Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โครงการฉีดวัคซีนโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทย ซึ่งกำลังดำเนินอยู่ในปัจจุบัน เป็นการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับคนจำนวนมาก เพื่อรับมือกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่กำลังระบาดอยู่ในประเทศไทย โดยเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2564
จุดบริการวัคซีนโควิด-19 จุดหนึ่งที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒในกรุงเทพมหานคร | |
วันที่ | 28 กุมภาพันธ์ 2564 – ปัจจุบัน (3 ปี 6 เดือน 21 วัน) |
---|---|
ที่ตั้ง | ประเทศไทย |
สาเหตุ | การระบาดทั่วของโควิด-19 ในประเทศไทย |
เป้าหมาย | สร้างภูมิคุ้มกันต่อโควิด-19 |
ผู้เข้าร่วม | 55,281,158 คน ได้รับวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งโดส 50,220,477 คน ได้รับวัคซีนครบโดส 21,059,428 คน ได้รับวัคซีนบูสเตอร์หนึ่งโดส (25 มีนาคม 2565)[1][2] |
ผล | 110.56% ของประชากรไทยตามเป้าหมายได้รับวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งโดส
100.44% ของประชากรไทยตามเป้าหมายได้รับวัคซีนครบโดส (เป้าหมาย: 50,000,000 คน) |
เว็บไซต์ | https://dashboard-vaccine.moph.go.th/ |
แผนการฉีดวัคซีนของประเทศในช่วงแรกต้องการใช้วัคซีนโควิด-19 ของออกซฟอร์ด-แอสตร้าเซนเนก้าที่ผลิตในประเทศซึ่งบริษัทสยามไบโอไซแอนซ์ได้รับถ่ายทอดเทคโนโลยีเป็นหลัก คำสั่งห้ามนำเข้าวัคซีนยี่ห้ออื่น การสื่อสารแบบขาดความเป็นเอกภาพ การกระจายวัคซีนโดยไม่คำนึงถึงลำดับความเร่งด่วนรวมถึงการเลือกปฏิบัติ และความแคลงใจต่อประสิทธิภาพและผลข้างเคียงของวัคซีนโควิด-19 ของซิโนแว็กซึ่งเป็นวัคซีนอีกชนิดที่นำมาใช้ในช่วงแรก ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์อย่างมาก ต่อมาในเดือนมิถุนายน 2564 สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ประกาศจะนำเข้าวัคซีนเพิ่มเติมคือวัคซีนโควิด-19 BBIBP-CorV ของซิโนฟาร์ม หลังจากนั้นเริ่มมีคำสั่งอนุญาตให้ราชการส่วนท้องถิ่นและเอกชนนำเข้าวัคซีนยี่ห้ออื่นได้ ตามมาด้วยคำสั่งซื้อวัคซีนโควิด-19 ของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน
ยอดการฉีดวัคซีนในประเทศไทย ณ วันที่ 7 มิถุนายน 2564 อยู่ที่ 4.21 ล้านโดส[5] เริ่มมีการรณรงค์ฉีดวัคซีนทั่วประเทศในวันที่ 7 มิถุนายน แม้ว่ารัฐบาลจะตั้งเป้าให้ฉีดได้ครบ 100 ล้านโดสภายในสิ้นปี 2564 แต่ความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนยังคงเป็นไปอย่างล่าช้า ส่วนใหญ่เนื่องจากวัคซีนยังไม่เพียงพอ
ในเดือนพฤศจิกายน 2563 ทางการสั่งซื้อวัคซีนจากบริษัทแอสตราเซเนกา จำนวน 26 ล้านโดส ซึ่งจากข้อมูลการทดลองพบมีประสิทธิผลโดยรวมร้อยละ 70[6] เนื่องจากวัคซีนดังกล่าวต้องใช้ฉีดคนละ 2 โดส ทำให้เพียงพอต่อประชากรเพียง 13 ล้านคน[7] ก่อนที่คณะรัฐมนตรีจะอนุมัติงบสั่งซื้อเพิ่ม 35 ล้านโดสในเดือนมกราคม 2564[8] ทั้งนี้ บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ซึ่งเป็นบริษัทในพระปรมาภิไธยได้รับถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต ซึ่งประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "เมื่อรับวัคซีนมาแล้ว จะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งอันนี้ก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระราชทานให้บริษัทสยามไบโอไซเอนส์"[9] นอกจากนี้ยังมีการนำเข้าวัคซีนจากบริษัทซีโนแว็ก สัญชาติจีน จำนวน 2 ล้านโดส ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน 2564[10] ซึ่งบริษัทซีโนแว็กเป็นบริษัทที่เครือเจริญโภคภัณฑ์เข้าร่วมทุนด้วยจำนวน 1.5 หมื่นล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนถือหุ้น 15%[11] ในเดือนมกราคม 2564 ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถูกรัฐบาลแจ้งความฐานความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ หลังตั้งคำถามถึงบริษัทผลิตวัคซีนที่พระมหากษัตริย์เป็นเจ้าของ[12] หลายวันต่อมา อนุทิน ชาญวีรกุล โพสต์ตอบคำถามของธนาธร โดยตอนหนึ่งระบุว่า จำนวนและกรอบเวลาการสั่งซื้อวัคซีนนั้นเป็นไปตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ[13] อนุทินยังเปรียบเทียบว่าวัคซีนที่รัฐบาลนำเข้ามานั้นเปรียบได้กับการ "แทงม้าเต็ง"[14] ในเดือนเดียวกัน ยังมีการชูป้ายประท้วงในพื้นที่ศูนย์การค้าไอคอนสยาม ซึ่งมีใจความว่า วัคซีนโควิด-19 เป็นการหาความชอบให้แก่สถาบันพระมหากษัตริย์[15][16] ทางการมีกำหนดเริ่มฉีดวัคซีนเข็มแรกเริ่มจากบุคลากรการแพทย์ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์[17] ในเดือนกุมภาพันธ์ มีการเปิดเผยว่า ไทยเป็นประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ไม่ได้รับวัคซีนจากโครงการโคแวกซ์[18] วัคซีนจากบริษัทซิโนแว็กและแอสตราเซเนกาถึงไทยในวันที่ 24 กุมภาพันธ์[19]
กระทรวงสาธารณสุขเปิดแผนกระจายวัคซีนล็อต 2 จำนวน 8 แสนโดส โดยแบ่งเป็นกลุ่มพื้นที่เสี่ยงและพื้นที่ท่องเที่ยว[20] และหลังได้รับวัคซีนจากแอสตราเซเนกาเพิ่มอีก 5 ล้านโดสในเดือนพฤษภาคม 2564 จะเปิดให้จองวัคซีนผ่านออนไลน์และแอปพลิเคชันหมอพร้อม[21] ช่วงกลางเดือนมีนาคม มีข่าวว่า กองทัพบกจะให้แคดดี้สนามกอล์ฟฉีดวัคซีนโควิด-19 เนื่องจากมีผู้ใหญ่เกษียณไปใช้บริการ[22] ปลายเดือนมีนาคม 2564 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเปิดเผยผลสำรวจซีอีโอ 191 ราย พบว่า ร้อยละ 79.8 กังวลเรื่องการกระจายวัคซีนล่าช้า[23] ผู้บริหารโรงพยาบาลเอกชนรายหนึ่งระบุว่า อีกสาเหตุหนึ่งที่เอกชนยังนำเข้าวัคซีนไม่ได้เนื่องจากบริษัทวัคซีนต้องการขายให้กับรัฐบาลเท่านั้นเพื่อเลี่ยงปัญหาการฟ้องร้องจากปัญหาไม่พึงประสงค์จากวัคซีน[24] วันที่ 25 มีนาคม 2564 วัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสันได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเป็นรายที่สาม[25] ต่อมา แพทย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเปิดเผยว่า วัคซีนซิโนแวคและแอสตราเซเนกานั้นไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ เพียงแต่ป้องกันการป่วยตามสรรพคุณ[26] วันที่ 10 เมษายน 2564 นายกรัฐมนตรีลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อพิจารณาวัคซีนทางเลือก ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากโรงพยาบาลเอกชนด้วย[27] วันที่ 13 พฤษภาคม อย. ประกาศขึ้นทะเบียนวัคซีนโมเดอร์นา[28] วันที่ 14 พฤษภาคม ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเปิดเผยผลการศึกษาของศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่า ผู้ฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาและโคโรนาแว็คครบ 2 เข็ม หลังผ่านไป 4 สัปดาห์ มีภูมิคุ้มกันในระดับสูงร้อยละ 97.26 และ 99.4 ตามลำดับ[29] วันที่ 26 พฤษภาคม มีข่าวว่านักการเมืองฝ่ายรัฐบาลส่วนหนึ่งวิ่งเต้นเพื่อให้ท้องถิ่นของตนได้รับจัดสรรวัคซีนมากที่สุด จนทำให้บางจังหวัดได้รับจัดสรรวัคซีนมากกว่าพื้นที่ระบาด[30] ในวันเดียวกัน ศบค. ประกาศชะลอการลงทะเบียนจองวัคซีนผ่านแอปพลิเคชันหมอพร้อม เนื่องจากจะมีการจัดสรรวัคซีนใหม่โดยเปลี่ยนจากโควต้าจองมาเป็นการจัดสรรให้กับพื้นที่ระบาดก่อน ทั้งนี้ ข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขระบุว่ามียอดผู้จองวัคซีนผ่านแอปพลิเคชันดังกล่าวแล้ว 7.9 ล้านราย[31] นอกจากนี้ ยังมีประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาว่า สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์มีอำนาจนำเข้ายาและวัคซีนเพื่อใช้รักษาโควิด-19 ได้[32] อีกทั้งไม่ต้องรับผิดทางคดีทั้งปวง[33] ในเดือนพฤษภาคม 2564 มีรายงานว่าวัคซีนแอสตราเซเนกาจากประเทศอิตาลีจำนวน 50,000 โดสมาไม่ถึงมือทางการไทยตามกำหนด และเกิดความสับสนในช่วงเดือนพฤษภาคมว่า วัคซีนแอสตราเซนกามีเพียงพอกับยอดสั่งจองหรือไม่[34] วันที่ 28 พฤษภาคม อย. ขึ้นทะเบียนวัคซีนซิโนฟาร์ม[35] ข้อมูลในวันเดียวกันพบว่า ไทยมีวัคซีนซิโนแวค 6 ล้านโดส และแอสตราเซเนกา 117,000 โดส และกำลังนำเข้าวัคซีนซิโนแวคเพิ่มเติมในเดือนมิถุนายน ขณะที่วัคซีนแอสตราเซเนกาที่ผลิตในประเทศจะทยอยส่งมอบจนครบ 61 ล้านโดส[36]
สส. พรรคก้าวไกลวิจารณ์การวางแผนวัคซีนของรัฐบาลว่า ทำให้ต้องจ่ายค่าตรวจหาเชื้อ ค่ายาต้านไวรัสและค่านอนโรงพยาบาลที่แพงกว่าวัคซีนมาก นอกจากนี้แทนที่จะยอมจัดสรรงบซื้อวัคซีนเพียงไม่ถึง 1 แสนล้านบาท แต่กลับต้องใช้งบเพื่อเยียวยาถึง 7 แสนล้านบาท[37]
ระหว่างวันที่ 7–19 มิถุนายน 2564 มีการจัดสรรวัคซีนโควิด-19 (ซิโนแวคและแอสตราเซเนกา) จำนวน 3.5 ล้านโดสใน 13 เขตสุขภาพ[38] มีจุดฉีด 986 จุดทั่วประเทศ[39] วันที่ 7 มิถุนายน 2564 นายกรัฐมนตรีลงนามนำเข้าวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน 25 ล้านโดสและซิโนแวค 8 ล้านโดส[40] สมาคมโรงพยาบาลเอกชนเปิดเผยราคาวัคซีนโมเดอร์นา 2 เข็มอยู่ที่ 3,800 บาท และจะสั่งซื้อ 10 ล้านโดส[41] วันที่ 8 มิถุนายน ศบค. ออกคำสั่งอนุญาตให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นและเอกชนซื้อวัคซีนได้[42] วันที่ 9 มิถุนายน มีข่าวว่ามีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนที่ลัดคิวฉีดวัคซีน[43] ก่อนต่อมามีการเปิดเผยว่าเป็นคนในครอบครัวของวินมอเตอร์ไซค์ที่เอาเสื้อไปใส่[44] วันที่ 13 มิถุนายน มีข่าวว่า ผู้อำนวยการโรงพยาบาลโพสต์ประกาศในสื่อสังคมว่าโรงพยาบาลของตนได้รับจัดสรรวัคซีนไม่เพียงพอ และให้ประชาชนไปสอบถามกับกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งต่อมาโพสต์ดังกล่าวถูกลบ[45] วันที่ 17 มิถุนายน มีคำสั่งปลัดกระทรวงมหาดไทยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดจัดหาวัคซีนให้พนักงานไทยเบฟเวอเรจและครอบครัว 7.1 หมื่นคนทั่วประเทศ[46] วัคซีนซิโนฟาร์มลอตแรกมาถึงในวันที่ 20 มิถุนายน 2564[47] มีแพทย์และองค์การแพทย์ออกมาเรียกร้องให้นำเข้าวัคซีนทางเลือกและเลิกนำเข้าวัคซีนซิโนแวคเพิ่มเติม[48][49]
ข้อมูล ณ วันที่ 18 กรกฎาคม 2564
วัคซีนฟรีตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข
วัคซีน | ปริมาณสั่งซื้อ | จัดส่งแล้ว | อนุมัติ | มาถึงครั้งแรก | นำไปใช้ | อ้างอิง |
---|---|---|---|---|---|---|
ออกซฟอร์ด-แอสตราเซเนกา | 61 ล้าน | 25.5 ล้าน | 20 มกราคม 2564 | 24 กุมภาพันธ์ 2564 | 28 กุมภาพันธ์ 2564 | [50] |
ซิโนแว็ก | 31.1 ล้าน | 26.52 ล้าน | 22 กุมภาพันธ์ 2564 | 24 กุมภาพันธ์ 2564 | 28 กุมภาพันธ์ 2564 | [51] |
จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน | 5 ล้าน | ไม่ทราบ | 25 มีนาคม 2564 | ปลายเดือนมิถุนายน | 26 กรกฎาคม 2564 | [52] |
ไฟเซอร์-ไบออนเทค | 30 ล้าน | 3.5 ล้าน | 24 มิถุนายน 2564 | 30 กรกฎาคม 2564 | 5 สิงหาคม 2564 | [53][54][55][56] |
วัคซีนที่ไม่ได้อยู่ในนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ต้องจัดซือผ่านหน่วยงานของรัฐ ซึ่งรัฐบาลจะไม่สนับสนุนค่าฉีดวัคซีน อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนเหล่านี้จะยังคงนับอยู่ในโครงการฉีดวัคซีนทั่วประเทศ
วัคซีน | ผู้นำเข้า | ปริมาณสั่งซื้อ | จัดส่งแล้ว | อนุมัติ | มาถึงครั้งแรก | นำไปใช้ | อ้างอิง |
---|---|---|---|---|---|---|---|
โมเดอร์นา | องค์การเภสัชกรรม | 5 ล้าน | 5.6 แสน | 13 พฤษภาคม 2564 | 1 พฤศจิกายน 2564 | 9 พฤศจิกายน 2564 | [28][57] |
ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ | 8 ล้าน | รอจัดส่ง | 13 พฤษภาคม 2564 | รอจัดส่ง | รอจัดส่ง | [58] | |
ซิโนฟาร์ม | ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ | 15 ล้าน | 15 ล้าน | 28 พฤษภาคม 2564 | 20 มิถุนายน 2564 | 25 มิถุนายน 2564 | [35][47] |
วัคซีน | ชนิด (เทคโนโลยี) | ความคืบหน้า |
---|---|---|
NDV-HXP-S (HXP-GPOVac) มหาวิทยาลัยมหิดล, มหาวิทยาลัยเท็กซัส ออสติน |
เวกเตอร์เป็นไวรัสก่อโรคนิวคาสเซิล (ตัดแต่งพันธุกรรมให้มีโปรตีนส่วนหนามของ SARS-CoV-2 โดยบางตัวมีและไม่มี CpG 1018 เป็นตัวเสริม) |
ระยะ 1-2 (460) ทดลองแบบสุ่ม, ศึกษาควบคุมด้วยยาหลอก, อำพรางผู้สังเกตการณ์ ช่วงเวลาและแหล่ง: มีนาคม 2564–พฤษภาคม 2565 ประเทศไทย[61] |
จุฬาคอฟ19 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
อาร์เอ็นเอ | ระยะ 1-2 (96) ศึกษาขนาดยา ช่วงเวลาและแหล่ง: มกราคม–มีนาคม 2564 ไทย |
Baiya SARS-CoV-2 Vax 1[63] ใบยา ไฟโตฟาร์ม |
ซับยูนิต | ระยะ 1 (96) ทดลองแบบสุ่ม, ทดลองแบบเปิด, หาขนาดยา ช่วงเวลาและแหล่ง: กันยายน–ธันวาคม 2564 ไทย |
โควิเจน[65] ไบโอเน็ตเอเชีย, เทคโนวาเลีย, มหาวิทยาลัยซิดนีย์ |
ดีเอ็นเอ | ระยะ 1 (150) Double-blind, dose-ranging, ทดลองแบบสุ่ม, ศึกษาควบคุมด้วยยาหลอก ช่วงเวลาและแหล่ง: กุมภาพันธ์ 2564–มิถุนายน 2565 ออสเตรเลีย ไทย |
ผลสำรวจของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขเมื่อเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 ได้ผลว่า มีบุคลากรการแพทย์ที่ต้องการรับวัคซีนโควิด-19 (ไม่ว่าจะเป็นชนิดใดก็ตาม) เพียงร้อยละ 55 โดยวัคซีนที่ต้องการอันดับหนึ่งคือวัคซีนของแอสตราเซเนกา และอันดับสองคือวัคซีนของซิโนแว็ก[19] การสำรวจของสวนดุสิตโพลในเดือนพฤษภาคม 2564 จำนวน 2,644 คน พบว่าวัคซีนที่ผู้ตอบเชื่อมั่นมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ไฟเซอร์ โมเดอร์นา จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน แอสตราเซเนกาและสปุตนิกวีตามลำดับ[67]
ข้อมูลจนถึงวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 พบว่ามีผู้เสียชีวิตหลังจากฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วจำนวน 9 คน แต่ทางการระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่าเกิดจากโรคประจำตัวและปัจจัยอื่นทั้งหมด[68]
วันที 15 มิถุนายน 2564 ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กว่า พบปัญหาบุคคลที่ฉีดวัคซีนซิโนแวคและแอสตราเซเนกาสองเข็มแล้วยังมีภูมิคุ้มกันไม่เพียงพอ อาจต้องฉีดวัคซีนเพิ่มเป็นเข็มที่สาม[69] ในเดือนเดียวกัน อย. สั่งงดฉีดซิโนแวคบางล็อตเนื่องจากพบเป็นเจล[70]
แม้ว่าทางการจีนออกมายอมรับว่าวัคซีนซิโนแวคมีประสิทธิภาพต่ำก็ตาม[71] แต่กระทรวงสาธารณสุขและแพทย์บางส่วนยังคงยืนยันว่าวัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพ[72][73] วันที่ 21 เมษายน 2564 กระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดระยองจำนวน 6 รายมีอาการคล้ายโรคหลอดเลือดสมองภายใน 10 นาทีหลังฉีดวัคซีนโคโรนาแวค[74] วันที่ 5 พฤษภาคม 2564 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเสนอเกณฑ์จ่ายเงินชดเชยกรณีได้รับความเสียหายจากวัคซีน รายละ 1–4 แสนบาท[75] ในวันที่ 8 พฤษภาคม แพทย์จุฬาคนหนึ่งโพสต์เฟซบุ๊กบรรยายภาวะที่เกิดขึ้นหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทย โดยเฉพาะวัคซีนโคโรนาแว็ก[76] โดยตั้งชื่อว่า กลุ่มอาการทางระบบประสาทเฉพาะที่ที่สัมพันธ์กับการรับวัคซีน (immunization-related focal neurological syndrome, IRFN)[77][lower-alpha 1] ผู้ป่วยมักมีอาการทางระบบรับสัมผัส เช่น รู้สึกชาด้านใดด้านหนึ่งของร่างกาย เช่น ปลายมือ มุมปาก และแก้ม มักพบเป็นข้างเดียวกันกับที่ฉีดวัคซีน นอกจากนี้อาจพบอาการตาบอดครึ่งซีก (hemianopia) ชั่วคราว และอาการอ่อนแรงชั่วคราวได้ด้วย และอาจพบร่วมกับอาการปวดศีรษะและอาเจียน[78] มักพบในผู้รับวัคซีนที่เป็นเพศหญิงอายุ 20-50 ปี[78] มีการตั้งข้อสังเกตว่ากลไกการเกิดภาวะนี้อาจเกี่ยวข้องกับการหดเกร็งของหลอดเลือดสมอง และยาทางจิตเวชบางชนิดอาจมีกลไกคล้ายคลึงกัน ทำให้มีคำแนะนำจากราขวิทยาลัยจิตแพทย์ในการเลือกหยุดยาบางชนิด ในกรณีที่สามารถหยุดได้โดยไม่มีอันตราย[79]
ในเดือนมีนาคม 2564 เริ่มการทดลองวัคซีน NDV-HXP-S ที่มหาวิทยาลัยมหิดล[80][81][82] ส่วนในเดือนเมษายน 2564 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยประกาศรับสมัครอาสาสมัครวัคซีน ChulaCov19 ระยะที่ 1 และ 2[83] ในขณะที่วัคซีนที่ผลิตด้วยใบยาสูบของบริษัทใบยาไฟโตฟาร์มร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยยังอยู่ในระยะก่อนการทดลองในมนุษย์ โดยคาดว่าจะเข้าสู่ระยะการทดลองในมนุษย์ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2564[84] จนถึงเดือนเมษายน 2564 ขั้นตอนการผลิตวัคซีนของบริษัทสยามไบโอไซแอนซ์อยู่ในขั้นส่งตรวจคุณภาพวัคซีน และนายกรัฐมนตรียืนยันว่าเป็นไปตามกำหนดส่งมอบในเดือนมิถุนายน 2564[85][86]
ต้นเดือนมิถุนายน 2564 มีข่าวว่าทางการฟิลิปปินส์ระบุว่าทางการไทยจัดส่งวัคซีนแอสตราเซเนกาที่ผลิตโดยบริษัทสยามไบโอไซแอนซ์ล่าช้า[87] โดยก่อนหน้านี้ ในเดือนพฤษภาคม 2564 มีข่าวว่าบริษัทสยามไบโอไซแอนซ์ประกาศรับสมัครบุคลากรฝ่ายผลิต[88]
วันที่ 1 กรกฎาคม มีข่าวว่า นายแพทย์เฉลิม หาญพาณิชย์ นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน มติล่าสุดของสมาคมกำหนดอัตราให้บริการฉีดวัคซีนโมเดอร์นา 2 เข็ม อยู่ที่ 3,300 บาท หรือ 1,650 บาท/เข็ม ในอัตราเดียวกันทุกโรงพยาบาลเอกชนที่ให้บริการ และเป็นราคาสุทธิที่รวมค่าวัคซีน ค่าบริการ และค่าประกันวัคซีนทั้งหมดแล้ว[89]
วันที่ 14 กรกฎาคม มีรายงานว่า ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปจอง "วัคซีนซิโนฟาร์ม" ในวันที่ 18 ก.ค.64 จำนวน 40,000 โดส คาดว่าราคาไม่เกิน 888 บาท[90]
วันที่ 15 กรกฎาคม มีรายงานว่า นพ.บุญระบุว่า บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จะลงนามสัญญาเพื่อนำเข้าวัคซีนต้านโควิด-19 กับ บริษัท ไบโอเอนเทค ที่มีโรงงานผลิตวัคซีนไฟเซอร์ในเยอรมนี และยินดีขายให้ภาคเอกชนที่ต้องการฉีด เบื้องต้นราคาต้นทุนอยู่ที่ 17 ดอลลาร์สหรัฐต่อโดส หรือราว 555 บาทต่อโดส ยังไม่รวมค่าขนส่ง ภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยคิดราคารวมโดยประมาณ 900 บาทต่อโดส[91]
วันที่ 20 พฤษภาคม มีข่าวว่ากรมควบคุมโรคชี้แจงว่าในวัคซีนแอสตราเซเนกา 1 ขวด ซึ่งกำหนดให้ใช้ 10 โดส สามารถดูดได้ 12 โดส ซึ่งอ้างว่าจะช่วยให้สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในประเทศเร็วขึ้น[92]
วันที่ 23 พฤษภาคม ยง ภู่วรวรรณเสนอให้ผู้ได้รับวัคซีนซิโนแวคฉีดวัคซีนสลับชนิดกัน หลังมีข่าวว่าประเทศตะวันตกไม่ยอมรับวัคซีนของจีน[93]
ในเดือนมิถุนายน มีข่าวว่ากรมควบคุมโรคมีแนวทางให้ฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรก 16 สัปดาห์ ขณะที่คำแนะนำขององค์การอนามัยโลกไม่แนะนำให้ฉีดเว้นห่างกันเกิน 12 สัปดาห์[94]
วันที่ 27 เมษายน 2564 มีข่าวว่า คณะรัฐมนตรีโอนอำนาจเกี่ยวกับการรับมือโควิด-19 ให้แก่นายกรัฐมนตรี[95] ในเดือนมิถุนายน 2564 อนุทิน ชาญวีรกุลยืนยันว่าปัญหาบางโรงพยาบาลได้รับจัดสรรวัคซีนไม่เพียงพอนั้น ไม่เกี่ยวกับกระทรวงสาธารณสุข แต่ขึ้นอยู่กับ ศบค.[96]
วันที่ 29 กันยายน 2564 ได้มีประกาศยกเลิกการโอนอำนาจตามกฎหมาย 31 ฉบับดังกล่าว กลับไปเป็นของรัฐมนตรีที่มีหน้าที่รับผิดชอบตามปกติ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564[97]
วันที่ 12 กรกฎาคม 2564 องค์การเภสัชกรรม แถลงการณ์โต้โซเชียล แจงปมราคานำเข้า "วัคซีนโมเดอร์นา" ในราคา 584 บาทต่อโดส ไม่เป็นความจริง [98]
วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์แถลงยุติการนำเข้าวัคซีนโมเดอร์นาจำนวน 1.5 ล้านโดส ซึ่งได้มีการเจรจารับบริจาคจากสำนักงานสำรองทางยุทธศาสตร์ของโปแลนด์ (RARS) ตามที่ภาคเอกชนผู้แทนได้ประสานงานไว้ โดยธรรมศาสตร์ขอให้กระทรวงการต่างประเทศออกจดหมายยืนยันในนามรัฐบาลไทย เนื่องจากผู้บริจาคประสงค์ให้หน่วยงานที่มีสถานะเป็นผู้แทนรัฐบาลแจ้งเจตนาที่จะรับบริจาค แต่กระทรวงการต่างประเทศไม่ออกหนังสือให้โดยแถลงว่าได้หารือกับกระทรวงการต่างประเทศโปแลนด์ ได้รับแจ้งว่าไม่อนุญาตให้นำวัคซีนที่ได้รับบริจาคไปจำหน่าย และฝ่ายไทยต้องได้รับ market authorization จากบริษัทผู้ผลิตหรือตัวแทนจำหน่ายวัคซีนด้วย โดยธรรมศาสตร์ได้แจ้งก่อนหน้าว่า ในการรับบริจาคมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก มหาวิทยาลัยจึงจะรับวัคซีนจำนวน 1/3 ของที่ได้รับไว้เอง เพื่อให้บริการประชาชนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย และจะมอบวัคซีนที่ได้รับอีก 2/3 ให้เอกชนที่เป็นหุ้นส่วน เพื่อนำไปจำหน่ายชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น[99]
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.