Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
แนวรบด้านตะวันตก (อังกฤษ: Western Front) คือเขตสงครามหลักในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง หลังสงครามอุบัติในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1914 กองทัพเยอรมันเปิดแนวรบด้านตะวันตกด้วยการบุกครองเบลเยียมและลักเซมเบิร์ก จากนั้นยังสามารถยึดครองแคว้นอุตสาหกรรมที่สำคัญของฝรั่งเศส ฝ่ายตั้งรับพลิกสถานการณ์ได้อย่างมากหลังยุทธการที่แม่น้ำมาร์น หลังการแข่งขันสู่ทะเล ทั้งสองฝ่ายต่างยึดที่มั่นตามแนวสนามเพลาะคดเคี้ยวและมีการเสริมความมั่นคงอย่างแน่นหนา ลากตั้งแต่ทะเลเหนือต่อเนื่องไปจนแนวชายแดนฝรั่งเศสด้านที่ติดกับสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยยกเว้นต้นปี 1917 และในปี 1918
แนวรบด้านตะวันตก | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง | |||||||
ตามเข็มนาฬิกาจากซ้ายบน: ทหารราบไอริชในสนามเพลาะ ไม่กี่อึดใจก่อนบุกในยุทธการที่แม่น้ำซอมม์วันแรก; ทหารบริติชนำตัวสหายร่วมรบที่ได้รับบาดเจ็บจากสนามรบในยุทธการที่แม่น้ำซอมม์วันแรก; ทหารหนุ่มชาวเยอรมันพร้อมอาวุธปืนเล็กยาว 98อา-เกเวร์ ระหว่างยุทธการที่แก็งชี; ทหารราบอเมริกันบุกบังเกอร์เยอรมัน; เครื่องบินทิ้งระเบิดหนักโกทา เก.4; รถถังอเมริกันและเรโนลต์ เอฟที-17 กำลังเคลื่อนที่ในป่าอาร์กอนมุ่งหน้าสู่แนวหน้าระหว่างการรุกมิวส์-อาร์กอน วันที่ 26 กันยายน 1918 | |||||||
| |||||||
คู่สงคราม | |||||||
สหรัฐ | ออสเตรีย-ฮังการี | ||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||
| |||||||
กำลัง | |||||||
13,250,000[12] | |||||||
ความสูญเสีย | |||||||
7,500,000
|
5,500,000
|
ระหว่างปี 1915 ถึง 1917 เกิดการบุกใหญ่หลายครั้งในแนวรบด้านนี้ มีการระดมยิงปืนใหญ่และการบุกโดยใช้ทหารราบปริมาณมาก อย่างไรก็ตามด้วยการปักหลักในที่มั่น การวางปืนกล รั้วลวดหนาม และปืนใหญ่ล้วนก่อให้เกิดกำลังพลสูญเสียใหญ่หลวงระหว่างการเข้าตีและการตีโต้ตอบซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผลจึงไม่มีการบุกอย่างสำคัญ การบุกครั้งที่มีกำลังพลสูญเสียมากที่สุด ได้แก่ ยุทธการที่แวร์เดิง (ปี 1916) มีกำลังพลสูญเสียรวม 700,000 นาย (ประมาณการ), ยุทธการที่แม่น้ำซอม (ค.ศ. 1916) มีกำลังพลสูญเสียกว่า 1,000,000 นาย (ประมาณการ) และ ยุทธการที่ปอสเชินดาเลอ หรือยุทธการที่อีปส์ครั้งที่สาม (ปี 1917) มีกำลังพลสูญเสีย 487,000 นาย (ประมาณการ)
เพื่อยุติภาวะอับจนของการสงครามสนามเพลาะในแนวรบด้านตะวันตก ต่างฝ่ายต่างทดลองเทคโนโลยีทางทหารใหม่ ๆ รวมทั้ง แก๊สพิษ อากาศยาน และรถถัง การใช้ยุทธวิธีที่ดีขึ้นและการอ่อนกำลังของกองทัพทั้งสองฝ่ายในแนวรบด้านตะวันตกทำให้สถานการณ์กลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้งในปี 1918 การรุกฤดูใบไม้ผลิของเยอรมันในปี 1918 เกิดขึ้นได้จากสนธิสัญญาเบรสท์-ลีตอฟสก์ที่ยุติการสู้รบในแนวรบด้านตะวันออกระหว่างฝ่ายมหาอำนาจกลางกับรัสเซียและโรมาเนีย กองทัพเยอรมันใช้การระดมยิงปืนใหญ่ "เฮอร์ริเคน" สั้น ๆ แต่เข้มข้น และยุทธวิธีแทรกซึม ทำให้สามารถเคลื่อนที่ไปได้เกือบ 100 กิโลเมตรทางทิศตะวันตก นับเป็นการบุกได้มากที่สุดนับแต่ปี 1914 แต่ผลไม่เด็ดขาด
การบุกของฝ่ายสัมพันธมิตรที่หยุดไม่ได้ในการรุกร้อยวันปี 1918 ทำให้กองทัพเยอรมันล่มสลายอย่างฉับพลันและโน้มน้าวให้ผู้บังคับบัญชาฝ่ายเยอรมันเชื่อว่าหลีกเลี่ยงความปราชัยไม่พ้น รัฐบาลเยอรมันยอมจำนนในการสงบศึกวันที่ 11 พฤศจิกายน 1918 โดยมีการชำระสะสางเงื่อนไขสันติภาพในสนธิสัญญาแวร์ซายในปี 1919
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.