คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง

ภาษาฮังการี

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ภาษาฮังการี
Remove ads

ภาษาฮังการี (ฮังการี: Magyar nyelv, [ˈmɒɟɒr ˈɲɛlv]) เป็นภาษาตระกูลยูรัลซึ่งมีผู้พูดในประเทศฮังการีและในประเทศเพื่อนบ้าน มีผู้พูดภาษาฮังการีประมาณ 14.7 ล้านคน จำนวน 10 ล้านคนอาศัยอยู่ในประเทศฮังการี ในประเทศฮังการีและในประเทศสโลวาเกีย แถบตะวันตกของประเทศยูเครน ประเทศสโลวีเนียตอนเหนือ อาณาเขตตะวันตกและตอนกลางของประเทศโรมาเนีย (ทรานซิลเวเนีย) ประเทศเซอร์เบียตอนเหนือในเขตวอยวอดีนา และประเทศโครเอเชียตอนเหนือในเขตวอยวอดีนา เนื่องจากการถูกแยกประเทศราชอาณาจักรฮังการี ภายหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ในปีค.ศ. 1920 โดยสนธิสัญญาทริอานอง ทำให้มีชาวฮังการีจำนวนมากถูกตัดขาดจากกลุ่มชาติพันธุ์ของตนเองในดินแดนที่จักรวรรดิออสเตรียฮังการีเคยตั้งอยู่ ภาษาฮังการียังใช้พูดโดยกลุ่มชาวฮังการีพลัดถิ่นทั่วโลก โดยเฉพาะในทวีปอเมริกาเหนือ (ในสหรัฐ) ภาษาฮังการีจัดอยู่ในกลุ่มตระกูลภาษาฟินโนอุกริค ร่วมกับภาษาอื่นๆเช่น ภาษาฟินแลนด์ และภาษาเอสโตเนีย เป็นต้น ภาษาที่มีความใกล้ชิดกับภาษาฮังการีมากที่สุดคือ ภาษาแมนซี และภาษาคฮานตีในประเทศรัสเซียตอนกลาง (ไซบีเรีย)

ข้อมูลเบื้องต้น ภาษาฮังการี, ออกเสียง ...
ผู้พูดภาษาฮังการี
Remove ads

การจำแนก

ภาษาฮังการีเป็นภาษาในตระกูลภาษายูรัล (Uralic language family) ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1670 มีการสังเกตเห็นถึงความเชื่อมโยงของภาษาฮังการีและภาษาอื่น ๆ ในตระกูลยูราลิก และได้มีการบัญญัติตระกูลภาษายูรัล ปี ค.ศ.1717 ซึ่งต่อมาได้แบ่งย่อยลงมาได้เป็นกลุ่มภาษาฟินโน-ยูกริก (Finno-Ugric languages) โดยภาษาฮังกาเรียนจัดอยู่ในกลุ่มสาขาภาษายูกริก ร่วมกันภาษาแมนซีและภาษาคานซีในไซบีเรีย แต่ยังเป็นที่ถกเถียงกันในวงการภาษาศาสตร์อย่างกว้างขวาง

Remove ads

ชุดตัวอักษรฮังการี

ชุดตัวอักษรฮังการี (ฮังการี: magyar ábécé) เป็นส่วนขยายของชุดอักษรละตินที่ใช้ในการเขียนภาษาฮังการี ตัวอักษรฮังการีมีพื้นฐานมาจากอักษรละตินโดยมีตัวอักษรที่หลากหลายเพิ่มเข้ามา เพื่อแทนเสียงพยัญชนะและสระที่ไม่มีในภาษาละติน

ชุดตัวอักษรภาษาฮังการีโดยพื้นฐานมีตัวอักษรทั้งหมด 40 ตัว แต่แบบขยาย มีอยู่ 44 ตัว โดยเพิ่มตัวอักษร Q, W, X และ Y ซึ่งพบได้เฉพาะในคำยืมจากภาษาอื่นและในตัวสะกดวิสามานยนามแบบดั้งเดิม

ตัวอักษร 44 ตัว ในชุดตัวอักษรฮังการีแบบขยายมีดังนี้

ตัวพิมพ์ใหญ่
A Á B C Cs D Dz Dzs E É F G Gy H I Í J K L Ly M N Ny O Ó Ö Ő P Q R S Sz T Ty U Ú Ü Ű V W X Y Z Zs
ตัวพิมพ์เล็ก
a á b c cs d dz dzs e é f g gy h i í j k l ly m n ny o ó ö ő p q r s sz t ty u ú ü ű v w x y z zs
Remove ads

คำอธิบาย

สรุป
มุมมอง

สัญลักษณ์อักษรแต่ละตัวในกล่องด้านบนนับเป็นตัวอักษรเฉพาะในภาษาฮังการี โดยแยกสระเสียงสั้นและเสียงยาว (คล้ายภาษาไทย) เช่น ตัวอักษร o และ ó หรือ ö และ ő นับเป็นคนละตัวอักษร มีตำแหน่งของตัวเองในการเรียงลำดับ ไม่นับว่าเป็นสระเดียวกัน

แม้ว่าสระเสียงสั้นและสระเสียงยาวจะนับเป็นอักษรคนละตัวในในอักษรฮังการี แต่สำหรับพยัญชนะ แม้ว่าจะมีเสียงยาว (หรือมีการซ้ำเสียงต่อเนื่อง) ก็ยังนับเป็นอักษรตัวเดียวกัน

ในภาษาฮังการี การแสดงว่าพยัญชนะนั้นมีเสียงยาว จะทำได้โดยการเขียนอักษรเดียวกันซ้ำสองตัวแทนการใส่เครื่องหมายไว้ด้านบน เช่น tt, gg, zz (ette [ˈɛɛ] 'เขากิน'; gg [fyɡː] 'มันห้อยอยู่'; azzal [ˈɒɒl] 'กับอันนั้น') อย่างไรก็ดี ในภาษาฮังการี จะมีการใช้อักษรพยัญชนะละติน 2 หรือ 3 ตัวมาผสมกันเพื่อแสดงเสียงเสียงเดียว สำหรับเสียงที่ไม่มีในภาษาละติน (คล้ายกับภาษาโปแลนด์) ภาษาฮังการีมีอักษรประสม 9 ตัว คือ cs, dz, dzs, gy, ly, ny, sz, ty, zs

ในการเขียนอักษรพยัญชนะประสม (ประกอบด้วย cs, dz, dzs, gy, ly, ny, sz, ty, zs) ให้แสดงเสียงยาวนั้น ตามหลักการเขียนของภาษาฮังการี จะตัดอักษรด้านหลังตัวพยัญชนะประสมตัวแรกให้เหลือแต่เพียงอักษรละตินตัวแรก แล้วเอามาเขียนติดกับตัวมันเอง เช่น sz + szssz (asszony [ˈɒoɲ] 'ผู้หญิง'); ty + tytty (hattyú [ˈhɒuː] 'หงส์'); dzs + dzsddzs (briddzsel [ˈbrid͡ʒːɛl] 'ด้วยไพ่โปกเกอร์') ยกเว้นเฉพาะคำยาวที่เกิดจากคำสั้น ๆ ประสมกัน เช่น jegygyűrű [ˈjɛɟːyːryː] 'แหวนหมั้น' (jegy [ˈjɛɟ] + gyűrű ɟyːryː]) ไม่มีการตัดอักษรออกให้กลายเป็น jeggyűrű

การออกเสียง

สรุป
มุมมอง

ตารางต่อไปนี้คือการออกเสียงอักษรฮังการีตามหลักภาษาฮังการีมาตรฐาน

ข้อมูลเพิ่มเติม อักษร, ชื่อเรียก ...

ตัวอักษร ë ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของชุดตัวอักษรฮังการี อย่างไรก็ตาม นักภาษาศาสตร์ใช้ตัวอักษรนี้เพื่อจำแนกความต่างระหว่างเสียง e สั้น สองชนิด (แอะ และ เอะ) ในบางภาษาถิ่นของภาษาฮังการี มีการใช้อักษรนี้ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1770 โดยเยิดย์ ก็อลมาร์ (György Kalmár) แต่อักษรนี้ไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งของชุดตัวอักษรฮังการีมาตรฐาน เนื่องจากในภาษาฮังการีมาตรฐานไม่ได้จำแนกความต่างระหว่างเสียงทั้งสองนี้ (อย่างที่ในภาษาไทยแยกเสียง แอะ และ เอะ ออกจากกัน) อย่างไรก็ตาม เสียง ë (เอะ) ออกเสียงต่างจากเสียง e (แอะ) ในภาษาถิ่นของภาษาฮังการี 6 ภาษาจาก 10 ภาษา และออกเสียงอย่าง ö (เออะ) ในภาษาถิ่นของภาษาฮังการี 1 ภาษา (ภาษาถิ่นทรานซิลเวเนีย)

ทวิอักษร ch ยังปรากฏอยู่ในบางคำ (เช่น technika, monarchia) และออกเสียงเหมือนกับ h ส่วนในวิสามานยนาม ch จะออกเสียงเหมือน cs หรือบางครั้งออกเสียงเป็น h หรือ k (แบบภาษาเยอรมัน)

การเขียนแบบเดิม ที่ยังใช้ในชื่อเฉพาะและเอกสารทางประวัติศาสตร์

การเขียนแบบดั้งเดิม (บางส่วนมีความใกล้เคียงกับการเขียนแบบเยอรมัน) มีการใช้ในชื่อเฉพาะที่เป็นภาษาฮังการี โดยตารางด้านล่างจะเปรียบเทียบการเขียนแบบดั้งเดิม กับการอ่านออกเสียงแบบปัจจุบัน ตามการสะกดของภาษาฮังการีมาตรฐาน ดังนี้:

การเขียนแบบดั้งเดิม การอ่านออกเสียงตามหลักสมัยใหม่
พยัญชนะ
bb b
cz c
tz c
z c
ch cs
cz cs
č cs
ć cs
ts cs
csh cs
tsch cs
tzsch cs
chs cs
cy cs
ʟ cs
dd d
dsz dz
ds dzs
ff f
ph f
gh g
dgy ggy
dy gy
g gy
gi gy
gj gy
gʹ~g′ gy
ǵ gy
ġ gy
j gy
jj j
l j
y j
ck k
kh k
x ks
xy ksz
xz ksz
qu kv
ll l
l ll
w lv
j ly
l ly
li ly
ry ly
lly ly
′l(ʹl)~l′(lʹ)~ŀ ly
n ny
ni ny
nʹ~n′ ny
ń ny
ny
my ny
ph p
pp p
rh r
rr r
r
sch s
ss s
ss ssz
s sz
sc sz
sy sz
z sz
th t
tt t
ti ty
tʹ~t′ ty
ty
ky ty
u v
w v
s z
s zs
ss zs
zy zs
['s] zs

[7]

การเขียนแบบดั้งเดิม การอ่านตามหลักสมัยใหม่
สระ
a á
aa á
á
áh á
ä e
ae e
ai e
ay e
áe é
ái é
áy é
e é
ee é
é
éh é
i í
í
íh í
ii í
í
å o
o ó
óh ó
oo ó
ó
ua ó
â ö
åe ö
åi ö
åy ö
ö
ew ö
oe ö
oi ö
oy ö
ő
ő
ew ő
ia ő
ö ő
őh ő
öö ő
öő ő
óe ő
ói ő
óy ő
üa ő
u ú
úh ú
ú
uu ú
ú
ue ü
ui ü
uy ü
ü ű
űh ű
üő ű
üü ű
üű ű
úe ű
úi ű
úy ű
aj
aj
aÿ aj
ei aj
áë áj
áï áj
áÿ áj
åë oj
åï oj
åÿ oj
eu oj
oj
oj
oÿ oj
óë ój
óï ój
óÿ ój
au uj
uj
uj
uÿ uj
úë új
úï új
úÿ új
(g)y ~ gÿ gi
y ji
ý
(l)y ~ lÿ (l)i
(n)y ~ nÿ (ny)i or (n)i
(t)y ~ tÿ ti

โดยทั่วไปแล้ว ตัว y ในการเขียนแบบดั้งเดิมนั้น มักจะอ่านเป็น i ในการอ่านแบบปัจจุบัน (ตย..: Teleky, Rákóczy, zsy). ด้านล่างนี้คือตัวอย่างการอ่านด้วยหลักปัจจุบัน ที่มักจะมีการอ่านผิด เนื่องจากการสะกดที่ใช้หลักต่างจากปัจจุบัน มักพบในชื่อนามสกุล

ตัวอย่าง:

ข้อมูลเพิ่มเติม ชื่อ, การอ่านตามหลักสมัยใหม่ ...

ตัวนำหน้านาม และ คำเชื่อม แบบดั้งเดิม

ในอดีต การเรียนคำนำหน้านาม a/az มีหลักการเขียนดังนี้:

  • คำว่า az ก่อนสระและ h เช่น az ember (คน), az híd (สะพาน) ปัจจุบันจะเขียนแบบนี้หน้าสระเท่านั้น
  • ก่อนสระ — a': a' csillag (ดวงดาว) ปัจจุบันเขียนโดยไม่ใช้ดัวอาฟอสโตรฟี

มีการย่อคำว่า és (และ) ปัจจุบันจะย่อว่า s จะเขียนโดยใช้ตัวอาฟอสโตรฟีไว้ด้านหน้า เช่น ’s (เช่น föld ’s nép แผ่นดินและผู้คน)

Remove ads

การเรียงคำในพจนานุกรม

สรุป
มุมมอง

ถึงแม้ว่าอักษรฮังการีจะแยกอักษรเสียงสั้น และ เสียงยาม ให้เป็นอักษรคนละตัว แต่ในเวลาที่มีการเรียงคำในพจนานุกรม หรือ อรรถาภิธาน จะนับให้อยู่ในหมวดเดียวกัน อาทิเช่น O/Ó และ Ö/Ő จะไม่มีการแยกกันเป็นคนละหมวด แต่ระหว่าง Ö และ O จะแยกหมวดกัน โดย O มาก่อน Ö

การเรียงคำคำเดียวกัน จะมีการเรียงอักษรที่ข้างหน้าเป็นพิมพ์เล็ก มาก่อนพิมพ์ใหญ่ ซึ่งเป็นชื่อเฉพาะ อาทิ varga ตามมาด้วยคำว่า Varga.)

The polygraphic consonant signs are treated as single letters.

comb
cukor
csak <cs> มาหลัง <c>
...
folyik
folyó <ó> นับเป็นหมวดเดียวกับ <o>
folyosó
...
<ő> นับเป็นหมวดเดียวกับ <ö>,
födém แต่ <ö> ตามหลัง <o>
...

สระเสียงยาวบางคำเป็นการรวมกันของสระประสมสองตัวขึ้นไป เช่น <nny>, <ssz> จะนับการเรียงเป็น <ny>+<ny>, <sz>+<sz> เป็นต้น

könnyű จะมีการเรียงคำเป็น <k><ö><ny><ny><ű>. tizennyolc จะมีการเรียงคำเป็น <t><i><z><e><n><ny><o><l><c>
คำว่า házszám 'บ้านเลขที่' = ház (บ้าน) + szám (เลขที่) ไม่ได้มาจากคำว่า *házs + *zám จึงต้องเรียงคำเป็น <h><á><z><sz><á><m>

การเรียงแบบนี้ ทำให้การเรียงภาษาฮังการีตามหลักอัลกอริทึมโดยคอมพิวเตอร์นั้นทำได้ค่อนข้างยาก เป็นปัญหาใหญ่ในการพัฒนาซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์

Remove ads

แป้นพิมพ์ภาษาฮังการี

แป้นพิมพ์ภาษาฮังการีมาตรฐานจะใช้ระบบแบบเยอรมัน (QWERTZ). ซึ่งทำให้มีพื้นที่พอที่รองรับอักษรภาษาฮังการีได้ทุกตัว

Thumb
Hungarian keyboard layout

อักษร "Í" มักจะอยู่ด้านซ้ายของ spacebar และกินพื้นที่ของ shift อักษร "Ű" มักอยู่ด้านซ้ายของ backspace ทำให้เสียพื้นที่บางส่วนของ backspace ไป Ű มักถูกกดแทนที่ Enter บนแป้งภาษาฮังการีมีอักษรเยอรมัน "ß" และอักษร "Ł" ของภาษาโปแลนด์ แป้นฮังการีมาตรฐานสามารถเปลี่ยนเป็นสัญลักษณ์พิเศษได้ด้วยการกดปุ่ม Alt Gr (ต่างจากของภาษาไทยที่กดปุ่ม Shift)

Remove ads

อัตราการใช้ตัวอักษรแต่ละตัว

อักษรที่พบมากที่สุดในภาษาฮังการี คือ e และ a[8]

ตารางด้านล่างแสดงอัตราการใช้อักษรฮังการีแต่ละตัว ตั้งแต่มากที่สุดไปหาน้อยที่สุด

ข้อมูลเพิ่มเติม ตัวอักษร, ความถี่ที่พบ ...
Remove ads

ไวยากรณ์ภาษาฮังการี

สรุป
มุมมอง

ภาษาฮังการีเป็นภาษาคำติดต่อ (agglutinative language) เป็นภาษาที่ใช้หน่วยคำเติม (affix) จำนวนมาก โดยเฉพาะหน่วยคำเติมท้าย (suffix) หลังคำแต่ละคำในประโยค เพื่อเปลี่ยนความหมายของคำ รวมถึงใช้แสดงให้เห็นว่าคำคำนั้นมีหน้าที่ทางไวยากรณ์ใดในประโยค (เช่น เป็นประธาน, เป็นกรรม) โดยหน่วยคำเติมท้ายสามารถเปลี่ยนรูปไปได้หลายแบบเพื่อความไพเราะและความสะดวกในการออกเสียงตามหลักการสอดคล้องกลมกลืนของสระ (vowel harmony) ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับภาษาฮังการี

คำกริยาในภาษาฮังการีสามารถใช้วางหน่วยคำเติมไว้ด้านหน้าและด้านหลังเพื่อเปลี่ยนความหมายของคำกริยาได้ ซึ่งจะแสดงความชี้เฉพาะ (definiteness) ว่าเป็นคำกริยาที่เจาะจงการกระทำไปที่วัตถุใดวัตถุหนึ่งเป็นพิเศษ หรือการกระทำไม่ได้มีการเจาะจงว่าต้องเป็นวัตถุชิ้นนั้น ๆ, แสดงกาล (tense) ว่ากริยานี้เกิดขึ้นในอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต, แสดงบุรุษ (person) ว่าคำกริยานั้นมีใครเป็นประธาน (ฉัน เธอ เขา พวกฉัน พวกเธอ พวกเขา), แสดงมาลา (mood) ของคำกริยานั้น ๆ และแสดงพจน์หรือจำนวน (number) ได้

นามในภาษาฮังการีสามารถผันโดยใช้หน่วยคำเติมท้ายแสดงการก (case) ทั้งหมด 18 หน่วยคำ ส่วนใหญ่สอดคล้องกับคำบุพบทในภาษาอังกฤษ

รูปแบบการเรียงลำดับคำในประโยคของภาษาฮังการีนั้นไม่ได้มีการจำกัดไว้อย่างตายตัวอย่างภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษที่มีโครงสร้างแบบประธาน-กริยา-กรรม กำหนดไว้โดยหลักการทางภาษา โดยไม่สามารถสลับประธาน–กริยา–กรรมในประโยคได้ แตกต่างจากภาษาฮังการีซึ่งสามารถเรียงประโยคได้อย่างค่อนข้างอิสระ วางประธาน–กริยา–กรรมสลับกันได้ ภาษาฮังการีเป็นภาษาเน้นหัวข้อ (topic-prominent language) กล่าวคือ การเรียงลำดับคำในประโยคภาษาฮังการีจะเน้นไปที่หัวข้อ (topic) ในประโยคที่ผู้พูดอยากให้ความสำคัญในการสื่อสารเป็นหลัก การเรียงประโยคต่างกันก็จะมีการเน้นความสำคัญกับสิ่งที่ต้องการสื่อสารต่างกันไป

ลำดับคำ

ประโยคภาษาฮังการีที่เป็นกลาง (ไม่มีการเน้นความสำคัญสิ่งใดในประโยคเลย) จะมีลำดับคำแบบประธาน–กริยา–กรรมเหมือนภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ภาษาฮังการีเป็นภาษาที่ไม่จำเป็นต้องระบุหัวเรื่องอย่างชัดเจน และไม่จำเป็นต้องมีการเรียงตามที่หลักภาษากำหนด แต่จะมีการเรียงตามลำดับความสำคัญของสิ่งที่ต้องการพูดในประโยคแทน โดยจะวางคำที่ต้องการให้เป็นจุดสำคัญของประโยคไว้หน้าคำกริยาแท้ (finite verb)

ประโยคฮังการีมักจะแบ่งได้เป็น 4 ส่วน ได้แก่ หัวข้อ (topic), จุดสำคัญ (focus), คำกริยา (verb) และข้อความส่วนที่เหลือ แต่ก็ไม่จำเป็นว่าในทุกประโยคจะต้องมีครบทั้งสี่อย่าง ในหนึ่งประโยค หัวข้อและข้อความส่วนที่เหลือจะมีกี่วลีก็ได้ แต่จุดสำคัญสามารถมีได้เพียงวลีเดียวเท่านั้น

การเน้นความสำคัญของคำในประโยค

ตารางด้านล่างแสดงให้เห็นคุณสมบัติการเรียงคำแบบสลับกัน เพื่อเน้นความสำคัญของสิ่งที่ผู้พูดต้องการสื่อในภาษาฮังการี โดยประโยคด้านล่างมาจากประโยคที่เป็นกลางว่า János tegnap elvitt két könyvet Péternek. ("ยาโนชเอาหนังสือ 2 เล่มไปให้เปแตร์เมื่อวาน") ประโยคนี้มีวลีหลัก ๆ อยู่ 4 วลี ได้แก่ János ("ยาโนช" เป็นชื่อบุคคลชาย), Péternek ["เปแตร์" เป็นชื่อบุคคลชาย; -nek คือหน่วยคำเติมหลังที่แสดงว่าเป็นผู้ที่ประธาน (ยาโนช) เอาสิ่งของให้"], két könyvet ("หนังสือ 2 เล่ม"; ตัว -et ข้างหลังหมายความว่าหนังสือ 2 เล่มนี้เป็นกรรม) และ tegnap ("เมื่อวาน")

ข้อมูลเพิ่มเติม หัวข้อ, จุดสำคัญ ...

ถ้าในประโยคใดมีจุดสำคัญปรากฏอยู่ หน่วยคำเติมหน้า (prefix) ที่อยู่หน้าคำกริยา เช่น el ใน elvitt จะย้ายไปอยู่ด้านหลังคำกริยาแทน กล่าวคือ พูดหรือเขียนเป็น vitt el แทนที่จะเป็น elvitt นับเป็นคุณสมบัติของภาษาฮังการีโดยเฉพาะ ปัญหาก็คือว่า ในกรณีประโยคนั้นใช้คำกริยาที่ไม่มีหน่วยคำเติมหน้า หากมีคำคำหนึ่งเรียงอยู่หน้าคำกริยา ก็จะเกิดความกำกวมว่าคำคำนั้นเป็นหัวข้อหรือเป็นจุดสำคัญ เช่นในประโยค Éva szereti a virágokat. ("เอวอชอบดอกไม้") คำว่า Éva ("เอวอ" เป็นชื่อบุคคลหญิง) อาจเป็นหัวข้อของประโยค และประโยคนี้เป็นประโยคแบบไม่มีจุดสำคัญ หรือคำว่า Éva อาจเป็นจุดสำคัญของประโยคซึ่งเน้นประโยคนี้ว่า "เอวอคือคนที่ชอบดอกไม้ (และไม่ใช่คนอื่น)"

ข้อมูลเพิ่มเติม ประโยค, การตีความ ...

ระบบหน่วยคำ

ภาษาฮังการีเป็นภาษาคำติดต่อ ข้อมูลต่าง ๆ ในภาษาฮังการีนั้นเกือบทั้งหมดจะใช้หน่วยคำเติมท้ายในการบอกเล่า เช่น "อยู่บนโต๊ะ" = asztalon (หน่วยคำเติมท้ายบ่งบอกพื้นที่), เมื่อ 5 โมง = öt órakor (หน่วยคำเติมท้ายบ่งบอกเวลา) เป็นต้น แต่ก็ยังมีหน่วยคำเติมหน้าอยู่ 1 หน่วยคำ คือ leg- ซึ่งใช้บ่งบอกว่าสิ่งนี้คือที่สุด (superlative)

ตัวอย่างการวางหน่วยคำเติมท้ายในภาษาฮังการี

ในภาษาฮังการี มีการใช้เสียงเฉพาะเจาะจง (case/preposition) ลงท้ายที่แตกต่างกันสำหรับคำสรรพนามแต่ละตัว มีอยู่ทั้งหมด 8 แบบ สำหรับคำสรรพนามบุรุษที่ 1, 2 และ 3 (ฉัน เธอ เขา พวกเรา พวกเธอ พวกเขา คุณ พวกคุณ) โดยสามารถต่อกับคำสรรพนามเพื่อเปลี่ยนเป็นกรรมของประโยค (accusative), ต่อคำปัจฉบท (postposition) เพื่อเปลี่ยนบุคคลที่พูดถึง, ต่อคำนามเพื่อเปลี่ยนเป็นกรรม แสดงความเป็นเจ้าของ หรือเปลี่ยนเป็นพหูพจน์, และต่อกับคำกริยา เพื่อเปลี่ยนประธานผู้กระทำ และเปลี่ยนคำกริยาให้เป็นแบบชี้เฉพาะหรือไม่ชี้เฉพาะ

ข้อมูลเพิ่มเติม คำสรรพนาม, คำปัจฉบท ...

การใช้หน่วยคำเติมท้ายตามหลักการสอดคล้องกลมกลืนของสระ

เปิด กลาง ปิด
ต่ำ a á o ó u ú
สูง ปากไม่ห่อ   e é i í
ปากห่อ   ö ő ü ű

การเลือกหน่วยคำเติมท้ายในการต่อหลังคำในภาษาฮังการี ต้องใช้หลักการสอดคล้องกลมกลืนของสระต่ำ (low vowel) และสระสูง (high vowel) และหน่วยคำเติมท้ายบางตัวก็ยังแยกระหว่างสระปากไม่ห่อ (unrounded vowel ประกอบด้วย e, é, i, í) กับสระปากห่อ (rounded vowel ประกอบด้วย ö, ő, ü, ű)

หน่วยคำเติมท้ายคำต่อท้ายทั้งหมดในภาษาฮังการีสำหรับการกระจายคำกริยา (ให้เป็นกริยาแบบชี้เฉพาะและกริยาแบบไม่ชี้เฉพาะ), สำหรับแสดงความเป็นเจ้าของ, สำหรับการต่อคำบุพบทเพื่อเปลี่ยนบุคคลที่พูดถึง, และคำต่อท้ายที่เป็นเจ้าของ มีรูปแบบการใช้โดยใช้ "เสียงสระ" ของคำในการตัดสินว่าจะใช้หน่วยคำเติมท้ายเสียงใดในการต่อ ซึ่งตามหลักภาษาฮังการีสามารถแบ่งสระได้เป็น 6 แบบ (สระต่ำ, สระสูง, สระเสียงยาว, สระเสียงสั้น, สระปากห่อ และสระปากไม่ห่อ)

Remove ads

หมายเหตุ

    อ้างอิง

    แหล่งข้อมูลอื่น

    Loading related searches...

    Wikiwand - on

    Seamless Wikipedia browsing. On steroids.

    Remove ads