คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
ผิน ชุณหะวัณ
ทหารบกและนักการเมืองชาวไทย จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
จอมพล ผิน ชุณหะวัณ ป.จ. ม.ป.ช. ม.ว.ม. หรือ หลวงชำนาญยุทธศาสตร์ (14 ตุลาคม พ.ศ. 2434 – 26 มกราคม พ.ศ. 2516) เป็นทหารบกและนักการเมืองชาวไทย ผู้นำรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2490 และเคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร
Remove ads
ประวัติ
ผินเกิดที่ตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นบุตรของนายไข่ และ นางพลับ ชุณหะวัณ ชาวสวนและแพทย์แผนโบราณ มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 8 คนหนึ่งในนั้นคือ พล.ท. พจน์ ชุณหะวัณ หรือ ขุนพจน์ศรศักดิ์[3]
จอมพล ผิน ชุณหะวัณ สมรสครั้งแรกกับคุณหญิงวิบุลลักสม์ ชุณหะวัณ (พ.ศ. 2440 - พ.ศ. 2497) มีบุตร-ธิดา 5 คน คือ
- คุณหญิงอุดมลักษณ์ ศรียานนท์ (พ.ศ. 2456 - 2524) สมรสกับพล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์
- นางพร้อม ทัพพะรังสี (พ.ศ. 2458 - พ.ศ. 2542) สมรสกับ นายอรุณ ทัพพะรังสี เป็นมารดาของนาย กร ทัพพะรังสี
- ท่านผู้หญิงเจริญ อดิเรกสาร (22 มกราคม พ.ศ. 2460 - พ.ศ. 2555) สมรสกับพล.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร
- พล.อ. ชาติชาย ชุณหะวัณ (พ.ศ. 2463 - พ.ศ. 2541) สมรสกับท่านผู้หญิงบุญเรือน ชุณหะวัณ
- นางพูนสุข (พรสม) เชี่ยวสกุล (พ.ศ. 2465 - ปัจจุบัน) สมรสกับนายเฉลิม เชี่ยวสกุล
หลังจากคุณหญิงวิบุลลักสม์ถึงแก่อนิจกรรม จึงสมรสครั้งที่สองกับ นางสุภาพ ชุณหะวัณ มีบุตร 1 คน คือนายปรากรมศักดิ์ ชุณหะวัณ สมรสกับณัฏฐินี ชุณหะวัณ (สกุลเดิม สาลีรัฐวิภาค)
Remove ads
ชีวิตการรับราชการ
สรุป
มุมมอง

จอมพล ผิน ได้รับสมัครเข้าเป็นนักเรียนนายสิบ ที่โรงเรียนนายสิบ กรมทหารที่ 4 ราชบุรี เมื่อมีอายุได้ 16 ปี เมื่อจบหลักสูตรสามารถสอบไล่ได้คะแนนดีเยี่ยม จึงได้เลื่อนขั้นไปศึกษาต่อใน โรงเรียนนายร้อยทหารบก จนจบ (รุ่นเดียวกับจอมพล แปลก พิบูลสงคราม) และได้พระราชทานยศเป็นนายร้อยตรีเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2459[4] ประจำกรมทหารราบที่ 4 ราชบุรี จากนั้นในปี 2462 จึงได้ย้ายมารับราชการที่ กรมยุทธศาสตร์ทหารบก[5] หลังจากนั้นได้เข้าเรียนโรงเรียนเสนาธิการทหารบก เมื่อ พ.ศ. 2471 ขณะอายุได้ 37 ปีมียศและบรรดาศักดิ์เป็น ร้อยเอก ขุนชำนาญยุทธศาสตร์ ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น "หลวงชำนาญยุทธศาสตร์"[6] และ พ.ศ. 2472 ได้เลื่อนยศเป็นพันตรีในเวลาถัดมา
ยศทหาร
- 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2459 : รับพระราชทานยศเป็น"นายร้อยตรี"[4]
- 30 เมษายน พ.ศ. 2477 : รับพระราชทานยศเป็น"นายพันโท"[7]
- 1 เมษายน พ.ศ. 2480 : รับพระราชทานยศ"นายพันเอก"[8]
- 19 มิถุนายน พ.ศ. 2484 : รับพระราชทานยศ"นายพลตรี"[9]
- 7 กันยายน พ.ศ. 2486 : รับพระราชทานยศ"พลโท"[10]
- 17 เมษายน พ.ศ. 2493 : รับพระราชทานยศ"พลเอก"[11]
- 16 เมษายน พ.ศ. 2495 : รับพระราชทานยศ"พลเรือเอก"และ"พลอากาศเอก"[12]
- 31 มีนาคม พ.ศ. 2496 : รับพระราชทานยศ"จอมพล"[13]
ตำแหน่งราชการ
- พ.ศ. 2476 : เสนาธิการกองผสมปราบปรามกบฏบวรเดช และเสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 3
- พ.ศ. 2477 : รองผู้บังคับการมณฑลทหารบกที่ 3
- 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2478 : ผู้บังคับการมณฑลทหารบกที่ 3[14]
- พ.ศ. 2483 : รองแม่ทัพอีสาน
- 3 ตุลาคม พ.ศ. 2485 : ประจำกรมเสนาธิการทหารบก[15]
- พ.ศ. 2485 : ข้าหลวงทหารประจำสหรัฐไทยใหญ่ (สหรัฐไทยเดิม)
- พ.ศ. 2486 : ผู้ช่วยแม่ทัพกองทัพพายัพ และกลับไปเป็นข้าหลวงทหารประจำสหรัฐไทยเดิม
- พ.ศ. 2487 : ประจำกรมเสนาธิการทหารบก
- 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2488 : ออกจากประจำการ[16]
- 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 : รองผู้บัญชาการทหารบก[17]
- 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2491 : ผู้บัญชาการทหารบก[18]
- 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494 : สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2[19]
- 8 ธันวาคม พ.ศ. 2494 : ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี[20]
- พ.ศ. 2495 : และดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร
- 23 มิถุนายน พ.ศ. 2497 : รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม[21] รองจเรทหารทั่วไป
- 9 มิถุนายน พ.ศ. 2499 : จเรทหารทั่วไป[22]
- พ.ศ. 2500 : สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภท 2 สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ และวุฒิสมาชิก
- 31 มีนาคม พ.ศ. 2500 : รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร[23][24]
- พ.ศ. 2505 : เกษียณอายุราชการ
Remove ads
ฉายา
จอมพล ผิน ชุณหะวัณ ได้รับฉายาจากสื่อมวลชนว่า "บุรุษผู้รักชาติจนน้ำตาไหล" หรือ "วีรบุรุษเจ้าน้ำตา" เนื่องจากให้สัมภาษณ์ในเหตุการณ์รัฐประหาร เมื่อปี พ.ศ. 2490 ว่าทำไปเพราะ รักชาติ ขณะที่ให้สัมภาษณ์ทุกครั้งเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็มักน้ำตาไหลด้วยความตื้นตัน
วิกิคำคมมีคำคมเกี่ยวกับ ผิน ชุณหะวัณ
ถึงแก่อสัญกรรม
จอมพล ผิน ชุณหะวัณ ถึงแก่อสัญกรรมในวันศุกร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2516 ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า รวมอายุ 81 ปี 104 วัน
เกียรติยศ
สรุป
มุมมอง
บรรดาศักดิ์
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย
จอมพล ผิน ชุณหะวัณ ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์[28] ดังนี้
- พ.ศ. 2496 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 1 ปฐมจุลจอมเกล้า (ป.จ.) (ฝ่ายหน้า)[29]
- พ.ศ. 2495 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)[30]
- พ.ศ. 2493 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)[31]
- พ.ศ. 2484 –
เหรียญชัยสมรภูมิ สงครามอินโดจีน (ช.ส.)[32]
- พ.ศ. 2486 –
เหรียญชัยสมรภูมิ สงครามมหาเอเชียบูรพา (ช.ส.)[33]
- พ.ศ. 2477 –
เหรียญพิทักษ์รัฐธรรมนูญ (พ.ร.ธ.)[34]
- พ.ศ. 2486 –
เหรียญช่วยราชการเขตภายใน การรบสงครามมหาเอเชียบูรพา (ช.ร.)[35]
- พ.ศ. 2472 –
เหรียญจักรมาลา (ร.จ.ม.)[36]
- พ.ศ. 2493 –
เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 8 ชั้นที่ 2 (อ.ป.ร.2)[37]
- พ.ศ. 2496 –
เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 9 ชั้นที่ 1 (ภ.ป.ร.1)[38]
- พ.ศ. 2454 –
เหรียญบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 6 (ร.ร.ศ.6)
- พ.ศ. 2468 –
เหรียญบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 7 (ร.ร.ศ.7)
- พ.ศ. 2493 –
เหรียญพระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 9 (ร.ร.ศ.9)
- พ.ศ. 2475 –
เหรียญเฉลิมพระนคร 150 ปี (ร.ฉ.พ.)
- พ.ศ. 2500 –
เหรียญงานฉลอง 25 พุทธศตวรรษ
ต่างประเทศ
ลาว :
- พ.ศ. 2498 -
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ล้านช้างร่มขาว ชั้นประถมาภรณ์[39]
- พ.ศ. 2498 -
สหรัฐ :
- พ.ศ. 2500 -
ลีเจียนออฟเมอริต ชั้นผู้บังคับบัญชา[40][41]
- พ.ศ. 2500 -
พม่า :
- พ.ศ. 2500 -
เครื่องอิสริยาภรณ์สิริสุธรรมะ ชั้นอรรคมหาสิริสุธรรมะ[42]
- พ.ศ. 2500 -
Remove ads
เชิงอรรถ
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads