คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
ไทยเบฟเวอเรจ
บริษัทเครื่องดื่มของไทย จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) (อังกฤษ: Thai Beverage Public Company Limited; SGX: y92) รู้จักกันในชื่อ ไทยเบฟ (ThaiBev) เป็นบริษัทมหาชนจำกัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็นบริษัทอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถือหุ้นใหญ่โดยเจริญ สิริวัฒนภักดี มหาเศรษฐีชาวไทยเชื้อสายจีน เป็นหนึ่งในบริษัทหลักของกลุ่มทีซีซี จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ปัจจุบันมีมูลค่าตามราคาตลาดมากกว่า 13,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
Remove ads
ประวัติ
สรุป
มุมมอง
ไทยเบฟเวอเรจก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2546 โดยเจริญ สิริวัฒนภักดี มีจุดประสงค์เพื่อรวมกิจการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเบียร์และสุราชั้นนำของไทยของเจริญและผู้ร่วมทุนรายอื่น ๆ เข้ามาเป็นกลุ่มบริษัทเดียวกัน เดิมไทยเบฟวางแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แต่ถูกต่อต้านจากกลุ่มพระสงฆ์ จึงย้ายไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (SGX) ในวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 ภายหลังจากจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ไทยเบฟได้ขยายขอบเขตธุรกิจโดยแบ่งธุรกิจออกเป็น 4 สายธุรกิจ ได้แก่ สุรา เบียร์ เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และอาหาร
ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2556 บริษัทนี้ได้ซื้อกิจการกลุ่มบริษัทเฟรเซอร์ แอนด์ นีฟ ที่ประเทศสิงคโปร์ ด้วยเงิน 11.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[3]
ไทยเบฟให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศ โดยประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถือเป็นตลาดหลักที่มีศักยภาพการเติบโตสูง ด้วยประชากรกว่า 600 ล้านคน และมีสภาพเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นทุกปีช่วยสนับสนุนให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ความร่วมมือระหว่างไทยเบฟและเฟรเซอร์ แอนด์ นีฟ, ลิมิเต็ด (F&N) ในด้านตราสินค้า ช่องทางการจัดจำหน่าย การประสานงานด้านการขายและการตลาด รวมถึงความช่วยเหลือสนับสนุนจากตัวแทนจำหน่ายได้ช่วยต่อยอดการขยายธุรกิจสู่ประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค
ไทยเบฟได้รับคะแนนสูงที่สุดในโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องดื่มของโลก จากการจัดโดย S&P Global เป็นสมาชิกในกลุ่มดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (The Dow Jones Sustainability Indices-DJSI) โดยไทยเบฟ ได้รับคะแนนสูงสุดจากการประเมินด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี 2564 (Corporate Sustainability Assessment 2021) เป็นปีที่ 4 และได้รับการยอมรับให้เป็นสมาชิกของประเภท กลุ่มดัชนีโลก (World Index) เป็นปีที่ 5 และเป็นสมาชิกของกลุ่มดัชนีตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets Index) เป็นปีที่ 6[4]
Remove ads
สินค้าและบริการ
สรุป
มุมมอง
เครื่องดื่มที่มีแอลกฮอล์และไม่มีแอลกฮอล์ รวมถึงอาหารและเบเกอรี่
ปัจจุบัน บริษัทในกลุ่มไทยเบฟเวอเรจ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2560) มีทั้งหมด 138 บริษัท ดังนี้
- บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)
- บริษัทในประเทศไทย 93 บริษัท แบ่งเป็น บริษัทย่อย 92 บริษัท และบริษัทซึ่งเป็นบริษัทรวมของบริษัทย่อย 1 บริษัท คือบริษัทเพ็ทฟอร์ม (ไทยแลนด์) จำกัด
- บริษัทในต่างประเทศ 44 บริษัท (แบ่งเป็นบริษัทย่อย 41 บริษัท และบริษัทซึ่งเป็นบริษัทร่วมของบริษัทย่อย 3 บริษัท คือ Liquorland Limited, Fraser and Neave, Limited* และ Frasers Centrepoint Limited*
- โรงงานงานผลิตสุรา 18 แห่ง โรงงานผลิตเบียร์ 3 แห่ง และโรงงานผลิตเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์อีก 12 แห่ง
- บริษัทไทยเบฟ จำหน่าย สินค้าครอบคลุมกว่า 90 ประเทศทั่วโลกและ มีโรงงาน กลั่นสุรา 5 แห่งในประเทศสกอตแลนด์ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตที่มีชื่อเสียงในการผลิตเหล้าวิสกี้ชั้นนำระดับโลกอย่าง Balblair, Old Pulteney และ Speyburn นอกจากนี้ยังมีโรงงานผลิตสุราอีก 1 แห่งในประเทศจีน ได้แก่ Yulinquan
โดยมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 4 กลุ่ม ได้แก่
- กลุ่มสุรา ได้แก่ รวงข้าว, แม่โขง, แสงโสม, หงส์ทอง และเบลนด์ 285
- กลุ่มเบียร์ คือ เบียร์ช้าง เป็นผลิตภัณฑ์หลักที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในกลุ่มนักดื่มเบียร์ชาวไทย
- กลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกฮอล์ที่มีชื่อเสียง ประกอบด้วย เครื่องดื่มตราช้าง (โซดา, น้ำดื่ม และน้ำแร่ธรรมชาติ), ชาเขียวโออิชิ, เอส โคล่า, 100 พลัส, น้ำดื่มคริสตัล และโซดาร็อคเมาเท็น
- กลุ่มอาหาร ประกอบไปด้วย ร้านอาหารที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจ ได้แก่ โออิชิ, ไฮด์แอนด์ซีค, หม่านฟู่หยวน, เอ็มเอกซ์ เค้กแอนด์เบเกอรี, โซอาเซียน, ฟู๊ดสตรีท, เคเอฟซี และล่าสุดคือร้านกาแฟสตาร์บัคส์
Remove ads
กรณีอื้อฉาวและการประท้วง
ใน พ.ศ. 2548 ไทยเบฟเวอเรจถูกวิจารณ์จากพระสงฆ์และกลุ่มศาสนาอื่น ๆ ทั่วประเทศ ในเวลานั้น หลังจากไทยเบฟเวอเรจประกาศเจตจำนงที่จะระดมทุนสาธารณะในรูปแบบการเสนอขายหุ้นครั้งแรกให้แก่สาธารณชน เพื่อจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ซึ่งจะกลายเป็นการระดมทุนสาธารณะครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย[5][6] ถึงแม้ว่าสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จะพยายามห้ามไม่ให้พระสงฆ์ประท้วง แต่ก็ยังมีพระสงฆ์ 2,000 รูปจากวัดพระธรรมกาย อ่านบทสวดมนต์หน้าอาคารตลาดหลักทรัพย์ เพื่อให้สั่งยุติการเสนอขายหุ้นครั้งแรกให้แก่สาธารณชนของไทยเบฟเวอเรจ[7][8][note 1] กลุ่มนี้เรียกร้องของความร่วมมือให้ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น หยุดบริษัทนี้[7][8][9] หลังจากประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยลาออก ไทยเบฟเวอเรจจึงย้ายไปจดทะเบียนที่ตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์แทน[10][11]
ในวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2564 มีคำสั่งปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดจัดหาวัคซีนโควิด-19 ให้พนักงานของไทยเบฟเวอเรจและครอบครัว 7.1 หมื่นคนทั่วประเทศ[12]
สำนักงานใหญ่
สรุป
มุมมอง
ปัจจุบันกลุ่มบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ อาคารแสงโสม และอาคารไทยเบฟควอเตอร์
อาคารแสงโสม
![]() | ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ (กุมภาพันธ์ 2025) |
ไทยเบฟควอเตอร์

ไทยเบฟควอเตอร์ (อังกฤษ: ThaiBev Quarter) เป็นอาคารสำนักงานความสูง 18 ชั้น ตั้งอยู่ริมถนนรัชดาภิเษก ในพื้นที่แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร โดยการปรับปรุงด้านหน้าอาคารใหม่จากอาคารที่ทำการเดิมของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ย้ายออกไปยังอาคารที่ทำการใหม่ตั้งแต่สิ้นปี พ.ศ. 2558[13] เพื่อใช้เป็นสำนักงานของบริษัทในกลุ่มไทยเบฟเวอเรจ[14] โดยชื่อของอาคารนั้นหมายถึง "พื้นที่ของไทยเบฟเวอเรจ" เนื่องจากตัวอาคารและโครงการอื่น ๆ โดยรอบนั้นเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาย่านพระรามที่ 4 ของกลุ่มทีซีซี ส่วนอาคารสำนักงานใหญ่ของไทยเบฟเวอเรจยังอยู่ที่อาคารแสงโสมตามเดิม โดยมีพิธีบวงสรวงศาลพระภูมิเปิดอาคารอย่างไม่เป็นทางการเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2562 เวลา 06:58 น. และมีงาน Town Hall ในวันเดียวกัน[15] ก่อนจะมีพิธีอัญเชิญพระครุฑพ่าห์ขึ้นประดิษฐานพร้อมกับทำพิธีเปิดอาคารอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2563
ไทยเบฟควอเตอร์ประกอบด้วยอาคารสำนักงาน 2 อาคาร รวมพื้นที่ใช้สอย 48,273 ตารางเมตร ภายในตกแต่งแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ มีห้องประชุมหลายขนาด สำนักงานเสมือนสำหรับพนักงานและบุคคลภายนอก รวมถึงพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ ห้องฟิตเนส ลานกีฬา (บาสเกตบอล, ฟุตซอล, เทนนิส) และห้องคาราโอเกะ รวมถึงเชื่อมต่อกับสถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ของรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล และมีอาคารจอดรถรวม 496 คัน[15]
Remove ads
หมายเหตุ
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads