คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
ท่าอากาศยานนานาชาติปารีส-ชาร์ล เดอ โกล
ท่าอากาศยานในปารีส ประเทศฝรั่งเศส จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
ท่าอากาศยานปารีส-ชาร์ล เดอ โกล (อังกฤษ: Paris-Charles de Gaulle Airport; ฝรั่งเศส: Aéroport Paris-Charles-de-Gaulle) หรือเรียกโดยทั่วไปว่า ท่าอากาศยานรัวซี (Roissy) ตั้งอยู่ที่รัวซี-อ็อง-ฟรองซ์ ประเทศฝรั่งเศส เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เป็นท่าอากาศยานที่มีผู้ใช้บริการมากเป็นอันดับสามในยุโรปรองจากท่าอากาศยานอิสตันบูลและท่าอากาศยานลอนดอนฮีทโธรว์ และเป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดในสหภาพยุโรป โดยตั้งชื่อตามชาร์ล เดอ โกล อดีตประธานาธิบดีของฝรั่งเศส
ท่าอากาศยานชารล์ เดอ โกลเป็นฐานการบินหลักของแอร์ฟรานซ์ สายการบินประจำชาติ และเป็นเมืองสำคัญสำหรับสายการบินต้นทุนต่ำอีซี่ย์เจ็ตและบูเอลิง ท่าอากาศยานชาร์ล เดอ โกลเป็นท่าอากาศยานที่มีสายการบินให้บริการมากที่สุดในโลกด้วยสายการบินกว่า 105 สายให้บริการที่ท่าอากาศยาน[4]
Remove ads
รายละเอียดท่าอากาศยาน
สรุป
มุมมอง

ท่าอากาศยานปารีส-ชารล์ เดอ โกลมีพื้นที่ประมาณ 32.38 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่สามจังหวัดและหกเทศบาล ห่างจากกรุงปารีสไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 25 กิโลเมตร โดยการเลือกสร้างท่าอากาศยานในพื้นที่นอกตัวเมืองเป็นการลดการเวนคืนที่ดินและเพิ่มโอกาสในการขยายพื้นที่ในอนาคต
การดำเนินงานของท่าอากาศยานจะอยู่ภายใต้กรุ๊ปอาเดเปผ่านแปรีสแอโรพอร์ต ซึ่งก็ดูแลการดำเนินงานของท่าอากาศยานออร์ลีย์ (ทางตอนใต้ของปารีส), ท่าอากาศยานเลอ บูร์เกต์ (ทางตะวันตกเฉียงใต้ของท่าอากาศยานชาร์ล เดอ โกล ซึ่งปัจจุบันใช้สำหรับการบินทั่วไปและการจัดงานปารีสแอร์โชว์) และท่าอากาศยานขนาดเล็กหลายแห่ง ในเขตชานเมืองของกรุงปารีส และท่าอากาศยานอื่นๆ ทั่วโลก ทั้งทางตรงและทางอ้อม[5]
อาคารผู้โดยสาร
ท่าอากาศยานปารีส-ชารล์ เดอ โกลมีอาคารผู้โดยสาร 3 หลัง: อาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 เป็นอาคารที่เก่าแก่ที่สุดและตั้งอยู่ตรงข้ามอาคารผู้โดยสารหลังที่ 3; อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ตั้งอยู่อีกฝั่งหนึ่งซึ่งมีอาคารผู้โดยสารย่อย 7 อาคาร (2เอ ถึง 2จี) เดิมทีอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 สร้างขึ้นสำหรับสายการบินแอร์ฟรานซ์โดยเฉพาะ[6] แต่ก็ได้มีการขยายอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 มากขึ้นเรื่อยๆและปัจจุบันเป็นก็มีสายการบินอื่นๆ มาใช้งานอาคารหลังที่ 2 ร่วมด้วย อาคารผู้โดยสาร 2เอ ถึง 2เอฟ เชื่อมต่อกันด้วยทางเดินยกระดับและตั้งอยู่ติดกัน มรทางกลับกันอาคารผู้โดยสาร 2G เป็นอาคารดาวเทียมที่เชื่อมต่อกันด้วยรถรับส่ง
อาคารผู้โดยสารหลังที่ 1

อาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 ถูกออกแบบโดยพอล อันเดร ในลักษณะอาคารคล้ายหมึกยักษ์ ประกอบด้วยอาคารผู้โดยสารกลางทรงกลม และอาคารหลังรองขนาดเล็ก 7 หลัง ที่มีประตูขึ้นเครื่อง โดยอาคารหลังรองทั้งหมดเชื่อมต่อกับอาคารกลางด้วยทางเดินใต้ดิน
อาคารผู้โดยสารกลางเป็นอาคารห้าชั้น โดยการดำเนินงานจะถูกแบ่งให้แต่ละส่วนจะอยู่ในชั้นเดียว ชั้นแรกของอาคารเป็นส่วนของการดำเนินงานด้านเทคนิค ซึ่งไม่สามารถเข้าถึงได้โดยสาธารณะ ชั้นสองจะเป็นส่วนของสถานีรถไฟรับส่งระหว่างอาคาร CDGVAL จุดเช็คอินส่วนที่ 5 และ 6 ร้านค้าและร้านอาหารต่างๆ ชั้น 3 ของอาคารจะเป็นส่วนของจุดเช็กอินหลัก จุดจอดรถแท็กซี่ ป้ายรถประจำทาง และจุดเรียกรถรับ-ส่งพิเศษ ชั้น 4 ของอาคารจะเป็นส่วนของผู้โดยสารขาออก ซึ่งมีร้านค้าปลอดภาษีและด่านควบคุมชายแดนสำหรับประตูทางออกขึ้นเครื่อง ชั้นที่ห้ามีสายพานรับสัมภาระสำหรับผู้โดยสารขาเข้า และชั้นด้านบนทั้งสี่ชั้นเป็นพื้นที่จอดรถและสำนักงานสายการบิน[7]
อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2

อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 เป็นอาคารฝั่งทิศใต้ของท่าอากาศยาน โดยจะแบ่งเป็นอาคารผู้โดยสารย่อย 7 อาคาร (2เอ ถึง 2จี) อาคารผู้โดยสาร 2เอ ถึง 2เอฟ ถูกเชื่อมต่อกันด้วยทางเดิน แต่อาคารผู้โดยสาร 2จี เป็นอาคารดาวเทียม (Satellite Terminal) ซึ่งอยู่ห่างจากอาคารหลัก 800 ม. (0.5 ไมล์) โดยจะเชื่อมต่อกับอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1, 2เอ-เอฟ และ 3 ผ่านรถบัสขนส่ง อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ทั้งหมดจะถูกเชื่อมต่อกับส่วนอื่นๆ ของท่าอากาศยานผ่านรถไฟรับส่งระหว่างอาคาร CDGVAL และเชื่อมต่อกับตัวเมืองปารีสผ่านรถไฟแปรีสแอร์เออแอร์รีเจียนอลเอกซ์เพรสและรถไฟความเร็วสูงเตเฌเว
การถล่มของอาครผู้โดยสาร 2อี

ไม่นานหลังจากการเปิดตัวอาคารผู้โดยสาร 2อี ในวันที่ 23 พฤษภาคม ค.ศ. 2004 ส่วนหนึ่งของอาคารพังลงใกล้กับทางออกขึ้นเครื่อง อี50 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 4 คน โดยเป็นชาวจีน 2 คน คนหนึ่งเป็นชาวเช็ก อีกคนเป็นชาวเลบานอน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกสามคนได้รับบาดเจ็บ
อาคารผู้โดยสารหลังที่ 3
![]() | ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
การใช้อาคารผู้โดยสาร
การใช้อาคารผู้โดยสารในช่วงการระบาดทั่วของโควิด-19
ในช่วงระหว่างการระบาดทั่วของโควิด-19 ท่าอากาศยานจำเป็นต้องลดการให้บริการ โดยในวันที่ 30 มีนาคม ค.ศ. 2020 ท่าอากาศยานประกาศว่าจะปิดอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 และ 3 เป็นการชั่วคราว โดยจะย้ายเที่ยวบินทั้งหมดไปยังอาคารผู้โดยสาร 2 และยังได้ทำการปิดอาคารผู้โดยสาร 2ดี ในช่วงเริ่มต้นของการแพร่ระบาด สายการบินที่ให้บริการถูกแบ่งกลุ่มตามพันธมิตร: กลุ่มสายการบินสตาร์อัลไลแอนซ์ จะดำเนินการที่อาคารผู้โดยสาร 2เอ ซึ่งมีแอร์แคนาดาและเอธิโอเปียนดำเนินการแต่เดิม กลุ่มสายการบินวันเวิล์ดได้ย้ายการดำเนินงานไปยังอาคารผู้โดยสาร 2ซี และกลุ่มสายการบินสกายทีมจะใช้งานอาคารผู้โดยสาร 2อี และ 2เอฟ ต่อมาระหว่างเดือนธันวาคม ค.ศ. 2020 ถึงมิถุนายน ค.ศ. 2021 มีเพียงอาคารผู้โดยสาร 2อี และ 2เอฟ เท่านั้นที่เปิดให้บริการ โดยเที่ยวบินนอกพื้นที่เชงเกนจะให้บริการที่อาคารผู้โดยสาร 2อี และเที่ยวบินเชงเกนจะให้บริการที่อาคารผู้โดยสาร 2เอฟ อาคารผู้โดยสารที่ 2 หลังอื่นๆ ก็ไดเริ่มเปิดให้บริการต่อมา แต่เนื่องด้วยข้อจำกัดด้านความจุของอาคารผู้โดยสาร 2เอ ทางท่าอากาศยานจึงได้เปิดให้บริการอาคารผู้โดยสาร 3 อีกครั้งในวันที่ 3 พฤษภาคม ค.ศ. 2022 สำหรับสายการบินเช่าเหมาลำและสายการบินต้นทุนต่ำทั้งหมด[8] ณ ขณะนั้น อาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 ยังคงปิดปรับปรุงอยู่ จนได้เปิดให้บริการอีกครั้งในวันที่ 1 ธันวาคม ค.ศ. 2022 เพื่อกระจายการบริการจากอาคารผู้โดยสารที่ 2[9]
รัวซีโพล
รัวซีโพลเป็นกลุ่มอาคารในพพื้นที่ของท่าอากาศยานชาร์ล เดอ โกลที่ประกอบด้วยอาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า โรงแรม และสถานีขนส่งสาธารณะ สถานที่สำคัญ ได้แก่ อาคารสำนักงานใหญ่ของสายการบินแอร์ฟรานซ์,[10] คอนติเนนตัลสแควร์,[11] โรงแรมฮิลตันปารีสชาร์ลเดอโกลล์แอร์พอร์ต[12] และอาคารเลอโดม ในอาคารเลอโดมเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของแอร์ฟรานซ์คอนเซาล์ทติง ภายในคอนติเนนตัลสแควร์เป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของเซอร์แวร์ และศูนย์วัคซีนแอร์ฟรานซ์
Remove ads
รายชื่อสายการบิน
สรุป
มุมมอง
เส้นทางการบินที่ให้บริการในปัจจุบัน
ณ เดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2023 ท่าอากาศยานปารีส-ชาร์ล เดอ โกลมีสายการบินที่ให้บริการเส้นทางดังนี้:
เที่ยวบินขนส่งสินค้า (คาร์โก)
Remove ads
อุบัติเหตุและอุบัติการณ์
- ในวันที่ 6 มกราคม ค.ศ. 1993 ขณะลงจอดจากเส้นทางเบรเมินไปยังปารีส เครื่องบินแดช 8-300ในลุฟท์ฮันซ่าซิตีไลน์ เที่ยวบินที่ 5634 พุ่งชนเข้ากับพื้นดินห่างจากทางวิ่งของท่าอากาศยานชาร์ล เดอ โกลไป 1,800 เมตร (5,900 ฟุต) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 4 คน อุบัติเหตุในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่นักบินได้ทำการยกเลิกการลงจอดหลังจากที่ยางล้อลงจอดเครื่องบินโบอิง 747 ของโคเรียนแอร์ได้ระเบิดขณะลงจอดจนท่าอากาศยานต้องทำการปิดทางวิ่ง
- ในวันที่ 25 กรกฎาคม ค.ศ. 2000 เครื่องบินคองคอร์ดของแอร์ฟรานซ์ เที่ยวบินที่ 4590 เที่ยวบินเช่าเหมาลำจากปารีสไปยังท่าอากาศยานนานาชาติจอห์น เอฟ. เคนเนดี ได้ตกลงสู่อาคารโรงแรมเล เรอเล เบลอส์ ส่งผลให้ทุกคนบนเครื่องและอีกสี่คนบนพื้นดินเสียชีวิต ขณะทำการขึ้นบิน ล้อลงจอดของคองคอร์ดได้ชนกับชิ้นส่วนจากฝาครอบเครื่องยนต์บนแมคดอนเนลล์ ดักลาส ดีซี-10-30 ของคอนติเนนตัลแอร์ไลน์ที่ขึ้นบินก่อนหน้า จนยางล้อของคองคอร์ดฉีกขาดและพุ่งเข้าชนกับถังเชื้อเพลิงของเครื่องจนเสียหาย เกิดเชื้อเพลิงรั่วไหลและเกิดเพลิงไหม้
- ในวันที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ. 2001 เครื่องบินขนส่งสินค้าชอร์ต 360 ของสตรีมไลน์ เที่ยวบินที่ 200 ในเส้นทางลอนดอน-ลูตันไปยังปารีส ชนเข้ากับแมคดอนเนลล์ดักลาส เอ็มดี-83 ของแอร์ลิเบอร์เต้ เที่ยวบินที่ 8807 จากเหตุการณ์นี้ มีเพียงนักบินผู้ช่วยบนเครื่อง 360 เท่านั้นที่เสียชีวิต
สถิติ

Remove ads
การคมนาคมที่เกี่ยวข้องกับอากาศยาน
![]() | ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ดูเพิ่ม
- การขนส่งในประเทศฝรั่งเศส
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads