![cover image](https://wikiwandv2-19431.kxcdn.com/_next/image?url=https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/3/3a/%25E9%2582%2593%25E5%25B0%258F%25E5%25B9%25B3%25E5%2583%258F_-_panoramio.jpg/640px-%25E9%2582%2593%25E5%25B0%258F%25E5%25B9%25B3%25E5%2583%258F_-_panoramio.jpg&w=640&q=50)
การเยือนภาคใต้ของเติ้ง เสี่ยวผิง
From Wikipedia, the free encyclopedia
การเยือนภาคใต้ของเติ้ง เสี่ยวผิง (จีนตัวย่อ : 邓小平南巡; จีนตัวเต็ม : 鄧小平南巡) หรือ การเยือนภาคใต้ พ.ศ. 2535 (จีนตัวย่อ: 九二南巡; จีนตัวเต็ม: 九二南巡) เป็นการเยือนภาคใต้ของจีนของเติ้ง เสี่ยวผิง อดีตผู้นำสูงสุดของจีน ได้แก่ เชินเจิ้น จูไห่ กว่างโจว และเซี่ยงไฮ้ ระหว่างวันที่ 18 มกราคม – 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535[1][2][3][4][5] การพูดคุยและข้อสังเกตของเติ้งระหว่างการเยือนได้ตอกย้ำการดำเนินการตามโครงการปฏิรูปเศรษฐกิจจีนของเขาในจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งหยุดชะงักลงหลังจากการปราบปรามของทหารในการประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในปี พ.ศ. 2532 จากคำสั่งของเติ้งเอง[1][6][7][8] การเยือนภาคใต้ปี พ.ศ. 2535 ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นจุดสำคัญในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของจีน เนื่องจากมีส่วนช่วยรักษาการปฏิรูปเศรษฐกิจของจีน ตลอดจนตลาดทุน และเสถียรภาพของสังคม[1][6][9][10][11][12]
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/3/3a/%E9%82%93%E5%B0%8F%E5%B9%B3%E5%83%8F_-_panoramio.jpg/640px-%E9%82%93%E5%B0%8F%E5%B9%B3%E5%83%8F_-_panoramio.jpg)
ในระหว่างการเยือนภาคใต้ เติ้งได้เน้นย้ำกับผู้นำทางทหารหลายคนของกองทัพปลดปล่อยประชาชน คือ หยาง ช่างคุน หลิว หฺวาชิง และหยาง ไป่ปิง ว่า "ผู้ที่ไม่ส่งเสริมการปฏิรูปสมควรถูกถอดออกจากตำแหน่งผู้นำ" และบังคับให้เจียง เจ๋อหมิน ซึ่งขณะนั้นเป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน สนับสนุนและดำเนินโครงการปฏิรูปเศรษฐกิจต่อไป[13] นอกจากนี้เขายังหวังว่ามณฑลกวางตุ้งจะตามทัน "สี่เสือแห่งเอเชีย" ในแง่ของการพัฒนาเศรษฐกิจภายใน 20 ปี[14][15] ข้อสังเกตและความคิดเห็นที่โดดเด่นบางประการจากเติ้งในระหว่างการเยือน ได้แก่ "ไม่สำคัญว่าแมวจะเป็นสีดำหรือขาว ขอแค่จับหนูได้ มันก็เป็นแมวที่ดี" (不管黑猫白猫,能捉到老鼠就是好猫) ซึ่งตีพิมพ์ครั้งแรกโดยเขาคริสต์ในทศวรรษ 1960 และ "การพัฒนาคือคำตอบสุดท้าย (发展才是硬道理)" และ "รัฐบาลเชินเจิ้น ควรเข้มงวดมากขึ้นในการปฏิรูปเศรษฐกิจ กล้าทดลอง และไม่ควรทำตัวเป็นผู้หญิงรัดเท้า"[10][16][17][18]
อย่างไรก็ตาม แม้เติ้งเองก็กล่าวว่าจะต้องบังคับใช้การต่อต้านการทุจริตตลอดกระบวนการปฏิรูปและการเปิดประเทศทั้งหมด และเน้นย้ำถึงความสำคัญของหลักนิติธรรม[19][20] แต่ในความเป็นจริงการเยือนภาคใต้ไม่ได้แก้ไขปัญหาการทุจริต ตลอดจนความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจในจีน และไม่ได้ดำเนินการปฏิรูปการเมืองของจีนต่อซึ่งล้มเหลวและสิ้นสุดลงในการประท้วงและการสังหารหมู่ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในปี พ.ศ. 2532[21][22][23][24][25]