นภูมิภาคที่มีผู้เล่นแอคทีฟรายวันสูงสุด โดยมีจำนวน 11.5 ล้าน คนยุโรปซึ่ง คิดเป็น 10% ของผู้เล่นทั้งหมด โดยเพล็ตฟอร์มได้ถูกใช้โดยเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปีในสหรัฐอเมริกา[10][11]
แม้ว่าโรบล็อกซ์จะได้การตอบรับที่ดีจากนักวิจารณ์ แต่แพลตฟอร์มนี้ก็ยังมีถูกวิจารณ์ในด้านการควบคุม, การเก็บค่าใช้บนแพลตฟอร์ม และการถูกกล่าวหาว่ามีการเอารัดเอาเปรียบโดยตรงต่อเด็กและเยาว์ชน
Remove ads
ภาพรวม
สรุป
มุมมอง
โรบล็อกซ์สตูดิโอ
โรบล็อกซ์อนุญาตให้ผู้ใช้สร้างเกมของตนเองได้ผ่านทางโรบล็อกซ์สตูดิโอ (อังกฤษ: Roblox Studio) ซึ่งสามารถให้ผู้ใช้คนอื่น ๆ มาเล่นเกมที่สร้างได้[12] โดยเกมที่สร้างจะถูกสร้างด้วยการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ โดยใช้ภาษาลูอาในการเขียน[13][14] ผู้ใช้สามารถสร้าง "เกมพาส" (อังกฤษ: Game Passes) และผลิตภัณฑ์ของผู้พัฒนา (อังกฤษ: Developer Products) เพื่อสร้างรายได้ โดยรายได้จะถูกหักค่าดำเนินการโดยโรบล็อกซ์ออกไปร้อยละ 70 จะรายได้ทั้งหมด[15][16] เกมส่วนใหญ่ถูกสร้างโดยผู้เยาว์ โดยมีทั้งหมด 20 ล้านเกมต่อปีที่ถูกสร้างโดยการใช้โรบล็อกซ์สตูดิโอ[17][10]
ไอเทมและสกุลเงิน
โรบล็อกซ์อนุญาตให้ผู้เล่นซื้อ, ขาย และสร้างไอเทมเสมือนจริงที่สามารถนำไปตกแต่งตัวละครเสมือนจริงที่ถูกใช้เป็นอวตารของผู้เล่นบนแพลตฟอร์ม[10] เสื้อผ้าสามารถซื้อได้โดยผู้ใช้ทุกคน แต่เฉพาะผู้ใช้ที่สมัครโรบล็อกซ์พรีเมียม (อังกฤษ: Roblox Premium) เท่านั้นที่สามารถสร้างและขายได้[18] มีเฉพาะผู้ดูแลของโรบล็อกซ์เท่านั้นที่สามารถขายเครื่องประดับ ชิ้นส่วนตัวละคร อุปกรณ์ และแพคเกจด้วยบัญชี "Roblox" ในปัจจุบันโรบล็อกซ์เริ่มอนุญาตให้ผู้ใช้ที่มีประสบการณ์บางส่วนขายเครื่องประดับได้[19][20] มีผู้ใช้บางคนสร้างไอเทมเหล่านี้เป็นอาชีพหลัก โดยผู้ใช้ที่ทำเงินได้มากที่สุดได้รับเงินถึง 100,000 เหรียญสหรัฐต่อปี[21] ไอเทมที่มีสถานะเป็นลิมิเต็ดจะสามารถแลกเปลี่ยนหรือขายได้โดยผู้ใช้ที่สมัครโรบล็อกซ์พรีเมียมเท่านั้น
โรบักซ์ (อังกฤษ: Robux) เป็นสกุลเงินเสมือนที่ผู้เล่นจะต้องใช้ในการใช้จ่ายบนแพลตฟอร์มโรบล็อกซ์ โดยโรบักซ์สามารถรับได้จาก การใช้เงินจริงซื้อ, การสมัครสมาชิกโรบล็อกซ์พรีเมียม หรือการขายสินค้าเสมือนจริงบนโรบล็อกซ์[22][23] ก่อนปี พ.ศ. 2559 โรบล็อกซ์มีสกุลเงินอีกสกุลเงินที่มีชื่อว่า ทิกซ์ (อังกฤษ: Tix) ที่ถูกยกเลิกไปในเดือนเมษายนของปีนั้น[24] โรบักซ์ที่ได้มาจากการขายสินค้าบนแพลตฟอร์มนั้นสามารถนำไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินจริงได้ผ่านระบบแลกเปลี่ยนของผู้พัฒนา[25] ในปัจจุบันมีการหลอกหลวงหลายอย่างที่มีความเกี่ยวข้องกับโรบักซ์ เช่นการสร้างเว็บไซต์หรือเกมที่จะให้โรบักซ์ฟรี หรือรหัสแลกเปลี่ยนโรบักซ์ที่ไม่มีอยู่จริง
ติ๊กซ์หรือ ทิกเก็ต (อังกฤษ: Tix) เป็นสกุลเงินเดิมของ Roblox ควบคู่ไปกับ Robux ซึ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2550 ผู้เล่นได้รับติ๊กซ์ผ่านวิธีการต่างๆ รวมถึงการเยี่ยมชมเว็บไซต์ทุกวันและให้ผู้ใช้รายอื่นเยี่ยมชมสถานที่ของพวกเขา สามารถใช้ติ๊กซ์ซื้อของในตลาดและโฆษณาได้ ตั๋วส่วนใหญ่จะใช้เพื่อซื้อของจากตลาด ในเวลาเดียวกัน Tix ไม่จำเป็นต้องชำระเงินและบัญชีที่ลงทะเบียนก็สามารถสร้างรายได้ได้ ตั๋วสามารถแปลงเป็น Robux ผ่านระบบ RoblEX และในทางกลับกัน มูลค่าของตั๋วแตกต่างกันไป แต่ตั๋วมีมูลค่าน้อยกว่า Robux มาก
ในวันที่ 14 เมษายน 2559 Roblox ลบ Tix และยอดคงเหลือทั้งหมดถูกริบเพื่อให้ Robux เป็นสกุลเงินเดียว มีวิธีการต่างๆ ที่สามารถดูยอดคงเหลือ Tix ของผู้ใช้ผ่านทางเว็บ API หลังจากการลบออก
กิจกรรม
โรบล็อกซ์จัดกิจกรรมทั้งบนแพลตฟอร์มและในชีวิตจริงอยู่บ่อยครั้ง ในอดีตโรบล็อกซ์เคยจัดงานที่มีชื่อว่า บล็อกซ์คอน (อังกฤษ: BloxCon) ซึ่งเป็นงานที่มีไว้เพื่อรวมผู้ใช้บนแพลตฟอร์ม[22] โรบล็อกซ์ยังจัดกิจกรรมประจำปีเช่นกิจกรรมล่าไข่ในเทศกาลอีสเตอร์[26] หรืองานบล็อกซี่อวอร์ด (อังกฤษ: Bloxy Awards) ซึ่งเป็นงานประกาศรางวัลประจำปีของโรบล็อกซ์ ในงานบล็อกซี่อวอร์ด 2020 มีผู้เข้าชมพร้อมกันสูงสุดถึง 600,000 คน[27][28] โรบล็อกซ์ยังจัดการประชุมผู้พัฒนาโรบล็อกซ์ (อังกฤษ: Roblox Developers Conference) ซึ่งเป็นการประชุมที่ผู้ที่ถูกรับเชิญ ซึ่งเป็นนักพัฒนาแนวหน้าของโรบล็อกซ์ มาเรียนรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของแพลตฟอร์มที่กำลังมาถึง[29] โดยโรบล็อกซ์เคยจัดงานนี้ในซานฟรานซิสโก, ลอนดอน และ อัมสเตอร์ดัม[30][31]
โรบล็อกซ์ยังเป็นส่วนหนึ่งในการประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์เช่นวันเดอร์ วูแมน 1984 และอควาแมน เจ้าสมุทร[32][33] ในปี พ.ศ. 2563 โรบล็อกซ์ได้จัดคอนเสิร์ตครั้งแรกบนแพลตฟอร์มโดยถูกเปรียบเทียบโดยโรลลิงสโตน ว่าเทียบเท่ากับคอนเสิร์ตของแรปเปอร์ชาวอเมริกันแทรวิส สก็อตต์ ที่ถูกจัดขึ้นบนฟอร์ตไนท์[34] โดยในคอนเสิร์ตในครั้งนี้แรปเปอร์ชาวอเมริกันลิลนาสเอ็กซ์ได้เปิดตัวเพลงใหม่ที่มีชื่อว่า "Holiday" ต่อหน้าผู้เล่นโรบล็อกซ์[35][36][37] ในปี พ.ศ. 2564 นักร้องชาวสวีเดน Zara Larsson ได้จัดปาร์ตี้เสมือนจริงเพื่อฉลองการปล่อยอัลบั้ม Poster Girl ของเธอ[38] ในวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2564 ทเวนตีวันไพล็อตส์ ได้จัดคอนเสิร์ตเสมือนจริงขึ้นบนแพลตฟอร์ม[39][40] ในเดือนตุลาคม 2564 โรบล็อกซ์ได้ร่วมมือกับ Chipotle Mexican Grill ที่จะแจกเบอร์ริโต 1 ล้านเหรียญสหรัฐที่จะแจกให้ผู้เล่น 30,000 คนแรกต่อวัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโปรโมชั่นฮาโลวีนของ Chipotle[41]
Remove ads
ประวัติและการพัฒนา
สรุป
มุมมอง
โลโก้แรกโรบล็อกซ์ ออกแบบในปี พ.ศ. 2547[42]
โลโก้โรบล็อกซ์ ที่ใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 - พ.ศ. 2548[43]
โลโก้โรบล็อกซ์ ที่ใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 - พ.ศ. 2549[42]
โลโก้โรบล็อกซ์ ที่ใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 - พ.ศ. 2560[42]
โลโก้โรบล็อกซ์ ที่ใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 - พ.ศ. 2561[42]
โลโก้โรบล็อกซ์ ที่ใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 - ปัจจุบัน[43]
เวอร์ชันเบต้าของโรบล็อกซ์ถูกสร้างขึ้นโดยเดวิด บาสซุกกี และเอริค แคสเซลในปี พ.ศ. 2547 โดยใช้ชื่อว่าไดนาบล็อกส์ (อังกฤษ: DynaBlocks)[44][45] ในปี พ.ศ. 2548 บริษัทได้เปลี่ยนชื่อเป็นโรบล็อกซ์[45] และได้ปล่อยแพลตฟอร์มออกมาในวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2549 ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2550 โรบล็อกซ์ได้ปรับปรุงแพลตฟอร์มเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนด COPPA ด้วยการเพิ่มระบบป้องกันคำที่ไม่เหมาะสม[46] ในเดือนสิงหาคม โรบล็อกซ์ได้เปิดตัวบริการสมาชิกที่มีชื่อว่า บิวเดอร์ คลับ (อังกฤษ: Builders Club) โดยบริการนี้ได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นโรบล็อกซ์พรีเมียมในเดือนกันยายน พ.ศ. 2562[47]
ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2554 โรบล็อกซ์ได้จัดกิจกรรม "Hack Week" ขึ้นเพื่อเป็นโอกาสให้นักพัฒนาบนโรบล็อกซ์คิดนอกกรอบ เพื่อนำไอเดียเหล่านั้นมาพัฒนาแพลตฟอร์ม[48][49] ในวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2555 โรบล็อกซ์ได้ปล่อยเวอร์ชันไอโอเอสออกมา หลังจากนั้นในวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 โรบล็อกซ์ได้ปล่อยเวอร์ชันแอนดรอยด์ออกมา ต่อมาในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2556 โรบล็อกซ์ได้เปิดตัวระบบแลกเปลี่ยนสำหรับผู้พัฒนาเพื่อที่จะได้แลกเปลี่ยนโรบักซ์ออกมาเป็นเงินจริง[50]
ในวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 โรบล็อกซ์ได้ปล่อยฟีเจอร์ "Smooth Terrain" ออกมาเพื่อเพิ่มความสมจริงให้กับเกม เปลี่ยนจากเกมที่มาในรูปร่างของรูปทรงเรขาคณิตเป็นเกมที่สามารถมีความโค้งมนได้[51] ในวันที่ 20 พฤศจิกายน โรบล็อกซ์ได้ปล่อยเวอร์ชันเอกซ์บอกวันออกมา โดยในช่วงแรกมีเพียงแค่ 15 เกมที่ถูกเลือกโดยพนักงานของโรบล็อกซ์เท่านั้น เกมใหม่ที่ต้องการจะเผยแพร่บนเอกซ์บอกวันจะต้องถูกตรวจสอบโดยโรบล็อกซ์ก่อน เพื่อที่จะได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของคณะกรรมการจัดเรตสื่อซอฟต์แวร์บันเทิง[52]
ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2559 โรบล็อกซ์เปิดตัว Roblox VR บน Oculus Rift ในขณะเดียวกันโรบล็อกซ์มีเกมมากกว่า 10 ล้านเกม[53] ในเดือนมิถุนายน โรบล็อกซ์ปล่อยเวอร์ชันวินโดวส์ 10 ออกมา แม้ว่าโรบล็อกซ์นั้นสามารถเล่นได้บนคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลอยู่แล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มีการสร้างแอพลิเคชั่นสำหรับเริ่มเกมเฉพาะสำหรับวินโดวส์[54]
ตลอดทั้งปี พ.ศ. 2560 โรบล็อกซ์ได้เพิ่มความสามารถของเซิฟเวอร์ เนื่องจากเซิฟเวอร์เก่านั้นมีอายุการใช้งานที่นานแล้ว ทำให้เกิดการล่มอยู่บ่อยครั้ง[55] ในปีเดียวกันโรบล็อกซ์ได้ปิดตัวฟอรั่มอย่างเป็นทางการ[56] ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2561 โรบล็อกซ์ได้ปิดการให้บริการการเข้าเล่นด้วยบัญชีผู้เข้าชม (อังกฤษ: Guest)[57] ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2563 โรบล็อกซ์ได้ประกาศสร้าง ปาร์ตี้ เพลส (อังกฤษ: Party Place) เพื่อเป็นสถานที่ในการพบปะ โดยเป็นการใช้เทคโนโลยีที่ถูกใช้ในงานบล็อกซี่อวอร์ด 2020 เพื่อเป็นการช่วยเหลือให้ผู้เล่นสามารถพบปะกันได้ผ่านทางออนไลน์ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19[58] ในวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2563 โรบล็อกซ์ได้รับอนุญาตให้เปิดตัวในประเทศจีนได้[59] ในปีพ.ศ. 2564 โรบล็อกซ์ได้เข้าซื้อ Guilded[60] และในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2564 โรบล็อกซ์ได้เผชิญกับการล่มครั้งที่นานที่สุด ทำให้แพลตฟอร์มไม่สามารถเข้าถึงได้เป็นเวลา 3 วัน[61][62][63]
Remove ads
สังคมและวัฒนธรรม
สรุป
มุมมอง
การเคลื่อนไหว
ผู้ใช้ของโรบล็อกซ์มีการรณรงค์ต่อต้านคตินิยมเชื้อชาติ รวมถึงผู้ร่วมก่อตั้งเดวิด บาสซุกกีที่สนับสนุนการประท้วงกรณีจอร์จ ฟลอยด์ และแบล็กไลฟส์แมตเทอร์[64][65] ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2562 โดยการสืบค้นโดย NBC News พบบัญชีที่มีความเกี่ยวข้องกับการเมืองฝ่ายขวาจัด และนีโอนาซีมากกว่า 100 บัญชี หลังจากที่ถูก NBC ติดต่อไป ผู้ดูแลระบบของโรบล็อกซ์ได้ทำการลบบัญชีเหล่านั้น[66]
ผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19
การระบาดของโควิด-19 ส่งผลต่อโรบล็อกซ์ในหลายด้าน เนื่องจากเกิดการกักตัว เพื่อลดอัตราการระบาดของโควิด-19 โรบล็อกซ์ถูกใช้เป็นช่องทางให้เด็ก ๆ พบปะกัน[67] เช่นการจัดงานสังสรรวันเกิดผ่านโรบล็อกซ์[68] เป็นต้น โควิด-19 ทำให้ยอดผู้ใช้และรายได้ของแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในขณะเดียวกัน ปรากฏการณ์นี้ก็เกิดขึ้นกับส่วนใหญ่ของอุตสาหกรรมเกมทั่วโลก เนื่องจากการล็อกดาวน์โควิด-19 ทำให้ผู้คนต้องอยู่บ้าน ส่งผลให้ผู้คนใช้เวลากับเกมมากขึ้น[69][70]
เสียง Oof
ตั้งแต่วันที่แพลตฟอร์มถูกปล่อยออกมาจนถึงเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เอฟเฟกต์เสียงเมื่อเวลาผู้เล่นตายจะมีเสียง "Oof" ออกมา ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งที่สามารถบ่งบอกถึงแพลตฟอร์มนี้ได้ เนื่องจากสถานะที่เป็นมีม[71] เสียงนี้ถูกสร้างขึ้นโดย Tommy Tallarico เพื่อใช้ในเกม Messiah ที่ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2543 หลังจากนั้นเขาและโรบล็อกซ์ได้เกิดการฟ้องร้องกัน การฟ้องร้องจบลงเมื่อโรบล็อกซ์ยอมที่จะนำเสียงนั้นออก และใช้เอฟเฟกต์เสียงตายใหม่ Tallarico ยังอนุญาตให้โรบล็อกซ์ขายเสียงเอฟเฟกต์นั้นบนแพลตฟอร์มในราคาที่ผู้พัฒนาจะต้องจ่าย 1 เหรียญสหรัฐ[72][73]
แล้วหลังจากเกิดเหตุการณ์ฟ้องร้องขึ้น เมื่อวันที่ 27 เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2565 บัญชีทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการของ โรบล็อกซ์ ได้ประกาศนำเสียง "Oof" ออกจากบนแพลตฟอร์มและใช้เอฟเฟกต์เสียงเมื่อเวลาผู้เล่นตายแบบใหม่ เนื่องจากปัญหาด้านลิขสิทธิ์[74][75]
ผลตอบรับและรายได้
สรุป
มุมมอง
ผลตอบรับที่สำคัญ
โรบล็อกซ์ได้ผลตอบรับในแง่บวกเป็นส่วนใหญ่ Common Sense Media ให้ 4 จาก 5 ดาว โดยยกย่องความหลากหลายของเกม และการส่งเสริมให้เด็กใช้ความคิดสร้างสรรค์บนแพลตฟอร์ม แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยการที่โรบล็อกซ์มีเกมย่อย ๆ มากมาย ทำให้คุณภาพต่างกันไป และแนะนำให้ปิดฟังก์ชันการพูดคุยสำหรับผู้เล่นที่มีอายุน้องเพื่อป้องกันการกระทำที่ไม่เหมาะสมที่อาจจะเกิดขึ้นได้[76] Patricia E. Vance จาก Family Online Safety Institute แนะนำให้ผู้ปกครองสอนส่องดูแลการกระทำของเด็กบนแพลตฟอร์ม แต่ก็ยกย่องการให้เด็กได้เล่น ต้นหา พบปะ สร้าง และเรียนรู้บนแพลตฟอร์ม และการมีโรบล็อกซ์สตูดิโอที่ช่วยให้เด็กมีประสบการณ์ในการสร้างเกม[77] Trusted Reviews ยกย่องโรบล็อกซ์สตูดิโอว่า "เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะทางวิทยาการคอมพิวเตอร์ หรือสร้างโครงการที่จะได้รับผลตอบรับอย่างรวดเร็วจากผู้เล่นหลายคน"[78] Craig Hurda เขียนไว้ใน Android Guys โดยให้ความพึงพอใจในระดับปานกลาง โดยยกย่องว่าแพลตฟอร์มนี้มีเกมหลายเกม และเป็นเกมที่สนุกสำหรับเด็ก แต่มีความน่าสนใจน้อยสำหรับผู้เล่นที่เป็นผู้ใหญ่[79]
ข้อวิจารณ์
โรบล็อกซ์ได้รับคำวิจารณ์อยู่บ่อยครั้งเกี่ยวกับระบบป้องกันคำที่ไม่เหมาะสมของแพลตฟอร์ม[80][81] แม้ว่าระบบของโรบล็อกซ์จะใช้ Community Sift[82] ซึ่งเซนเซอร์และลบคำและคอนเทนต์ที่ไม่เหมาะสมส่วนใหญ่ แต่ก็ยังมีช่องทางที่จะอ้อมระบบนี้เพื่อส่งคำและคอนเทนต์ที่ไม่เหมาะสม เพื่อแก้ไขปัญหานี้ โรบล็อกซ์มีพนักงานกว่า 1,600 คนที่ตรวจสอบสิ่งที่ไม่เหมาะสมบนแพลตฟอร์ม[80] โรบล็อกซ์ยังให้สิทธิในการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าความเป็นส่วนตัว ผู้ปกครองสามารถกำหนดผู้ใช้ที่สามารถติดต่อได้, อนุญาตเฉพาะเซิฟเวอร์ส่วนตัวเท่านั้น และเปิดการใช้งานการควบคุมของผู้ปกครองได้[83]
แม้ว่าโรบล็อซ์ไม่อนุญาตให้มีเนื้อหาทางเพศ แต่โรบล็อกซ์ก็ยังถูกวิจารณ์เกี่ยวกับการมีเกมที่มีเนื้อหาทางเพศ เช่น เซ็กส์คลับ และไนต์คลับ ซึ่งผู้สร้างเนื้อหาเหล่านี้สื่อสารกันด้วยแพลตฟอร์มของบุคคลที่สาม ซึ่งผู้ดูแลของโรบล็อกซ์ไม่สามารถควบคุมได้[84] จากการสืบค้นโดย Fast Company ในปี พ.ศ. 2563 เนื้อหาทางเพศบนโรบล็อกซ์ยังคงถูกพบอยู่ และความพยายามของผู้ดูแลนั้นเป็นเหมือน"การทุบตัวตุ่น"[85][86] แต่ก็พบว่าสถานการณ์นี้มีแนวโน้มที่ดีขึ้นจนมาถึงปีที่รายงาน[85]
โรบล็อกซ์ถูกวิจารณ์ว่าระบบการจ่ายสินค้าของโรบล็อกซ์นั้นทำให้เด็กใช้จ่ายได้ง่ายในจำนวนเงินที่สูง จากการเก็บค่าใช้จ่ายเล็กน้อยหลายรายการ ทำให้เกิดกรณีที่ผู้ปกครองไม่ทราบว่าบุตรหลานใช้เงินไปจำนวนมหาศาล[87][88] และมีกรณีที่โรบล็อกซ์ลบบัญชีของผู้เล่นที่ขอเงินคืนหลางจากซื้อโรบักซ์[89]
ช่องยูทูบ People Make Games กล่าวหาว่าโรบล็อกซ์แสวงหาผลประโยชน์จากผู้พัฒนาที่เป็นเด็ก โดยสัญญาว่าจะได้รับเงินจำนวนมากเมื่อสร้างเกม แต่ในทางปฏิบัติแล้วได้รับเงินน้อยมาก หรือไม่ได้เลย เนื่องจากการหักเงินของโรบล็อกซ์ และอัตราการแลกเปลี่ยนของโรบักซ์ไปเป็นเงินจริงต่ำกว่าราคาที่ซื้อโรบักซ์ รวมทั้งมีช่องทางที่จะทำให้เกมถูกค้นพบน้อย โดยผู้วิจารณ์ได้โยงไปถึง Company Scrip[90][91] ในการพูดคุยกับ Axios หัวหน้าเจ้าหน้าที่ผลิตภัณฑ์ของโรบล็อกซ์ Manuel Bronstein ได้ชี้แจงว่า โรบล็อกซ์มีความคิดที่จะเพิ่มจำนวนเงินที่ผู้พัฒนาจะได้รับ[92] หลังจากโรบล็อกซ์ได้ส่งคำขอให้ยกเลิกการเผยแพร่วิดิโอ People Make Games ได้เผยแพร่ข้อกล่าวหาอื่น ๆ เช่นการปฏิบัติที่ส่งผลต่อความปลอดภัยของเด็ก เช่นการปิดตัวของฟอรั่มบนโรบล็อกซ์ ทำให้ผู้พัฒนาที่เป็นเด็กจะต้องสื่อสารผ่านทางบริการของบุคคลที่สาม เช่น ดิสคอร์ด และไม่มีช่องทางที่สามารถรายงานการกระทำที่ผิดต่อผู้พัฒนา การที่ให้ผู้พัฒนาคนหนึ่งสามารถรับเงินต่อ และควบคุมการพัฒนาเกมต่อไปได้หลังจากการโดนแบนเนื่องจากมีพฤติกรรมล่อลวงผู้พัฒนาที่เป็นเด็ก การที่มีระบบใช้จ่ายที่มีความคล้างคลึงกับการพนัน การไม่ช่วยเหลือผู้พัฒนาที่บัฐชีถูกแฮ็ค และการส่งเสริมให้เด็กใช้เว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัยในการซื้ออุปกรณ์ตกแต่งตัวละครที่มีราคาสูง[93][94]
เกม
เนื่องจากสถานะที่เป็นแพลตฟอร์ม โรบล็อกซ์มีเกมที่โด่งดังมากมาย จากข้อมูลเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2563 เกมที่โด่งดังบนโรบล็อกซ์มากที่สุดมีผู้เล่นมากถึง 10 ล้านบัญชีต่อเดือน ในเดือนสิงหาคมของปีเดียวกันมีเกมอย่างน้อย 20 เกมที่มีผู้เล่นมากกว่า 1 พันล้านครั้ง และมีอีกอย่างน้อย 5,000 เกมที่มู้ผู้เล่นมากกว่า 1 ล้านครั้ง[95] TechCrunch กล่าวในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2564 ว่าเกมบนโรบล็อกซ์นั้นแตกต่างจะเกมเล่นฟรีทั่วไปอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากเกมบนโรบล็อกซ์ที่ประสบความสำเร็จนั้นเกิดความพึงพอใจเพียงชั่วขณะอย่างมาก และยังมี Tutorials ที่ลดปฏิสัมพันธ์ของผู้เล่น[96]
รายได้
ในการประชุมผู้พัฒนาของโรบล็อกซ์ในปี พ.ศ. 2560 โรบล็อกซ์ให้ข้อมูลว่าในขณะนั้นมีผู้พัฒนาอยู่ประมาณ 1.7 ล้านคน[97] สร้างรายได้มากว่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐในปีนั้น[98] เวอร์ชันไอโอเอสของโรบล็อกซ์มีรายได้มากกว่า 2 ล้านเหรียญสหรัฐในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2563 ทำให้เป็นแอพที่ได้รับรายได้มากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ในระบบปฏิบัติการไอโอเอส[99] ในเกมย่อยของโรบล็อกซ์หลายเกมมีรายได้มากกว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐ[100] โดยเมื่อคำนวณรายได้ของผู้พัฒนาบนแพลตฟอร์มทั้งหมดแล้ว จะมีรายได้สุทธิอยู่ที่ 250 เหรียญสหรัฐในปี พ.ศ. 2563[101] โดยเป็นเกมที่ทำรายได้มากที่สุดอันดับ 3 ในปี พ.ศ. 2563 หลัง PUBG และ Honor of Kings[102]
ของเล่น
ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2560 ผู้ผลิตของเล่น Jazwares ร่วมมือกับโรบล็อกซ์ เพื่อผลิตฟิกเกอร์ขนาดเล็กของคอนเทนต์ที่ผู้พัฒนาสร้างบนแพลตฟอร์ม[103] โดยฟิกเกอร์เหล่านั้นมีลักษณะเหมือนเลโก้ แต่ขนาดต่างกันถึง 2 เท่า[104] ฟิกเกอร์เหล่านี้มีเครื่องประดับที่สามารถสลับ ปรับเปลี่ยนกันได้ โดยในเซตที่ขายนั้นจะมีรหัสสำหรับรับไอเทมเสทือนจริงบนแพลตฟอร์ม และยังมีกล่องสุ่มที่จะสุ่มฟิกเกอร์ที่ได้[105][106] ในปี พ.ศ. 2562 โรบล็อกซ์ได้ปล่อย "Roblox Desktop"[107] ในวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2564 โรบล็อกซ์ร่วมมือกับฮาสโบร เพื่อปล่อยของเล่นปืน Nerf ในธีมโรบล็อกซ์ และ เกมกระดานโมนอโพลี ธีมโรบล็อกซ์[108]
Remove ads
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads