คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง

โตเกียว

เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

โตเกียวmap
Remove ads

โตเกียว (ญี่ปุ่น: 東京; โรมาจิ: Tōkyō; ทับศัพท์: โทเกียว) หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า มหานครโตเกียว (ญี่ปุ่น: 東京都; โรมาจิ: Tōkyō-to; ทับศัพท์: โทเกียว-โตะ; อังกฤษ: Tokyo Metropolis) เป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่บริเวณส่วนหัวของอ่าวโตเกียว โดยเป็นส่วนหนึ่งของภูมิภาคคันโตบนชายฝั่งตอนกลางของเกาะฮนชู เกาะที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น มีระบบการปกครองแบบพิเศษซึ่งรวมการปกครองในรูปแบบจังหวัดและเทศบาลนครไว้ด้วยกัน ทั้งนี้ เขตอภิมหานครโตเกียวจัดว่าเป็นเขตเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยหากนับรวมประชากรทั้งหมดในเขตอภิมหานครโตเกียวแล้วจะมีประชากรมากถึง 41 ล้านคน (ค.ศ. 2024) [8] โดยอาศัยในเขตเมืองประมาณ 14 ล้านคน[9] ถือเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลกเมืองหนึ่ง คำว่า "โตเกียว" หมายถึง "นครหลวงตะวันออก" โตเกียวได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน "สี่นครเอกของโลก" ร่วมกับลอนดอน ปารีส และนิวยอร์ก ได้รับการจัดอันดับตามดัชนีชี้ความน่าอยู่ทั่วโลก (Global Liveability Index) ให้เป็น 1 ใน 4 เมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกใน ค.ศ. 2021

ข้อมูลเบื้องต้น โตเกียว 東京都, ประเทศ ...

เดิมทีโตเกียวเป็นหมู่บ้านชาวประมงซึ่งรู้จักกันในชื่อ "เอโดะ" กระทั่งเมืองนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางทางการเมืองในช่วงประมาณ ค.ศ. 1603 ในรัฐบาลเอโดะ และได้กลายเป็นหนึ่งในเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลกในช่วงกลางศตวรรษที่ 18 ด้วยประชากรมากกว่าหนึ่งล้านคน ภายหลังจากการฟื้นฟูเมจิ เมืองหลวงของจักรวรรดิญี่ปุ่นอย่างเกียวโตได้ถูกย้ายมาที่เอโดะ และได้รับการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "โตเกียว" ซึ่งต่อมาทั้งเมืองได้รับผลกระทบรุนแรงจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่คันโต ค.ศ. 1923 ตามด้วยการทิ้งระเบิดโตเกียว ก่อนจะได้รับการบูรณะอย่างรวดเร็วในช่วงทศวรรษ 1950 หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง นำไปสู่ยุค “ความมหัศจรรย์ของเศรษฐกิจญี่ปุ่น” ในทศวรรษ 1960 และนับตั้งแต่ ค.ศ. 1943 ได้มีการจัดตั้งมหานครโตเกียวขึ้นเป็นเขตปกครองรูปแบบพิเศษ และมีการแบ่งนครโตเกียวออกเป็น 23 เขต ซึ่งรวมถึงกลุ่มเกาะบริเวณนอกเขตเมืองอีกสองแห่งซึ่งเรียกว่า หมู่เกาะโตเกียว

โตเกียวได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยวัดตามผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ โดยผลผลิตมวลรวมอยู่ที่ 113.7 ล้านล้านเยนหรือ 1.04 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปีงบประมาณ 2021 และคิดเป็น 20.7% ของผลผลิตทางเศรษฐกิจทั้งหมดของประเทศ ซึ่งคิดเป็นมูลค่ากว่า 8.07 ล้านเยนหรือ 73,820 ดอลลาร์สหรัฐต่อหัว[10] โตเกียวถูกจัดอยู่ในประเภทเมืองอัลฟ่าพลัส (เมืองระดับโลก) ตามเครือข่ายการวิจัยโลกาภิวัตน์และเมืองโลก โตเกียวยังถือเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดของประเทศ โดยเป็นส่วนหนึ่งของเขตอุตสาหกรรมหลักในภูมิภาคควบคู่ไปกับโยโกฮามะ คาวาซากิ และชิบะ เมืองนี้ยังเป็นที่ตั้งของบริษัทระดับโลกจำนวน 29 แห่งโดยฟอร์จูนโกลบอล 500 (บริษัทชั้นนำ 500 อันดับแรกของโลก)[11] และใน ค.ศ. 2020 โตเกียวได้รับการจัดอันดับอยู่ในอันดับสี่ตามความสามารถในการแข่งขันด้านการเงิน เป็นรองเพียงนิวยอร์ก ลอนดอน และเซี่ยงไฮ้ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียวยังเป็นหนึ่งในตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดประมาณ 1.5 เท่าของ ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก[12] แม้ความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะลดลงในช่วงทศวรรษที่สาบสูญ

โตเกียวเป็นหนึ่งในเมืองที่มีระบบการขนส่งสาธารณะที่ทันสมัยที่สุดในโลก[13][14] โตเกียวเมโทรสายกินซะเปิดให้บริการใน ค.ศ. 1927 ในปัจจุบันถือเป็นเส้นทางรถไฟใต้ดินที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออก[15] สถานีรถไฟโตเกียวยังเป็นสถานีรถไฟหลักของภูมิภาค และเป็นหนึ่งในสถานีสำคัญของประเทศ ให้บริการเครือข่ายรถไฟความเร็วสูงที่รู้จักกันในชื่อ ชิงกันเซ็ง นอกจากนี้ สถานีสำคัญอย่าง สถานีรถไฟชินจูกุ ถือเป็นหนึ่งในสถานีที่มีผู้ใช้บริการมากติดอันดับโลกในแต่ละวัน โตเกียวยังเป็นที่ตั้งของท่าอากาศยานนานาชาติโตเกียว ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นท่าอากาศยานภายในประเทศที่ดีที่สุดในโลกใน ค.ศ. 2020[16]

โตเกียวเคยเป็นเจ้าภาพเหตุการณ์ระดับโลกหลายครั้ง ได้แก่ กีฬาโอลิมปิกปี 1964 และ 2020, พาราลิมปิกฤดูร้อน 1964 และ 2020 รวมถึงเป็นสถานที่จัดการประชุมสุดยอดกลุ่ม 7 จำนวนสามครั้ง (ค.ศ. 1979, 1986 และ 1993) โตเกียวยังเป็นศูนย์การทางด้านการวิจัยและการพัฒนาของประเทศ และเป็นที่ตั้งของสถานศึกษาที่มีชื่อเสียง รวมถึงมหาวิทยาลัยโตเกียว เขตพิเศษอื่น ๆ ที่มีชื่อเสียงในโตเกียวได้แก่ เขตชิโยดะ เป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญระดับประเทศสองแห่ง ได้แก่ พระราชวังหลวงของสมเด็จพระจักรพรรดิ และอาคารรัฐสภาญี่ปุ่น, เขตชินจูกุ ซึ่งเป็นหนึ่งในเขตเศรษฐกิจที่สำคัญ และเขตชิบูยะ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งศูนย์รวมด้านวัฒนธรรม การค้า และธุรกิจ โตเกียวมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญหลายแห่ง เช่น โตเกียวดิสนีย์แลนด์, เซ็นโซจิ, ศาลเจ้าเมจิ, สวนฮามาริกีว, และโตเกียวทาวเวอร์ และยังเป็นที่ตั้งของโตเกียวสกายทรี สิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น[17] รวมถึง "เส้นทางระบายน้ำเขตรอบนอกเมืองหลวง" หรือ "อุโมงค์ยักษ์คัสสึคาเบะ" ซึ่งใช้รับมือเหตุอุทกภัย[18] โตเกียวยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่ปลอดภัยที่สุดในโลกจากการสำรวจในระดับนานาชาติหลายครั้ง[19][20]

Remove ads

ชื่อเมือง

ข้อมูลเบื้องต้น ชื่อภาษาญี่ปุ่น, ชินจิไต ...

โตเกียวเคยถูกเรียกว่า "เอโดะ" (ญี่ปุ่น: 江戸; โรมาจิ: Edo) ซึ่งแปลว่า "ปากน้ำ"[21] ชื่อนี้มาจากที่ตั้งเริ่มแรกของชุมชนตรงบริเวณที่แม่น้ำซูมิดะไหลสู่อ่าวโตเกียว เมื่อกลายเป็นเมืองหลวงของจักรพรรดิในช่วงการฟื้นฟูเมจิใน ค.ศ. 1868 ก็เปลี่ยนชื่อเป็นโตเกียว แปลว่า "กรุงตะวันออก" ( โท "ตะวันออก" และ เกียว "กรุง") สอดคล้องกับเมืองหลวงต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกในการรวมคำที่แสดงถึงเมืองหลวง () ไว้ในชื่อของเมือง ตัวอย่างเช่น เกียวโต (京都), เคโจ (京城), ปักกิ่ง (北京), หนานจิง (南京), และซีจิง (西京)[21] ในตอนต้นยุคเมจิ บางครั้งเรียกโตเกียวว่า "โทเก"[22] ซึ่งเป็นวิธีอ่านอีกแบบของตัวคันจิ แต่ปัจจุบันเลิกใช้แล้ว[23]

Remove ads

ประวัติศาสตร์

สรุป
มุมมอง

ก่อน ค.ศ. 1869 (ยุคเอโดะ)

โตเกียวแต่เดิมเป็นหมู่บ้านประมงเล็ก ๆ ที่ชื่อเอโดะ ต่อมาใน ค.ศ. 1457 ปราสาทเอโดะได้ถูกสร้างขึ้น และต่อมาในปีทศวรรษที่ 1590 เป็นยุคที่โทกูงาวะ อิเอยาซุได้เริ่มปราบหัวเมืองต่าง ๆ ซึ่งภายหลังจากปราบหัวเมืองต่าง ๆ ลงได้อย่างราบคาบแล้วใน ค.ศ. 1603 เขาได้สถาปนารัฐบาลโชกุนขึ้นปกครองประเทศ โดยมีเอโดะเป็นที่ตั้งของ "บากูฟุ" (รัฐบาลทหาร) และสถาปนาตนขึ้นเป็นโชกุน เมืองเอโดะจึงได้กลายเป็นศูนย์กลางของรัฐบาลทหารของเขาซึ่งมีอำนาจปกครองทั้งประเทศ ในช่วงเวลาต่อมาในยุคเอโดะ เมืองเอโดะก็ขยายตัวขึ้นจนกลายเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเมืองหนึ่งในโลก โดยมีประชากรมากกว่า 1 ล้านคนใน คริสต์ศตวรรษที่ 18[24] และเป็นที่ยอมรับว่าเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น[25] แม้ว่าองค์จักรพรรดิประทับอยู่ในนครหลวงเฮอังเกียว (เกียวโต)

ค.ศ. 1869–1943

เอโดะได้เปลี่ยนชื่อเป็นโตเกียว (เมืองหลวงตะวันออก) เมื่อ ค.ศ. 1868 หลังจากการล่มสลายของระบอบปกครองภายใต้โชกุนเอโดะและรวบรวมอำนาจคืนสู่จักรพรรดิ จักรพรรดิเมจิผู้ทรงพระเยาว์เคยเสด็จเยือนโตเกียวครั้งหนึ่งในช่วงปลาย ค.ศ. 1868 และในที่สุดก็เสด็จย้ายเข้ามาประทับใน ค.ศ. 1869 โดยก่อนหน้านี้โตเกียวเป็นศูนย์กลางทางการเมืองของประเทศอยู่แล้ว[26] แต่การที่จักรพรรดิทรงย้ายมาประทับจึงทำให้โตเกียวกลายเป็นเมืองหลวงของจักรพรรดิโดยพฤตินัยด้วย โดยที่ปราสาทเอโดะเดิมได้เปลี่ยนเป็นพระราชวังหลวงโตเกียว

ในยุคเมจิ โตเกียวมีการพัฒนาโดยได้รับอิทธิพลจากตะวันตก เช่น การเปิดบริการโทรเลขระหว่างโตเกียวกับโยโกฮามะใน ค.ศ. 1869 และการเปิดบริการรถไฟสายแรกระหว่างชิมบาชิกับโยโกฮามะใน ค.ศ. 1872[26] ต่อมาได้มีการจัดตั้งเทศบาลนครโตเกียวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 1889

โตเกียวเมโทรสายกินซะช่วงระหว่างอูเอโนะถึงอาซากูซะเป็นรถไฟใต้ดินสายแรกที่สร้างขึ้นในญี่ปุ่นและเอเชียตะวันออก ซึ่งสร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ค.ศ. 1927[27]

ในคริสต์ศตวรรษที่ 20 โตเกียวประสบภัยพิบัติใหญ่สองครั้ง ได้แก่ ในเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่คันโต ค.ศ. 1923 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตหรือสูญหาย 140,000 คน และในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง[28]

ค.ศ. 1943–1945

ใน ค.ศ. 1943 เทศบาลนครโตเกียวได้ควบรวมเข้ากับจังหวัดโตเกียวเพื่อจัดตั้งเป็น "มหานครโตเกียว" (ญี่ปุ่น: 東京都; โรมาจิ: Tōkyō-to) นับตั้งแต่นั้นมา องค์การปกครองมหานครโตเกียวก็ทำหน้าที่เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ครอบคลุมทั้งจังหวัดโตเกียวเดิม โดยครอบคลุมในส่วนของเขตพิเศษของโตเกียวที่เคยเป็นพื้นที่ของเทศบาลนครโตเกียวมาก่อนด้วย

สงครามโลกครั้งที่สองทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของโตเกียวถูกทำลายอย่างกว้างขวาง เนื่องมาจากการโจมตีทางอากาศและการใช้อาวุธเพลิงของฝ่ายสัมพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง เหตุการณ์การทิ้งระเบิดที่โตเกียวใน ค.ศ. 1944 และ 1945 คาดว่าได้คร่าชีวิตพลเรือนไปเป็นจำนวนระหว่าง 75,000 ถึง 200,000 ราย และทำให้ตัวเมืองมากกว่าครึ่งถูกทำลาย[29] ในคืนวันที่ 9–10 มีนาคม ค.ศ. 1945 มีการจู่โจมของอเมริกาที่ชื่อว่า "ปฏิบัติการมีตติงเฮาส์" (Operation Meetinghouse)[30] ระเบิดเพลิงเกือบ 700,000 ลูกตกลงมายังฝั่งตะวันออกของเมือง ส่วนใหญ่ตกในพื้นที่ที่อยู่อาศัยหนาแน่น พื้นที่สองในห้าของเมืองถูกเผาทั้งหมด อาคารมากกว่า 276,000 หลังถูกทำลาย พลเรือน 100,000 รายเสียชีวิต และบาดเจ็บอีก 110,000 ราย[31][32] ระหว่าง ค.ศ. 1940 ถึง 1945 ประชากรในโตเกียวลดลงจาก 6,700,000 คน เหลือน้อยกว่า 2,800,000 คน ผู้คนส่วนใหญ่ที่สูญเสียบ้านต้องอาศัยอยู่ในกระท่อมชั่วคราวที่ชำรุดทรุดโทรม[33]

ค.ศ. 1945–1972

Thumb
ย่านมารูโนอูจิในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1950 โตเกียวยังไม่มีตึกสูงจนกระทั่งมีการยกเลิกข้อจำกัดความสูงของอาคารในคริสต์ทศวรรษ 1960
Thumb
การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 1964 ที่โตเกียว เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนผ่านจากเมืองที่ถูกทำลายจากสงครามสู่มหานครสมัยใหม่

หลังสงครามโลกครั้งที่สอง โตเกียวกลายเป็นฐานบัญชาการของกองกำลังสัมพันธมิตรซึ่งเข้ายึดครองญี่ปุ่น โดยมีนายพลดักลาส แมกอาเธอร์ แห่งสหรัฐอเมริกาเป็นผู้บัญชาการ การฟื้นฟูเมืองในช่วงแรกอิงตามแบบแผน "เมโทรโพลิแทนกรีนเบลต์" (Metropolitan Green Belt) ของกรุงลอนดอนที่วางไว้ตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1930 แต่ถูกยกเลิกไปเนื่องจากสงคราม[34] อย่างไรก็ตาม แผนดังกล่าวต้องถูกลดทอนลง เนื่องจากนโยบายการรัดเข็มขัดทางการเงินที่เรียกว่า "ดอดจ์ไลน์" (Dodge Line) ซึ่งมีที่มาจากโจเซฟ ดอดจ์ (Joseph Dodge) ที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจแนวเสรีนิยมใหม่ของแมกอาเธอร์ จึงเน้นเฉพาะการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมเป็นหลัก ใน ค.ศ. 1947 เขตพิเศษ 35 เขตในระบบเดิมถูกจัดระเบียบใหม่เป็น 23 เขตพิเศษดังที่ใช้มาจนถึงปัจจุบัน เศรษฐกิจของโตเกียวยังไม่ขยายตัวอย่างรวดเร็วจนกระทั่งราว ค.ศ. 1950 เมื่อภาคอุตสาหกรรมหนักกลับมาผลิตได้ในระดับก่อนสงคราม[35][34] หลังสิ้นสุดการยึดครองญี่ปุ่นใน ค.ศ. 1952 โตเกียวเริ่มเปลี่ยนเป้าหมายจากการฟื้นฟูสู่การพัฒนาที่เหนือกว่าระดับก่อนสงคราม ตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1950 เป็นต้นมา ระบบรถไฟและรถไฟใต้ดินของโตเกียวขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยมีจุดสำคัญคือการเปิดให้บริการชิงกันเซ็ง รถไฟความเร็วสูงสายแรกของโลก ที่วิ่งระหว่างโตเกียวกับโอซากะใน ค.ศ. 1964 ปีเดียวกันนี้ โตเกียวยังได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมอื่น ๆ เช่น ทางด่วนชูโตะ เพื่อตอบรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 1964 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่จัดขึ้นในเอเชีย ในช่วงนี้เอง มีการผ่อนปรนข้อจำกัดความสูงของอาคารที่บังคับใช้มาตั้งแต่ ค.ศ. 1920 ที่จำกัดความสูงไว้ไม่เกิน 31 เมตร เพื่อรองรับความต้องการของสำนักงานและอาคารสมัยใหม่ที่เริ่มมีเทคโนโลยีต้านแผ่นดินไหว[36] โดยเริ่มจากอาคารคาซูมิงาเซกิ (สูง 147 เมตร) ซึ่งสร้างเสร็จใน ค.ศ. 1968 จากนั้นอาคารสูงก็เริ่มกลายเป็นภาพประจำเมือง ระหว่างยุคของการฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว โตเกียวได้จัดงานฉลองครบรอบ 500 ปี ใน ค.ศ. 1956[37] และใน ค.ศ. 1968 หมู่เกาะโองาซาวาระซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของสหรัฐอเมริกาตั้งแต่สงครามยุติ ก็ถูกส่งคืนให้ญี่ปุ่น[38] ใน ค.ศ. 1967 เรียวกิจิ มิโนเบะ นักเศรษฐศาสตร์สายมาร์กซิสต์ ได้รับเลือกเป็นผู้ว่าราชการมหานครโตเกียว และดำรงตำแหน่งนาน 12 ปี เขาเป็นที่จดจำจากนโยบายรัฐสวัสดิการ เช่น การให้บริการรักษาพยาบาลฟรีแก่ผู้สูงอายุ การช่วยเหลือครอบครัวที่มีเด็ก รวมถึงการต่อต้านมลพิษอย่างจริงจัง แม้นโยบายเหล่านี้จะก่อให้เกิดการขาดดุลงบประมาณอย่างมาก[39]

ค.ศ. 1973–ปัจจุบัน

Thumb
การพัฒนาเขตธุรกิจในชินจูกุเริ่มต้นในคริสต์ทศวรรษ 1970

แม้ว่าวิกฤตการณ์น้ำมัน ค.ศ. 1973 จะยุติการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วหลังสงคราม แต่ญี่ปุ่นก็ยังคงรักษาสถานะเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของโลกไว้ได้จนถึง ค.ศ. 2010 เมื่อถูกประเทศจีนแซงหน้าไป[40] โตเกียวสามารถรักษาการพัฒนาไว้ได้ต่อเนื่อง จากสถานะที่เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การเมือง และวัฒนธรรมของประเทศ ใน ค.ศ. 1978 หลังการประท้วงรุนแรงที่ซันริซูกะยาวนานหลายปี ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะก็เปิดใช้งานในฐานะประตูสู่โตเกียวแห่งใหม่ ส่วนท่าอากาศยานฮาเนดะปรับบทบาทเป็นสนามบินภายในประเทศเป็นหลัก[41] บริเวณชินจูกุตะวันตก ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของศูนย์บำบัดน้ำโยโดบาชิขนาดใหญ่จนถึง ค.ศ. 1965 ก็ได้กลายเป็นเขตธุรกิจใหม่ที่เต็มไปด้วยอาคารระฟ้าสูงกว่า 200 เมตร[42]

ใน ค.ศ. 1985 ข้อตกลงพลาซาที่นำโดยสหรัฐอเมริกาเพื่อกดค่าเงินดอลลาร์ มีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น โดยเฉพาะบริษัทขนาดเล็กและกลางในโตเกียว[43] รัฐบาลจึงหันมาใช้นโยบายกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ เป็นผลให้เกิดภาวะฟองสบู่ราคาสินทรัพย์ มีโครงการพัฒนาที่ดินในเมืองมากมาย และราคาที่ดินพุ่งสูง ใน ค.ศ. 1990 ราคาประเมินของพระราชวังหลวงโตเกียวสูงกว่ามูลค่าทั้งรัฐแคลิฟอร์เนีย[44] ตลาดหลักทรัพย์โตเกียวกลายเป็นตลาดที่มีมูลค่ารวมสูงที่สุดในโลก และบริษัทเอ็นทีที ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในโตเกียว ก็กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก[12][45]

Thumb
กีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 ถูกเลื่อนมาแข่งขันใน ค.ศ. 2021 เนื่องจากการระบาดทั่วของโควิด-19

หลังฟองสบู่แตกในต้นคริสต์ทศวรรษ 1990 ญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอยยาวนานซึ่งเรียกว่า "ทศวรรษที่สาบสูญ" เป็นช่วงที่เศรษฐกิจเติบโตต่ำหรือไม่เติบโตเลย เกิดภาวะเงินฝืดและราคาทรัพย์สินทรุดลง[46] โตเกียวก็สูญเสียความโดดเด่นในเวทีโลกลงในช่วงสามทศวรรษดังกล่าว อย่างไรก็ตาม โตเกียวยังคงมีการพัฒนาเมืองใหม่ ๆ เช่น เอบิซุการ์เดนเพลซ, เทนโนซุไอล์, ชิโอโดเมะ, รปปงงิฮิลส์, ชินางาวะ, และฝั่งมารูโนอูจิของสถานีรถไฟโตเกียว โครงการถมทะเลก็ยังคงเป็นแนวทางการขยายตัวของเมืองต่อเนื่อง โดยเฉพาะย่านโอไดบะที่กลายเป็นศูนย์กลางการค้าปลีกและบันเทิงที่สำคัญ ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 มีการเสนอแผนย้ายศูนย์กลางราชการบางส่วนจากโตเกียวไปยังเมืองอื่น[47] เพื่อลดความแออัดและกระจายการพัฒนาไปทั่วประเทศ[48] แต่แผนดังกล่าวถูกต่อต้านอย่างหนัก จนใน ค.ศ. 2003 นายกรัฐมนตรีจุนอิจิโร โคอิซูมิ สั่งยุติการอภิปรายเรื่องนี้ในรัฐสภา[49][50] ใน ค.ศ. 2013 สำนักงานกิจการวัฒนธรรม (Agency for Cultural Affairs) ได้ย้ายจากคาซูมิงาเซกิไปยังเกียวโต นับเป็นหน่วยงานราชการกลางหน่วยแรกที่ย้ายออกจากโตเกียว[51]

เมื่อวันที่ 7 กันยายน ค.ศ. 2013 คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ประกาศให้โตเกียวเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 ทำให้โตเกียวเป็นเมืองแรกในเอเชียที่จัดโอลิมปิกถึงสองครั้ง[52] อย่างไรก็ตาม การแข่งขันต้องเลื่อนออกไปจัดระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม ถึง 8 สิงหาคม ค.ศ. 2021 เนื่องจากการระบาดทั่วของโควิด-19[53]

Remove ads

ภูมิศาสตร์

สรุป
มุมมอง
Thumb
หมู่เกาะโอะงะซะวะระซึ่งมีจุดที่ใต้สุดและตะวันออกสุดของญี่ปุ่น

โตเกียวตั้งอยู่ในที่ราบคันโตติดกับอ่าวโตเกียว มีขนาดประมาณ 90 กม. จากตะวันออกถึงตะวันตก และ 25 กม. จากเหนือถึงใต้ ทิศตะวันออกติดกับจังหวัดชิบะ ทิศตะวันตกติดกับจังหวัดยามานาชิ ทิศใต้ติดกับจังหวัดคานางาวะ และทิศเหนือติดกับจังหวัดไซตามะ เขตการปกครองของโตเกียวนั้นรวมไปถึงหมู่เกาะอิซุและหมู่เกาะโองาซาวาระด้วย จึงทำให้โตเกียวมีจุดที่อยู่ใต้สุดและตะวันออกสุดของญี่ปุ่นอยู่ในพื้นที่ด้วย

ทางตะวันออกของโตเกียวเป็นที่ราบตะกอนน้ำพาเช่นบริเวณปากแม่น้ำซูมิดะและแม่น้ำเอโดะ พื้นดินค่อนข้างอ่อนจึงทำให้เกิดการทรุดตัวของพื้นดิน[54] อ่าวโตเกียวถูกถมที่เพื่อสร้างพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ยุคเอโดะ[55] และเริ่มมีการถมที่เพื่อสร้างสถานที่กำจัดขยะตั้งแต่ปี 1927[56] ปัจจุบันพื้นที่ประมาณร้อยละ 20 ของอ่าวโตเกียวกลายเป็นพื้นที่ถูกถม[57] ในอำเภอนิชิตามะทางตะวันตกเป็นที่สูง โดยมีเขาคูโมโตริซึ่งมีความสูง 2,017 ม. เป็นจุดที่สูงที่สุดในโตเกียว โตเกียวตั้งอยู่บนรอยเลื่อนที่มีพลังซึ่งอยู่ใกล้ผิวโลกมาก จึงมีการคาดการณ์ว่าอาจจะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขึ้น[58]

ทั้งหมู่เกาะอิซุและโองาซาวาระเป็นหมู่เกาะภูเขาไฟ หมู่เกาะอิซุมีภูเขาไฟที่ยังมีพลังอยู่จำนวนมาก เช่นภูเขาไฟโอยามะบนเกาะมิยาเกะที่ระเบิดในปี 2000[59] ส่วนหมู่เกาะโองาซาวาระนั้นอยู่ห่างจากแผ่นดินใหญ่มากและมีสัตว์ท้องถิ่นหลายชนิด จนบางครั้งถูกเรียกว่าหมู่เกาะกาลาปาโกสแห่งตะวันออก[60]

ภูมิอากาศ

ตามการแบ่งเขตภูมิอากาศแบบเคิปเปน โตเกียวอยู่ในเขตภูมิอากาศชุ่มชื้นกึ่งเขตร้อน (Cfa)[61] และตามการแบ่งเขตภูมิอากาศในประเทศญี่ปุ่น โตเกียวอยู่ในเขตภูมิอากาศชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งมีลักษณะเด่นคือมีความแตกต่างระหว่างฤดูชัดเจน อากาศเปลี่ยนแปลงง่ายในแต่ละวัน ฤดูร้อนมีอุณหภูมิสูงและฝนตกมาก ฤดูหนาวมีวันที่แดดออกและอากาศแห้ง

โตเกียวเป็นตัวอย่างของปรากฏการณ์เกาะความร้อน ซึ่งเป็นผลจากการปล่อยความร้อนโดยวิธีต่าง ๆ เช่นไอร้อนจากเครื่องปรับอากาศหรือรถยนต์ และการพัฒนาตัวเมืองทำให้มีพื้นที่สีเขียวน้อยลง[62]

ข้อมูลเพิ่มเติม ข้อมูลภูมิอากาศของ23 เขตพิเศษของโตเกียว (ค.ศ. 1981–2017), เดือน ...
ข้อมูลเพิ่มเติม ข้อมูลภูมิอากาศของโตเกียวตะวันตก (ค.ศ. 1981–2017), เดือน ...
Remove ads

การเมืองการปกครอง

สรุป
มุมมอง
Thumb
ศาลาว่าการมหานครโตเกียว เขตชินจูกุ ออกแบบโดยเค็นโซ ทังเงะ

การปกครองท้องถิ่น

ตามกฎหมายของญี่ปุ่น จังหวัดโตเกียวมีสถานะเป็น โทะ (ญี่ปุ่น: ; โรมาจิ: to) ซึ่งแปลว่า "มหานคร"[68] โตเกียวเป็นจังหวัดที่มีประชากรมากที่สุดและหนาแน่นที่สุดในญี่ปุ่น โดยมีประชากรเฉลี่ย 6,100 คนต่อตารางกิโลเมตร (16,000 คนต่อตารางไมล์) แต่มีพื้นที่ขนาดเล็กเป็นอันดับ 3 ของประเทศ รองจากจังหวัดโอซากะและจังหวัดคางาวะ โครงสร้างการบริหารมีความคล้ายคลึงกับจังหวัดอื่น ๆ ของญี่ปุ่น เขตพิเศษ 23 เขต (ญี่ปุ่น: 特別区; โรมาจิ: tokubetsu-ku; ทับศัพท์: โทกูเบ็ตสึกุ) ซึ่งเคยเป็นพื้นที่ของนครโตเกียวก่อน ค.ศ. 1943 ต่างมีสถานะเป็นเทศบาลที่มีนายกเทศมนตรีและสภาเป็นของตนเอง และมีสถานะเทียบเท่าเทศบาลนครทั่วไป

นอกจาก 23 เขตพิเศษแล้ว โตเกียวยังประกอบด้วยนคร (ญี่ปุ่น: ; โรมาจิ: shi; ทับศัพท์: ชิ) 26 แห่ง, เมือง (ญี่ปุ่น: ; โรมาจิ: -chō หรือ machi; ทับศัพท์: โจ หรือ มาจิ) 5 แห่ง และหมู่บ้าน (ญี่ปุ่น: ; โรมาจิ: son หรือ mura; ทับศัพท์: ซง หรือ มูระ) อีก 8 แห่ง โดยแต่ละแห่งมีองค์การปกครองท้องถิ่นเป็นของตนเอง องค์การปกครองมหานครโตเกียวทำหน้าที่ดูแลการบริหารทั่วทั้งพื้นที่มหานคร ได้แก่ เขตพิเศษทั้ง 23 เขต นคร เมือง และหมู่บ้านต่าง ๆ โดยมีผู้ว่าราชการที่มาจากการเลือกตั้งที่ทำหน้าที่บริหาร และมีสภามหานครที่มาจากการเลือกตั้งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ โดยองค์การปกครองมหานครโตเกียวมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เขตชินจูกุ

ผู้ว่าราชการมหานครโตเกียวมีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี ผู้ว่าราชการคนปัจจุบันคือ ยูริโกะ โคอิเกะ ซึ่งได้รับเลือกตั้งครั้งแรกใน ค.ศ. 2016 หลังจากที่ผู้ว่าราชการคนก่อน โยอิจิ มาซูโซเอะ ลาออก และได้รับเลือกตั้งใหม่อีกใน ค.ศ. 2020 และ ค.ศ. 2024 ฝ่ายนิติบัญญัติของโตเกียวเรียกว่า สภามหานครโตเกียว ประกอบด้วยสมาชิก 127 คน มีหน้าที่ออกและแก้ไขข้อบัญญัติของมหานครโตเกียว อนุมัติงบประมาณ (ซึ่งอยู่ที่ 8.5 ล้านล้านเยนในปีงบประมาณ 2024)[69] และลงมติแต่งตั้งตำแหน่งบริหารสำคัญตามที่ผู้ว่าราชการเสนอ เช่น รองผู้ว่าราชการมหานครโตเกียว สมาชิกสภาทั้งหมดมาจากการเลือกตั้งเช่นกัน โดยมีวาระ 4 ปี[70]

เทศบาล

Thumb
แผนที่โตเกียวเน้นอำเภอนิชิตามะ (เน้นสีเขียว)
Thumb
แผนที่หมู่เกาะอิซุ
Thumb
แผนที่หมู่เกาะโองาซาวาระ

หลังจากการควบรวมเทศบาลครั้งใหญ่ในยุคเฮเซเสร็จสิ้นใน ค.ศ. 2001 โตเกียวประกอบด้วยเทศบาลทั้งหมด 62 แห่ง ได้แก่ 23 เขตพิเศษ, 26 นคร, 5 เมือง และ 8 หมู่บ้าน ทุกเทศบาลในญี่ปุ่นมีนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรง และมีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปีเท่ากัน เขตพิเศษทั้ง 23 ครอบคลุมพื้นที่ของนครโตเกียวเดิม ส่วนเทศบาลอีก 30 แห่งตั้งอยู่ในพื้นที่ทามะ และอีก 9 แห่งอยู่ในหมู่เกาะรอบนอกของโตเกียว

เขตพิเศษของโตเกียว (ญี่ปุ่น: 特別区; โรมาจิ: tokubetsu-ku; ทับศัพท์: โทกูเบ็ตสึกุ) ครอบคลุมพื้นที่ของนครโตเกียวที่เคยมีอยู่ก่อน ค.ศ. 1943 แต่ละเขตได้เพิ่มคำว่า "City" ต่อท้ายชื่อทางการในภาษาอังกฤษ เช่น "Chiyoda City" อย่างไรก็ตาม สถานะตามกฎหมายของแต่ละเขตใกล้เคียงกับระบบเขตในลอนดอนหรือนครนิวยอร์กมากกว่า เขตพิเศษไม่มีอำนาจจัดการในบางด้าน เช่น ระบบประปา การบำบัดน้ำเสีย และการดับเพลิง ซึ่งเป็นหน้าที่ขององค์การปกครองมหานครโตเกียว เพื่อชดเชยภาระด้านงบประมาณดังกล่าว องค์การปกครองมหานครโตเกียวเป็นผู้จัดเก็บภาษีเทศบาลแทนเขตพิเศษ[71] "เขตใจกลางเมือง" 3 เขต ได้แก่ เขตชิโยดะ เขตชูโอ และเขตมินาโตะ เป็นศูนย์กลางธุรกิจของโตเกียว โดยมีประชากรในเวลากลางวันมากกว่ากลางคืนถึง 7 เท่า[72] โดยเฉพาะเขตชิโยดะซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐบาลญี่ปุ่น บริษัทใหญ่ ๆ หลายแห่ง รวมถึงพระราชวังของจักรพรรดิญี่ปุ่น แต่กลับมีจำนวนประชากรอยู่อาศัยน้อยที่สุดในบรรดาเขตทั้งหมด[73]

ทางด้านตะวันตกของเขตพิเศษคือพื้นที่ที่ประกอบด้วยนคร เมือง และหมู่บ้าน ซึ่งมีสถานะทางกฎหมายเทียบเท่ากับเทศบาลในจังหวัดอื่น หลายแห่งเป็น "เมืองที่พักอาศัย" ของผู้ที่ทำงานในเขตเมืองชั้นใน แต่บางเมือง เช่น ทาจิกาวะ ก็มีฐานเศรษฐกิจของตนเอง พื้นที่เหล่านี้มักเรียกรวมกันว่า "พื้นที่ทามะ" หรือ "โตเกียวตะวันตก" ด้านตะวันตกสุดของพื้นที่นี้คืออำเภอนิชิตามะ ซึ่งเป็นพื้นที่ภูเขาสูง ไม่เหมาะแก่การพัฒนาเมือง ภูเขาที่สูงที่สุดในโตเกียวคือเขาคูโมโตริ มีความสูง 2,017 เมตร (6,617 ฟุต) ภูเขาอื่น ๆ ได้แก่ เขาทากาโนซุ (1,737 เมตร (5,699 ฟุต)), โอดาเกะ (1,266 เมตร (4,154 ฟุต)) และมิตาเกะ (929 เมตร (3,048 ฟุต)) ทะเลสาบโอกูตามะซึ่งตั้งอยู่บนแม่น้ำทามะใกล้กับจังหวัดยามานาชิ เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของโตเกียว และเป็นแหล่งเก็บน้ำสำคัญ อำเภอนิชิตามะประกอบด้วย 3 เมือง ได้แก่ ฮิโนเดะ มิซูโฮะ และโอกูตามะ และ 1 หมู่บ้านคือ ฮิโนฮาระ องค์การปกครองมหานครโตเกียวได้กำหนดให้ ฮาจิโอจิ ทาจิกาวะ มาจิดะ โอเมะ และทามะนิวทาวน์ เป็นศูนย์กลางระดับภูมิภาคของพื้นที่ทามะ[74]

Thumb
โอกิโนโตริชิมะ อยู่ห่างจากใจกลางโตเกียว 1,740 กิโลเมตร (1,081 ไมล์) และเป็นเกาะที่อยู่ใต้สุดของญี่ปุ่น

โตเกียวมีหมู่เกาะนอกชายฝั่งจำนวนมาก บางแห่งอยู่ห่างจากศูนย์กลางของโตเกียวถึง 1,850 กิโลเมตร (1,150 ไมล์) เนื่องจากระยะทางห่างไกลจากสำนักงานใหญ่ขององค์การปกครองมหานครโตเกียวในเขตชินจูกุ หมู่เกาะเหล่านี้จึงมีสำนักงานสาขาย่อยหรือกิ่งจังหวัดดูแล

  • หมู่เกาะโองาซาวาระ ประกอบด้วย ชิจิจิมะ นิชิโนชิมะ ฮาฮาจิมะ คิตาอิโวจิมะ อิโวจิมะ และมินามิอิโวจิมะ นอกจากนี้ยังดูแลเกาะเล็กห่างไกล 2 แห่ง ได้แก่ มินามิโตริชิมะ ซึ่งเป็นจุดตะวันออกสุดของญี่ปุ่น และโอกิโนโตริชิมะ ซึ่งเป็นจุดใต้สุดของประเทศญี่ปุ่น และอยู่ห่างจากโตเกียวถึง 1,850 กิโลเมตร[75] การอ้างสิทธิ์เขตเศรษฐกิจจำเพาะ (EEZ) รอบเกาะโอกิโนโตริชิมะของญี่ปุ่นถูกจีนและเกาหลีใต้คัดค้าน โดยทั้งสองประเทศถือว่าโอกิโนโตริชิมะเป็นเพียงโขดหินที่ไม่มีสิทธิในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ[76] หมู่เกาะอิโวจิมะและเกาะที่อยู่ห่างไกลไม่มีประชากรถาวร โดยเป็นเพียงที่ตั้งฐานทัพของกองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่น และประชากรท้องถิ่นจะอาศัยอยู่เฉพาะในชิจิจิมะและฮาฮาจิมะเท่านั้น หมู่เกาะทั้งหมดนี้มีสถานะเป็นทั้งกิ่งจังหวัดโองาซาวาระ และเป็นหมู่บ้านโองาซาวาระด้วย
Remove ads

เขตการปกครอง

สรุป
มุมมอง

เขตพิเศษ

Thumb
แผนที่แสดงที่ตั้งของ 23 เขตพิเศษ

โตเกียวมี 23 เขตพิเศษ (ญี่ปุ่น: 特別区; โรมาจิ: tokubetsu-ku) ได้แก่

โตเกียวตะวันตก

นอกเหนือเขตพิเศษซึ่งจัดว่าเป็นใจกลางของมหานครโตเกียวแล้ว ทางพื้นที่ฝั่งตะวันตกของ 23 เขตพิเศษยังเป็นที่ตั้งของฝั่งโตเกียวตะวันตก หรือที่ชาวญี่ปุ่นมักเรียกว่า "ฝั่งทามะ" (ญี่ปุ่น: 多摩地域; โรมาจิ: Tamachiiki)" ซึ่งประกอบด้วยนคร 26 แห่ง

นคร

Thumb
ที่ตั้งของแต่ละนครใน โตเกียวตะวันตก

26 นครในโตเกียวตะวันตก ได้แก่

อำเภอนิชิตามะ

ทางตะวันตกสุดของจังหวัดโตเกียวนั้นเป็นที่ตั้งของอำเภอขนาดใหญ่ชื่อ "อำเภอนิชิตามะ" (ญี่ปุ่น: 西多摩郡; โรมาจิ: Nishitama-gun) เป็นพื้นที่ที่มีภูมิประเทศแบบภูเขา ซึ่งอำเภอนิชิตามะนี้เองเป็นที่ตั้งของภูเขาที่สูงที่สุดในโตเกียวคือเขาคูโมโตริซึ่งมีความสูงกว่า 2,017 เมตร และยังมีทะเลสาบโอกูตามะซึ่งตั้งอยู่ระหว่างรอยต่อกับจังหวัดยามานาชิอีกด้วย อำเภอนิชิตามะประกอบด้วยสามเมืองและหนึ่งหมู่บ้าน ได้แก่

เกาะและกิ่งจังหวัด

Thumb
เกาะฮาจิโจจิมะ ในหมู่เกาะอิซุ

นอกชายฝั่งออกไปนั้น โตเกียวมีหมู่เกาะมากมาย แต่เนื่องจากระยะทางที่ห่างไกลมากจากศาลาว่าการมหานครโตเกียว ดังนั้นทางรัฐบาลจึงได้ตั้งสำนักงานท้องถิ่นขึ้นบนเกาะนั้นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน โดยมีหมู่เกาะที่เป็นที่รู้จักอยู่ คือ

หมู่เกาะอิซุเป็นหมู่เกาะภูเขาไฟ และยังเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติฟูจิ-ฮาโกเนะ-อิซุ ซึ่งหมู่เกาะอิซุนี้เป็นที่ตั้งของ 3 กิ่งจังหวัด

หมู่เกาะโองาซาวาระ จากเหนือจรดใต้ประกอบไปด้วยเกาะชิชิจิมะ เกาะนิชิโนะชิมะ เกาะฮาฮาจิมะ เกาะคิตะอิโอ และเกาะมินามิอิโอ ซึ่งโองาซาวาระยังบริหารเกาะเล็ก ๆ ที่ห่างไกลอีกสองเกาะคือเกาะมินามิโตริชิมะ ดินแดนส่วนตะวันออกที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากโตเกียวกว่า 1,850 กม. และเกาะโอกิโนะโตริชิมะ เกาะที่อยู่ใต้สุดของประเทศญี่ปุ่น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ประชาชนท้องถิ่นแท้ ๆ จะพบเฉพาะบนเกาะชิจิและเกาะฮาฮะเท่านั้น

ข้อมูลเพิ่มเติม กิ่งจังหวัด, เทศบาลท้องถิ่น ...
Remove ads

เศรษฐกิจ

สรุป
มุมมอง
Thumb
ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น
Thumb
ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว

โตเกียวเป็น 1 ใน 3 ศูนย์กลางทางการเงินของโลกร่วมกับนครนิวยอร์กและลอนดอน โตเกียวเป็นเขตเมืองที่มีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากการสำรวจพบว่าในเขตอภิมหานครโตเกียวซึ่งมีประชากรประมาณ 35.2 ล้านคน มี GDP รวม 1.191 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2005 (เทียบด้วยความเท่าเทียมกันของอำนาจซื้อ) ทำให้โตเกียวเป็นเขตเมืองที่มี GDP สูงที่สุดในโลก[77] ในปี 2008 มีบริษัท 47 แห่งในรายชื่อ Fortune Global 500 ที่มีฐานอยู่ในโตเกียว ซึ่งมากเป็นเกือบ 2 เท่าของเมืองอันดับ 2 [78]

โตเกียวเป็น 1 ในศูนย์กลางหลักทางการเงินระหว่างประเทศ[79] และมีสำนักงานใหญ่ของวาณิชธนกิจและบริษัทประกันภัยที่ใหญ่ที่สุดในโลกหลายแห่ง ในระหว่างการพัฒนาทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งเป็นการพัฒนาภายใต้การควบคุมจากทางการ บริษัทใหญ่ ๆ หลายแห่งย้ายสำนักงานใหญ่จากเมืองต่าง ๆ เช่น โอซากะ (ซึ่งเป็นเมืองหลวงทางการค้าในอดีต) มายังโตเกียว โดยหวังว่าจะได้ประโยชน์จากการที่ติดต่อรัฐบาลได้สะดวกขึ้น แต่แนวโน้มนี้ก็ชะลอตัวลงเมื่อประชากรเพิ่มขึ้นและทำให้ค่าครองชีพสูงตามขึ้นไปด้วย

ตลาดหลักทรัพย์โตเกียวเป็นตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นและใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก โดยมูลค่าการซื้อขายในตลาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ในปี 2003 โตเกียวมีพื้นที่เพื่อการเกษตรกรรมถึง 8.46 ตร.กม.[80] ตามข้อมูลของกระทรวงเกษตรป่าไม้และประมงญี่ปุ่น การเกษตรกรรมมีมากในพื้นที่โตเกียวตะวันตก โดยสินค้าที่เน่าเปื่อยง่ายเช่นผัก ผลไม้ และดอกไม้สามารถขนส่งอย่างสะดวกและรวดเร็วไปยังตลาดในเขตพิเศษของจังหวัด โดยมี "โคมัตสึนะ" หรือผักโขมเป็นผักเศรษฐกิจ

Remove ads

การคมนาคม

สรุป
มุมมอง
Thumb
เครือข่ายรถไฟฟ้าในโตเกียว

โตเกียวซึ่งเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคคันโตตอนใต้ เป็นศูนย์กลางการคมนาคมภายในประเทศและระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ทั้งทางรถไฟ รถยนต์ และทางอากาศ การขนส่งมวลชนภายในโตเกียวที่สำคัญคือรถไฟและรถใต้ดินที่มีเครือข่ายกว้างใหญ่และมีระบบการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ

ภายในโตเกียวมีท่าอากาศยานนานาชาติฮาเนดะ (โตเกียว) ซึ่งให้บริการเที่ยวบินในประเทศเป็นส่วนใหญ่และเป็นสนามบินที่มีจำนวนผู้ใช้บริการมากที่สุดในเอเชีย[81] ท่าอากาศยานนานาชาติหลักคือท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะซึ่งอยู่ในจังหวัดชิบะ เกาะต่าง ๆ ในหมู่เกาะอิซุก็มีสนามบินของตนเอง เช่น ท่าอากาศยานฮาจิโจจิมะ ท่าอากาศยานมิยาเกจิมะ ท่าอากาศยานโอชิมะ และมีเที่ยวบินมายังสนามบินฮาเนดะ แต่หมู่เกาะโองาซาวาระยังไม่มีสนามบิน เพราะมีข้อโต้แย้งว่าไม่ควรสร้างสนามบินเพราะจะเป็นภัยคุกคามต่อธรรมชาติของเกาะ[82]

นอกจากนี้รถไฟยังเป็นการคมนาคมหลักในโตเกียว ซึ่งมีเครือข่ายทางรถไฟในเมืองขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยบริษัทรถไฟญี่ปุ่นตะวันออกเป็นผู้ให้บริการรถไฟที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งรวมถึงรถไฟสายยามาโนเตะ ซึ่งวิ่งเป็นวงผ่านสถานีที่สำคัญของโตเกียวเช่นสถานีโตเกียวและชินจูกุ รถไฟฟ้าใต้ดินให้บริการโดยโตเกียวเมโทรและสำนักขนส่งมหานครโตเกียว (โทเอ)

Remove ads

ประชากร

สรุป
มุมมอง
ข้อมูลเพิ่มเติม ตามพื้นที่1, ตามวัย² ...
ข้อมูลเบื้องต้น สัญญาติ, จำนวน ...

โตเกียวมีประชากรทั้งหมดประมาณ 12.79 ล้านคนในเดือนตุลาคม 2007 ซึ่งในจำนวนนั้น 8.65 ล้านคนอาศัยอยู่บริเวณ 23 เขตการปกครองพิเศษในโตเกียว ในเวลากลางวันมีประชากรเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 2.5 ล้านคนเนื่องจากมีประชากรจากเมืองใกล้เคียงเดินทางเข้ามาเพื่อทำงานหรือศึกษาเล่าเรียน[ต้องการอ้างอิง] ปรากฏการณ์นี้จะเป็นได้ชัดในเขตชิโยดะ เขตชูโอ และเขตมินาโตะ ซึ่งมีประชากรมากกว่า 2 ล้านคนในเวลากลางวัน แต่น้อยกว่า 3 แสนคนในเวลากลางคืน

ในปี 2005 ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในโตเกียวมากที่สุด 5 เชื้อชาติได้แก่ จีน (123,611 คน) เกาหลี (106,697 คน) ฟิลิปปินส์ (31,077 คน) อเมริกัน (18,848 คน) และอังกฤษ (7,696 คน)[ต้องการอ้างอิง]

การศึกษา

โตเกียวมีมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยหลายแห่ง ซึ่งรวมทั้งมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่นและมีชื่อเสียงในระดับโลก เช่นมหาวิทยาลัยโตเกียว สถาบันเทคโนโลยีโตเกียว มหาวิทยาลัยวาเซดะ มหาวิทยาลัยนครโตเกียว มหาวิทยาลัยโชวะ มหาวิทยาลัยฮิตตสึบาชิ มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์แห่งโตเกียว มหาวิทยาลัยเคโอ เป็นต้น[85][86]

ในแต่ละเขตมีโรงเรียนประถมศึกษาและโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นซึ่งเป็นการศึกษาภาคบังคับ โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายของรัฐบริหารโดยคณะกรรมการการศึกษาของมหานครโตเกียว นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนเอกชนที่เปิดสอนตั้งแต่อนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาตอนปลายหลายแห่ง[87]

Remove ads

เมืองพี่น้อง

โตเกียวมีเมืองพี่น้อง 11 แห่ง[88]

ข้อมูลเพิ่มเติม เมือง, ค.ศ. ...

หมายเหตุ

  1. คำว่า "โตเกียว" ในที่นี้หมายถึง พื้นที่ที่เป็นเขตพิเศษของโตเกียว โดยเขตชินจูกุเป็นที่ตั้งของศาลาว่าการมหานครโตเกียว[2]

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

Loading related searches...

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.

Remove ads