คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ (เกิด 8 มีนาคม พ.ศ. 2515) ชื่อเล่น กุ้ง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ สังกัดพรรคเพื่อไทย และอดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ในสมัยบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ปัจจุบันสังกัดพรรคประชาชน
Remove ads
ประวัติ
ทัศนีย์ เกิดเมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2515 เป็นบุตรนายพรทัศน์ นางผ่องศรี บูรณุปกรณ์ มีน้อง 2 คน คือทัศนัย บูรณุปกรณ์ อดีตนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ และธารทิพย์ บูรณุปกรณ์ นักธุรกิจ ทัศนีย์ยังเป็นหลานปกรณ์ บูรณุปกรณ์ อดีต สส. และบุญเลิศ บูรณุปกรณ์[1] อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่
สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษา จากโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย ระดับปริญญาตรีบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และระดับปริญญาโท เศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
Remove ads
งานการเมือง
สรุป
มุมมอง
ทัศนีย์ เป็นนักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดเชียงใหม่ เคยดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลช้างเผือก (พ.ศ. 2546 - 2554) ต่อมาดำรงตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ในสมัยของนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ก่อนที่จะลาออกมาลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ ในปี พ.ศ. 2554 ในสังกัดพรรคเพื่อไทย โดยลงในเขต 1 แทนสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ที่ขึ้นไปลงในระบบบัญชีรายชื่อ และได้รับการเลือกตั้งเป็นครั้งแรก
หลังรัฐประหารในประเทศไทย ปี พ.ศ. 2557 ทัศนีย์เข้ารับตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่อีกครั้ง ต่อมาในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2559 เธอและน้องสาวถูกนายทหารพระธรรมนูญจับกุมตัวตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เนื่องจากมีการกระทำเข้าข่ายทำผิดข้อหายุยงปลุกปั่นฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ก่อนจะนำไปปรับทัศนคติภายในมณฑลทหารบกที่ 11 รักษาพระองค์ เป็นเวลา 7 วัน[2] ก่อนจะถูกปล่อยตัวในเดือนสิงหาคม[3] และต่อมาเธอลาออกจากตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ มีผลเมื่อวันที่ 1 กันยายน[4]
ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 ทัศนีย์ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ เขต 1 และได้รับเลือกตั้งอีกสมัย แต่ในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ. 2563 เธอให้การสนับสนุนบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ซึ่งเป็นคู่แข่งของผู้สมัครที่พรรคเพื่อไทยให้การสนับสนุน[5]
ทัศนีย์มีบทบาทในการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎรหลายครั้ง อาทิ การอภิปรายกรณีที่ได้กล่าวว่าได้เขียนใบลาออกไว้ให้พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา จนพลเอกประยุทธ์ต้องออกมาตอบโต้ว่าให้เก็บไว้ใช้เอง[6]
ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 ทัศนีย์ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่อีกครั้ง โดยย้ายมาที่เขต 3 แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง ต่อมาหลังจากพรรคเพื่อไทยประกาศจัดตั้งรัฐบาลโดยมีพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติเข้าร่วมด้วย เธอได้ลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2566[7] จากนั้นเมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2567 เธอได้เปิดเผยว่าได้สมัครสมาชิกพรรคก้าวไกลตั้งแต่เมื่อวันที่ 31 มกราคม[8] จนกระทั่งหลังพรรคก้าวไกลถูกยุบตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เธอได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาชนในเวลาต่อมาทันที[9]
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว 2 สมัย คือ
- การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2554 จังหวัดเชียงใหม่ สังกัดพรรคเพื่อไทย
- การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 จังหวัดเชียงใหม่ สังกัดพรรคเพื่อไทย
Remove ads
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2566 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)[10]
- พ.ศ. 2563 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)[11]
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads